Cesky Krumlov - 12/13 Sept 06
วันนี้เราตื่นมาเช็คเอาท์เพื่อออกจากที่พักที่นี่ไปนอนที่ครุมลอฟหนึ่งคืน รถบัสออกจากสถานีประมาณ 8 โมง ไปถึงที่ครุมลอฟเกือบ 11 โมง เพราะแวะเวียนผ่านหลายเมือง ตอนแรกๆ ก็ดูวิวสองข้างทางดี แต่หลังๆ หลับดีกว่า เราลงรถที่ท่ารถ Spicak ซึ่งไม่ใช่สถานีหลักของเมือง แต่เราเลือกลงที่นี่เพราะใกล้กับที่พักของเรามากกว่า ตอนขึ้นรถ ฉันยื่นชื่อสถานีให้คนขับดูแล้วบอกว่าจะผ่านสถานีนี้มั้ย เขาก็ส่ายหน้า แต่สรุปได้ว่าแกฟังไม่ออก แต่ดีที่มีคนลงที่สถานีนี้และเพื่อนฉันเหลือบไปเห็นชื่อสถานีพอดี เราเลยรีบลง จากนั้นก็เดินไปตามทางที่เขาบอกแป๊บเดียวก็เจอที่พักแล้ว คืนนั้นเรานอนกันที่ Hostel 99 ห้องเล็กน่ารักดี เป็น tower view เสียด้วย เพราะมองไปเห็นยอดหอคอยของปราสาทครุมลอฟพอดีเลย แต่เสียอย่างเดียวคือว่าก่อนจะไปถึงห้องเรา ต้องผ่านห้องนอนรวม ซึ่งเหม็นกลิ่นฝรั่งมาก ประมาณพวก backpacker น่ะค่ะ จะอ้วก.. 
ห้องนอนของเรา
พอเช็คอินเก็บของแล้ว ออกมาหาข้าวกลางวันกินกัน ก็กินที่ร้านอาหารของ hostel นั่นแล โชคดีที่มันเที่ยงแล้ว ไม่งั้นเราคงต้องกินอาหารแบบ breakfast แทน เพราะเขาบอกว่าอาหารเที่ยงจะทำหลังเที่ยงเท่านั้น ฉันสั่งแซลมอนมากิน อร่อยจุใจ ชิ้นเบ้อเร่อเท่อ กินอาหารเที่ยงเสร็จแล้ว เราจึงออกเดินทาง เดินๆ ไปแค่ไม่ถึงสิบก้าวก็จ๊ะเอ๋กับไปรษณีย์ เรากับเพื่อนรีบควัก postcard ที่เขียนตุนไว้ตั้งแต่ปรากแล้วรีบเดินเข้าไปส่งในทันที สแตมป์มาประเทศไทยเท่ากับ 11 KC ส่งเสร็จแล้วเราก็เดินต่อไป เดินไปไม่ไกลก็เจอปราสาท ทำไมใกล้จัง 555 ว่าแล้วเราเลยเข้าไปเยี่ยมชมเสียเลย ระหว่างทางจะเข้าไป เราได้พบกับเจ้าหมีที่เลี้ยงไว้เฝ้าปราสาทด้วย เป็นหมีสองตัวไม่รู้เพศอะไร ตอนแรกไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมต้องมีหมี แต่มาถึงบางอ้อในภายหลัง หลังจากดูหมีแล้ว เราก็ไปขึ้น The Great Tower ก่อน เพื่อชมวิว (อีกแล้วครับท่าน) หอคอยนี้เป็นสีชมพูสวยสดอย่างที่เห็นในรูปค่ะ อ้อต้องเสียค่าขึ้นหอคอยนี้ด้วย แต่จำไม่ได้แล้วว่าเท่าไร
บยก. ในร้านอาหารของ Hostel
Grilled Salmon อร่อยมั่ก
หมีเฝ้าปราสาท
The Great Tower
วิวจากที่มองลงมาจากหอคอย
เมื่อชมหอคอยแล้ว เราจึงเดินไปต่อในส่วนของปราสาท เดินหาที่ขายตั๋วอีกแล้ว ก็ปรากฏว่ามีตั๋วสองแบบคือ route I และ route II ตอนนั้นไม่ได้ดูหรอกว่ามันเหมือนหรือต่างกันยังไง ไปถึงก็ไปที่เคาน์เตอร์บอกว่าเอา English Tour เลย จนท. ยื่นตั๋วมาให้แล้วบอกว่าเริ่มเวลา 13.50 นะ เราก็ออกมานั่งรอด้านนอก นึกในใจว่า แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าต้องไปกับทัวร์ไหน นั่งสักพัก ฉันเลยตัดสินใจเข้าไปถามจนท. อีกทีว่าตกลงว่าทัวร์เริ่มที่ไหนคะ จนท.บอกว่า next courtyard พอไปถึงก็เห็นมีกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งยืนออกันอยู่ ก็คิดว่าคงใช่แหล่ะ เลยเดินไปรวมกลุ่มด้วย แต่ก็ไปไม่ทันเขาบรรยายตอนแรกหรอกนะ เพราะว่ามีกลุ่มหนึ่งเดินขึ้นไปนั่งฟังก่อนแล้ว ภายในปราสาทเขาไม่ให้ถ่ายรูปเลยอดเก็บภาพงามๆ มาให้ชมกัน พนักงานพาเราเดินไปชมในปราสาทเก่าแก่พร้อมบรรยายประวัติในแต่ละห้อง รู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในยุคโบราณเลยแฮะ แต่ละห้องสวยงามทั้งนั้น ที่เด่นคงเป็นภาพเขียน fresco ที่ผนังห้อง แต่อนิจจาในยุคหนึ่งมองว่าภาพเขียนสี fresco นี้ล้าสมัย เลยเอาสีขาวทาทับ จ๊ากก เขาสามารถบูรณะคืนกลับมาได้ไม่ทั้งหมด เหตุเพราะงบประมาณมีอยู่อย่างจำกัด เราใช้เวลาในปราสาทครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้
ภายใน courtyard ใด courtyard หนึ่งของปราสาทครุมลอฟ
จากนั้นก็เดินเล่นกันเองไปเรื่อยๆ ไปเจอ Royal Garden อืม ดอกไม้ไม่ค่อยเยอะเท่าที่คิด และเรามองไม่เห็นสวนจากมุมสูง เลยไม่เห็นรูปแบบของสวนที่จัดไว้ (มาเห็นจากรูปในโปสการ์ดแทน) อ้อ เรื่องหมีเฝ้าปราสาทมาอ่านเจอในหนังสือที่หลังว่าตระกูลโรเซมแบร์กเจ้าของปราสาทมีความเกี่ยวพันกับตระกูล Orsini ของอิตาลี ซึ่งในภาษาอิตาเลียน Orsa แปลว่าหมีตัวเมีย ดังนั้นในตราประจำตระกูลก็จะมีรูปหมีเกาะอยู่สองข้าง นี่เองจึงเป็นที่มาของประเพณีการเลี้ยงหมีในปราสาท ตายแล้วก็ถลกหนังมาปูพรม ข้างในปราสาทมีหลายผืนเลยแหล่ะ
คุณปู่นั่งพักระหว่างทางเดินอยากเข้าไปคุยแต่คงส่งภาษาไม่รู้เรื่อง
คุณป้าชาวญี่ปุ่นมาเที่ยวกับสามี เห็นแกนั่งวาดปราสาทด้วยสีน้ำเลยถ่ายมาด้วย
ดอกกุหลาบใน Royal Garden
มุมหนึ่งใน royal garden
ใบไม้เปลี่ยนสีที่ร่วงหล่นตามทางเดินพร้อมแสงตะวันที่สาดมาอย่างไม่เกรงใจใคร
we are here at Cesky Krumlov
ปราสาทจากมุมใดสักมุมหนึ่ง
เสร็จจากเดิน Royal Garden แล้ว เราออกไปเดินในเมืองต่อ ที่นี่เป็นเมืองที่เล็กมากๆๆ เดินไปมาก็จะวนมาเจอจตุรัสเทียนอันเหมินจนได้ เอ่อไม่ใช่ จตุรัสใจกลางเมือง ร้านรวงที่นี่จัดแบบน่ารั๊กน่ารักทุกร้านเลย สไตล์เดียวกับที่ Golden Lane เห็นแล้วก็อยากซื้อไปโม๊ดแต่ไม่มีทรัพย์มากพอ จริงๆ ทรัพย์อะมีนะ แต่ไม่มีเนื้อที่ในกระเป๋าจะใส่ต่างหาก 555 ว่าไปนั่น เราเดินถ่ายรูปเก็บความน่ารักลงแผ่นเม็มโมรี่กันได้สักพัก ก็ถึงเวลากลับที่พัก รีบอาบน้ำ และเข้านอนอย่างรวดเร็ว ไม่ได้ออกไปกินมื้อเย็น แต่กินแอ๊ปเปิ้ลคนละลูกที่ซื้อมาจาก Karlovy Vary แทน เหตุผลหลักเพราะเราไม่อยากเดินผ่านด่านฝรั่งซกมกทั้งหลาย ฉันมักชอบตื่นมาตอนใกล้ๆ เช้า สักช่วงตีสี่ ตีห้า มองออกไปผ่านหน้าต่างตอนแรกก็เห็นยอดหอคอยชมพูนั่น สักพักตื่นมาอีกที ก็เห็นว่ามีหมอกมาบดบังไปเสียแล้วอ้อที่นี่อากาศจะเย็นกว่าที่ปราก
เดินผ่านเห็นสองคนกำลังเล่นหมากรุกกันอยู่
ร้านน่ารัก น่ารักในเมือง
เด็กคุมซอย สงสัยจะเพิ่งเลิกเรียน
จตุรัสเทียนอันเหมิน.. 
ผลิตภัณฑ์ยี่ห้อ Fun Explosive Design ขายทั่วทุกเมืองในเช็ก
ตอนเช้าเราตื่นและรีบเช็คเอาท์ออกมาตั้งแต่ยังไม่เก้าโมง ไม่รู้จะรีบออกมาทำไม เพราะร้านข้าวยังไม่เปิดสักกะร้าน ออกมาเดินให้ลมหนาวพัดผ่านซะงั้นแถมหิ้วท้องที่ว่างจัดเดินวนไปมาในเมืองตั้งแต่เช้า รู้สึกว่าไม่มีนาฬิกาที่เมืองนี้ยังไงไม่รู้ ทุกอย่างค่อยๆ ไหลลื่นไปเป็นจังหวะอย่างช้าๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ชมความน่ารักของเมืองไปเรื่อย เราเดินชมเมือง ทะลุมันทุกซอย จนในที่สุดเมื่อถึงเวลาร้านรวงเปิด จึงได้เลือกร้านริมน้ำ กินอาหารเช้ากัน อาหารเช้ามื้อนี้มีออมเล็ตกะหนมปังควายสี่แผ่น กินไม่หมดอ่ะ ยอมแพ้ ถ้าเป็นเนื้อสัตว์จะกินได้มากกว่า อ้อมีน้ำชา 1แก้วโต และ น้ำส้มที่ไม่ค่อยอร่อยอีกหนึ่งแก้ว น้ำส้มที่นี่จะรสแบบนี้หมดเลยทุกร้าน กินโค้กอร่อยสุด 555 (ไม่รู้เป็นไรอยู่ที่โน่นอยากกินแต่โค้ก คงเพราะเดินเยอะ อยากได้ของหวานๆ เย็นๆ ชื่นใจกินหล่ะมั้ง) ร้านข้าวเช้าที่เราไปนั่งกินกันนั้นมีพวกของหวานอย่างกาแฟปั่น ไอติมด้วย ดูเมนูแล้วน่ากิ๊นน่ากิน แต่กินไม่ลงเพราะอากาศหนาวโค่ด ถ้ากินเข้าไปคงจะสั่นแน่ๆ เลยบอกเพื่อนว่าไว้ตอนบ่ายๆ ค่อยมานั่งกินละกัน จากนั้นเราก็ออกเดินเที่ยวในเมืองอีกรอบ
พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง ทาสีแสบไม่เกรงใจใคร
เซรามิกสีสันสดใสวางขายอยู่
ขายอะไรจำไม่ได้แต่ว่าจัดได้น่ารักดี
จนบ่ายๆ ถึงได้วกกลับไปร้านนั้น คนเสิร์ฟคงจะงงอยู่เหมือนกัน มันมากันอีกแล้ว คราวนี้ฉันกินกาแฟปั่นใส่ไอติม ลืมตัวไม่น่ากินกาแฟหลังเที่ยงเลยเพราะมันจะทำให้ฉันน้อยไม่หลับ (แล้วก็จริงๆ เสียด้วย คืนนั้นกว่าจะหลับแทบตาย ) ตอนแรกเพื่อนชวนว่าให้ไปปราสาทอีกรอบมั้ย แต่ด้วยความขี้เกียจเลยกะว่าจะนั่งที่ร้านนั่นจนกว่าเวลารถจะออก แต่ว่ามานึกได้ว่ายังมีบางจุดในปราสาทที่เรายังไม่ได้เข้าไปดู เลยบอกเพื่อนว่าไปกัน แต่ก็ผิดหวังเพราะจุดที่เราอยากดูซึ่งก็คือโรงละครนั้น ต้องไปซื้อตั๋วทัวร์ route II ดูกัน เราดูเวลาแล้ว เกรงว่าถ้าเราไปทัวร์อาจจะไม่ทันรถ ว่าแล้วก็เลยเดินออกมาดีกว่า แล้วเราก็ไปที่สถานีรถ ขอบอกว่ามันลึกลับซับซ้อนอีกแล้ว 555 คือว่าสถานีนี้ต้องเดินขึ้นเนินข้ามถนนไปแล้วก็เดินลงเนินไปอีกแบบว่าถ้ามองแต่ตาเปล่าจะมองไม่เห็น ตอนที่เราไปถึงสถานี เห็นคนเอเชียสองคนกำลังยืนมองแผนที่อยู่ เขาคงหาทางเข้าไปในตัวเมือง ฉันเลยบอกเพื่อนว่าไปทำตัวเป็นพลเมืองดีหน่อยมั้ย เพราะว่าถ้าเป็นเรามาเองก็คงจะงง ว่าแล้วก็เลยเดินเข้าไปถามว่าจะไปไหนกัน เขาตอบมาว่าจะเข้าไปที่ตัวเมือง เลยบอกทางให้เข้าไป เขาคงงงว่าทำไมจู่ๆ เราถึงได้เข้าไปบอกเขา :D ขากลับรถพาเราวนไปหลายเมือง แถมเป็นรถที่ไม่มีผ้าม่านเลย แดดก็ส่องเอ๊าส่องเอา ฝรั่งชอบแดด แต่เดี๊ยนไม่ชอบ ร้อนเว่ย รู้สึกเหมือนเมารถเพราะมันวนเวียนและอากาศไม่ค่อยถ่ายเท ภาวนาให้ถึงปรากไวๆ พอไปถึงเราต้องไปเอาสัมภารกที่ฝากไว้กับที่ A plus hostel (ที่นี่ใจดีจังฝากกระเป๋าได้ไม่คิดตังค์) พอไปเอากระเป๋าเราก็ต้องไปหาที่พักที่สามของเรานั่นก็คือ hostel arnosta ที่เราไปดูลาดเลาไว้เมื่อวันก่อน
ฉันไม่ได้ใช้กระเป๋าลาก เพราะงกไม่อยากเสียตังค์ซื้อ ก็แบกกระเป๋าใบเขียวใบอ้วนกลมไป ขึ้น metro กว่าจะไปถึง hostel เล่นเอาหอบแฮ่กๆ ตอนไปเช็คอินพวกเรายืนเอากระดาษพัด ประมาณว่าร้อน จนท. ถามว่ายูร้อนเหรอ คือตอนนั้นกลางคืนแล้วมันก็เย็นแล้ว อืมร้อนชิปเรยหว่ะ (นึกในใจ) ปรากฏว่าที่พักที่นี่มีดีอยู่สองอย่างคือ ห้องกว้างขวางใหญ่โต (เข้าใจว่าคงเป็นหอพักสำหรับนักศึกษา) และที่อาบน้ำไม่รวม แม้ไม่มีประตูปิดมิดชิดแต่มีม่านกั้นแบ่งเป็นห้องๆ โล่งไป ส่วนข้อเสียก็คือไม่มีอาหารเช้าและไม่มีครัว แป่ว แล้วตรูจะทำยังไงกับมาม่า.. พอเราวางของเสร็จแล้ว ก็ออกไปหาข้าวกิน พอดีมีร้านอาหารจีนอยู่ใกล้ๆ เลยเดินไปฝากท้องไว้ ฉันสั่งผัดหมี่มากิน ไม่ค่อยมีรสชาติเท่าไร ตอนแรกคิดว่าเจ้าของร้านเป็นคนจีน กระแดะส่งสำเนียงใหญ่ ทั้งๆ ที่จริงๆ พูดได้ไม่กี่คำ เขาก็ยิ้มๆ 55 จนฉันเอะใจว่าสงสัยจะไม่ใช่คนจีนเลยถามเขาไป เขาบอกว่าเป็นเวียดนาม อ้อในร้านเขามีธงชาติไทยด้วย คือขายอาหารเอเชียหลายๆ อย่าง ตอนเรานั่งกินข้าวกัน เขาก็เปิดเพลงไทยให้ด้วยนะ เป็นเพลงลูกทุ่งที่ฉันไม่รู้จัก แต่ว่าก็เป็นการแสดงน้ำใจไมตรีที่มีให้กัน สรุปว่ามื้อนั้นฉันกินหมี่ไม่หมด เพราะมันเยอะมากๆ เลยขอให้เขาห่อกลับบ้านให้เราหน่อย ปรากฏว่าเขาไม่คิดค่าห่อด้วยใจดีจัง กลับถึงที่พักเรารีบอาบน้ำและเข้านอน ก็อย่างที่บอกฉันนอนไม่หลับเอาเสียเลย แป่ว..กว่าจะหลับก็นานอยู่
to be continued...
| Create Date : 24 กันยายน 2549 |
| Last Update : 23 มีนาคม 2550 15:37:11 น. |
|
4 comments
|
| Counter : 786 Pageviews. |
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [