|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
เชียงใหม่-ปาย-ห้วยน้ำดัง วันแรก
Chiang Mai - Pai - Huai Nam Dang (Day 1, 19 Nov 05)
ลมหนาวมาอีกแล้ว ปีนี้มาช้าจริง ๆ นึกว่าฝนจะลืมหยุดตกซะแล้ว ฤดูท่องเที่ยวเริ่มต้นอีกครั้ง เราเลยวางแผนไปสูดอากาศเย็น ๆ ให้ชุ่มปอดดีกว่า อยู่กรุงเทพชีวิตมันเครียดซะเหลือเกิน 
จุดหมายปลายทางคราวนี้ เราเลือกที่จะไป เชียงใหม่ เพราะไม่ได้ไปเที่ยวในเมืองเชียงใหม่หลายปีแล้ว หลัง ๆ นี้ไปทีไรก็ใช้เมืองเชียงใหม่เป็นแค่ทางผ่านหรือที่ต่อรถแค่นั้นเอง ทริปนี้ไปแบบสบาย ๆ ไม่เน้นลุยเพราะมีว่าที่คุณแม่มือใหม่ไปด้วย ต้องระวังสุขภาพนิดนึง
ตามไปเที่ยวกันดีกว่า ขี้เกียจโม้แล้ว ลุยโลด ... อ้อ ภาพอาจไม่ค่อยสวย ต้องขออภัยไว้ก่อน ฝีมือดีกว่านี้ไม่ได้มากนักหรอก แล้วถ้ามีภาษาอังกฤษปนเป็นระยะก็ขอโทษนะครับ เพราะว่าจะให้พี่ชายที่อยู่ต่างประเทศดูด้วย ภาษาไทยไม่แข็งแรงน่ะครับ .. ไปกันเล้ย
19 พ.ย. 48 เช้านี้เราจะบินไปเชียงใหม่กับสายการบิน One-Two-Go ไฟลต์ OX126 ออกจากกทม.9:45 ถึงเชียงใหม่ 10:55 ว่าแล้วก็ขอบ่นนิดนึง ทีแรกจองไฟลต์เช้าตรู่ 7:45 เอาไว้ แต่เขาโทรมาบอก cancel flight ซะนี่ ดีนะที่บอกล่วงหน้า 3 วัน เพื่อไม่ให้ยุ่งยากเราก็เลยเลื่อนไปไฟลต์ถัดมาอีก 2 ชม.แทน ค่าตั๋วคนละ 1,600 บาทขาดตัว
 We flew to Chiang Mai with One-Two-Go airline.
วันนี้เราต้องไปขึ้นเครื่องที่ gate 84 ซึ่งเป็น bus gate นั่งรออยู่นานจนจะถึงเวลาเครื่องบินออก เขาก็ยังไม่ให้เราขึ้นรถซักที แต่ในที่สุดก็ได้เวลาเรียกขึ้นรถ ไฟลต์นี้มีเด็กเล็กไปด้วยหลายคนทีเดียว สงสัยคุณพ่อคุณแม่จะพาหนู ๆ ไปดูแพนด้ารึเปล่านะ ... เครื่องที่ใช้สำหรับไฟลต์นี้เป็น MD82 ซึ่งจัดที่นั่งแบบ 2-3 เครื่องออกเลทไปนิดนึง แต่ด้วยฝีมือหรือไงก็ไม่รู้ กัปตันชาวต่างชาติพาเราร่อนลงสู่สนามบินเชียงใหม่ได้ตามกำหนดการเดิม ล้อแตะพื้นด้วยความนิ่มนวล ขอปรบมือให้แปะนึงครับ 
ถึงสนามบินเชียงใหม่แล้ว ไม่ต้องรีรอ ผมรีบถามหาป้ายรถเมล์ในสนามบิน เพราะผมจะขึ้นรถเมล์สาย 6 ครับ ต้องอุดหนุนเค้าหน่อย อุตส่าห์มีบริการรถเมล์กับเค้าซักที ค่าโดยสารคนละ 10 บาท รถก็ใหม่ ที่นั่งว่างมาก คนเก็บตังค์ก็มารยาทดีเยี่ยม ผมนั่งไปลงที่สีแยกรินคำ แล้วก็เดินข้ามถนนไปอีกหน่อย เพราะผมจองที่พักที่ สวนดอยเฮ้าส์ เอาไว้
ช่วงหลัง ๆ นี่ในห้อง BP มีคนถามถึงที่พักที่นี่กันหลายคน ผมเลยต้องมาลองให้รู้ครับ จองล่วงหน้ามาเรียบร้อยสำหรับ 2 คืน เป็นห้องแอร์มีน้ำอุ่น ทีวี ตู้เย็นพร้อม เป็นเตียง double bed ราคาคืนละ 1,400บาท+service charge 10% (เบ็ดเสร็จคืนละ 1,540 บาท) ราคานี้ไม่รวมอาหารเช้า แต่ผมต่อรองให้เค้าแถมให้ก็เลยได้อาหารเช้ามาครับ
 Suan Doi House, the resort we stayed in Chiang Mai.
(ภาพบน) นี่เป็นด้านหน้าที่พักครับ จากถนนใหญ่ต้องเดินเข้าซอยมาซัก 200ม.ได้ ผมเดินหิ้วกระเป๋ามาท่ามกลางแสงแดดใกล้เที่ยง เล่นเอาเกือบแย่เหมือนกันครับ ดูแผนที่จากเว็บนึกว่าเข้าซอยนิดเดียว

ผ่านซุ้มประตูเข้ามาก็จะมีที่จอดรถ (จอดได้ 3 คัน) แล้วก็เจอซุ้มนี้อีก เดินลอดซุ้มประตูนี้เข้าไปก็จะพบกับบรรยากาศร่มรื่นของต้นไม้ ประดับประดาด้วยของตกแต่งมากมาย

ภาพข้างล่างนี่รู้สึกจะเป็นที่นั่งอ่านหนังสือ ซึ่งอยู่บนชั้นสองของอาคารหลังหนึ่งในรีสอร์ท ตกแต่งแบบทางเหนือครับ

(ภาพล่าง) ในบริเวณรีสอร์ทครับ

ที่สวนดอยเฮ้าส์นี่เค้าเป้นสมาชิกของ HIhostel ด้วย ดูเหมือนว่าถ้าใครเป็นสมาชิกอยู่อาจจะได้ส่วนลดนิดหน่อยนะครับ ไม่แน่ใจเหมือนกัน
อ้ะ มาดูในห้องนอนกันบ้างว่าถูกใจการตกแต่งแบบนี้กันรึเปล่า
 Our room


นี่แหละครับ ห้องนอนของผม สภาพโดยรวมก็ถือว่าใช้ได้ ข้าวของเครื่องใช้เน้นไปทางเฟอร์นิเจอร์ไม้ส่วนใหญ่ เสียดายที่โทรทัศน์ไม่ได้ใช้สายอากาศภายนอก ภาพเลยไม่ค่อยแจ่ม แต่เอาเถอะ มาเที่ยวนะ ไม่ได้มาดูทีวี ... ที่สวนดอยเฮ้าส์มีร้านอาหารอยู่ในรีสอร์ทด้วย เป็นร้านอาหารเวียตนาม ชื่อ เลอ กอง คำ ดูเหมือนจะเคยลงในนิตยสารหรือหนังสือพิมพ์อะไรซักอย่าง เห็นเขาตัดมาแปะโชว์ไว้ที่ร้านด้วย เพื่อความสะดวกผมก็เลยทานอาหารเวียตนามเป็นมื้อเที่ยงซะเลย ได้เวลาหม่ำแล้วนี่ ชอบอาหารเวียตนามก็ตรงที่มีผักสดมาให้กินแกล้มเยอะแยะไปหมดนี่แหละครับ ไม่มีรูปอาหารมาโชว์นะครับ ความหิวทำให้ลืมถ่ายรูปครับ กินอิ่มเรียบร้อยก็ออกไปเที่ยวกันดีกว่า
บ่ายนี้จะไปไหว้พระที่วัดพระสิงห์ แล้วก็วัดเจดีย์หลวงครับ นั่งรถแดงจากหน้ารีสอร์ทไปคนละ 15 บาท
 Wat Phra Sing
แค่แป๊บเดียวเราก็มายืนอยู่หน้าวัดพระสิงห์แล้ว (ก็มันไม่ได้ไกลซักเท่าไหร่นี่ครับ รถก็ไม่ติด) บ่ายนี้แดดร้อนหน้าดู ถ่ายภาพอะไรก็ย้อนแสงไปหมดเลย แย่จัง

ไหว้พระกันเพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว คราวนี้เราก็จะเดินไปวัดเจดีย์หลวงกันต่อเลย ดูแผนที่แล้วก็ไม่ไกลมาก สอบถามผู้รู้มาแล้วก็ว่าพอเดินไหว แต่สำหรับคนท้องไม่แน่ใจว่าจะไหวรึเปล่า แต่ผมก็ลองเดินดูครับ คิดว่าระยะทางคงไม่เกิน 1 กม.นะ พอจะเดินไหว แต่คนท้องก็เหนื่อยพอดูล่ะ
 Wat Chedi Luang
ที่วัดเจดีย์หลวงมีเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่ เสียดายที่ยอดเจดีย์หักโค่นลงมาเมื่อ 500 ปีก่อนเพราะแผ่นดินไหว

นอกจากนี้ก็มีวิหารของหลวงปู่มั่นอยู่ภายในวัดนี้ด้วย ภายในวิหารก็จะมีหุ่นขี้ผึงของหลวงปู่มั่นอยู่ด้วยครับ

ไหว้พระเสร็จไป 2 วัดแล้ว แฟนเริ่มอยากลองทานเค้กร้านดัง Love At First Bite ผมจัดให้ครับ นั่งตุ๊ก ๆ จากวัดไปเลย เขาคิด 50 บาท ไปก็ไป ขี้เกียจต่อรอง รถพาเราซอกแซกมาตามซอยเล็กซอยน้อย ในที่สุดก็มาถึงจนได้
 Love at first bite, the popular cake shop
สำหรับคนที่ขับรถมาเอง ร้านจะอยู่ในซอยเชียงใหม่-ลำพูนซอย 1 นะครับ ในร้านพอจะจอดรถได้ซัก 5-6 คันมั้ง บรรยากาศของร้านนี้จะเป็นบ้านคนนั่นแหละ แต่มีบริเวณสนามหญ้าซึ่งเค้าจะเอาโต๊ะเก้าอี้มาตั้งไว้ให้เราทานในสวนเลย หรือจะทานในร้านส่วนที่ติดแอร์ก็ได้ แต่ในห้องแอร์นั่งได้ไม่กี่โต๊ะเอง คนเดินเข้าไปสั่งเค้กอยู่เรื่อย ๆ จะอึดอัดได้ นั่งในสนามหญ้าดีกว่าครับ ราคาเค้กโดยเฉลี่ยก็ชิ้นละ 60 บาทบวกลบ รสชาติเข้มข้น ก็อร่อยดี แต่อร่อยสุด ๆ รึเปล่าอันนี้ไม่ทราบครับ เพราะปกติไม่ได้เป็นคนทานเค้กบ่อยซักเท่าไร ภาพเค้กก็ไม่ได้ถ่ายมาให้ดูอีกตามเคย นึกได้ตอนตักเข้าปากไปแล้ว อายจัง 
กินเค้กเสร็จ เวลาเพิ่งจะ 4 โมงเย็นเอง ทำไรดีหว่า ไปถนนคนเดินก็แล้วกัน วันนี้เป็นวันเสาร์ มีถนนคนเดินที่ถนนวัวลาย เรานั่งรถแดงจากร้านเค้กไปที่ถนนวัวลาย คิดคนละ 25 แน่ะ อันนี้ขูดรีดไปหน่อยนะ ไปถึงถนนคนเดิน 4 โมงกว่า ๆ เอง แดดยังร้อนอยู่ พ่อค้าแม่ค้าเพิ่งจะเริ่มทะยอยเอาของมาวางกัน
 Walking Street on Saturday evening
เราเดินดูร้านเครื่องเงินซึ่งมีอยู่ตลอดสองข้างทางบ้าง แล้วก็มาเดินดูของบนถนนคนเดินบ้าง เดินตั้งแต่หัวถนนจนสุดถนน เล่นเอาเมื่อยเลยทีเดียว เดินจนสุดทางฟ้าก็ยังไม่มืด แต่จะเดินกลับไปตรงต้นถนนก็ไม่ไหวแล้ว ก็เลยเรียกรถกลับไปแถวที่พักไปหาข้าวเย็นกินดีกว่า ผมไปทานที่ร้าน"ห้องแถว" ซึ่งอยู่ในตึกแถวตรงข้ามโรงแรมอมารีรินคำ รสชาติใช้ได้ บรรยากาศในร้านติดแอร์ ตกแต่งด้วยนาฬิกาโบราณเยอะแยะเลย ออกแนวสมัยเก่าซักนิดนิง แต่ราคาโดยรวมก็ไม่แพงมากครับ ทานเสร็จก็กลับที่พัก และก็จบลงเรียบร้อยสำหรับวันแรกที่เชียงใหม่ครับ 
ก่อนจบวันแรก ขอบ่นนิดนึงครับ ร้านห้องแถวที่ผมทานข้าวเย็นอยู่ห่างจากสวนดอยเฮ้าส์เบ็ดเสร็จไม่น่าเกิน 500 ม. แฟนผมไม่อยากเดินเข้าซอย ก็เลยจะให้เรียกรถแดงให้เข้าไปส่งในซอยให้ถึงหน้าที่พักเลย เรียกมาคันนึงบอกว่าถ้าไปแค่ปากซอยคิดคนละ 10 บาท ถ้าเข้าไปส่งในซอยด้วยเพิ่มอีกคนละ 10 บาท มันบอกว่าซอยแคบ กลับรถยาก ต่อรองอยู่นานก็ไม่ยอมครับ จะเรียกคันต่อไปก็รู้สึกจะไม่ค่อยมีรถผ่านมา ผมก็กลัวแฟนจะยืนรอจนเหนื่อยซะก่อน ก็เลยยอมมันไป ด้วยความเจ็บใจ พอไปส่งถึงหน้าที่พัก ก็ไม่เห็นจะมีรถจอดขวางอะไรเลย กลับรถง่ายสุด ๆ พูดแล้วแค้นจริง ๆ ... จบวันแรกดีกว่าครับ
Create Date : 30 พฤศจิกายน 2548 |
Last Update : 9 ธันวาคม 2548 17:08:59 น. |
|
19 comments
|
Counter : 5341 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: อินทรีทองคำ วันที่: 30 พฤศจิกายน 2548 เวลา:12:35:22 น. |
|
|
|
โดย: kitty in tent IP: 58.9.39.213 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2548 เวลา:13:24:36 น. |
|
|
|
โดย: P Noom IP: 69.172.236.136 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2548 เวลา:14:23:50 น. |
|
|
|
โดย: rennkrabbe IP: 203.152.20.98 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2548 เวลา:15:59:06 น. |
|
|
|
โดย: โอ๊ตเองครับ (SF-The KOP ) วันที่: 30 พฤศจิกายน 2548 เวลา:16:54:13 น. |
|
|
|
โดย: PRIZE HUNTER วันที่: 30 พฤศจิกายน 2548 เวลา:17:09:54 น. |
|
|
|
โดย: Ayumi IP: 203.170.228.172 วันที่: 8 ธันวาคม 2548 เวลา:6:59:54 น. |
|
|
|
โดย: Thomas IP: 58.11.33.13 วันที่: 9 ธันวาคม 2548 เวลา:10:34:25 น. |
|
|
|
โดย: Staring G IP: 202.5.80.169 วันที่: 9 ธันวาคม 2548 เวลา:21:19:42 น. |
|
|
|
โดย: jill IP: 58.136.194.135 วันที่: 12 ธันวาคม 2548 เวลา:22:13:25 น. |
|
|
|
โดย: พัสสา IP: 203.121.158.237 วันที่: 20 ธันวาคม 2548 เวลา:14:09:09 น. |
|
|
|
โดย: PRIZE HUNTER (PRIZE HUNTER ) วันที่: 20 ธันวาคม 2548 เวลา:16:35:55 น. |
|
|
|
โดย: DA IP: 211.148.7.13 วันที่: 9 มกราคม 2549 เวลา:15:51:38 น. |
|
|
|
โดย: lisalee IP: 211.148.7.13 วันที่: 9 มกราคม 2549 เวลา:15:55:21 น. |
|
|
|
โดย: secretpat3.exteen.com IP: 125.25.234.86 วันที่: 28 สิงหาคม 2550 เวลา:19:02:10 น. |
|
|
|
โดย: sa IP: 119.46.166.101 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2554 เวลา:1:58:49 น. |
|
|
|
| |
|
|