Colorful Crispy Jelly

“Today we make crispyjelly"วันนี้เป็นวุ้นชั้นค่ะวุ้นกะทิทำเป็นชั้นๆเหมือนขนมชั้นเลย เด็กๆก็ "เย้ชอบกินวุ้น แต่วุ้นชั้นเป็นไงไม่รู้จักค่ะ"Smileyแต่ก็ "เย้ชอบกินวุ้น" กันอีกรอบ Smiley

ให้เด็กๆเลือกทำกันคนละสีค่ะแล้วเอามาแบ่งกัน ส่วนคุณครูทำส่วนที่เป็นวุ้นกะทิค่ะทุกคนก็ใช้สูตรเดียวกันค่ะต่างกันที่สึเท่านั้นเอง

วุ้นสีสูตรตามนี้ค่ะ

Ingredients ส่วนผสม

agar powder ผงวุ้น 1tbs

Water น้ำ 1½ cup

Sugar น้ำตาลทราย ¾cup

Food coloring สีผสมอาหารตามชอบ


วุ้นหน้ากะทิสูตรตามนี้ค่ะ

Ingredients ส่วนผสม

agar powder ผงวุ้น ½ tbs

Coconut Milk กะทิ 1cup

Salt เกลือ 1tsp

Flour แป้งข้าวเจ้า 1tbs

  1. First of all, each of you choose a color for your jelly. Me purple! Orange, Red, Green แต่ละคนชิงกันเลือกสีก่อนทั้งนั้นค่ะ สนุกกันใหญ่ จนเกือบทะเลาะกัน ครูก้อยต้องเบรคเด็กๆไว้และบอกว่า ทุกคนได้ทุกสีนะคะลูก เพราะมันจะเป็นวุ้นชั้นที่มีหลายๆสีค่ะ เลยค่อยเงียบไปได้หน่อย

  2. เด็กทุกคนมีหม้อส่วนตัวกันค่ะ ตวงน้ำใส่หม้อ โรยผงวุ้นแล้วพักไว้ เพื่อให้ผงวุ้นดูดน้ำให้อ่ิมค่ะ ครูก้อยใช้คำว่า Sprinkle เด็กๆเข้าใจนะคะ ก็โรยได้ค่ะ แต่อาจจะไม่กระจายเท่าที่ควรแต่ก็ได้ตามความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมืออีกแล้วค่ะ ใช้ได้ค่ะ แล้วก็มาแก้ปัญหาโดยใช้ช้อนคนให้กระจายค่ะ

  3. เมื่อผงวุ้นอิ่มนี้แล้วก็เอาไปตั้งไปค่ะ หมั่นคน ครูก้อยให้เด็กๆ โซโลเองเลยค่ะ ครูก้อยแค่ยืนดูอยู่ข้างๆ คอยระวังเรื่องความปลอดภัยเท่านั้น เด็กทำได้ดีค่ะ เมื่อผงวุ้นละลายแล้ว เติมน้ำตาลค่ะ และคนต่อจนน้ำตาลละลายหมด

  4. เมื่อน้ำตาลละลายดีแล้ว ก็ยกลงจากเตา หยดสีที่เด็กๆเลือกเอาไว้ ที่จริงครูก้อยอยากใช้สีธรรมชาตินะคะ แต่หาไม่ทันค่ะ เลยต้องใช้สีผสมอาหารแทน ทุกคนตื่นเต้นกับสีของตัวเองมาก ถือไว้ไม่ยอมปล่อยขวดกันเลย มีอยู่คนนึงเลือกสีแดง ถือขวดสีตลอดแล้วไม่รู้มือไปเผลอคลายฝาขวดตอนไหน ทำให้สีไหลออกมาเลอะมือ เจ้าตัวตกใจมาก "เอ้ย เลือด เลือดเต็มมือเลย" Smiley สีแดงไหลออกมาเลอะเต็มฝามือเลยค่ะ ตอนแรกทุกคนในห้องก็ตกใจมากค่ะ ก็นึกว่าเลือดจริงๆ รึบถามว่าเป็นอะไรอ่ะ ทำไมมีเลือด แต่ครูก้อยเห็นแว๊บเดียวก็รู้แล้วค่ะว่าสีเพราะว่าสีเป็นน้ำใสๆ ไม่ข้นเหมือนเลือดจริง แต่ก็ดูน่ากลัวนะคะ เพราะสีแดงนี่แดงจัดจริงๆ ครูก้อยก็พาเด็กคนนั้นไปล้างมือค่ะ เด็กๆคนอื่นว่ิงตามมาดูใหญ่เพราะยังคิดว่าเป็นเลือดจริงๆอยู่ ครูก้อยก็ล้างมือน้องไปพลางพูดไปด้วยค่ะ "ไม่ใช่เลือดหรอกลูก สึแดงมันหกออกมา ลูกมีแผลที่ไหนหล่ะคะ เลือดถึงออกมากขนาดนี้" เด็กคนนั้นก็ยิ้มค่ะ แล้วก็บอกว่า ไม่มี แล้วเด็กๆเขาก็หัวเราะกันค่ะ ก็ขำๆกันดีนะคะ

  5. การหยดสีให้หยดทีละน้อยก่อนนะคะ แล้วค่อยๆเติมทีละหยดค่ะ ครูก้อยก็ให้เด็กๆตัดสินใจเองเลยค่ะว่าสีเข้มพอมั้ยโดยที่ครูก้อยหยดสีให้ค่ะ ไม่งั้นหล่ะก็ พลั้งมือทีละก็ โอ๊ย ไม่อยากจะคิดว่าสีวุ้นจะเป็นแบบไหน หยดไปคนไปค่ะ พอได้โทนสีที่ถูกใจแล้วก็ หยุดค่ะ

  6. ทีนี้ครูก้อยก็เตรียมทำส่วนวุ้นกะทิบ้างค่ะ เริ่มเอาแป้งข้าวเจ้าละลายในกะทิก่อนค่ะ แล้วก็ใส่เกลือค่ะ คนให้เข้ากัน

  7. เติมผงวุ้นลงไปในกะทิ ตั้งไว้ให้ผงวุ้นดูดน้ำค่ะ

  8. เอากะทิขึ้นตั้งไฟ คนตลอดค่ะ ให้แป้งสุก จะสังเกตว่ากะทิจะข้นขึ้น ก็พอได้แล้วค่ะ คนมากตั้งไฟนาน กะทิก็จะข้นเกินไป กินไม่อร่อยอีกค่ะ

พอวุ้นทุกสีเสร็จแล้วก็เอาถ้วยที่จะเป็นพิมพ์ออกมาครูก้อยก็ให้เด็กๆเลือกกกันเองว่าถ้วยของตัวเองจะลงสีไหนก่อนก็ให้ไปตักวุ้นสีนั้นค่ะเนื่องจากน้องบางคนไม่เข้าใจวุ้นชั้นเป็นยังไงก็ตักซะเต็มถ้วยเลยค่ะ"เสร็จแล้ว"เขาบอกค่ะครูก้อยเลยขอตักออกแล้วทำให้ดูเป็นตัวอย่างตักวุ้นสี 2 ช้อนเอาเข้าตู้เย็นให้วุ้นเริ่มแข็งตักวุ้นกะทิ 2ช้อนแช่ตู้เย็น ตักวุ้นสึอื่นต่ออีก2 ช้อน แช่ตู้เย็นทำสลับกันอย่างนี้ค่ะจนเต็มถ้วย แล้วก็เอาเข้าตู้เย็นค่ะแช่อย่างน้อย 2ชั่วโมงเพื่อให้วุ้นแข็งตัวดีค่ะแค่นี้ค่ะ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

เด็กๆตักไปก็กลืนน้ำลายไปค่ะ"น่ากิน"Smileyเด็กๆบอก แล้วเด็กๆก็มีคำถามว่าทำไมต้องทำหลายชั้นด้วยตักให้เต็มแล้วแช่ตู้เย็นกินเลยไม่ได้เหรอ คำตอบที่คุณครูให้กับเด็กๆคือวุ้นจะได้สวยๆไงคะ แต่คำตอบจริงๆคือฝึกให้ลูกๆรู้จักอดใจและรอคอยค่ะเพราะการทำวุ้นชั้นนั้นต้องใช้ความอดทนนะคะเพราะเราต้องมาตักทีละชั้นรอแต่ละชั้นแข็งตัวอีกเป็นการฝึกเด็กๆไปอีกทางค่ะเด็กๆทำสำเร็จนะคะ ถือว่าใช้ได้ค่ะอดทนรอคอยได้ เยี่ยมเลยค่ะ

เด็กๆทุกคนรอวุ้นแข็งตัวมากค่ะคอยถามตลอด พอครูบอกว่าไปดูวุุ้นได้รีบกันเลยค่ะ รีบมาดูวุ้นในตู้เย็นแล้วทุกคนก็บอกว่า "อยากกินอยากกิน" ครูเห็นหน้าเด็กๆแล้วก็สงสารค่ะประกอบกับว่าวันนี้ทำกันคนละ2 ถ้วยค่ะ เลยบอกว่าทานได้1 ถ้วย อีกถ้วยเอากลับไปให้คุณพ่อคุณแม่ทานนะคะแล้วเด็กๆก็ทำเรื่องแปลกประหลาดอีกแล้วค่ะคือตักกินกันแค่คำเดียวแล้วก็ปิดฝากลับไปเหมือนเดิมค่ะครูก้อยก็ตกใจถามทำไมหล่ะไม่อร่อยเหรอ ทุกคนก็บอก"อร่อยแต่เก็บไปให้พ่อกับแม่กิน"ฟังแล้วก็น่าชื่นใจนะคะแต่ก็เป็นวุ้นแหว่งๆนะคะที่จะเอากลับไปให้คุณพ่อคุณแม่เนี่ย





Create Date : 30 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 30 พฤศจิกายน 2555 15:02:35 น.
Counter : 474 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

xiochong
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



เป็นเพียงคุณแม่ที่ชอบทำอาหาร (อุตสาห์ตามฝันไปร่ำเรียนถึงเมืองนอกเมืองนา) และรักที่จะอยู่กับเด็กๆ ทำงานประจำมานาน แต่ไม่มีเวลาเล่นกับลูก เลยตัดสินใจลาออกจากงาน และเลือกที่จะมาทำทีสิ่งที่ชอบอยู่กับสิ่งทีรัก
พฤศจิกายน 2555

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
20
21
22
23
24
25
26
27
29
 
 
30 พฤศจิกายน 2555