|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
Sar ในโทรศัพท์มือถือ
โทรไร้สาย
เครื่องโทรศัพท์ไร้สาย หมายถึงโทรศัพท์ทุกชนิดที่ไม่ใช้สาย เช่น โทรมือถือ PCT แม้กระทั่งโทรตามบ้านที่ไร้สาย
โทรศัพท์อาจจะเป็นปัจจัยที่5ของมนุษย์ยุคดิจิตอล ประชาชนส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าของมือถือบางคนมีมากกว่า 1 ครั้งและใช้กันอย่างไม่ลืมหูลืมตาโดยที่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือผลเสียที่จะเกิดขึ้น
บทความนี้จะกล่าวถึงความปลอดภัยของคลื่นวิทยุต่อคนโดยมีการทบทวนโดยองค์การอนามัยโลก องค์การสุขภาพของแคนาดาและอังกฤษ
การเจริญเติบโตของธุรกิจมือถืออย่างมาก ประมาณการว่าจะมีจำนวนเครื่องโทรศัพท์ประมาณ 1.6 ล้านๆเครื่องนอกจากนั้นก็ยังมีสถานีเครือข่ายเพิ่มขึ้นมากมายที่ปล่อยคลื่นความถี่วิทยออกมา ปัจจัยที่มีผลต่อสุขภาพได้แก่
การทำงานของโทรมือถือ
เมื่อเราพูดโทรศัพท์มือถือ คลื่นเสียงจะเปลี่ยนเป็นคลื่นวิทยุุ radio waves ซึ่งเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดหนึ่ง( electromagnetic radiation) คลื่นนี้จะกระจายไปในอากาศและไปสู่สถานีของวิทยุมือถือ เมื่อมีคนโทรติดต่อมาคลื่นเสียงจะแปลงเป็นคลื่นวิทยุ ส่งไปตามสถานีและส่งมายังผู้รับ
ความแรงของคลื่นส่วนใหญ่ประมาณ 0.75ถึง 1 watt ในขนะที่เราพูดสมองของเราจะอยู่ใกล้เสาอากาศของโทรศัพท์มือถือมากที่สุด พลังงานจากคลื่นวิทยุจะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนซึ่งอาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ
ความแรงของคลื่น
คนที่ใช้โทรศัพท์มือถือจะได้รับคลื่นมากกว่าคนที่อาศัยอยู่ใกล้สถานี คนที่ใช้โทรศัพท์มือถือจะได้รับคลื่นเมื่อมีการใช้โทรศัพท์ แต่คนที่อาศัยใกล้สถานีจะได้รับคลื่นอยู่ตลอดเวลา
โทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์มือถือสมัยเก่าเป็นระบบ 850 MHz ปัจจุบันเป็นแบบ 1900 MHz ส่วนของประเทศทางยุโรปใช้ระบบ Global System for Mobile Communications (GSM) ซึ่งมีคลื่นความถี่ระหว่าง 900 MHz ถึง 1800 MHz โทรศัพท์เคลื่อนที่จะให้พลังงานคลื่นเพียง 0.2-0.6 Watts สำหรับวิทยุ walkies talkies จะให้กำลังคลื่นถึง 10 Watts ความแรงของคลื่นจะลดลงอย่างมากเมื่อตัวเครื่องอยู่ห่างจากศรีษะ ดังนั้ควารจะใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า hand free ซึ่งจะลดความแรงของคลื่น
สถานีกระจายคลื่น สถานีจะให้คลื่นแรงตั้งแต่ไม่กี่วัตต์จนเป็นร้อยขึ้นกับขนาดและจำนวนของเซลล์ไซต์ โดยตัวเสาอากาศจะมีความกว้าง 20-30 ซม. และยาวประมาณ 1 เมตรโดยตั้งอยู่ ดาดฟ้าอาคาร บนหอคอยสูง 15-50 เมตรจากพื้น หากตั้งอยู่บนพื้นจะต้องมีความสูง 50-200 ฟุตจากพื้นดิน คลื่นจากเสาอากาศจะออกในแนวราบ ดังนั้นคนที่อยู่บนดินหรือในบ้านจะได้รับคลื่นน้อยมาก ระยะห่างที่ปลอดภัยจากคือ 2-5 เมตรจากเสาอากาศ
ผลกระทบต่อสุขภาพ
คลื่นวิทยุจะมีผลต่อเนื้อเยื่อลึกประมาณ 1 ซม ความลึกขึ้นกับความถี่ของคลื่น เมื่อเนื้อเยื่อได้รับคลื่นจะแปลงเป็นความร้อนแต่ร่างกายก็มีกลไกที่จะควบคุมอุณหภูมิ เชื่อว่าผลเสียของคลื่นวิทยุเกิดจากความร้อน
การศึกษาที่ผ่านมาจะศึกษาผลกระทบอของคลื่นวิทยุต่อทั้งร่างกาย และคลื่นที่ศึกษาก็แรงกว่าคลื่นโทรศัพท์มาก การศึกษาผลกระทบของคลื่นโทรศัพทมือถือต่อคนยังมีไม่มาก
* มะเร็ง ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าคลื่นโทรศัพท์ทำให้เกิดมะเร็ง แต่จากการทดลองในสัตว์ก็ไม่มีหลักฐานว่าทำให้เกิดมะเร็ง และจากการศึกษาทางระบาดวิทยาก็ไม่มีหลักฐานว่าคลื่นโทรศัพท์ทำให้เกิดมะเร็ง * ผลเสียต่อสุขภาพอื่น พบว่าคลื่นวิทยุมีผลต่อการนอนหลับ การตอบสนองของสมอง น้อยมาก * การขับรถ การใช้โทรศัพท์มือถือทำให้มีอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น * การรบกวนของคลื่นวิทยุ คลื่นจะรบกวนการทำงานของอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น เครื่องกระตุ้นการเต้นของหัวใจ pacemaker ,defibrillator และอาจจะมีผลต่อการควบคุมการบิน
การเลือกซื้อต้องพิจารณาอะไรบ้าง
* ต้องทราบว่าโทรมือถือแต่ละรุ่นที่ผลิตออกมาให้ความถี่คลื่นวิทยุออกมาเท่าไร (Raduofrequency exposure level ) ท่านจะทราบโดยขอข้อมูลจากบริษัทผู้ผลิตหรือที่เวป //www.fcc.gov/oet/rfsafety * ท่านจะต้องทราบว่าพลังงานที่ได้จากคลื่น (Specific Absorption Rate (SAR) เป็นการคำนวนพลังงานจากคลื่นวิทยุที่เราได้รับ)ไม่ควรเกินเท่าไร ปกติไม่ควรเกิน 1.6 watts per kilogram
SAR stands for Specific Absorption Rate
แม้ว่าจากหลักฐานถึงปัจจุบันพบว่าการใช้โทรศัพท์มือถือไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้ แต่ยังมีคำถามถึงความปลอดภัยของการใช้โทรศัพท์มือถือในระยะยาว ซึ่งรัฐบาลของของหลายประเทศได้แนะนำให้มีการวิจัยเพิ่มเติม
SAR คืออะไร
หมายถง Specific Absorption Rate หมายถึงหน่วยการวัดปริมาณพลังงานที่ร่างกายได้รับขณะที่เราใช้โทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์ทุกเครื่องจะต้องผ่านการวัดโดยใช้พลังงานเต็มที่ แต่พลังงานที่เราใช้จริงจะน้อยกว่าค่าที่ได้จากการทดสอบ เพราะบริษัทเค้าออกแบบให้ใช้พลังงานต่ำที่สุดที่พอจะส่งคลื่นไปยังสถานีที่ใกล้ที่สุด ดังนั้นหากเราอยู่ใกล้สถานี เราจะได้รับพลังงานน้อย
เราจะเลือกเครื่องที่มีระดับ SAR เท่าไร
ในการเลือกซื้อเครื่องโทรมือถือนอกตากจะพิจารณา บริษัทที่ผลิต รุ่น แบบ ขนาด ประเภทการใช้งาน ราคา เราจะต้องคำนึงถึง ระดับของ SAR โดยค่าปกติจะไม่เกิน 1.6 watt/Kg
โทรศัพท์ของบริษัทแต่ละรุ่นมีค่า SAR เท่ากันหรือไม่
แม้ว่าจะเป็นโทรศัพท์จากบริษัทเดียวกัน แต่จะมีค่า SAR ไม่เท่ากัน
เราจะทราบว่าเครื่องของเรามีค่า SAR เท่าไร
มี website ที่ให้ท่านค้นหาว่าเครื่องของท่านมีค่า SAR เท่าไรค้นได้จาก //www.fcc.gov/oet/fccid
ตารางข้างล่่างจะเป็นที่อยู่ของบริษัทที่ผลิตโทรมือถือ ซึ่งท่านจะสามารถหารายละเอียดของ Specific Absorption Rate (SAR) ของเครื่องแต่ละรุ่น
* Alcatel * Audiovox: * Benefon: * Kyocera Wireless: //www.kyocera-wireless.com * LG:www.lge.com * Mitsubishi:www.mitshubishiwireless.com * Motorola:www.mot.com/rfhealth/sar.html * Nokia:www.nokiausa.com * Panasonic:www.panasonic.com * Samsung:www.samsungusa.com * Siemens: * Ericsson:www.sonyericssonmoible.com/us
อุปกรณ์ Hand free จะทำให้ปลอดภัยเพิ่มขึ้นหรือไม่
ในขณะที่ยังไม่ทราบถึงผลเสียของการใช้โทรศัพท์มือถือในระยะยาว ดังนั้นการใช้อุปกรณ์ Hand free จะทำให้สมองของเราได้รับพลังงานจากคลื่นวิทยุลดลง
อุปกรณ์ที่ป้องกันคลื่นไปสู่ศรีษะใช้การได้หรือไม่
จากการศึกษาพบว่าอุปกรณ์เหล่านี้ใช้ไม่ได้ผลเนื่องจากทำให้การใช้โทรศัพท์ลำบาก และเครื่องจะปรับพลังงานเพิ่มขึ้น ทำให้เราได้รับพลังงานเท่าเดิม
เราจะใช้มือถืออย่างปลอดภัยได้อย่างไร
จนถึงปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานถึงผลเสียของคลื่นโทรศัพท์มือถือต่อสุขภาพ แต่ต้องรอผลการศึกษาอีก 3-4 ปี ดังนั้นองค์การอนามัยโลกจึงเสนอแนวทางปฏิบัติ
* ลดระยะเวลาในการพูดโทรมือถือ * ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อสุขภาพทั้งผู้ใช้มือถือ หรือผู้ที่อาศัยใกล้สถานี * มาตราการเสริม การออกมาตราการควรจะอาศัยข้อมูลทางวิชาการ o หากภาครัฐหรือภาคประชาชนต้องการมาตราการเสริม ควรจะเป็นมาตราการจูงใจหรือสมัครใจ เพื่อให้บริษัทผลิตสินค้าที่มีการปล่อยคลื่นลดลง o ส่วนประชาชนโดยเฉพาะเด็กหากต้องการลดการรับคลื่นควรจะจำกัดการใช้หรือใช้อุปกรณ์ hand free * ปฏิบัติตามข้อห้าม เช่นไม่ใช้โทรศัพท์มือถือในโรงพยาบาล หรือเครื่องบิน * ความปลอดภัยขณะขับขี่ ควรจะหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือในขณะที่ขับรถ หรืออาจจะใช้อุปกรณ์ hand free * สร้างรั้วหรือสิ่งกีดขวางบริเวณสถานีเพื่อมิให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปยังบริเวณดังกล่าว * การติดตั้งสถานี การติดตั้งสถานีใกล้โรงเรียนอนุบาล สนามเด็กเล่น โรงเรียน จะต้องพิจารณาให้รอบครอบ
ผลการศึกษา
* รายงานจาก Cellphones 'should not be given to children' 18:19 11, January 2005 NewScientist.com news service ,Will Knight, London แม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานถึงอันตรายของมือถือต่อสุขภาพ แต่ต้องระวังโดยเฉพาะในเด็ก มีรายงานจากประเทศสวีเดน ว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างการเกิดเนื้องอกเส้นประสาทหูกับมือถือ * มีการวิจัยว่าการใช้โทรศัพท์มือถือนานๆจะเกิด Hot spot ในเนื้อสมอง ซึ่งเชื่อว่าจะมีการทำลายสมองบางส่วนและอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคเนื้องอกในสมอง และ Alzheimer’s disease * การวิจัยใหม่ๆพบว่าคลื่นโทรมือถือ GSM จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการทำงานของเซลล์ และการเปลี่ยนแปลงคลื่นไฟฟ้าสมอง * พบว่าคลื่นวิทยุทำให้เกิดการสลายของ DNA ซึ่งหากไม่มีการซ่อมแซมจะทำให้เซลล์สมองตาย * นักวิจัยที่ Royal Adelaide Hospital in Australia ค้นพบว่าคลื่นแม่เหล็กุที่ออกมาจากอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอาจจะมีความสัมพันธ์กับการเกิดเนื้องอกสมองของหนู * การที่สมองสัมผัสคลื่นโทรศัพท์มือถือนานๆจะทำให้สารพิษสามารถเข้าสู่เนื้อสมองได้ง่าย * รูปข้างล่างแสดงกลไกว่าคลื่นโทรศัพท์มือถือทำให้เกิดเนื้องอกสมองได้อย่างไร * ออสซีสงสัยคนเนื้องอกในสมองจากเสามือถือบนอาคาร
12 พฤษภาคม 2549 14:37 น. สำนักงาน 2 ชั้นบนสุดของอาคารแห่งหนึ่งในนครเมลเบิร์นของออสเตรเลียปิดทำการชั่วคราว หลังจากเจ้าหน้าที่ 7 คนที่ทำงานในนั้นตรวจพบเนื้องอกสมอง ก่อให้เกิดความวิตกว่าอาจมีสาเหตุมาจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่บนหลังคาอาคาร
เจ้าหน้าที่สหภาพการอุดมศึกษาแห่งชาติของออสเตรเลียเผยว่า 2 ชั้นบนสุดของอาคารดังกล่าว เป็นที่ตั้งสำนักงานของราชสถาบันเทคโนโลยีเมลเบิร์น มีการสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากสำนักงานดังกล่าวแล้วเมื่อวานนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่ 4 คนตรวจพบเนื้องอกในสมองในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ 3 คนก็ตรวจพบเนื้องอกในสมองเช่นกัน โดยพบรายแรกเมื่อปี 2544 การพบเจ้าหน้าที่มีเนื้องอกสมองพร้อมกันมากขนาดนี้ จึงไม่น่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ เจ้าหน้าที่ที่ป่วย 5 คน ทำงานอยู่ชั้นบนสุดของอาคาร และส่วนใหญ่ทำงานมานานไม่ต่ำกว่า 10 ปี
ด้านเจ้าหน้าที่ราชสถาบันเทคโนโลยีเมลเบิร์นกล่าวว่า เสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ติดตั้งอยู่บนหลังคาอาคาร สร้างความกังวลมานาน แต่ผลการศึกษาเมื่อปี 2544 ไม่พบว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เจ้าหน้าที่รายแรกมีเนื้องอกในสมอง อย่างไรก็ดี ทางสถาบันยังไม่ตัดประเด็นนี้ออกไป และจะศึกษาเพิ่มเติมเพื่อให้แน่ใจ
ด้านเทลสตรา บริษัทโทรศัพท์รายใหญ่ที่สุดในออสเตรเลียที่ติดตั้งเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์บนหลังคาอาคารดังกล่าวออกแถลงว่า เสาส่งได้มาตรฐานด้านสุขภาพและความปลอดภัยของสำนักงานความปลอดภัยนิวเคลียร์และการป้องกันรังสีออสเตรเลีย และเป็นไปตามระเบียบที่เคร่งครัดขององค์การอนามัยโลก อย่างไรก็ดี ทางบริษัทจะร่วมกับราชสถาบันฯ สืบหาความจริงต่อไป เพื่อคลายความกังวลของเจ้าหน้าที่
สนามแม่เหล็กไฟฟ้า ค่ามาตราฐาน ผลกระทบต่อสุขภาพ ค่าสนามแม่เหล็กในบ้าน microwave โทรมือถือ
เอกสารอ้างอิง
1. Electromagnetic fields and public health:mobile phones and their base stations.Who Fact sheet june 2000 2. Federal Communications Commission 445 12th Street SW Washington, DC 20554 More FCC Contact Information...
Create Date : 13 พฤษภาคม 2551 |
|
2 comments |
Last Update : 13 พฤษภาคม 2551 11:42:39 น. |
Counter : 1820 Pageviews. |
|
 |
|
|
| |
โดย: Pu121 13 พฤษภาคม 2551 11:46:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: Pu121 13 พฤษภาคม 2551 11:52:22 น. |
|
|
|
|
|
|
|
1. LG KG800 ("Chocolate" - Unlocked GSM Version) : 0.135 SAR level
2. Motorola RAZR V3x : 0.14
3. Nokia 9300 : 0.21
Highest SAR Rated Handsets in the US:
1. Motorola V195s : 1.6
2. Motorola Slvr L6 : 1.58
3. Motorola Slvr L2 & W385 : 1.54
Other Popular Handsets:
Apple iPhone (4GB and 8GB) : 0.974
T-Mobile Sidekick 3 : 0.5
LG VX8500 ("Chocolate" - Verizon Wireless Version) : 1.13
LG VX8500 ("Chocolate" - Sprint Version) : 1.29
RIM BlackBerry Curve (AT&T and T-Mobile Versions): 1.51
RIM BlackBerry Pearl 8120 (AT&T and T-Mobile Versions) : 1.22
RIM BlackBerry Pearl 8230 (Verizon Wireless Version) : 1.48
CNET's Ten highest-radiation cell phones in the US, with links to ratings by manufacturer, is available here.