BlogGang.com : : route rover : ระหว่างทางกลับไปไหโขว่ 16-4-08

เมษายน 2551

		1	2	3	4	5
6	7	8	9	10	11	12
13	14	15	16	17	18	19
20	21	22	23	24	25	26
27	28	29	30

29 เมษายน 2551

ระหว่างทางกลับไปไหโขว่ 16-4-08

เช้านี้ น้องมาเรียกให้ไปกินอาหารเช้ากัน อาหารเยอะนะแต่ไม่กล้าถ่ายรูปมาเขินเหมือนกัน มี line ขนมปังน่ากินไปซะหมด สลัด น้ำผลไม้ นม โยเกริต์ ข้าวต้ม(ใส่มัน) เค้ก ไข่ดาว ไข่เจียว ไข่ต้ม ไส้กรอก แฮม กับข้าวอีกสองสามอย่างไม่ได้เปิดดู แค่ข้าวต้ม 1 ถ้วย โยเกิรต์ น้ำผลไม้ กาแฟ ขนมปัง 1 ชิ้น ไข่ดาว 1 ฟอง แฮม 2 ไส้กรอก 1 ชิ้น ก็ไม่ไหวแระ (เยอะมั้ยเนี่ย) ช่วงน้องไปดู site งาน เราก็เตรียมตัวเก็บของ จะเดินทางกันต่อ

แต่ก่อนเดินทาง เราก็ไปเดินเล่นภายในสวนของโรงแรม ซึ่งแทบทุกโซนจะเป็นป่าล้อมรอบทั้งหมด แต่มีทางเดินที่สะดวกมากๆ ร่มเย็นตลอดทาง ที่นี่ถ้าไม่ติดอยู่ตรงที่ว่าอยู่ในเขาลึกซับซ้อนขนาดนี้ คงมีคนมาพักเยอะนะ

ไปดูยอดเขาเจ็ดเซียนกัน จากที่เปิดประดูระเบียงด้านหลังออกมา จะเจอที่อาบน้ำซะก่อน แล้วมองไปด้านหลังเนี่ย เจอเนี่ยเลย ... สวยมาก

คราวนี้เราต้องกลับไปไหโขว่กันละ แต่เปลี่ยนเส้นทางกันใหม่เราจะผ่าเขากันไปหลายลูกอยู่นะ ระหว่างทางเนี่ยขึ้นเขาสูง ลงเขา บางช่วงเหมือนแถวเพชรบูรณ์ เขาค้อ บางช่วงเหมือนทางขึ้นดอยสุเทพ บางช่วงโค้งหักศอกเป็นรูปตัว Z กันเลยก็มีหลายช่วง บางช่วงก็เป็นตัว Z กะ S ผสมกันไป สุดยอดมากคนขับ ต้องขับทางขวาด้วย แล้วทางเนี่ยไม่ใช่ปราบเซียนหรอก เปิดตัวเซียนมากกว่า ไม่สามารถถ่ายรูปนะ เพราะง่วง(หรือเมารถเมาทางไม่รู้) พวกผู้คนที่นี่เค้าขับรถงัยไม่รู้ ไม่เก่งจริง คงหลุดโค้ง หลุดถนนไปแระ

สักบ่ายๆ ผ่านเมืองๆ นึง แวะเข้าไปหาของกิน ที่นี่เค้าบอกว่าเนื้อวัวอร่อย คนไม่ทานเนื้ออย่าเพิ่งเบ้หน้านะ ต้องตามน้ำ มีรัยกินก็ต้องกินอ่ะ แม้เราจะไม่ได้กิน เพื่อไม่ให้เดือดร้อนคนอื่นเพื่อส่วนรวมค่ะ แวะที่นึง แม่บอกว่า “โรงเตี๊ยมหรอ” หน้าตามันเหมือนร้านข้าวต้มข้างทางที่ต้องเรียกลูกค้าแย่งกันน่ะ ใครลงมารับลูกค้าถึงประตูรถก่อนก็ได้ลูกค้าไป

คราวนี้กินกันเองสั่งแค่ 3 อย่างยังไม่หมดเลย มีซุปเนื้อที่ว่าเนี่ย หน้าตาคล้ายจิ้มจุ่ม เอาเนื้อลงตอนน้ำซุปเดือด ผักก็มี แต่ไว้ใส่ตอนเนื้อหมดแล้ว อร่อยใช้ได้เลยแหละ สั่งผัดหมูป่ามาให้แม่ ซึ่งไม่กินเนื้อ แล้วก็ผัดผัก อันนี้น้องบอกเป็นใบมัน แต่เค้าผัดใส่กะปิ รสชาติแปลกดี ไอ้น้ำจิ้มไว้จิ้มจุ่มน่ะ คล้ายๆ น้ำจิ้มสุกี้ตรงที่ต้องเอากระเทียม พริก มะนาว ใช่มะที่เมืองไทย ที่นี่ก็จะเป็นกระเทียม น้ำส้มพริก เอ๊ะหรือพริกน้ำส้ม แล้วต้องใส่ซอสเปรี้ยวลงไปด้วยอีกที

น้ำดื่มที่ขาดไม่ได้คือน้ำชา ก่อนกินชา น้องจะเอาพวกถ้วย จาน ช้อน (มันจะเป็นชุดเล็กๆ นะ) เอามาลวกกะน้ำชาที่เค้ารินให้น่ะแหละ ขอสะอาดนิดนึงนะ ไม่ค่อยไว้ใจเพราะอากาศร้อนอารัยก็เกิดขึ้นได้ ห่วงแม่มากกว่า

สรุปมื้อนี้ก็อร่อยอีกละ หรือว่าหิว คงไม่ใช่หรอก “อยากให้มากินด้วยจัง” ที่นี่ลูกน้องของน้องชายเค้าอยากกินเบียร์ แต่เจ้าของร้านเอาสาโทมาให้อ่ะ นำเสนอมากๆ แล้วก็มีเหล้าเขากวาง ในร้านยังไม่มีแต่ช่วงจังหวะนั้นเซลดันเข้ามาขาย เจ้าของร้านเทมาให้ชิมเลย แล้วสั่งของลงเลยแหละ เค้าจะรู้มั้ยเนี่ยว่าไอ้เนี้ยมันคงมากินแค่วันนี้วันเดียวเพราะผ่านมาเท่านั้นเอง

รีบเดินทางกันต่อกลัวจะค่ำ เพราะวันนี้เราอยู่กันคืนสุดท้ายแล้ว ทีสุดไปถึงไหโขว่กันประมาณ 4 โมงเย็นได้ ไปพักที่เดิม แล้วก็ออกไปที่ชอปปิ้งมอลล์ของเค้า คล้ายโลตัสบ้านเราเลย มีโรงหนัง มีพิซซ่า คนเยอะมากๆ ของแจกของแถมเค้าเยอะกว่าบ้านเราอีก 55 ได้มาม่าจีนมา 2 ห่อ ขนมรัยอีกไม่รู้ น่าจะขึ้นชื่อเพราะเคยเห็นที่แอร์พอร์ตด้วย เดินกันจนมึนเพราะมันดึกแล้วงัย แต่ยังต้องกินกันอีกมื้อ โอ๊ยเหนื่อยกะเรื่องกินมาก

รถจักรยานไฟฟ้าในปัจจุบัน (แบบดั้งเดิมในอดีตมีน้อยมาก)

ผู้พันแซนเดอร์ภาคเมืองจีน

ส่วนนี้คือโรงหนังของที่นี่ (อย่างกับสถานที่อโคจรในเมืองไทยเลย)

คิดว่าได้ของจนน่าจะครบนะ แต่จริงๆ ไม่ครบหรอก เพราะเราแบกคนเดียวไม่ไหวแล้ว กลับมาแพ๊กของกันอีกกว่าจะเสร็จ เกือบห้าทุ่ม นอนดีกว่า

พรุ่งนี้มาเล่าตอนจบดีกว่า