Prague - 10 Sept 06
เช้าวันนี้เรามีนัดกับ Prague Castle หรือ Prazsky hrad การเดินทางไปที่นี่เราตกลงกันว่าจะไปนั่งรถรางสาย 22 หรือ 23 เพื่อไปลงที่สถานี Prazky Hrad เพื่อเดินลงมา (ปราสาทอยู่บนเนินค่ะ สามารถเดินขึ้นหรือลงได้แล้วแต่จะเลือก) เรานั่ง metro ไปลงที่สถานีอะไรสักอย่าง แล้วไปต่อรถราง ระหว่างยืนรอรถราง ก็มีรถรางสายหนึ่งแล่นเข้ามาพอดี พวกเราก็กระโดดขึ้นเลย ปรากฏว่าที่ขึ้นไปมันสาย 12 ไม่ใช่สายที่เราจะไป วะฮ่ะฮ่า.. เลยต้องลงและรอรถรางสายเดิมเพื่อไปยังที่ที่เราจากมาและรอสาย 22/23 เช่นเคย รอนานเหมือนกันนะเจ้ารถรางนี่ หรือว่าเราติดนิสัยรอรถไฟฟ้าที่มันจะมาภายใน 5 นาทีก็ไม่รู้แฮะ ในที่สุดเราก็ได้ขึ้นรถรางสาย 23 และไปลงยังสถานีที่เราต้องลงจนสำเร็จ เราเดินตามๆ เขาไปเข้าเขตปราสาท แล้วก็ต้องมองหาช่องขายตั๋วอีกครั้ง ที่นี่แปลกอ่ะ ชอบเอาช่องขายตั๋วไปหลบไว้ที่ซอกหลืบ ไม่ค่อยมีป้ายบอกใหญ่ๆ ชัดๆ เราก็หาๆ กันจนเจอเพื่อไปซื้อตั๋วประเภท route A ซึ่งสามารถเข้าชมสถานที่ดังต่อไปนี้ได้ St. Vitus Cathedral, Old Royal Palace, Basilica of St. George, Powder Tower, Golden Lane, และ สามารถเข้าชมนิทรรศการ The Story of Prague Castle ได้ สนนราคา 350 KC เราเดินเข้าไปก็อึ้งกับความงามอลังการของ St. Vitus Cathedral รู้สึกเหมือนตัวเองกับไปนั่งเรียนวิชาอารยธรรมตะวันตกยังไงยังงั้น เราเดินถ่ายรูปกันจนหนำใจ แต่รู้สึกว่าถ่ายยังไงก็ไม่สามารถดึงความสวยทั้งหมดออกมาได้ ต้องไปเห็นด้วยตาตัวเองแล้วถึงจะรู้ว่ามันงดงามแค่ไหน นี่ขนาดเขาไม่เช็ดขัดถูนะเนี่ย อิอิ ว่าแล้วเราก็เดินจงกรมกันรอบโบสถ์ แบบว่าหาทางเข้าไม่เจอ แล้วก็มาถึงบางอ้อเมื่อเจอบาทหลวงเดินออกมา แล้วเราก็เห็นป้ายบอกว่า โบสถ์จะเปิดให้เข้าชมหลังเที่ยงเป็นต้นไป เพราะวันนั้นเป็นวันอาทิตย์ ช่วงเช้ามีพิธีกรรมในโบสถ์ เราก็เลยเดินไปชมแห่งอื่นก่อนแล้วค่อยย้อนกลับมาชมที่นี่ในภายหลัง
ทหารยามเฝ้าหน้าพระราชวัง
มหาวิหาร St. Vitus
จาก St. Vitus เราไปที่ Basilika of St.George ตัวตึกเป็นสีส้มมมมเข้มเชียว ข้างในให้เข้าชมได้แต่ถ้าจะถ่ายรูปคิด 50Kc เลยต้องยอมควักตังค์จ่าย เพราะไหนๆ ก็มาแล้ว ข้างในก็มีภาพเขียน fresco อยู่บนเพดานโบสถ์ เมื่อเทียบกับในหนังสือ eyewitness ของเพื่อนแล้ว พบว่าสีซีดลงไปเยอะเชียว สงสัยว่า eyewitness จะได้ภาพนั้นมาเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน เสร็จแล้วเราไปเดินต่อที่ Golden Lane เป็นซอยเล็กๆ แต่คลาคล่ำไปด้วยผู้คน เพราะบ้านในซอยนั้นจะทาเป็นสีฟ้าชมพูเขียวเหลืองส้ม เรียกว่า colorful มาก แล้วก็บ้านก็จะหลังเล็กๆ เหมือนหลุดเข้าไปเดินอยู่ในเทพนิยายก็ไม่ปาน ตอนนี้บ้านหลังเล็กๆ เหล่านั้นกลายเป็นร้านขายของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยวไปหมดแล้ว แต่ละร้านจะจัดหน้าร้านน่ารักๆๆ ทั้งนั้น ทำให้เพื่อนและตัวฉันถ่ายรูปกันมือระวิง แต่ส่วนใหญ่อยู่แค่หน้าร้านอ่ะ ไม่ค่อยได้เข้า 55 หลังจากนั้นเดิน Golden Lane ยังไม่หนำใจ ก็ใกล้เวลาเที่ยงซึ่งจะมีพิธีเปลี่ยนเวรของทหารที่ยืนรักษาการณ์อยู่หน้าปราสาท พวกเราก็รีบๆ เดินไปไม่รู้จะทันหรือเปล่า ก็ไม่ทันตอนแรกๆ แต่ก็ยังดีที่ยังได้ดู ฉันถ่ายรูปกับทหารมาด้วยนะ แต่ดูเหมือนว่ามันจะเจ๊งระหว่างโหลด -_-' พอดูคุณทหารเปลี่ยนเวรเสร็จ เราก็เลยเดินไปที่โบสถ์ St. Vitus เพราะตอนนี้เปิดให้เข้าชมแล้ว นักท่องเที่ยวล้นหลามต่อคิวยาวเพื่อเข้าชมโบสถ์ พอเข้าไปถึงข้างในเจ้าหน้าที่ (จนท.) บอกว่า ถ้าจะเดินเข้าไปชมด้านใน ต้องไปซื้อตั๋วอีกต่างหาก กรำจริงๆ เสียตังค์แล้วยังต้องเสียอีกเขี้ยวจริง แต่ก็ไม่แพงเท่าไรพอรับได้ สิ่งที่โดดเด่นในโบสถ์ก็คือกระจกสี มีเยอะมากและงามๆ ทั้งน้านน ถ่ายรูปในนี้ออกมาไม่ค่อยจะชัดสมใจเหตุเพราะมันมืด นอกจากกระจกสีและหิ้งบูชาต่างๆ แล้ว ก็ยังมีหอสูงให้เราได้ปีนป่ายขึ้นไปชมวิวกรุงปรากอีกด้วย ว่ากันว่าที่นี่แหล่ะเป็นที่ปราบเซียน เพราะนอกจากจะสูงแล้ว บันไดขึ้นลงยังเป็นทางเดียวกัน ซึ่งทั้งมืดและแคบ แต่ฉันเห็นคนแก่มากมายที่เต็มใจปีนกันขึ้นไป นับถือในสปิริตจริงๆ ฉันยังไม่แก่ ยังหอบแฮ่กๆ ขึ้นไปแล้วคิดว่าจะเจอลานโล่งเสียอีกแต่เปล่าอ่ะ เป็นทางแคบๆ ให้นักท่องเที่ยวผลัดกันส่องกล้องมองเกม เอ้ย ไม่ใช่ ส่องกล้องชมวิว เราถ่ายรูปกันเพื่อให้คุ้มค่าเหนื่อย แล้วถึงเดินลง
Basilika of St. George
ภาพเฟรสโกด้านในของโบสถ์
ด้านในของโบสถ์
ร้านขายของที่ระลึกของ Mucha
งานของ Mucha
หน้าร้านขายอะไรสักอย่างจำไม่ได้
ร้านค้าใน Golden Lane
ภายใน St.Vitus Cathedral
Stained Glass ในโบสถ์
ดูโบสถ์แล้วมานั่งพักกินข้าวข้างหลังโบสถ์
พอออกจาก St. Vitus เราไปต่อที่ Old Royal Palace ซึ่งก็เป็นห้องโถงธรรมดา เป็นห้องโถงโล่งๆ ไม่มีอะไร เสร็จจากที่นี่ เพื่อนบอกว่าอยากไปเดิน Golden Lane อีกรอบ เราจึงต้องไปซื้อตั๋วเพื่อเข้าไปในดินแดน fairy tale อีกรอบ แต่ก่อนเข้า Golden Lane เราแวะไป Toy Museum ก่อน ที่นี่จะเป็นพิพิธีภัณฑ์ของเล่น มีการหลอกให้คนเดินขึ้นไปสักสองชั้นก่อนแล้วบอกว่า ที่นี่เก็บตังค์ค่ะ 555 แต่เราก็รู้อยู่แล้วหล่ะว่าต้องเสียตังค์ ในนั้นจะมีตุ๊กตาเพียบไปหมดเลย ทั้งคนและสัตว์ มีบาร์บี้คอลเล็กชันต่างๆ เพียบ คนที่คลั่งบาร์บี้คงจะชอบ หลังจากนั้นเราถึงได้เข้าไป Golden Lane อีกรอบ ช่วงบ่ายนี้คนไม่ค่อยเยอะเท่าไรนัก ผิดกับช่วงเช้า เราเลยได้ถ่ายรูปประตูที่ยังไม่ได้ถ่าย และก็ถึงเวลาร่ำลา Golden Lane
Toy Museum
บ้านหลังสีฟ้าเคยเป็นที่อยู่ของ Kafka มาก่อน
เราเดินออกจากบริเวณปราสาท เดินไปเรื่อยๆ จะไปตามหา kampa และกังหันน้ำชัยพัฒนา 555 เดินกลับไปกลับมาอยู่นานกว่าจะเจอ จริงๆ คือเดินเลยไปแล้ว แล้วพอเดินกลับมาอีกที อ้าวอยู่ตรงนี้นี่เอง แต่การเดินไปเรื่อยๆ ทำให้เราได้เจอ Kafka Museum แต่ก็ไม่ได้เข้าไปดูหรอก ถ่ายรูปรูปปั้นหน้าพิพิธภัณฑ์มาเฉยๆ อิอิ แล้วก็พอดีว่าแถวนั้นมีนิทรรศการภาพถ่าย Earth from the above พอดี เป็นภาพถ่ายจากมุมสูง เลยมีคนมามุงดูกันพอสมควร ฉันเห็นภาพถ่ายจากเมืองไทยด้วยสองรูปจากเชียงรายและพิษณุโลก เมื่อเราเดินกันจนเจอกังหันน้ำชัยพัฒนาแล้ว (ไม่ใช่หรอกแต่เรียกไปอย่างนั้น) เราก็ขึ้นมาเดินบนสะพานชาร์ลส์ หรือ Charles Bridge หรือ Karluv Most ในภาษาเช็ก เพื่อข้ามฝั่งกลับไปยังย่าน Old Town (ปราสาทอยู่อีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำ Vltava) ว่ากันว่าควรมาเดินที่สะพานสามเวลาหลังอาหาร เปล่าๆ สามเวลาคือเช้าตรู่ กลางวัน และเย็น เพื่อจะได้เห็นบรรยากาศที่แตกต่างกันไป ตอนเช้าจะมีแต่ช่างกล้อง ตอนกลางวันก็มีนักท่องเที่ยวเต็มไปหมด ตอนกลางคืนมักมีคู่รักมายืนพลอดรักกันข้างๆ สะพาน พร้อมเสียงดนตรีจากนักดนตรีสมัครเล่น ฉันไปแค่ตอนเช้าตรู่กับตอนกลางคืนเท่านั้น วิวตอนกลางคืนของปราสาทปราก สวยงามมากๆๆ แต่เสียดายที่ด้อยปัญญาไม่สามารถเก็บรูปสวยๆ มาได้ เลยซื้อโปสการ์ดมาแทน 555 เอาไว้ให้คนอื่นดูว่ามันงามแบบนี้จริงๆ นะ
หน้าพิพิธภัณฑ์ของ Kafka
คนยืนฉี่ที่หน้าพิพิธภัณฑ์
เวสป้าใครไม่รู้จอดไว้
กังหันน้ำชัยพัฒนาที่ฉันเดินตามหา
โฆษณาคอนฯ ที่ติดทั่วเมือง
ข้าวผัดสเปนแบบทะเลใส่หมึก อร่อยมากๆๆ กินสองคนไม่หมดต้องห่อกลับไปกินอีกหนึ่งมื้อ
แล้วเราก็เดินเข้าเขต Old Town เพื่อกลับที่พัก ระหว่างนั้นยาถ่ายที่ฉันกินไว้ให้ออกฤทธิ์ตอนสี่ทุ่มก็ดันออกฤทธิ์ตอนสามทุ่ม -_-' ตอนแรกว่าจะเดินกลับที่พัก แต่ไปๆมาๆ เกรงว่าจะไม่ทันฮ่ะ โชคดีเจอ KFC เลยขอพึ่งพาห้องน้ำหน่อยละกัน เอิ๊กๆ หลังจากถ่ายทุกข์แล้ว ค่อยเดินกลับที่พักด้วยความสบายหน่อยเฮ่อ.. เกือบไปแล้ว.. การเดินทางในวันที่สองก็จบลงแค่นี้...พรุ่งนี้เรามีนัดกับเมืองสปา Karlovy Vary
to be continued...
Create Date : 23 กันยายน 2549 |
|
2 comments |
Last Update : 23 มีนาคม 2550 15:34:44 น. |
Counter : 888 Pageviews. |
|
|
|