|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
หุ้น IPO ปี 54 ผลตอบแทนเฉลี่ย 41.54%
นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ในปีนี้10 บริษัท แบ่งเป็นใน SET 3 บริษัท และใน mai 7 บริษัท มีผลตอบแทนนับแต่ IPO จนถึงปัจจุบัน (ณ 21 ธ.ค. 2554) เฉลี่ย 41.54% นับเป็นผลตอบแทนเฉลี่ยที่สูงที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาคภาคเอเชีย-แปซิฟิก
ปัจจัยหลักที่ทำให้ผลตอบแทนนับแต่ IPO ของหลักทรัพย์ใหม่เหล่านี้มีความโดดเด่น คือการที่บริษัทเหล่านี้อยู่ในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการเติบโตและบริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยมี 6 บริษัท ที่มีกำไรสุทธิเติบโตเกิน 100% จากผลประกอบการงวด 9 เดือน และ 4 บริษัทที่ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแล้ว ซึ่งแสดงถึงความแข็งแกร่งทางการเงินและสภาพคล่องของบริษัท นอกจากนั้น การที่ SET Index และ mai Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 4 นับเป็นปัจจัยเอื้อต่อภาวะการซื้อขายหุ้นเข้าใหม่ และยังสะท้อนให้เห็นความมั่นใจของผู้ลงทุนที่มีต่อบริษัทจดทะเบียนไทยแม้จะเผชิญกับเหตุการณ์น้ำท่วม
นอกจากนี้การที่ตลาดหลักทรัพย์ไทยมีผู้ลงทุนที่หลากหลาย ทั้งผู้ลงทุนบุคคลทั่วไปและสถาบันที่ต่างสนใจลงทุนหุ้น IPO เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากข้อมูลย้อนหลัง 3 ปี (2551-2553) หุ้น IPO ให้ผลตอบแทนนับแต่ IPO ถึงปัจจุบันใกล้เคียงหรือดีกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยมีค่าเฉลี่ยในแต่ละปีที่ 40.78% 116.91% และ 85.36% ตามลำดับขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ผลตอบแทนในแต่ละปีที 21.64% 131.97% และ 42.10% ตามลำดับ นอกจากนี้ การที่บริษัทเข้าใหม่สามารถระดมทุนโดยมีต้นทุนที่ถูกกว่าบริษัทที่จดทะเบียนอยู่แล้ว สังเกตได้จากค่าเฉลี่ยราคาหุ้น IPO ต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) ของหุ้นเข้าใหม่ที่ 12.60 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ย P/E ของ SET และ mai อยู่ที่ประมาณ 13.37 เท่าและ 18.46 เท่า ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การระดมทุนโดยนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ยังมีความน่าสนใจ
ณ วันเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (market capitalization) ของบริษัทจดทะเบียนที่เข้าใหม่ในปี 2554 ทั้ง 10 แห่งอยู่ที่ 18,463 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 29,298 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9.72% ณ วันที่ 21 ธ.ค. 2554 โดยหุ้นเข้าใหม่ใน SET ที่ให้กำไรจากการถือหุ้นจนถึงปัจจุบันสูงสุด คือ บมจ. น้ำตาลครบุรี (KBS) ที่ 20.88% และใน maiได้แก่ บมจ. ยูเนี่ยน อินทราโก้ (UIC) ที่ 118.75% ตามลำดับ
สำหรับตลาดหลักทรัพย์ ในเอเชีย-แปซิฟิก ที่ได้รวบรวมข้อมูลเพื่อมาทำการเปรียบเทียบผลตอบแทนดังกล่าว รวมตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มี จำนวน 12 แห่ง และตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก 44 แห่ง โดยใช้ข้อมูลราคา IPO ของหลักทรัพย์เข้าใหม่ทุกตัวของแต่ละตลาด เปรียบเทียบกับราคาปิดของหลักทรัพย์นั้น ๆ ณ วันที่ 21 ธันวาคม 2554
Create Date : 28 ธันวาคม 2554 |
Last Update : 16 มกราคม 2555 12:55:39 น. |
|
0 comments
|
Counter : 672 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|