นักเรียนวันนี้เป็นเด็กเล็กกับเด็กพิเศษน้องที่เป็นเด็กพิเศษตื่นเต้นมากที่จะได้เรียนcooking รีบเข้ามาถามว่า"วันนี้จะทำอะไรครับครู"ทำ Strawberry Cheese Pie ครับรู้จักมั้ย" เด็กๆส่ายหัวกันทุกคนไม่รู้จักแต่เชื่อเถอะว่าเด็กทุกคนเคยกินกันมาแล้วทั้งนั้นและชอบด้วยเพียงแต่ไม่รู้ว่าขนมที่กินน่ะเรียกว่าอะไร
ครูก้อยชวนเด็กๆมาดูขั้นตอนการทำกันการพายนั้นเราจะแบ่งเป็น2 ส่วน คือส่วนฐานพายกับส่วนตัวพายพอเด็กๆได้ยินอย่างนี้ก็รึบถามอย่างตื่นเต้นขึ้นมาทันทีว่า"ทำ 2 อย่างเหรอครับวันนี้"ไม่ใช่ครับทำอย่างเดียวแต่แบ่งเป็น2 ส่วน"ครูก้อยตอบไปก็ขำไปค่ะเด็กๆไม่เข้าใจค่ะว่ายังไงแต่ก็ไม่เป็นไรค่ะตอนทำเดี๋ยวก็เข้าใจเองแต่ครูก้อยก็ดีใจนะคะที่เด็กๆตื่นเต้นที่จะได้ทำ2 อย่าง
เรามาเริ่มต้นทำกันเลยดีกว่านะคะส่วนแรกคือ ฐานพายซึ่งวันนี้เราใช้แครกเกอร์บดเป็นฐานค่ะเพราะเป็นพายเย็นที่ไม่ต้องอบการทำพายแบบนี้นอกจากจะไม่ยากเกินไปสำหรับเด็กเล็กแล้วเด็กก็ได้ฝึกกล้ามเนื้อมือด้วยแล้วเรามาดูกันค่ะว่ายังไง
ส่วนผสมของฐานพายหรือ Pie Crust
Ingredients ส่วนผสม
Cracker แครกเกอร์ 80 กรัม(g)
Butter, melted เนยละลาย 45 กรัม(g)
Sugar น้ำตาล 1 ช.ต.(tbs)
เราเริ่มจากชั่งตวงส่วนผสมกันก่อนเนื่องจากเด็กๆวันนี้เป็นเด็กอนุบาลและเด็กพิเศษเลยยังบวกลลบเลขไม่เก่งการสังเกตตาชั่งแบบธรรมดาจึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากเหมือนกันแต่ครูก็อธิบายนะคะว่าขีดเล็กๆแปลว่าอะไรขีดยาวหน่อยแปลว่าอะไรแล้วให้เขาบวกค่ะน้องคนที่เป็นเด็กพิเศษยังบวกเลขไม่ได้เลยครูก็เลยใช้วิธีให้เพื่อนคอยดูตาชั่งแล้วพอถึงขีดที่ต้องการก็บอกให้เขาหยุดค่ะก็ทำกันได้ดีค่ะครูแทบไม่ต้องชั่งใหม่เลยค่ะจะมีก็แต่การตวงคือการตักน้ำตาลเป็นช้อนโต๊ะนี่แหละเพราะเด็กๆยังไม่เข้าใจค่ะว่าการตวงด้วยช้อนตวงหรือถ้วยตวงนี่จะต้องปาดด้านบนให้พอดีกับขอบของช้อน/ถ้วยตวงซึ่งไม่เหมือนกับการเอาช้อนตักข้าวที่จะตักยังไงก็ได้ให้อยู่ในช้อนเป็นพอก็เลยต้องจับมือกันตักค่ะเพราะทุกคนเลยค่ะ ไม่ว่าจะอายุเท่าไรตักพูนช้อนทุกคนเป็นพี่โตหน่อยบอก็พอเข้าใจค่ะแต่เป็นน้องเล็กนี่อธิบายแล้วยังมีคำถามกันเยอะเพราะจินตนการเขายังเยอะอยู่ค่ะแล้วก็ยังทำเหมือนเดิมคือตักพูนช้อนฮะฮะ ไม่เป็นไรค่ะค่อยๆฝึกเดี๋ยวก็ได้ไม่ใช่เรื่องยากค่ะ
-
ทีนี้เราก็มาละลายเนย เนื่องจากครัวของเราไม่มีเครื่องไมโครเวฟ เราเลยละลายเนยในหม้อตั้งไฟค่ะ พอเนยละลายก็เทออกใส่ถ้วยให้คลายความร้อนกันก่อน แต่ละคนก็ได้ทำของตัวเองเลยนะคะ ครูก้อยทอนสูตรข้างบนลงเพื่อให้เด็กทุกคนได้ทำของตัวเองค่ะ เพราะฉะนั้นแต่ละถ้วยของแต่ละคนก็จะไม่เหมือนกันค่ะ ขึ้นอยู่กับความมือหนักเบาของเด็กแต่ละคนด้วยค่ะ
-
ต่อมาก็แครกเกอร์ครูก้อยให้แต่ละคนชั่งแครกเกอร์ของตัวเองแล้วเอาใส่ถุง มัดปากถุงให้สนิทค่ะ แล้วขยำเลยค่ะ นี่ไงค่ะได้ฝึกกล้ามเนื้อมือก็ตอนนี้แหละ เพราะเราต้องการแครกเกอร์ที่บดละเอียด
ก็ให้เด็กๆขยำกันได้เต็มที่เลยค่ะ พอชิ้นเริ่มเล็กก็ให้เอานิ้วบี้ๆๆๆให้เป็นทรายเลยค่ะ
บางตอนครูก้อยก็ให้เด็กๆเอาถุงฟาดกับโต๊ะเลยนะคะ เด็กๆจะได้ปล่อยพลังกันได้เต็มที่ค่ะ คงไม่มีโอกาสมากนักที่เด็กๆจะได้เอาอะไรไปฟาดโต๊ะแล้วไม่มีผลตามมาอย่างเช่นวันนี้ เด็กสนุกกันใหญ่ค่ะ น้องคนที่เป็นเด็กพิเศษฟาดมันส์มากค่ะจนถุงแตก แครกเกอร์แตกกระจายเลยค่ะ ครูก้อยก็ไม่ได้ดุนะคะ หัวเราะค่ะแล้วก็ถามเขาว่า "มันส์มากเลยใช่มั้ยลูก" แล้วก็บอกน้องเขาว่าไม่เป็นไร เขาก็รีบบอกเลยนะคะว่า "เดี๋ยวกวาดเอง เดี๋ยวกวาดเอง" เขาก็รีบไปเอาไม้กวาดกับที่โกยผงมากวาดใหญ่เลยค่ะ
ช่างเป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบจริงๆเลย และทำได้ดีด้วยนะคะ แสดงว่าอยู่ที่บ้านต้องเคยมีโอกาสได้ทำแน่นอนเลย กวาดได้เกือบหมดแล้วค่ะ แล้วน้องเขาก็เห็นว่าบนโต๊ะก็ยังมีเศษแครกเกอร์อยู่ก็จะเอาไม้กวาดที่กวาดพื้นมากวาดบนโต๊ะต่อ ถึงตอนนี้ครูก้อยรีบหยุดเลยค่ะ "เดี๋ยว เดี๋ยว บนโต๊ะเรามีไม้กวาดพิเศษอยู่ลูก" แล้วครูก้อยก็หยิบไม้กวาดอันจิ๋วที่สำหรับกวาดโต๊ะมาให้เขา อันนี้คงไม่เคยใช้มาก่อน เพราะดูจะใช้ไม่เป็นและออกแรงกวาดไม่ถูก ครูก้อยก็ทำให้น้องดูค่ะ และเขาก็ทำได้นะคะ ก็ตั้งหน้าตั้งตากวาดเศษขนมปังบนโต๊ะ ระหว่างนี้ครูก้อยก็คุยกับเด็กๆคนอื่นว่า "ของพี่เขาหกหมดแล้ว ไม่มีทำแล้ว ทำไงดีหล่ะ หนูแบ่งของหนูนิดนึงให้พี่เขาได้มั้ยครับ" เด็กๆน่ารักมากค่ะ "ได้ครับ" ก็แบ่งของตัวเองออกมาคนละนิดให้พี่ค่ะ แล้วเราก็ทำกันต่อ
-
เมื่อแครกเกอร์ถูกบดเป็นเหมือนทรายแล้ว เราเทแครกเกอร์ลงไปในชามเนยละลายที่เตรียมไว้ ตอนนี้ก็ใส่น้ำตาลลงไปเลยค่ะ แล้วเอาช้อนคนให้เนยละลายกับแครกเกอร์คลุกเคล้ากันให้ทั่วค่ะ ครูก้อยบอกเด็กๆว่า "คนจนให้ของในถ้วยดูเหมือนทรายเปียกหน่ะลูก นึกออกมั้ยครับทรายเปียกเป็นยังไง" นึกออกครับ" ก็คนกันใหญ่ค่ะ
จนเหมือนทรายเปียกจริงๆ
ก็ตักใส่ถ้วยพลาสติก ตอนนี้ครูก้อยก็ถามเด็กๆว่า เราต้องมีถ้วยพลาสติกกี่ถ้วย ครูก้อยให้ทำคนละ 2 ถ้วยค่ะ เงียบ! บวกเลขไม่ถูกเลย คำตอบที่ได้ต่อมาคือ 2 ถ้วย" ครูก้อยก็ "แป่ว" ครูก้อยก็เลยใช้วิธี ให้แต่ละคนชูมือขึ้นมาตามจำนวนถ้วยที่ตัวเองจะทำคือ 2 นิ้ว แล้วก็นับค่ะ ทุกคนก็นับนิ้วของตัวเองแต่ต่อกับเพื่อนคือ หนึ่ง สอง สาม สี่ ทีนี้เด็กตอบได้แล้วค่ะ แล้วก็หยิบถ้วยออกมาเท่าจำนวนที่นับได้ค่ะ แล้วก็ให้เด็กๆตักแครกเกอร์ใส่ถ้วยพลาสติกของตัวเอง แล้วเอาช้อนกดให้แน่น
ตอนช้อนกดให้แน่นนี่ครูก้อยแปลกใจมากคือเด็กๆทำกันไม่ได้นะคะ คือกดแล้วค่ะแต่ไม่แน่น กลายเป็นกดแล้วไปตักแครกเกอร์ซะแทน ครูก้อยคิดว่าคงเป็นเพราะแครกเกอร์บดด้วยมือจะไม่ค่อยละเอียดมาก เลยทำให้การเกาะตัวกันได้ไม่ได้ดีเท่ากันบดด้วยวิธีการปั่น ก็ไม่เป็นไรค่ะ เอาเท่าที่เด็กๆทำได้ค่ะ แล้วก็เอาแช่ตู้เย็นเลย
Cheese Pie ตัวชีสพาย
Cream Cheese ครีมชีส 125 กรัม(g)
Yogurt โยเกิร์ต 75 กรัม(g)
Sugar น้ำตาล 45 กรัม(g)
Lime Juice น้ำมะนาว 1 ช.ต.(tbs)
Gelatin Powder เจลาตินผง ½ ช.ช.(tsp)
(เจลาติน½ ชช.ไปโรยในน้ำอุณหภูมิห้อง1½ ช.ต.แล้วเอาไปอุ่นให้เจลาตินละลายพักไว้ให้คลายความร้อน)
-
ตีครีมชีสกับน้ำตาล จนครีมชีสอ่อนตัว ครูก้อยใช้เครื่องตีแบบมือถือ เด็กๆแย่กันถือมากๆค่ะ ครูก้อยต้องให้ผลัดกันแล้วนับ 1-10 ไม่งั้นแย่งกัน พอถึงแล้วก็มีคนทำลืมค่ะ ถือต่อ อีกคนก็รีบบอกเลยค่ะ "ครบ 10 แล้ว ตาเราถือแล้ว" ฮะฮะ ไม่ยอมกันจริงๆเลยเด็กๆเนี่ย
-
เติมโยเกิร์ตแล้วตีต่อให้เข้ากันค่ะ พอเข้ากันดีแล้วก็ เติมน้ำมะนาว
และน้ำเจลาติน ตีจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันแล้ว ตักใส่ถ้วยที่มีฐานพายเตรียมไว้ ตอนตักใส่ถ้วยนี่ตอนแรกให้ใช้ช้อนตัก แต่ดูท่าทางแล้วจะหกซะมากกว่าเข้าไปในถ้วย อย่างเช่นเต้าฮวยเมื่อวาน ครูก้อยเลยเอาส่วนผสมเทใส่เหยือกพลาสติกแล้วให้เด็กๆเทจากเหยือกพลาสติกใส่ถ้วยของตัวเอง แต่ละคนต้องกะปริมาณเผื่อที่สำหรับเติมสตรอเบอร์รี่ราดหน้าด้วยค่ะ แล้วแช่ตู้เย็นต่ออีก 1ชม.
-
พอชีสพายเซ็ทตัว ตักสตรอเบอร์รี่ซอส ราดหน้า รับประทานได้เลยค่ะ