ไปนั่งรถไฟลอยน้ำ ชมทุ่งทานตะวันกัน
ต้องขอบอกก่อนเลยว่าทริปนี้เกิดขึ้นเพราะลูกภัชเลย จะไปไหนก็จะขอขึ้นแต่รถไฟ ก็เลยต้องพาไปเที่ยวกันสักหน่อย แม่เลยเลือกทริปนี้ "นั่งรถไฟลอยน้ำ ชมทุ่งทานตะวันและเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์" เพราะน่าจะสะดวกกับครอบครัวเราที่สุด เราสามารถรอขึ้นรถไฟที่สถานีอยุธยาได้เลย ขนาดรอฟังว่าการรถไฟจะเปิดจองเมื่อไหร่ ยังเกือบไม่ทัน คนสนใจไปเทียวกันมาก ชวนครอบครัวลุงหนึ่งไปด้วยกัน เด็กๆ จะได้สนุกสนาน ราคาตั๋วที่นั่งละ 270 บาท จ่ายไปรวม 2000 กว่าบาท (อืม..ค่าน้ำมันถูกกว่านะเนี่ย) แต่จุดประสงค์ของเราคือ ต้องการนั่งรถไฟเท่านั้น..ยืนยัน..ว่าแล้วก้อจัดไป
พอถึงเช้าวันที่จะไป พอปลุกลูกภัชตื่นได้แล้ว เด๋วไม่ทันรถไฟนะ ปรากฏว่าลูกภัชลุกขึ้นอย่างกับสปริงเด้งดึ๋ง แหม..ตอนปลุกให้ไปโรงเรียน ไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย ไปรอที่สถานีรถไฟอยุธยา ตั้งแต่ก่อน 8 โมงเช้า เวลาตามตั๋วบอกว่า 8.07 น. ถ้ามาตรงเวลาก็ไม่ใช่รถไฟไทยนะสิ นั่งเติมพลังกันไปก่อน
ทำไมยังไม่มาสักทีน๊า อยากไปแล้ว
มาแล้วจ้า เกือบ 8 โมงครึ่ง เราอยู่ตู้ที่ 7 วิ่งกันแทบแย่ เพราะขบวนยาวมาก มีตั้ง 15 ตู้
พอขึ้นรถไฟได้ ลูกภัชก้อมีความสุขมาก นั่งเกาะขอบหน้าต่าง ดูนั่นดูนี่ตลอดทาง ขนาดแดดร้อน ก้อไม่ยอมถอย คนมันชอบนี่นา ส่วนรถไฟไทยยังคงคอนเซปเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ตั้งแต่เรื่องความสะอาด ก็คงได้เท่านี้แหละ กลิ่นรถไฟยังคงเป็นเอกลักษณ์มาก ติดตัวมาก เดินผ่านนี่รู้เลยว่าไปไหนมา เบาะที่นั่งก็ใกล้จะพังแล้วอ่ะ มันเอนแบบว่านั่งแล้วจะไหลลงมา นั่งเกรงจนเมื่อยก้นอ่ะ ยังดีที่วันที่ไป อากาศเย็นสบายดีมาก ไม่ร้อนเลย ทำให้เรื่องอื่นๆ ก็พอรับได้
ถึงจุดหมายแรกแล้ว "ทุ่งทานตะวัน" มีการจัดงานแถวหินซ้อน มีผู้ว่าราชการจังหวัดมาเปิดงาน มีการแสดงด้วย ได้แต่ดูไกลๆ ไม่ได้เดินเข้าไปเพราะแดดร้อนมาก แต่แอบสงสัยนิดนึงว่า เปิดงานให้เที่ยวชมเป็นทางการขนาดนี้ แต่ทำไมต้องเก็บค่าเข้าชม คนละ 10 บาทมันก้อไม่แพงมากหรอกนะ แต่มันน่าจะรวมอยู่ในทริปการท่องเที่ยว ราคาตั๋วก็ไม่ใช่ถูกๆ นะ แล้วคิดดูนั่งกันมากี่คน ตั้ง 15 โบกี้
แต่เอ๊ะ..ลูกภัชหายไปไหนเนี่ย ไม่ยอมมาถ่ายรูปเลย ก้อเกิดกลัวดอกทานตะวันขึ้นมา ไม่กล้าเดินเข้าไปหล่ะสิ พอให้ถ่ายรูปก็เลยหน้าเป็นแบบนี้
ถึงเวลาเดินทางต่อ จุดหมายต่อไปคือ "รถไฟลอยน้ำ" ต้องบอกว่าประทับใจมากเหมือนรถไฟลอยอยู่บนน้ำจริงๆ แล้วมันก็กว้างมากจนสุดตา ไม่คิดว่าเขื่อนจะใหญ่ขนาดนี้ ลมก็พัดเย็นชื่นใจ เพราะพัดผ่านน้ำมา
ต้องเก็บภาพมุมนี้หน่อย แต่อาจจะไม่สวยเท่าไหร่เพราะเราอยู่กลางขบวนพอดี ถ้าอยู่หัวหรือท้าย ภาพจะสวยมาก
จากนั้นรถไฟก็แล่นต่อไปจอดที่สถานีโคกสลุง ปลายทางของวันนี้เพื่อเปลี่ยนหัวรถจักรลากกลับ แวะที่สถานีเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อให้ลงไปทานอาหารกัน ออกเดินทางกลับตอน 14.30 น. ถึงอยุธยาก็ 4 โมงกว่า กำลังดีไม่เหนื่อยมาก
ลูกภัชพยายามจะนั่งดูวิว ไม่ยอมนอนจนสลบไปเองเลย พอลงจากรถไฟ มาบอกแม่ว่า "สนุกจังเลย แล้วคุณแม่พามาขึ้นรถไฟอีกนะ" ...ได้เลยจ้ะ
ไกด์แม่นุช
Create Date : 16 ธันวาคม 2557 |
Last Update : 16 ธันวาคม 2557 13:02:10 น. |
|
1 comments
|
Counter : 2391 Pageviews. |
|
|