กระบี่เดียวดาย ตอนที่ 3 ชุมนุมมังกรซ่อนพยัคฆ์
เป็นเวลายามสอง
ณ ริมระเบียงแสงจันทร์เคียงส่อง ดรุณีนางนั้นจากไป นานแล้วแต่บรรยากาศแห่งแรกพบยังคงอบอวลไปในทุกอณูความรู้สึกของ กระบี่เดียวดายเขามิใช่บุคคลที่จะอ่อนไหวลึกซึ้งกับอะไรง่ายๆ แต่ตอนนี้ ได้แต่ถอนหายใจแล้วคล้ายกับกล่าวรำพึงกับตัวเองว่า ข้าพเจ้า ความจริงสมควรกล่าววาจากับนางอีกสักหลายประโยค พลันหยุดความคิดไว้แค่นั้นเพราะเบื้องนอกบังเกิดความผิดปรกติบางอย่างขึ้น
เขามิอาจไม่ไปตรงกันข้ามยิ่งไปเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี เขาได้แต่วางเงินก้อนหนึ่งไว้บนโต๊ะ
มากพอสำหรับค่าสุราและอาหาร แล้วถลันกายวูบเดียวก็บรรลุถึงหลังคาโรงเตี๊ยม บรรยากาศภายนอกว่างเปล่ามืดสนิทแต่รอบข้างคล้ายอัดแน่นไปด้วยประจุไฟฟ้า
ทั้งนี้เป็นเพราะกระบี่เดียวดายรับรู้ได้ถึงพลังลมปราณอันแก่กล้าที่แฝงไปด้วยกลิ่นอาย ฆ่าฟันชนิดหนึ่งโดยปรกติแล้วไม่ว่าจะอยู่ต่อหน้าสถานการณ์เช่นไรบุคคลผู้นี้ล้วน เยือกเย็นเสมอมาแต่อาคันตุกะยามวิกาลทั้งหลายท่านนี้มีพลังผีมือเป็นที่น่าตระหนกนัก
ผู้ที่มีพลังลมปราณระดับนี้ย่อมเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์อันดับต้นๆของยุทธภพที่นานครั้ง จะพานพบแต่คราครั้งนี้กลับคล้ายมีการชุมนุมกันที่นี่ กระบี่เดียวดายเองก็อดหลั่ง เหงื่อเยียบเย็นมิได้ ท่านทั้งหลาย เมื่อมาถึงแล้วก็ปรากฏตัวเถอะ
ปากกล่าววาจาแต่ในใจกลับตื่นเต้นตึงเครียดอยู่บ้าง บุคคลเหล่านี้ล้วนสวมชุดดำที่รัดกุม
บุคคลแรกเป็นบุรุษหนุ่มหน้าตาคมคาย สูงเจ็ดเชี๊ยะ ( 1 เชี๊ยะ = 10 นิ้ว )
พกพากระบี่ที่แม้ยังมิได้ชักออกมาจากฝักก็แผ่รัศมีคุกคามชีวิตคนเล่มหนึ่ง
บุคคลที่สองรูปร่างบอบบางกว่าคนแรกใช้ผ้าสีดำปิดคลุมใบหน้า
เป็นคนเดียวที่ไม่พกพากระบี่แต่ว่านับตั้งแต่ก่อนที่มันจะปรากฏตัวจวบจนกระทั่งเวลานี้
แทบไม่ปรากฏพลังลมปราณให้สัมผัสได้ เช่นนั้นเป็นอันว่าคนผู้นี้ถ้าหากไม่รู้วรยุทธ์ เลยก็จะต้องสามารถควบคุมพลังลมปราณได้ดีเยี่ยมวิชาตัวเบาของมันต้องมิใช่ชั่ว แน่นอน มันจึงไม่จำเป็นต้องพกพากระบี่แล้วอาวุธที่มันใช้ควรเป็นเช่นใด
กระบี่เดียวดายสังเกตเห็นที่เอวอันบอบบางของมันคาดไว้ด้วยเข็มขัดหนังกลม อยู่หลายเส้นบุคคลเช่นนี้สมควรสร้างความประหลาดใจแก่กระบี่เดียวดายอยู่บ้าง
และที่ต้องประหลาดใจไปกว่านั้นก็คือการปรากฏตัวของบุคคลสุดท้าย ที่เขาคิดว่าเป็นบุคคลสุดท้ายก็เพราะว่าตั้งแต่แรกมาเขาสัมผัสได้ถึงพลังลมปราณ อยู่สามสายแต่มิคาดคิดพอบุคคลหนึ่งปรากฏตัวก็คล้ายแบ่งกายแยกเงาเพิ่มเป็น อีกบุคคลหนึ่งพวกมันถือกระบี่เปลือยฝักกันคนละข้าง เป็นกระบี่ที่เรียบง่ายยิ่ง
ทั้งยังไม่มีโกร่งกระบี่ให้เกะกะดูไปคล้ายของเล่นของเด็กน้อยซุกซนผู้หนึ่งแต่ ไม่ว่าใครก็ตามที่เห็นกระบี่คู่นี้อยู่ในมือพวกมันทั้งสองต้องมิอาจดูแคลนมันได้เด็ดขาด
คนที่ยืนด้านซ้ายถือกระบี่มือซ้ายคนที่ยืนด้านขวาก็ถือกระบี่ด้านขวา นั่นเป็นเพราะ พวกมันไม่มีทางเลือกคนที่ถือกระบี่มือซ้ายกลับปรากฏว่าแขนข้างขวาขาดหาย เช่นเดียวกับคนที่ถือกระบี่ข้างขวาก็ปรากฏเพียงแขนขวาข้างเดียวนี่ยังไม่นับว่าสร้าง ความประหลาดใจให้กระบี่เดียวดายเท่ากับว่าตั้งแต่บุคคลทั้งสองปรากฏตัว มีเพียงพลัง ลมปราณเพียงสายเดียวปราณกระบี่หลอมรวมเป็นหนึ่งเมื่อพิจารณาใบหน้าของ คนทั้งสองกลับพบว่าทั้งสองคล้ายปรากฏตัวอยู่หน้ากระจกเงา นี่ย่อมนับเป็นฝาแฝด คู่หนึ่งในยุทธภพมีคำร่ำลือถึง จอมยุทธ์ กระบี่แฝดอยู่คู่หนึ่ง
ที่คนทั้งคู่แขนคนละข้างขาดหายหากแต่นั่นก็มิใช่อุปสรรคในการฝึกวิชากระบี่
ทั้งสองหลอมรวมสมาธิจิตใจเป็นหนึ่งฝึกเป็นวิชากระบี่คู่ที่ยอดเยี่ยมคู่หนึ่ง
หรือนี่คือจอมยุทธกระบี่คู่ มือกระบี่ซ้าย - ขวา คู่นั้น บุรุษหนุ่มหน้าตาคมคายกล่าวขึ้นเป็นประโยคแรกว่า
ท่านคือกระบี่เดียวดายใช่หรือไม่ ? กระบี่เดียวดายตอบกลับไปว่า ข้าพเจ้าย่อมเป็นข้าพเจ้านามกระบี่เดียวดายล้วนเป็นสมญานามที่ชาวยุทธ์เรียกขาน
หากนามที่ท่านเอ่ยหมายถึงข้าพเจ้าที่ยืนอยู่ต่อหน้าท่านตรงนี้ก็นับว่าท่านมาตามหาถูกคน
แต่หากท่านต้องการเสาะหาข้าพเจ้าไม่ว่าข้าพเจ้าจะเรียกว่าอย่างไรนั่นย่อมไม่สำคัญแล้ว
ใช่หรือไม่ ? กล่าวได้ประเสริฐ พลันกระบี่ในมือบุรุษหนุ่มหน้าตาคมคายผู้นั้นถูกชักออกจากฝักแล้ว
( to be continued )
Create Date : 30 มีนาคม 2555 |
Last Update : 30 มีนาคม 2555 8:50:49 น. |
|
4 comments
|
Counter : 976 Pageviews. |
|
|