ลงทุนหุ้น เหมือน ซื้อธุรกิจ หลักข้อแรกที่ผมอยากให้นักลงทุนทุกคนจำขึ้นใจเลยว่าการซื้อหุ้น คือ การร่วมเป็นเจ้าของธุรกิจ คำพูดง่ายๆ ที่นักลงทุนทั่วไปมักจะลืมเพราะโดนความโลภและความกลัวในตลาดหุ้น บดบังหลักการง่ายๆข้อนี้ไป ถ้าเราเข้าใจว่าการลงทุนหุ้นคือการซื้อธุรกิจจุดที่เราควรสนใจอันดับแรกๆก็คือ ตัวธุรกิจเอง ไม่ใช่ ราคาหุ้นในตลาด วอร์เรนบัฟเฟตต์ ไม่เคยให้ความสนใจในราคาหุ้นเลยบนโต๊ะทำงานของเขาไม่มีจอคอมพิวเตอร์เลยด้วยซ้ำ (ข้อมูลจากหนังสือแปลเล่มหนึ่งซึ่งผมคิดว่าปัจจุบันเขาน่าจะมีสัก 1 เครื่องนะว่ามั้ย J ) ดังนั้นหากคุณพบหุ้นตัวหนึ่งธุรกิจกำลังเป็นขาลง และราคาก็ลดลงมาแล้ว 60% จนนักวิเคราะห์บอกว่าเข้าเขตOVER SOLD แล้วยังไงก็ต้องเด้ง ราคามันถูกมากเลย คุณจะซื้อมั้ย? ผมตอบเลยว่าไม่ซื้อ เพราะธุรกิจมันเป็นขาลง จะซื้อทำไม ส่วนราคาหุ้นจะเด้งหรือไม่กูไม่สน (หลายคนชอบซื้อหุ้นแบบนี้นะครับ ชอบหวังกำไรจากการเด้งแม้ว่าไม่รู้เลยว่าธุรกิจทำอะไร LEE ทำการเกงยีนส์ ใช่หรือไม่? MK นี่ทำสุกี้ แล้ว TOP ทำซุปเปอร์มาร์เก็ต มั้ง! แล้วรายการนักวิเคราะห์ที่แนะนำหุ้นตัวนี้กราฟสวย ทะลุแนวต้านสำเร็จ คุณจะซื้อมั้ย ผมก็ตอบไปว่าขอดูก่อนว่าหุ้นตัวนี้ คือบริษัทอะไร ทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไรทุกอย่างของหุ้นให้กลับมาที่จุดตั้งต้นของมัน นั่นคือ ธุรกิจ กราฟเทคนิคเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากแต่ผมไม่ได้ใช้ในการเลือกหุ้น ราคาหุ้นเราจะสนใจในบันไดขั้นที่ 3 นั่นคือเรื่องของจังหวะการซื้อ-ขาย ในธุรกิจที่เราพิจารณามาแล้วว่า ดี คุณลองพิจารณาข่าวต่อไปนี้ว่าข้อไหนเกี่ยวข้องกับธุรกิจบ้าง ก. หุ้นของเราจะหลุดจากlist ของ SET50 ข. เสื้อแดงจะออกมาปิดแยกราชประสงค์อีกแล้ว ค. ฝรั่งกลัวเงินบาทอ่อนจึงเทขายหุ้นไทย ง. อเมริกาต้องลดงบประมาณรายจ่ายลงเพราะหนี้เยอะ (Fiscal Cliff) จ. ตลาดหุ้นเอเชียตกหนักSET ดิ่งแรง 3 วัน 150 จุด คุณว่าข้อไหนเกี่ยวกับธุรกิจเราข้อไหนที่เราควรกังวลบ้าง? คำตอบก็คือ ไม่มีข้อไหนเลยที่เราควรกังวลเลยแต่ในความเป็นจริงข่าวคราวแบบนี้เกิดขึ้นในตลาดหุ้นไทยตลอดเวลา พอหุ้นตกหนักๆหลายคนก็ยอมขายขาดทุนออกมา, หรือบางที SET วิ่งขึ้นไป 100 จุดแต่หุ้นของเราอยู่เฉยๆยิ่งดูยิ่งทนไม่ได้ ขายทิ้งซะเลย พอขายเสร็จหุ้นเราวิ่งฉิวเลย นี่แหละครับหลงทาง ข่าวพวกนี้คือปัจจัยที่ทำให้เกิดจังหวะที่ดีของการซื้อแต่คุณต้องซื้อเพราะเลือกจากตัวธุรกิจ ไม่ใช่หุ้นตัวนี้ตกลงมาเยอะน่าซื้อหากปีนี้คุณซื้อหุ้นครบตามแผนแล้วและไม่มีแผนการที่จะขายเลยคุณไม่จำเป็นต้องดูราคาหุ้นเลย เอาเวลาไปทำงานประจำหรือหาข้อมูลหุ้นตัวใหม่ๆดีกว่าครับประสบการณ์ที่ยาวนานในตลาดหุ้นจะช่วยสอนคุณเรื่องราคาหุ้นเอง เหมือนกับที่เซียนหุ้นเห็นราคาหุ้นวิ่งขึ้นแล้วลงเขาจะอุทานว่าโอ้ มันเป็นเช่นนั้นเอง (หลวงพ่อปัญญา) TIPS มันจะเป็นการง่ายหากคุณนึกถึงการลงทุนในหุ้นเหมือนการร่วมทำธุรกิจกับเพื่อน ซึ่งธุรกิจไม่ได้อยู่ในตลาดหุ้นไม่ได้มีราคาหุ้นให้เราดู จริงๆแล้วการลงทุนในตลาดหุ้นก็คล้ายกันแต่ราคาหุ้นทำให้เราหลงทาง เราควรจะสนใจในราคาหุ้นแค่ 2 ครั้งคือตอนซื้อ และตอนขาย อวิชาในตลาดหุ้นนั้นมีเยอะโดยเฉพาะความเชื่อที่ถูกปลูกฝังจากโบรกเกอร์ ที่อยากให้เราซื้อ-ขายบ่อยๆจะทำการซื้อมาขายไปเพื่อลดต้นทุนลง (SAP)หรือเพื่อขายทำกำไรกันง่ายๆอย่างที่เขาพยายามบอกเราล้วนแต่เป็นสิ่งที่ทำให้เราหลุดจากคำว่า ลงทุนหุ้น กลายเป็น เล่นหุ้น โดยสรุปก็คือ เวลาเราจะเลือกหุ้นสักตัวเรามองไปที่ตัวธุรกิจที่เขาทำเป็นหลัก ส่วนจะเลือกยังไงเดี๋ยวแนะนำอีกทีราคาในตลาดหุ้นจะขึ้นๆลงๆตลอดเวลา อย่าหลงไปเล่นกับมันเลย ขอบอกว่าเล่นยาก สุดท้ายก็ขาดทุนจงยึดอยู่กับตัวธุรกิจเป็นหลัก นี่คือหลักการแรกที่ง่ายและสำคัญครับ
TIPS หากการซื้อหุ้นคือการร่วมทำธุรกิจทำไมเราควรลงทุนผ่านตลาดหุ้น? เพราะ 1. มั่นคง : บริษัทในตลาดหุ้นมักจะเป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่ มีความมั่นคงสูง กว่าบริษัททั่วไป 2. มีคนดูแล :บริษัทในตลาดหุ้นจะมีผู้บริหารทำหน้าที่ดูแลธุรกิจนั้นๆ แทนเรา โดยเราไม่ต้องมีความรู้ในการบริหารธุรกิจนั้นเลย 3. มีสภาพคล่อง : เมื่อใดที่สถานการณ์ไม่ดีเราก็สามารถถอนตัวออกจากธุรกิจนั้นได้ทันที ด้วยการขายหุ้นทิ้งในตลาดหุ้นได้ทุกเมื่อ ไม่เหมือนการทำธุรกิจจริงๆ ที่หากสถานการณ์แย่ก็ขายต่อได้ยากมากกก 4. มีข้อมูล : บริษัทในตลาดต้องเปิดเผยข้อมูล ให้เราวิเคราะห์ตัดสินใจได้ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ มีทั้งผลดำเนินงานรายไตรมาส ที่แสดงให้เห็นทั้งกำไร และสถานภาพบริษัทให้เราได้เลือกก่อนตัดสินใจ 5. มีโอกาสดีๆ : ราคาหุ้นบริษัทมีการปรับตัวขึ้นและลงอยู่ตลอดเวลา และในหลายโอกาสก็ราคาอาจจะปรับตัวลงมากกว่า มูลค่าที่แท้จริงของบริษัท เราก็เลือกลงทุนซื้อได้เลยหรือบางครั้งราคาปรับตัวขึ้นมากเกินไป เราก็ขายทำกำไรได้เช่นกัน 5 ข้อนี้เป็น basic สุดๆที่ชวนเราเข้าตลาดหุ้น แต่พอเราเข้ามาสักพัก เราลืมเลยว่าเราเข้ามาในตลาดหุ้นทำไม ทำไมไม่ทำธุรกิจเอง เพราะ "ราคาหุ้น ที่แกว่งไปมา"
Create Date : 27 พฤศจิกายน 2559 |
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2559 17:14:53 น. |
|
3 comments
|
Counter : 927 Pageviews. |
|
|
แต่ผมเขียนโดย ผมเองก็โยงเรื่อง ตลาดหุ้นไทย เสมอๆ