Bloggang.com : negima_xx : He's Just Not That Into You – “สมการรักไม่ลงตัว เพราะเขาไม่ใช่เธอและเธอไม่ใช่เขา !?”

He's Just Not That Into You – “สมการรักไม่ลงตัว เพราะเขาไม่ใช่เธอและเธอไม่ใช่เขา !?”

He's Just Not That Into You / หนุ่มกิ๊กสาวกั๊ก สมการรักไม่ลงตัว

“ผู้หญิงมักจะจำผู้ชายคนแรกที่เข้ามาในชีวิตได้เสมอ….. แม้บางครั้งมันอาจไม่น่าจดจำนัก”

เด็กผู้หญิงตัวน้อยวัย 5 ขวบ ที่กำลังเล่นอยู่ในสนามเด็กเล่นอย่างสนุกตามประสา จนกระทั้งมีเด็กผู้ชายอีกคนวัย 6 ขวบ เดินเข้ามาพลักเธอล้มลงไปกองกับพื้นอย่างไม่มีเหตุผล

“เธอเหม็นเหมือนอึ !”

เด็กชายตะโกนใส่หน้าเธอก่อนจะเดินจากไป ปล่อยให้เด็กผู้หญิงร้องไห้โฮเสียงดัง จนต้องวิ่งไปฟ้องแม่ที่นั่งอยู่แถวนั้น

“ลูกรู้ไหมทำไมเขาถึงแกล้งลูก” คนเป็นแม่ถามอย่างอ่อนโยนพลางปลอมลูกไปพลาง

“หนูม่ายเข้าใจค่ะ”

“แม่จะบอกให้นะ ก็เพราะเขาชอบลูกไง เขาถึงได้แกล้ง”

“!?”

ทุกอย่างมันเริ่มที่ตรงนี้แหละ ตรงที่เหล่าผู้หญิงถูกหลอกให้มีความเชื่อที่ว่า ถ้ามีผู้ชายมาทำไม่ดีกับเราก็แปลว่าเขาชอบเรา เราถูกปลูกฝังแบบนั้นมาตั้งแต่เด็กๆ มันจึงทำให้ผู้หญิงส่วนมากต้องผจญกับปัญหาเวลาจะหาผู้ชายที่ดีสักคนเมื่อโตขึ้น …

.........................................................

ประโยคข้างต้นคือฉากเปิดเรื่องใน He's Just Not That Into You หนังโรแมนติก – คอมเมดี้ ที่ดัดแปลงจากนิยายขายดีของสองผู้เขียนบทซีรี่ส์เรื่องฮิต Sex and the City ของ “Greg Behrendt” และ “Liz Tuccillo” โดยหนังได้ตัวผู้กำกับ “Ken Kwapis” ที่ดูเหมือนจะถูกโฉลกกับการสร้างหนังแนวนี้ จากงานก่อนหน้านี้ของเขาอย่างหนัง สี่สาวกับหนึ่งกางเกงมหัศจรรย์ใน The Sisterhood of the Traveling Pants (2005) หรือ License to Wed (2007) ครับ และในเรื่องใหม่นี้ Kwapis เองก็ดูเหมือนจะสร้างมันออกมาได้ “ลงตัว” ทั้งการดำเนินเรื่องที่ดูมีสีสัน ฉาก ดนตรีประกอบ รวมไปถึงการคัดเลือกนักแสดงในบทต่างๆซึ่งล้วนได้ดาราแถวหน้าของวงการมาทั้งสิ้น แต่ Kwapis ก็สามารถรับมือไหวและกระจายความสำคัญของตัวละครต่างๆได้ในปริมาณที่พอดีครับ หนังเรื่องนี้ล้วนเต็มไปด้วย “ความหฤหรรษ” ของความรัก ที่จะทำให้หลายคนหลงรักและรู้สึกอิ่มเอมหลังดูจบได้ไม่ยาก

He's Just Not That Into You เล่าเรื่องของความรักในหลายรูปแบบผ่านมุมมองของผู้ชายและผู้หญิงที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของคู่สามีภรรยาหนุ่มหล่อสาวสวยที่ดูเหมือนจะเพียบพร้อม แต่แล้ววันหนึ่งฝ่ายสามีก็เกิดคิดนอกใจ โดยชู้ของเขาก็มีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้วสะด้วยสิ !, สาวน้อยร่าเริงสดใสนางหนึ่งที่ได้แต่ฝันถึงผู้ชายดีๆสักคน แต่ในความเป็นจริงเธอกับเจอแต่คนเลวๆผ่านเข้ามาในชีวิต จนกระทั้งเธอได้พบกับหนุ่มสุดเจ้าชู้เข้ามาในชีวิต,สองหนุ่มสาวที่คบกันมา 7 ปีแล้วแต่ฝ่ายชายไม่เคยคิดเรื่องแต่งงานเลยตรงกันข้ามกับฝ่ายหญิง และสุดท้ายกับสาวขี้อายผู้ไม่กล้าเจอผู้ชายซึ่งๆหน้า แต่อาศัยช่องทางการสื่อสารอื่นๆในการหารักแท้แทน ทุกตัวละครล้วนเกี่ยวพันกันอย่างขาดไม่ถึง จนสุดท้ายแล้ว นอกจากจะได้เรียนรู้ถึงความหมายของคำว่ารักแล้ว พวกเขายังต้องเจอการเลือกที่สำคัญอีกอย่างคือ เลือกจะเป็นคนที่ถูกเมิน หรือจะเป็นฝ่ายเมินคนอื่นดีละงานนี้ !!?

การดำเนินเรื่องในหนังเรื่องนี้จะเป็นไปแบบแบ่งออกเป็นคู่ๆ พร้อมเผยความเกี่ยวพันกันของเหล่าตัวละครทีละนิดๆ และที่ถือเป็นจุดเด่นอีกอย่างของหนังก็คือการแบ่งเนื้อหาออกเป็นช่วงๆ พร้อมมีตัวหนังสือขึ้นประโยคเชิงคำถามให้เราได้เอะใจก่อนที่หนังจะดำเนินเรื่องต่อไป และการแทรกฉากเหล่าบุคคลธรรมดาทั่วไปที่ไม่ใช่ตัวละครเอกในเรื่องมาแสดงทัศนะคติต่อเพศตรงข้ามอย่างสนุกปากทีเดียว นอกจากนี้ในส่วนของ “บท” ยังเต็มไปด้วยการเสียดสีเพศตรงข้าม ผสมเข้ากับหลายหลายทัศนะคติ ความขัดแย้งที่มักจะเกิดขึ้นระหว่างเพศชายกับหญิง ไล่กันไปตั้งแต่เรื่องเล็กเช่นการเลือกลายกระเบื้องในบ้าน ไปจนถึงการแต่งงาน ที่มีปัญหากันแทบจะทุกเรื่อง ก่อนที่หนังจะหาทางออกในบทสรุปสุดท้ายที่น่าพอใจครับ

ส่วนตัวแล้วหนังโรแมนติกสไตล์มีตัวละครหลายๆคู่นั้น ผมมักจะพบว่าหลังดูจบจะมีเพียงคู่หรือมากสุดสองคู่เท่านั้นที่ชอบที่สุด (อาทิ Love Actually , Paris , Je t'aime และ ปิดเทอมใหญ่ฯ) แต่กับ He's Just Not That Into You นั้น ผมกลับชื่นชอบในทุกๆคู่รักในเรื่อง เพราะนอกจากตัวละครแต่ละตัวจะมีบุคลิกเด่นชัดแล้ว ยังล้วนดูมี “เสน่ห์” เป็นอย่างยิ่ง บวกกับพลังการแสดงของดาราแต่ละคนที่ก็ช่างดึงดูดสะจริงๆ นับเป็นหนังรักหลากคู่เรื่องแรกครับที่ทำให้รู้สึกแบบนี้

(ข้อความด้านล่างมีสปอย์เนื้อหาสำคัญบางอย่างของหนังครับ)

ฉากที่ชอบในเรื่องมีด้วยกันหลายฉากเลย เริ่มจาก ฉากที่คู่รัก Neil Jones (Ben Affleck) กับ Beth (Jennifer Aniston) ทั้งคู่คบกันมานานถึง 7 ปีแล้ว ซึ่งก็มีความสุขมาโดยตลอด จนประทั้งวันหนึ่ง ฝ่ายหญิงเกิดสะกิดใจขึ้นมาว่าการแต่งงานเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตนี้ หลังกลับมาถึงบ้านเธอบอก Neil ว่า “เลิกทำดีกับฉันสักทีได้ไหม” ชายหนุ่มได้แต่ถามว่าทำไม จนฝ่ายหญิงเอ่ยคำต่อไปออกมาว่า “เคยคิดที่จะแต่งงานกับฉันมั้งหรือเปล่า ?” คำพูดคำนี้อาจจะฟังดูเป็นคำถามง่ายๆที่คำตอบมีแค่ “ใช่” หรือ “ไม่” เท่านั้น แต่สำหรับ Neil แล้ว ถึงเขาจะรัก Beth มากก็ตาม แต่เขาก็ไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้ เขาจึงได้แต่เงียบและจ้องมองผู้หญิงตรงหน้าที่เริ่มร้องไห้ แม้จะไม่มีเสียงตอบออกมา แต่การที่ Neilเงียบไม่ตอบอะไรออกมา กลับยิ่งทำร้ายจิตใจของ Beth ยิ่งกว่า อาจจะดูเป็นฉากธรรมดาๆ แต่รู้สึกว่าอารมณ์ตรงนี้มันสื่อออกมาเป็นธรรมชาติมากครับ

ฉากต่อมาคือ ตัวละคร Janine (Jennifer Connelly) จับได้ว่าสามีของเธอ Ben Gunders (Bradley Cooper) แอบไปมีกิ๊กไว้นอกบ้าน ช่วงแรกเธอเริ่มเกิดอาการไม่ไว้วางใจและวิตกจริตมากขึ้น จนกระทั้งเมื่อความจริงปรากฏออกมา จนเธอระงับอารมณ์ไว้ไม่อยู่และระเบิดมันออกมา ด้วยการหยิบกระจกแขวนที่ผนังมาขวางลงพื้นจนมันแตกกระจายไปทั่ว ซึ่งถ้าเราติดตามตัวละครตัวนี้มาตั้งแต่ต้น เราจะเห็นว่า Janine เป็นผู้หญิงที่คิดว่าตัวเองมีชีวิตครอบครัวที่มีความสุข เพราะมีงานที่ดี เพื่อนร่วมงานที่ดี และสามีรูปหล่อที่แสนน่ารัก พร้อมจะเห็นว่าเธอมีนิสัยรักความเป็นระเบียบเป็นที่สุด ชนิดเห็นอะไรที่ไม่เป็นระเบียบนิดๆหน่อยๆตรงหน้าเป็นไม่ได้ เสื้อผ้าของใช้ในบ้านก็ต้องเรียงไว้เป็นแนวเดียวกันอย่างดี เธอเป็นพวกใส่ใจในทุกรายละเอียดซึ่งจะเห็นได้ในฉากการเลือกซื้อกระเบื้องที่จะนำมาแต่งบ้าน เธอมักจะไม่มองผ่านรายละเอียดหยุมหยิมเล็กๆพวกนี้เสมอ แต่เมื่อเธอคิดว่าสามีของเธอเริ่มจะไปมีคนอื่นแล้ว เธอกลับเลือกที่จะหลอกตัวเองและเชื่อทุกอย่างที่สามีของเธอพูด (ทั่งในเรื่องการแอบสูบบุหรี่ และ ข้ออ้างในการกลับบ้านดึก) เพื่อเธอจะได้คิดว่าชีวิตของเธอยังคงอยู่เรียบร้อยเป็นระเบียบไม่ได้ออกนอกลู่นอกทาง จนกระทั้งเธอรู้ความจริงทุกอย่างและระเบิดอารมณ์ออกมาในฉากนี้ เธอหยิบกระจกแขวนที่เธอใช้เวลาเลือกมาแสนนานลงพื้นด้วยอารมณ์แค้นอย่างสุดๆโดยไม่คิดอะไรเลยสักนิด ก่อนที่เธอจะได้สติและเดินไปหยิบไม้กวาดกับที่โกยขยะมาเก็บเศษกระจกบนพื้นจนเกลี้ยง !? ตรงนี้จะเห็นว่าแม้ “อารมณ์” ของเธอจะถึงขั้นที่เกินจะทนแล้ว แต่ก็ใช่ว่า “นิสัย” ของเธอจะเปลี่ยนไปด้วย เธอยังคงเป็นคนที่รักในความเป็นระเบียบอยู่ แต่เธอจะปล่อยให้มันมาทำลายชีวิตเธอด้วยการหลอกตัวเองต่อไปไม่ได้ และยิ่งในฉากต่อมาที่เธอโยนเสื้อผ้าของ Ben จากชั้นบนลงไปชั้นล่าง แต่ภาพเสื้อผ้าที่ถูกโยนลงมาด้วยความโกรธกลับถูกพับและเรียงอย่างเป็นระเบียบก็ยิ่งจะทำให้ภาพรวมของคู่นี้ชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะข้อความที่วางอยู่บนกองเสื้อผ้าเหล่านั้น ที่บ่งบอกว่า ตอนนี้ Janine ยอมรับ “ความจริง” ตรงหน้าในชีวิตของเธอได้แล้วและวาง “นิสัย” ที่แสดงความเป็นตัวของเธอเองไว้เบื้องหลัง เพราะบางครั้งในชีวิตเราอาจจะต้องเลือกกระทำบางอย่างผิดไปจากตัวตนที่แท้จริงของเราบ้าง เพื่อที่จะให้เกิดแรงที่จะช่วยพลักดันชีวิตเราให้ก้าวพ้นปัญหาและก้าวต่อไปข้างหน้าได้ และดูเหมือน Janine เองก็คิดเช่นนั้นในฉากนี้

และกับคู่ของAlex (Justin Long) กับ Gigi (Ginnifer Goodwin) ที่ผมค่อนข้างจะชอบและสนุกไปกับตัวละครทั้งคู่ที่สุด ผู้ชายอย่าง Alex จัดเป็นหนุ่มหล่อแสนเจ้าชู้ที่คบสาวไม่เลือกหน้า ผิดกับสาวอย่าง Gigi ที่ดูเหมือนจะมองโลกนี้ว่าทุกอย่างคงสวยงามไม่ต่างจากนิยายชวนฝัน และผู้ชายที่เข้ามาในชีวิตเธอทุกคนก็คงเป็นเจ้าชายที่แสนดีทั้งที่ความเป็นจริงแล้วผู้ชายทุกคนที่เธอเจอล้วนตรงกันข้าม จนทั้งคู่ได้พบกันโดยบังเอิญและ Alex ก็ได้กลายมาเป็นผู้คอยให้คำแนะนำในเรื่องการ “มองผู้ชายให้ออก” แก่สาวน้อยนางนี้อย่างจำเป็น จนมาถึงฉากในช่วงท้ายเรื่องที่ Alex มาหา Gigi ที่บ้านของเธอเพื่อที่จะปรับความเข้าใจ ทุกๆประโยคที่เขาพูดล้วนทำให้ Gigi มองเห็นตัวเองชัดขึ้นและทำให้ผู้ชมได้เห็นตัวละคร Alex ที่ได้เปลี่ยนไปแล้วในตอนนี้

ส่วนในส่วนของรายอื่นๆที่เหลือก็ล้วนนำเสนอออกมาได้ดีครับไม่ว่าจะเป็นคู่ของ Anna (Scarlett Johansson) กับแฟนหนุ่มของเธอ และรายของสาวโสด Mary (Drew Barrymore) ที่ก็ทำออกมาได้น่ารักดีทีเดียวครับ

ด้านนักแสดงในเรื่องก็ล้วนงัดเสน่ห์ของตัวเองมาประชัดกันอย่างไม่ยอมใคร ไม่ว่าจะเป็น “Jennifer Connelly” ที่ดูสวยมาก(ยิ่งขึ้น)ในบทนี้, “Scarlett Johansson” รายนี้ก็ยังเซ็กซี่เช่นเคย, “Jennifer Aniston” สาวมั่นที่ดูดีไม่แพ้กัน และสาว “Ginnifer Goodwin” ที่เล่นได้ใสกิ๊กจริงๆในเรื่องนี้ ส่วนของดาราหนุ่มก็ไม่น้อยหน้าทั้ง “Justin Long” , “Bradley Cooper” และรายของ “Ben Affleck” ที่ห่างหายจากหน้าจอไปนาน (หลังๆมานี่พี่แกไปวุ่นกับงานเบื้องหลังเสียมากกว่า แต่ยังดูหล่อและเท่ เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน)

สุดท้ายแล้ว He's Just Not That Into You เป็นหนังโรแมนติก - คอมเมดี้ ที่ดูสนุกแล้วให้แง่คิดอะไรหลายอย่างเลยทีเดียว ถ้าคุณเป็นผู้ชายคุณอาจจะเห็นตัวคุณในหนังเรื่องนี้ ถ้าคุณเป็นผู้หญิงคุณก็อาจจะได้เห็นตัวคุณจากหนังเรื่องนี้เช่นกัน และที่แน่ๆนอกจากการนั่งอมยิ้มสนุกไปจากการดูหนังเรื่องนี้แล้ว อีกอย่างก็คือหนังเรื่องนี้มันจะเข้าไปอยู่ในอันดับหนังโรแมนติกในใจของใครหลายคนได้อย่างไม่ต้องสงสัย

Create Date : 20 มิถุนายน 2552

Last Update : 22 มิถุนายน 2552 12:19:46 น.

10 comments

Counter : 5313 Pageviews.

ขอแสดงความเห็นมั่งนะครับ

หนังที่ได้ดูช่วงนี้
He’s Just Not That into You[C+]

-พอรู้ว่าหนังเรื่องนี้สร้างมาจากหนังสือแนว How to พอมาสร้างเป็นหนังจึงค่อยสร้างตัวละคร สร้างเรื่องราวขึ้นมา ทำให้รู้สึกว่า น่าจะมีคนเอา หักหลังผู้ชาย ไปดัดแปลงเป็นหนังไทยบ้าง น่าจะสนุกดี

-ชอบเนื้อหาของหนังตรงที่เห็นหลายด้านของความรัก ทั้งสุข ทั้งทุกข์ และไม่ได้จบแบบสมหวังทุกคู่

-หนังสื่อถึงประเด็นชีวิตคู่ การตกหลุมรัก ความแตกต่างระหว่างชายหญิง มิตรภาพ และอีกหลายประเด็น แต่สงสัยจะเจาะประเด็นมากไปหน่อย เลยทำให้ตัวหนังไม่ลึกเท่าไร

-หนังมีตัวละครหลักอยู่ 9 คนและมีสัมพันธ์โยงไปโยงมาค่อนข้างซับซ้อน แต่ตัวหนังก็เชื่อมต่อตัวละครได้ดี ไม่รู้สึกขัดเท่าไร ความรู้สึกเหมือนดู ปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่น ภาคผู้ใหญ่มีวุฒิภาวะ

-ภาพสวย นักแสดงหน้าตาดี ดนตรีและเพลงประกอบไพเราะ มีการหยอดมุขมาเรื่อยๆ ทำให้รู้สึกเหมือนดูหนัง GTH

-นักแสดงดูดีมีเสน่ห์ทุกคน มีเสน่ห์แค่ไหน คิดดูว่านักแสดงทุกคนสามารถกลบรัศมี Jennifer Connelly ได้หมดเลย (ซึ่งคนหลัง ด้วยตัวบทต้องดูเศร้าๆ หน้าโทรมๆ อยู่แล้ว)

-นักแสดงทุกคน ทำหน้าที่ได้ดี จะมีแต่ Ben Affleck ที่เล่นเป็น Ben Affleck อยู่วันยังค่ำ (แข็งโป๊ก)

-แต่คนที่เด่นที่สุดจนแทบจะขโมยหนังไปทั้งเรื่อง (อาจเป็นเพราะเนื้อหาของตอนนี้เข้ากับคอนเซปต์เรื่องมากที่สุด) คือ Ginnifer Goodwin แม้ตัวละครตัวนี้จะทำอะไรไร้สติไปบ้าง แต่ด้วยความน่ารักของตัวละครทำให้ตัวละครตัวนี้เป็นตัวละครที่น่ารักและน่าเอาใจช่วยที่สุด

-ส่วน Drew Barrymore บทดูลอยไปลอยมาและไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับคนอื่นยังไงชอบกล อันที่จริงสามารถตัดบทนี้ทิ้งไปเลยก็ได้

-ผมไม่อินกับเนื้อเรื่องส่วนของ Jennifer Anniston เท่าไรทั้งๆ ที่มีองค์ประกอบดีๆ มากมาย อย่างเรื่องครอบครัว พ่อลูก ความรับผิดชอบ อาจเป็นเพราะผมมองว่าไหนๆ ตัวละครของเธอก็ทนไม่แต่งงานมาได้ตั้งหลายปี อยู่ดีๆ ก็เกิดอาการจะเป็นจะตายให้ได้ (ถ้า คำ ผกาดูหนังเรื่องนี้คงอดด่าไม่ได้ว่า ทำไมต้องให้ตัวละครตกอยู่ในอำนาจผู้ชายขนาดนั้น)

-ส่วน Scarlett Johansson พูดได้คำเดียวว่า อื้อหือ...

-รู้สึกว่า นักแสดงแต่ละคนหน้าช้ำ เห็นหน้าได้บ่อยมาก ทั้ง Justin Long ที่ผมเพิ่งเห็นหน้าเขาจาก Drag Me to Hell/ Scarlett ที่ผมเพิ่งดูเธอจาก The Nanny Diaries, The Spirit, Vicky Cristina Barcelona / Connelly จาก The Day the Earth Stood Still/ Aniston จาก Marley and Me

โดย: ฟ้าดิน

วันที่: 20 มิถุนายน 2552 เวลา:2:58:30 น.

อ่าว เข้าแล้วเหรอคะ อยากดูอ่ะ

โดย: Too Optimistic

วันที่: 20 มิถุนายน 2552 เวลา:17:18:11 น.

เขียนบรรยายดีจังค่ะ

โดยเฉพาะฉากของ Janine อ่านแล้วทำให้เข้าใจตัวละครตัวนี้ได้มากขึ้น

โดย: ละอองลม (wind_drizzle

) วันที่: 22 มิถุนายน 2552 เวลา:8:34:32 น.

ชอบเรื่องนี้เหมือนกัน เขียนบทได้เกร๋ และดาราดังทุกคนตีบทได้ถึง มาตรฐานหนังไทยไม่มีทางเทียบ

ที่น่าทึ่งคือ ดรู แบรีมอร์ เป็นผู้อำนวยการสร้าง...

โดย: หมีบางกอก (Bkkbear

) วันที่: 24 มิถุนายน 2552 เวลา:13:45:16 น.

นึกอยากจะเขียนความรู้สึกที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ลงบล็อกบ้าง..แต่หลังจากได้อ่านจากบล็อกนี้แล้ว..รู้สึกเขียนไม่ออกแย้ว..

เพราะจขบ.เขียนไว้ครอบคลุมชัดเจนดีจังค่ะ

แต่ส่วนตัวก้อชอบเรื่องนี้นะคะ..ดูแล้วได้เก็บไปคืดหลายอย่างดีค่ะ

โดย: AB_PAE

วันที่: 26 มิถุนายน 2552 เวลา:10:25:20 น.

ในส่วนตัวแล้วชอบคู่ของ จีจี้ กับ อเล็กซ์ มาก
รู้สึกลุ้นทุกครั้งเลย ประทับใจมาก

โดย: ษา IP: 125.24.125.102 วันที่: 12 กรกฎาคม 2552 เวลา:11:32:58 น.

เขียนดี เขียนดี อิอิ

โดย: nuch IP: 58.8.6.160 วันที่: 13 กรกฎาคม 2552 เวลา:18:29:45 น.

ชอบคู่ของAlex กับGigiมากเลย รู้สึกว่าเป็นตัวละครที่น่ารัก โดยเฉพาะAlex หล่อมากแล้วก็ตลกดี

โดย: Maruko IP: 115.67.84.62 วันที่: 5 สิงหาคม 2552 เวลา:17:07:18 น.

ชอบ Anna กับ Ben ค่ะ อยากให้คู่กัน เสียใจที่สุดท้ายก็ไม่สมหวัง

โดย: แวะมาอ่าน IP: 110.49.193.204 วันที่: 29 สิงหาคม 2553 เวลา:23:46:19 น.

ชอบมากค่ะ เรื่องนี้

โดย: นุ่น IP: 61.90.6.126 วันที่: 10 ธันวาคม 2554 เวลา:20:44:08 น.