การไม่เบียดเบียน สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น มีอยู่อย่างพอดี แบ่งปันให้ผู้อื่นบ้าง นั่นแหล่ะคือ "ชีวิตที่ดี"
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2565
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
11 ตุลาคม 2565
 
All Blogs
 
ฟังผลหลังจากสิ้นสุดการกินยารักษา

                 หลังจากที่เราได้ยาสำหรับรักษาไวรัสตับอักเสบ c  เพื่อรักษาโรคที่เราเป็น  ซึ่งครั้งนี้เป็นการรักษาเป็นครั้งที่ 3 แล้ว ของเรา ครั้งที่ 1เป็นยาฉีด ที่มีผลข้างเคียงเยอะมาก / ครั้งที่ 2 เป็นยากินที่เราหาซื้อมาเอง(ภายใต้การดูแลของหมอ)   และครั้งนี้เรายังงงนิด ๆ ว่า เรายังมีสิทธิที่ได้รับยาอยู่เหรอ เพราะเราเข้าใจมาตลอดว่าสิทธินั้นหมดไปแล้วกับการรักษาครั้งแรก (ก็ตอนแรกหมอเค้าว่ายังงั้นเนาะ) ก็ต้องชมตัวเองเลยหล่ะว่าถึงแม้จะผิดหวังจาก 2 ครั้งนั้นก็ไม่ท้อถอย พยายามที่จะรักษาตัวเองให้ได้ 
                 แล้วเราก็ได้ยามาซึ่งมี 2 ตัว คือ   Sofosbuvir & Velpatasvir Tablets และ  Ribavirin ตามที่ได้เล่าไว้ในนี้  รักษาไวรัสตับอักเสบซี กับยากิน (อีกครั้ง)  เราทานยาทุกวันไม่ตกหล่น พยายามทำให้ตรงตามเวลาเดิมให้มากที่สุด แต่เวลาอาจมีพลาดแต่ก็ใกล้เคียงบ้าง พอยาหมดก็ไปรับยาวันที่หมอนัด หมอนัดจ่ายยาครั้งละ  28 วัน หมอนัดไปรับยา  3 ครั้ง  รวมทั้งหมด  84  วัน รวมแล้วเกือบ 3 เดือน เป็นคอร์สต่อครั้งของการรักษา



จะเห็นว่าเราเริ่มยาตั้งแต่  15 มิย.65 จนถึง 6 กย. 65  กินยาเช้า-เย็น ทุกวันในเวลาเดิม (08.30 และ 19.30 ) ก็มีบางวันที่ลืมจนถึงเกือบ 5 ทุ่มก็มี ช่วงนั้นกิจวัตรประจำวันเปลี่ยนไปนิดหน่อย  ทุกทีจะกินข้าวเสร็จจากที่บ้านก่อนไปทำงาน เวลา07.30 ประมาณนี้ แต่กลัวว่าบางวันที่ไม่ได้ไปทำงานจะไม่เป็นเวลานี้ก็เลยตั้งเวลายืดออกไปหน่อย จึงเป็นที่มาของ 08.30 เราก็เลยไปกินที่ทำงาน ซื้อระหว่างทางบ้าง / ห่อไปบ้าง  ระหว่างที่ใช้ยาเราระมัดระวังตัวมาก  ๆ  ที่จะไม่แตะต้องแอลกอฮอล์ ซึ่งก็สามารถทำได้

                 การใช้ยาก็ไม่มีปัญหาผลข้างเคียงอะไร ยังคิดอยู่ว่าถ้ากินไปเรื่อย  ๆ คงไม่เป็นไร แต่ว่าคอร์สของการใช้ยาที่มีแค่ 3 เดือนนั่นสิ   เรายังเคยถามหมอว่าถ้าไม่หายจะกินต่อได้ไหม หมอบอกว่าให้ยาเพียงแค่นี้ เนื่องจากยามีราคาแพง ถ้าไม่หายก็ต้องอยู่กับมันไปให้ได้  วันนั้นยังรู้สึกหดหู่อยู่เลย   อ้อระหว่างการกินยานั้น เรามีการติดเชื้อโควิด-19 ด้วยต้องพักรักษาตัวและกินยารักษาโควิดไปพร้อมกัน ซึ่งก้ผ่านไปด้วยดีโควิดหานภายใน  10  วันที่เราหยุดงาน

                แล้วเราก็กินยาจนจบคอร์ส ในวันที่ 9 กย. 65 และตอนเมื่อสิ้นสุดการรักษา  คุณหมอ(เขียนใบแจ้งล่วงหน้า) ให้มาเจาะเลือดหาปริมาณของไวรัส (VL) ว่าจะมีหลงเหลืออยู่หรือไม่  ซึ่งต้องเจาะล่วงหน้าก่อนวันนัดครั้งถัดไป (10/10/65)  ซึ่งเราได้มาเจาะไว้เมื่อ  15 กย.2565 คือหลังจากหยุดยาไป 9 วัน ( 6 กย. - 15 กย. )
          แล้วเมื่อวานตอนเช้า วันที่  10 ตค.2565 เราไปพบหมอตามนัดอีกคร้ังเพื่อติดตามผล วันนี้คุณหมอนพวรรณ ไม่อยู่ มีหมอท่านอื่นเข้ามาแทน  ก่อนพบหมอได้มีการเจาะเลือดเพื่อดูผลของการอักเสบของตับด้วย (SGOT/SGPT)  ในที่สุดการต่อสู้ของเราที่ต่อสู้มา 10 ปี ในที่สุดก็ถึงวันแห่งชัยชนะสักที เมื่อวานผลของ VL คุณหมอบอกว่าไม่ขึ้น เป็นไปได้ว่าหายแล้ว(คุณหมอที่มาแทนบอกยังงั้น)  เราก็ถามย้ำ ๆ อยู่ และเราก็แอบเห็นแว้บ ๆ ในเอกสารอยู่นะ ว่าไม่ขึ้น  และเราก็ยังถามเรื่องการอักเสบของตับ คุณหมอก็บอกว่ามีการอักเสบจริง แต่ไม่สูงนักอาจจะมาจากสาเหตุอื่น  ๆ   ซึ่งเราแอบเห็น แว้บ  ๆ  ว่าไม่สูงมากแค่ไม่ถึงร้อย  แค่นี้ก็ดีใจแล้ว....แล้วหมอนัดอีกครั้ง  6  เดือน  เพื่อยืนยันอีกที...

 


Create Date : 11 ตุลาคม 2565
Last Update : 18 ตุลาคม 2565 16:03:23 น. 0 comments
Counter : 400 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

WarinD Ninajang
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




เป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็ก ๆ ใฝ่ฝันอยากเป็นนักเขียน อยากเขียนเรื่องราวของตนเองถ่ายทอดให้คนอื่น ๆ ได้รับรู้ ชอบอ่านนิยายจำพวกชีวประวัติ การดิ้นรนขวานขวายของใครก็ได้ที่มีเรื่องราวที่น่าติดตาม หรือไม่ก็นิยายอิงประวัติศาสตร์

เป็นคนอารมณ์อ่อนไหวกับเรื่องราวต่าง ๆ ถ้ามีสะเทือนใจ หรือประทับใจ บางทีร้องไห้ได้กับการประโยคในหนังสือไม่กี่ประโยค...

เขียนบล้อกเพราะต้องการเก็บเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับตนเอง เหตุการณ์ ความรู้สึกต่าง ๆ ณ ขณะนั้น เพื่อจะได้กลับมาอ่านอีกครั้งในวันข้างหน้า ไม่ได้หวังการติดตามจากใคร ไม่ต้องการยอดไลค์
พยายามจะเขียนบล้อกทุกเดือน ตามเรื่องราวที่ตนเองชื่นชอบ หรือต้องการเก็บบันทึกไว้
Friends' blogs
[Add WarinD Ninajang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.