Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
5 ธันวาคม 2553
 
All Blogs
 

สองเทพผู้ยิ่งใหญ่ Roger Federer-Rafael Nadal

สองเทพผู้ยิ่งใหญ่ Roger Federer-Rafael Nadal

คุณหมูทองให้เกิยร์ติเขียนบล็อกส่งท้ายปี มารออ่านกันนะคะ

Australian Open


Wimbledon


French Open


US Open ที่ทั้งสองคนยังไม่เคยเจอกัน





 

Create Date : 05 ธันวาคม 2553
36 comments
Last Update : 5 ธันวาคม 2553 12:45:27 น.
Counter : 2445 Pageviews.

 

ปีนี้มา Happy New Year ช้าไปหน่อย แต่ยังไงก็จะมาอยู่ดี

ขอให้พี่ปลาดาวมีความสุขมากตามอายุ คิดอยากได้ที่ก็ขอให้ได้ที่ คิดอยากได้ทองก็ขอให้ได้ทองนะค๊าาาาา

 

โดย: ป้ามีมี่ 9 มกราคม 2554 9:18:09 น.  

 

คุณปลาดาว ใจดีมาก เปิดบล๊อกให้ แต่เป็รความผิดของหมูทองล้วนๆที่ยังเขียนเรื่องนี้ไม่เสร็จ คืออยากให้มันดีสมกับความดีของสองเทพ ก็เลยปราณีตศิลป์ ช้ามากกกกกก

กลับจากเดินทางจะมาปั่นให้...สัญญา

 

โดย: หมูทอง IP: 125.25.42.7 15 มกราคม 2554 16:08:05 น.  

 

หลังจากการเดินทางบ่อยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มั๊กๆๆๆๆๆๆ ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และคงจะเป็นอย่างนี้ไปทั้งกะปีแน่ๆ ปีชีพจรลงเท้า....ทำให้ไม่มีสมาธิดีพอจะเขียนเรื่องดีๆ แบบที่ตั้งใจไว้ ก็ขอปรับตัว โดยเขียนเป็นบทๆ ไปเพราะมีเวลาทีละเล็กละน้อย...ขออภัยพี่น้องแฟนๆ ด้วย

 

โดย: หมูทอง IP: 125.25.211.238 6 กุมภาพันธ์ 2554 20:06:37 น.  

 

สองเทพผู้ยิ่งใหญ่ Roger Federer-Rafael Nadal
13 Dec 2010

เราจะเริ่มต้นอย่างไรดีกับการเขียนเล่าเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ของสองเทพผู้ยิ่งใหญ่ในวงการเทนนิสชายในปัจจุบัน และก็มั่นใจว่าทั้งสองจะเป็นตำนานไปอีกยาวนานในอนาคตเมื่อเลิกเล่นเทนนิสอาชิพ มันมีเรื่องราวมากมาย ละเอียดอ่อน ซับซ้อน และสวยงามของผู้ชายสองคนนี้ Roger Federer กับ Rafael Nadal

I. เส้นทางเดินและผู้ร่วมทาง

เรื่องที่คิดว่าน่าสนใจอันดับแรกๆ คือเรื่องของ “เส้นทางเดินและผู้ร่วมทาง”….ยิ่งเป็น Journey ของแชมป์เปียนส์ผู้ยิ่งใหญ่ก็ยิ่งทวีความน่าสนใจเป็นเท่าทวีคูณ และเราจะได้เห็นว่าไม่ว่าจะเป็นเพราะโชคชะตาฟ้าลิขิต พรสวรรค์ หรือพรแสวง ผู้ร่วมทางเดินมีส่วนสำคัญมากอันดับต้นๆของเทพผู้สร้างตำนาน

* Roger Federer * : เฟดเกิดเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 1981 ที่เมือง Binningen ใกล้ๆกับเมือง Basel มีพี่สาวหนึ่งคน คุณพ่อชื่อ Robert Federer เป็นชาวสวิต ส่วนคุณแม่ขื่อ Lynette Du Rand เป็นชาวอาฟริกันใต้ (ทั้งคู่ทำงานบริษัทยาที่เดียวกัน) และนั่นก็เป็นสาเหตุให้มูลนิธิของเฟดเน้นการงานการกุศลที่อาฟริกาใต้ ตอนนี้คุณแม่ก็มาช่วยดูแลมูลนิธิให้ด้วย เมืองที่เฟดอยู่ติดกับเยอรมัน และฝรั่งเศส เฟดก็เลยพูดได้หลายภาษามาก คือ สวิต-เยอรมัน เยอรมัน ฝรั่งเศส อังกฤษ และได้อิตาลีอีกนิดหน่อย…เราว่าเฟดเป็นเด็กหัวดีด้วยแหละถึงเก่งภาษาขนาดนี้

เฟดเริ่มเล่นเทนนิสตั้งแต่ 8 ขวบแล้วก็คล้ายราฟาคือชอบเล่นฟุตบอลด้วยแต่ตอน 12 ขวบก็ตัดสินใจมามุ่งมั่นกับเทนนิสอย่างเดียว ในปี 1989-1994: ตอนเฟดอายุ 8-13 ปี เฟดได้ฝึกฝีมือแบบเต็มเวลาอยู่กับโค้ชชื่อ Seppli Kacovsky ซึ่งเป็นหัวหน้าโค้ชของ Old Boys’ Tennis Club ที่บ้านเกิดของเฟดใน Basel แต่อย่างไรก็ตามตอนเฟดอายุ 10-14 ปีก็มีโค้ชเสริมพิเศษแบบอาทิตย์ละครั้งอีกคนคือ Peter Carter โค้ชทั้งสองคนนี้มีบทบาทสำคัญที่ทำให้เฟดเป็นนักเทนนิสที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่ยากจะแสวงหา…ระดับใช้เป็นมาตรฐานตำราเทนนิสให้ผู้คนทั่วโลกได้เลียนแบบรูปแบบที่ถูกต้องงดงามในการเล่นเทนนิส

(มีเกร็ดเล็กๆน้อย ก่อนที่ Carter จะมีเป็นโค้ชให้เฟด Bob พ่อของ Peter Carter ได้โทรศัพท์มาหาเค้าในคืนหนึ่ง บอกว่า "Oh, have I got a young boy here who looks promising, "he's only about 12 or 13". He said, "I think he's going to go places.". And that was Roger Federer.)

ส่วนเฟดเองก็หลงใหลมนต์เสน่ห์ของลูกบอล อัดลูกเทนนิสกับฝาบ้านมาตั้งแต่เด็กๆ "I remember always loving to play against the cupboards, against the doors at home. With any kind of ball...soft ball, tennis ball. My mom always got pissed off at me, because, Bang, bang, bang!, all day long."

 

โดย: หมูทอง IP: 125.25.211.238 6 กุมภาพันธ์ 2554 20:08:53 น.  

 

(ต่อ)

ต่อมาในปี 1995 ตอนเฟดอายุ 14 ปี แกก็เริ่มเอาจริงเอาจังมากขึ้นและซ้อมหนักวันละ 6 ชั่วโมง เพิ่มทักษะต่างๆ ก่อนออกลายด้วยการล่าแชมป์เด็กในประเทศสวิต แล้วก็ตัดสินใจรับสปอนเซอร์ไป train ที่ Ecublens’ Swiss National Tennis Center แล้วก็อยู่ที่นี่จนเรียนหนังสือจบ…เฟดมีนักเทนนิสในดวงใจคือ Boris Becker กับ Stefan Edberg ตอนอายุ 16 ปี เฟดเริ่มเข้าแข่งขันระดับจูเนียร์ของ ITF ได้แชมป์ทั้งหมด 4 ถ้วย ที่รวมถ้วยส้ม (prestigious Orange Bowl) โดยล้ม Guillermo Coria ในนัดชิง และเฟดก็ชนะได้แชมป์ Wimbledon เยาวชนและเป็นมือ 1 เยาวชน ITF World Junior Tennis champion of the year 1998 ตอนอายุ 17 ปี แล้วเฟด turn Pro ในปีนี้ด้วย….และก็หมายถึงการเกิดของเทพองค์แรกในวงการเทนนิสชาย

มีหลายคนสงสัยว่าเฟดทำไมเก่งนักเก่งหนา…ตอนเฟดได้แชมป์ GS แรกคือ WB03 อายุ 22 ปี เฟดก็แสดงให้เห็นว่านักเทนนิสพรสวรรค์โดยเฉพาะในคอร์ดหญ้าและคอร์ดปูน เฟดมีอาวุธหลากหลาย สามารถเลือกใช้ผสมผสานเป็นเกมเทนนิสสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ เหมือนแกะกล่องออกมาก็เลิศเลย….ช่างแตกต่างจากราฟาที่ใช้เวลาในการพัฒนาอาวุธ พัฒนาเกม แฟนๆเทนนิสดูเทนนิสของราฟาก็เหมือนติดตามดูความสามารถของราฟาที่ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่พวกเราก็อาจลืมไปว่าราฟาเก่งมากๆ มาตั้งแต่เด็กและได้ GS แรก คือ FO05 อายุแค่ 19 ปี โดยที่เกมเทนนิสของราฟามีรากฐานมาจากเกมคอร์ดดิน จึงต้องใช้เวลาในการพัฒนาตัวเองกว่าจะครบเครื่อง

แล้วใครกันที่เป็นหนึ่งในคนที่มีอิทธิพลให้เฟดสุดยอดอย่างรวดเร็ว คำตอบกืคือ Peter Carter ที่เป็นโค้ชให้ในช่วงแรกก่อนที่เฟด turn Pro คือ 14-17 ปี…เฟดพูดถึง Peter Carter ว่า "Peter wasn't my first coach, but he was my real coach. I made trips with him. He knews me and my game, and he was always thinking of what was good for me."

เมื่อเฟด turn Pro แล้วก็ได้อดีตผู้เล่นเทนนิสใน ATPคือ Peter Lundgren (1999-2004)ที่เจอกันใน Beil มาเป็นโค้ชให้ แต่เฟดก็ยังปรึกษาปัญหาเทคนิคต่างกับ Carter อยู่อย่างสม่ำเสมอ และก็เข้าชิง ATP ครั้งแรกในรายการ Marseille Open ปี2000 แต่ไปแพ้ให้กับ Marc Rosset และมาได้แชมป์แรกที่ Milan ในปี 2001 เฟดได้แชมป์รายการ Masters Series ครั้งแรกที่ Hamburg ซึ่งเป็นคอร์ดดินในปี 2002 โดยเอาชนะ Marat Safin ในรอบชิงตอนอายุ 21 ปี และเฟดก็เริ่มฉายแสงโดดเด่นใน GS คอร์ดหญ้าโดยการได้แชมป์ Wimbledon ในปี 2003 และเป็นเจ้าพ่อคอร์ดหญ้า เจ้าพ่อ GS ตั้งแต่ปี 2004 เป็นต้นมา

เป็นที่เสียดายและเสียใจยิ่งที่ Peter Carter ประสบอุบัติเหตุรถยนต์เสียชีวิตในวันที่ 1 Aug 2002 ตอนอายุเพียง 37 ปี ตอนนั้นเฟดกำลังแข่งเทนนิสที่โตรอนโต และแพ้รอบแรกกับ Guillermo Canas เฟดโศกเศร้ามาก บอกว่า "I was very shocked and very sad when I found out. He was a very close friend. This is the first time a close friend of mine has died."

ส่วน Bob Carter พ่อของ Carter ที่แนะนำเฟดให้ Carter ได้พูดถึงความสัมพันธ์ของสองคนนี้ว่าลึกซึ้งขนาดไหน
"Obviously Roger [Federer] has got enormous talent, but I am sure, and I can see it in his game, what's there Peter would have taught him. The serve volley and the slice and the variety in his game, that's how Peter played. I'm sure that is showing out in Roger now."

 

โดย: หมูทอง IP: 125.25.211.238 6 กุมภาพันธ์ 2554 20:15:05 น.  

 

(ต่อ)

ในปี 2005-2008 เฟดได้โค้ชใหม่เป็นอดีตนักเทนนิสอาชีพ Tony Roche ซึ่งเป็นแชมป์ AO และเคยเป็นโค้ชให้กับนักเทนนิสระดับมือ 1 ของโลก Patrick Rafter และ Ivan Lendl ในช่วงนี้เฟดได้แชมป์ GS ถึง 9 ถ้วย ก่อนที่จะเลิกจ้าง Roche แต่ก็ปรึกษาหารือบ้างเป็นบางครั้งบางคราว

ในปี 2008 เฟดยังไม่ได้แชมป์ FO หลังเพียรพยายามมาหลายปี จึงได้ว่าจ้าง Jose Higueras มาช่วยเป็นโค้ชพิเศษเน้นเฉพาะคอร์ดดิน แต่ผลงานปี 2008 ในก FO ของเฟดก็แพ้ราฟาแบบ 3 เซ็ตรวด และได้แค่ 4 เกม จากนั้นมาเฟดก็เล่นเทนนิสโดยไม่มีโค้ช (แต่ปรึกษา Darren Cahill, Jose Higuera และ Severin Luthi เป็นครั้งคราว) แต่เฟดก็สามารถเป็นนักเทนนิสที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในการเป็นจ้าว GS 16 ถ้วยสูงสุด และมากกว่าที่พีททำไว้ที่ 14 ถ้วย

ในปี 2010 ซึ่งเฟดอายุ 29 ปีและเริ่มเข้าสู่ช่วงปลายของนักเทนนิสอาชีพ เฟดได้ว่าจ้าง Paul Annacone อดีตโค้ชของ Pete Sampras และนักเทนนิสชื่อดังอีกหลายคน เช่น Marat Safin และ Tim Henman และตอนนี้ก็เป็นหัวหน้าโค้ชของ Britain’s Lawn Tennis Association มาช่วยให้คำปรึกษาแนะนำ เพราะเฟดยังอยากจะอยู่ในวงการนี้และสามารถยืนระยะในวงการเทนนิสหลังอายุเข้าเลข 3 ได้ยาวนาน และยังเอาชัยชนะ ถ้วย GS มาเพิ่มเติมสร้างสถิติบันลือโลกต่อไป

เรื่องที่คงไม่พูดถึงไม่ได้ สำหรับ โรเจอร์ เฟดเดอร์เรอ ก็คือ เฟดเป็นนักเทนนิสน้อยคนมากๆ ที่รักษาระดับการเป็นมือต้นๆ ของโลกเป็นเวลายาวนานมากกว่า 10 ปีโดยไม่มีปัญหาบาดเจ็บหนักรบกวน ในขณะที่นักเทนนิสร่วมรุ่นอายุเข้าเลข 3 แต่ละคนเจออาการบาดเจ็บรบกวน ไม่สามารถแข่งขันตลอดทั้งปีได้.....อาจจะใช่ที่เฟดเล่นเทนนิสไม่ใช้กำลังมาก เกมเทนนิสมีประสิทธิภาพสูงใช้พลังงานน้อย แต่เทนนิสก็คือเทนนิส และเราคงไม่กล่าวถึงบุคคลผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จแบบปิดทองหลังพระมาโดยตลอด คือ "Pierre Paganini" ผู้เป็น fitness trainer ให้กับเฟดมาอย่างยาวนานตั้งแต่ยุคเฟดยังเด็กๆ เล่นอยู่กับ Swiss National Tennis Centre

Paganini มีส่วนในการพัฒนาร่างกายให้เฟดแข็งแกร่ง มีความทนทาน มีความเร็ว…และแน่นอน ผ่านโปรแกรมเข้มข้น 100 ชั่วโมง ระหว่างการแข่งขัน และช่วงหยุดการแข่งขัน และยังเสริมโปรแกรม 10 ชั่วโมงต่ออาทิตย์ก่อนการแข่งขันรายการสำคัญอีกด้วย

 

โดย: หมูทอง IP: 125.25.211.238 6 กุมภาพันธ์ 2554 20:18:56 น.  

 

(ต่อ)

คนร่วมทางในเส้นทางสายนักเทนนิสอาชีพนอกจากโค้ชแล้ว…ก็คงไม่พูดถึงคนในครอบครัวไม่ได้ เฟดได้รับการสนับสนุนให้กำลังใจในการเล่นเทนนิสจากครอบครัวเป็นอย่างมาก เราเห็นคุณพ่อ คุณแม่เฟดในแม็ทช์สำคัญๆเสมอมาจนชินตา หมูทองจะชอบคุณพ่อเฟดเป็นพิเศษ เพราะดูอบอุ่น เราจะเห็นแกแอบลุ้นลูกชายติดขอบสนามเป็นประจำ และไม่ว่าแพ้-ชนะ คุณพ่อก็ดูจะเข้าอกเข้าใจลูกชายคนนี้เป็นอย่างดี

แต่บุคคลสำคัญสุดๆกับเฟดในการเล่นเทนนิสตลอดระยะเวลาร่วม 10 ปีที่ผ่านมา ก็คือ…เมียร์ก้า ศรีภรรยา…ตั้งแต่ทั้งคู่เป็นแฟนกันที่โอลิมปิค 2000 ซิดนีย์ เมียร์ก้าติดสอยห้อยตามเฟดแบบเป็นเงาตามตัวเฟดทุกที่ เห็นเฟด ต้องเห็นเมียร์ก้า เมียร์ก้าเป็นยิ่งกว่าโค้ช ยิ่งกว่าTrainner ยิ่งกว่าผู้จัดการของเฟด…ตัวเธอเองพร้อมจะเป็นกองหลังที่ดี ไม่พยายามอยู่ด้านหน้าและไม่เคยให้สัมภาษณ์ใดๆ เธอต้องการให้เฟดได้รับความเป็นส่วนตัวมากที่สุดท่ามกลางแฟนเทนนิสมากมายมหาศาลจากทั่วโลก เธอต้องดูแลงานด้าน PR รักษาภาพพจน์ของเฟด ติดต่อใกล้ชิดกับ webmaster เว็บไซด์ของเฟด ชีวิตเธอจึงยุ่งมากแต่ได้ BlackBerry เป็นอุปกรณ์ประจำกายและนี่ยังไม่นับบทบาทการเป็นแม่ของลูกสาวฝาแฝดแสนน่ารักสองคน Myla Rose กับ Charlene Riva

โดยสรุปเมียร์ก้าเป็นคนที่ร่วมทุกข์ ร่วมสุข และเฟดให้ความไว้วางใจสูงสุด เธอจึงเป็นจิ๊กซอร์ส่วนที่สำคัญมากที่สุดในชีวิตการเล่นเทนนิสอาชีพของเฟด เมียร์ก้าทำให้เฟดได้มีเวลาและสมองไปทุ่มเทกับการเล่นเทนนิสอย่างเดียว ส่วนที่เหลือแทบทั้งหมดก็…”เจ๊จัดให้” ราวกับว่าถ้าไม่มีเมียร์ก้า เราอาจไม่ได้เห็นเฟดประสบความสำเร็จเหมือนที่เราเห็นทุกวันนี้ …ไม่รู้ซิเราว่า ขาดเมียร์ก้า เฟดแทบขาดใจเลยแหละ เฟดก็บอกเองว่า เค้าเป็นหนี้บุญคุณเมียร์ก้ามาก ขอยกตัวอย่างสองเหตุการณ์….ในวันแข่งข้นนัดชิงประวัติศาสตร์ WB08 เฟดอาจจะแพ้ราฟา 3-0 เซ็ตไปแล้ว ถ้าไม่มีเบรคฝนตกและมีเมียร์ก้าผู้เข้าไปกระตุ้นเตือนให้เฟดสู้ๆ และแสดงศักยภาพที่ดีที่สุดออกมา เราจึงได้เห็นเซ็ต 3-4-5 ที่ตราตรึงใจคนทั้งโลก…อีกเหตุการณ์หนึ่งคือ นัดชิงที่ AO09 เฟดเบรคแตกตอนเล่นเซ็ตห้า แพ้แบบพลิกความคาดหมาย และจบลงด้วยการร้องไห้ในพิธีรับถ้วย กล้องซูมให้เห็นหน้าเมียร์ก้าชัดๆ เธอเอามือกุมปาก ตาเศร้า เธอแทบจะเป็นคนเดียวที่รู้ว่าเฟดคิดอะไร ทำไมถึงอัดอั้นจนต้องร้องไห้

** ดังนั้นระดับความสำคัญของเมียร์ก้าเทียบเท่าอาโทนี่ของราฟา **

 

โดย: หมูทอง IP: 125.25.211.238 6 กุมภาพันธ์ 2554 20:21:22 น.  

 

เข้ามาติดามแล้วครับ สนุกมากเลื่อนมาถึงตรงนี้นึกว่าจะมีต่ออีก^^ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้คุณหมูทองเขียนบทความดีๆต่อไปนะครับ ร

 

โดย: น้อง IP: 58.64.74.116 7 กุมภาพันธ์ 2554 11:43:57 น.  

 

มีต่อแน่จ๊ะ คุณน้อง...ต่อไปเป็นของราฟาแล้ว จะพยายามเข็นออกมาก่อนวันศุกร์ ที่หมูทองต้องไปเชียงใหม่อีกแล้ววววว....

ปล อยากบอกว่าดีใจจังที่คุณน้องเป็นแฟนประจำ และให้กำลังใจกันตลอดมา

 

โดย: หมูทอง IP: 180.180.142.116 7 กุมภาพันธ์ 2554 20:14:38 น.  

 

รออ่านเรื่องของราฟาอยู่นะครับ อ่านแล้วอ่านอีกได้เสมอ ไม่เบื่อครับคุณหมูทอง

 

โดย: อ่อน IP: 122.0.3.208 8 กุมภาพันธ์ 2554 17:50:50 น.  

 

รออ่านเรื่องของราฟาอยู่นะครับ อ่านแล้วอ่านอีกได้เสมอ ไม่เบื่อครับคุณหมูทอง

 

โดย: อ่อน IP: 122.0.3.208 8 กุมภาพันธ์ 2554 17:50:50 น.  

 

มาแล้ว...มาแล้ว ยังอยู่ใน I.เส้นทางเดินและผู้ร่วมทาง

แต่คราวนี้เป็นของราฟา
๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕

Rafael Nadal : ราฟาเกิด 3 มิถุนายน 1986 ที่เมืองมาร์ยอก้า ประเทศสเปน คุณพ่อชื่อ Sebastián Nadal และแม่ชื่อ Ana María Parera มีน้องสาวผมทองสุดเลิฟอยู่คนเดียวชื่อ María Isabel หน้าตาคล้ายราฟาแต่อ่อนกว่า 5 ปี …ราฟาเป็นชาวเกาะคงคล้ายกับเกาะภูเก็ต หรือสมุยบ้านเรา เกิดในตระกูลที่มีอันจะกินพอควร พ่อเป็นนักธุรกิจมีกิจการกระจก อสังหาริมทรัพย์ ภัตราคาร เป็นต้น แม่เป็นแม่บ้าน (เคยเป็ครูสอนเปียโน) ปู่เป็นนักดนตรีคลาสสิค….เป็นหัวหน้าวงออเคสต้าของเมืองมานาคอร์ใน มายอร์ก้า ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมราฟาจึงชอบดนตรีมากมาย ไปดู Fanthome of the opera ที่นิวยอร์คถึง 6 ครั้ง และหูฟังกับ MP4 ก็เป็นของขาดไม่ได้ในการเดินทางแข่งเทนนิสทั่วโลกของหนุ่มคนนี้


ชีวิตวัยเด็กของราฟานับว่าอบอุ่นและสมบูรณ์ อยู่ในครอบครัวใหญ่แวดล้อมไปด้วยญาติสนิทมิตรสหาย ดูไปก็คล้ายสังคมไทยสมัยโบราณ ที่มีปู่ย่าตายาย ลุงป้าน้าอา อาศัยละแวกเดียวกัน รู้จักกันทั้งหมู่บ้าน ไม่น่าเชื่อว่าจนโตขนาดนี้ราฟาก็ยังอาศัยอยู่บ้านพ่อแม่ที่ชั้นสาม มีคุณตาคุณยายอยู่ชั้นล่าง ราฟามีอาคนเล็กที่เป็นนักฟุตบอลอาชีพ ชื่อ Miguel Ángel Nadal เคยเล่นให้กับสโมสร RCD Mallorca, FC Barcelona เป็นเวลานาน มีสมญานามว่า Beast of Barcelona และเล่นให้กับทีมชาติสเปนด้วย ส่วนอาอีกคนคือ Toni Nadal เป็นนักเทนนิสอาชีพระดับประเทศ (แล้วก็เป็นแชมป์ปิงปองด้วย) เป็นผู้จัดการสโมสรคลับเทนนิสที่มอนาคอร์ และคนนี้แหละที่เป็นผู้ชักนำราฟาเข้าวงการเทนนิสตั้งแต่ราฟายังเด็กๆ 3-4 ขวบ แถมเป็นโค้ชให้ฟรีๆ แบบไม่จำกัดระยะเวลาอีก ประหนึ่งเป็นเหมือนพ่อคนที่สองของราฟาเลย

จากอาชีพของคนในครอบครัวก็เห็นได้ว่าราฟามียีนส์ที่เป็นพรสวรรค์ด้านกีฬาระดับ DNA ที่พระเจ้าให้มาด้วยส่วนหนึ่ง ตอนเด็กๆ ราฟาจึงเป็นเด็กชายที่ชอบเล่นกีฬาและการแข่งขันเป็นชีวิตจิตใจ และแน่นอนชอบชนะ ไม่ชอบแพ้ เวลาแพ้ก็มีร้องไห้ขี้มูกโป่งเหมือนเด็กทั่วๆไป ราฟาเล่นทั้งฟุตบอลและเทนนิสได้ดีมาก…เรื่องเรียนก็เฉยๆ เวลาคุยเรื่องเรียน ก็โบ้ยให้ไปคุยกับน้องสาวดีกว่า แต่ถ้าให้เลือกวิชาที่ชอบ ก็คือ คณิตศาสตร์

ตอนอายุ 8 ขวบ ราฟาก็แข่งเทนนิสรุ่นเด็กอายุ 12 ปีได้แชมป์ระดับประเทศ (U12 Baleares tournament and U12 Spanish Open) อาโทนี่ก็เล่นคิดว่าราฟาน่าจะเอาดีทางเทนนิสได้ จึงมีโปรแกรมการซ้อมแบบ “จัดหนัก” ให้และแนะนำว่าไม่มีนักเทนนิสระดับโลกคนไหนตี FH สองมือเหมือนราฟานะ (ตอนนั้นราฟาตี FH และ BH แบบใช้ทั้งสองมือ) ดังนั้นราฟาต้องเลือกสักมือหนึ่ง…และถ้าเลือกมือซ้ายยูก็น่าจะได้เปรียบ ราฟาเป็นเด็กดีเชื่อโค้ชคุณอาโทนี่…ถึงวันนี้ราฟาคงรู้แล้วว่าการตัดสินใจตอนนั้นทำให้เค้ามีจุดเด่นที่ได้เปรียบคู่ต่อสู้มือขวา และ FH topspin จากมือซ้ายของราฟาก็สร้างปัญหาให้กับนักเทนนิสระดับโลกหลายคน รวมทั้งเฟดเดอร์เรอ อดีตมือหนึ่งของโลกเจ้าพ่อ GS หนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกดลอดกาล
เฟดพูดเรื่องการที่ราฟาตีด้วยมือซ้าย ทำให้เป็นข้อได้เปรียบ….ได้ชัยชนะไว้ดังนี้

“He is a totally different player – left-handed – and I don’t play them often. So that’s the thing, I think. If there were a lot more lefties in the game, I would look a lot more mortal too.”

“The more I play him, the more I will figure out his game too. Because he is a lefty, and such a good lefty, it makes it really hard. It doesn’t make it easier with the serve and the forehand crosscourt, which comes on my backhand side. It is just a case of getting used to that.”

และล่าสุดก็เป็นคำให้สัมภาษณ์ของเฟดเดอร์เรอร์ นักเทนนิสอดีตมือหนึ่งยอดเยี่ยมตลอดกาลหลังจากพ่ายแพ้แก่นาดาลใน AO 2009
Q. You mentioned you had problems with the first serve. You had only 52% of first serves in. You also had 19 breakpoints. That was happening on Nadal's serve. So what was the problem then? Only him serving well or you having some problems returning or what?

ROGER FEDERER: Well, I wish I was a lefty, too, playing him breakpoints on the ad side, not on the deuce side. Sure, a great advantage for him. It's not the first time (smiling).

แต่สิ่งที่คนไม่ค่อยทราบกันก็คือ ราฟาเป็นบุคคลที่ถนัดทั้งซ้ายและขวา แตะบอลเท้าซ้าย ตีเทนนิสซ้าย แต่ทำอย่างอื่นด้วยมือขวา เราเรียกคนที่ถนัดทั้งสองข้างว่า ambidextrous…ก็เริ่มเห็นเป็นสัญญานอย่างแรกแล้วว่า ราฟาเป็นคนพิเศษ ไม่เหมือนคนอื่น

 

โดย: หมูทอง IP: 125.25.62.162 27 กุมภาพันธ์ 2554 20:45:07 น.  

 

(ต่อ)

พอราฟาอายุ 12 ขวบก็ยิ่งส่อแววว่ามีอนาคตในเชิงกีฬาแน่นอน เล่นเทนนิสได้ดีกวาดแชมป์เยาวชนประเทศสเปน และทวีปยุโรป เล่นฟุตบอลก็เก่งมาก คุณพ่อกังวลว่าจะเอาตัวไม่รอดเรื่องการเรียน เลยให้ราฟาเลือกเล่นกีฬาเพียงอย่างเดียวก่อนที่การเรียนจะเสีย…ราฟาเลือกเทนนิส อาจเพราะประสบความสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอัน (ไม่งั้นโลกอาจจะได้ดาราฟุตบอลประกบ แมสซี่ ในตอนนี้ก็ได้) ความเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงของราฟา ตอนอายุ 14 ปี สมาคมเทนนิสของสเปนได้ยื่นข้อเสนอให้ทุนราฟามาฝึกซ้อมเล่าเรียนกับโค้ชชั้นนำที่บาร์เซโลน่า แต่คุณพ่อราฟาปฎิเสธ เพราะอยากกวดขันให้ราฟาได้เรียนหนังสือ และถูกขัดเกลาอบรมบ่มนิสัยกับครอบครัว

พ่อกับอาคิดว่าราฟาสามารถเป็นนักกีฬาอาชีพที่ดีได้จากการฝึกซ้อมที่บ้าน….แล้วราฟาไม่ทำให้คุณพ่อกับคุณอาผิดหวังในการตัดสินใจเดินทางเป็นนักเทนนิสอาชีพ แม้ว่าเค้าจะไม่ได้เรียนเทนนิสตามระบบมาตรฐานสากลโลก อาจกล่าวได้ว่าราฟาฝึกปรือฝีมือเทนนิสจาก ”ความรัก ความเอาใจใส่” อย่างเปี่ยมล้นของคุณอาโทนี่ และครอบครัว เทนนิสของราฟาจึงไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน ไม่มีรูปแบบที่เป็นมาตรฐาน แต่มันมาจากข้างใน จากสัญชาติญาณ ความมั่นคงทางอารมณ์ และจากความเป็นตัวตนของราฟา เช่นถ้าราฟาเล่นเทนนิสไม่ดี อาโทนี่จะสอนราฟาว่า ไม่ให้โทษ…คอร์ด ลูกบอล ลมฟ้าอากาศ กรรมการ คู่ต่อสู้ หรื่ออื่นๆอีกมากมาย แต่เป็นเพราะเราเล่นไม่ดีเอง ก็หาทางแก้ไขปรับปรุงเกม เราก็จะชนะได้ และด้วยทัศนคติ วิธีคิดที่ถูกต้อง แฟนๆเทนนิสทั่วโลกจึงได้เห็นราฟาเอล นาดาล นักเทนนิสมือหนึ่งของโลกที่อายุน้อย เจ้าของสถิติที่คงเป็นตำนานเทนนิสไปอีกหลายสิบปีที่ยังเพียรพูดถึงปรับปรุงเกมเทนนิสของตัวเองตลอดเวลา
ควบคู่ไปกับเกมเทนนิส ราฟาได้รับการอบรมมาจากครอบครัว ที่มีแบบแผนธรรมเนียมปฎิบัติที่ค่อนข้างเคร่งครัด และติดดิน ดังนั้น แม้ราฟาจะเป็นเด็กที่เก่งแค่ไหน พ่อของราฟาจะอบรมไม่ให้เหลิงและหลงไปกับความเก่งกาจของตัวเอง

.........พ่อของราฟาบอกกับราฟาเสมอว่า การที่ราฟาตีเทนนิสเก่งกว่าคนอื่น ไม่ได้แปลว่าราฟาจะเป็นคนที่ดีกว่าคนอื่น ส่วนอาโทนี่ ก็ฝึกให้ราฟาทำอะไรด้วยตนเอง ไม่มีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่นๆ มีวินัยและมารยาทที่ดี ครอบครัวราฟาให้คุณค่าและความสำคัญกับสิ่งที่เรียกว่า “ Principle & Character ” และพยายามปั้นราฟาให้ปฎิบัติตนเหมาะสมกับผู้คนและสถานที่ ครั้งหนึ่งราฟาไปกิน dinner ที่เค้าไม่รู้ว่าต้องแต่งตัวเหมาะสม ราฟาใส่กางเกงขาสั้น…ก็ต้องโดนให้ไปเปลี่ยนทันที หรือแม้แต่การวางรองเท้าก็ไม่ใช่ต้องเสือกๆไป และไม่ใช่ทำเฉพาะตอนสื่อถ่ายรูป ราฟาถูกฝึกให้ทำเรื่องเหล่านี้จนเป็นนิสัย ดังนั้น ถ้าจะเห็นราฟาวางขวดน้ำเป็นระเบียบทุกครั้งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก และคงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมราฟาจึงเป็นคนเก่งที่อ่อนน้อมถ่อมตน ติดดิน และให้เกียรติ์ผู้อื่นเสมอต้น เสมอปลาย…. Keep Hungry, Keep Humble

…..ถ้ามีใครถามว่าสัญญานการเกิดของเทพองค์ที่สองของวงการเทนนิสเกิดขึ้นเมื่อไร คำตอบก็คือ เดือนพฤษภาคม ปี 2001 มีการจัดการแข่งขันของสโมสร Santa Ponsa Country Club ที่อยู่ในเมืองมายอร์ก้า โดยให้นักเทนนิสรุ่นเก๋าระดับโลกระดับแชมป์ GS คือ Boris Becker มาเจอกับ Pat Cash ปรากฎว่าบอริสได้รับบาดเจ็บเลยแข่งไม่ได้ ราฟาซึ่งเป็นดาวเด่นประจำมายอร์ก้าก็เลยต้องรับบท “ตัวสำรอง” รุ่นเยาว์ 14 ปีไปตีเทนนิสกับรุ่นอา Pat Cash(อายุ 36 ปีในตอนนั้น) บนคอร์ดดิน…Pat รับปากเพราะคิดว่าอย่างไรก็คงเอาชนะได้ ไม่เสียหน้า ฝีมือน่าจะยังห่างหลายวา แม้จะไม่รู้จักกันเลย แต่แม็ทช์นั้นกลับไม่เป็นอย่างที่ Pat คิด…Pat บอกว่า รูปร่างราฟาตอนนั้นยังเด็กมาก ผอมกระหร่อง เหมือนเด็กมัธยมต้น แต่ในเกมเทนนิสเป็นเกมที่น่าตื่นตาตื่นใจ ราฟานิ่ง ทนแรงกดดันได้สุดยอดเกินเด็ก

“ The physique had not developed and he looked like a child, but there was a maturity when he was under pressure and he showed an intensity beyond his years on every shot. His game had so many astounding qualities.”

Pat ได้เซ็ตแรก ราฟาได้เซ็ตสอง ต้องมาตัดสินด้วยไทร์เบรค…แล้วราฟาก็ชนะแชมป์ WB1987 ไปอย่างน่าอัศจรรย์ใจ Pat เล่าว่า

“ He had been sending the most amazing winners flying past my racket, but in the first-to-12 champion’s tie-break, there he was at the net, diving to make seemingly impossible volleys and bouncing up to brandish yet another celebratory fist.”

แม้ว่า Pat จะประหลาดใจ ประทับใจมากกับฝีมือเทนนิสของราฟา ขนาดที่วันรุ่งขึ้นรีบโทรหาสปอนเซอร์ที่รู้จักทุกคนว่า พบช้างเผือกในป่าลึก เข้าแล้วรีบมาเจอตัว….แต่สิ่งที่ Pat ลืมไม่ลงจากแม็ทช์นั้น และจากการได้ติดตามดูฝีมือราฟามาจนถึงวันที่ราฟาเข้าแข่ง GS แรกของตัวเอง ก็คือ

..........He produces such enormous racket speed that it’s impossible to read where the ball is heading and his extreme western grip allows him to impart heavy topspin. In addition the increased muscle has enabled his serve to develop as a true weapon and his speed of foot suggests he will be able to operate on the quicker surfaces.
However, it is that determination he showed so memorably in our match in Majorca which sets him apart. He forces the other guy to collapse, as Friday’s win over Gasquet proved (3rd round FO05). Opponents are frightened of Rafael Nadal, but he seems to fear nothing. When he raises that trophy I can take consolation that I was beaten by a future king of clay.

……Pat พูดถึง เทพองค์ที่สองมีสิ่งที่พิเศษสุด คือ “หัวใจนักสู้”
(Pat มาเขียนเล่าเปิดเผยเรื่องราวอย่างละเอียดหลังจากแพ้ในแม็ทช์นั้นมาถึง 4 ปี…หลังจากเค้าที่ได้ดูราฟาเล่น GS แรกของตัวเองใน FO05 ไปหนึ่งอาทิตย์…และพยากรณ์ล่วงหน้าเลยว่า ราฟาจะเป็นแชมป์ FO05 …และราฟาก็ได้แชมป์ FO05 จริงๆ)

 

โดย: หมูทอง IP: 125.25.62.162 27 กุมภาพันธ์ 2554 20:51:29 น.  

 

(ต่อ)

ปลายปี 2001 ราฟาอายุ 15 ก็ turn pro แล้วก็ค่อยๆ ไต่อันดับในวงการเทนนิสอาชีพ ราฟาไม่เหมือนเฟดตรงที่เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงตั้งแต่เด็กๆ อายุยังไม่ 16 ก็เริ่มชนะใน ATP ทัวร์เริ่มไต่อันดับเข้า Top 50 ได้ตั้งแต่อายุ 16-17 ปี แล้วก็สามารถล้มนักเทนนิสรุ่นพี่ที่เป็นระดับดาราได้ เช่น Albert Costa และพอเริ่มปี 2004 ราฟาอายุแค่ 17 ปี ก็เริ่มโชว์เทพให้โลกตะลึง (เฟดก็งงด้วย) เอาชนะมือ 1 ของโลกอย่างเฟดได้ที่ Miami แล้วก็เป็นเด็กอายุน้อยต่อจากบอริส แบ็คเกอร์ที่เข้าถึงรอบ 3 ใน WB03 (แพ้ภราดร ศรีชาพันธ์ของไทยเรา…แล้วก็เป็นครั้งแรกให้หมูทองรู้จักตกหลุมรัก ราฟาเอล นาดาล หนุ่มน้อยฝีมือดี ที่มีดวงตามุ่งมั่น ในชุดคาปรีแขนกุดที่ไม่เหมือนใคร….)

ตอนปลายปี 04 ก็ช๊อคแฟนๆเทนนิสอีก โดยการเอาชนะร๊อดดิคมือ 2 ของโลก พาทีมชาติสเปนเอาชนะ USA คว้าแชมป์เดวิสคัพมาครองได้สำเร็จ…
.
พอเข้าปี 2005 ราฟาอายุ 18 ย่าง 19 ปี…ก็ไม่ต้องมีคำถามอีกแล้วว่าหนุ่มมายอร์ก้าคนนี้จะสร้างตำนานระดับโลก แต่อย่างไรก็ตามราฟามีชื่อเสียงกระฉ่อนว่าเป็นเจ้าพ่อคอร์ดดิน King of Clay เพราะราฟากวาดแชมป์ MC Barcelona Rome แล้วยังมีถ้วยเล็กถ้วยน้อยเต็มไปหมด เรียกว่าเข้าแข่งคอร์ดดินที่ไหนก็ได้แชมป์…ทำให้ฝีมือเทนนิสของราฟาบนคอร์ดอื่นถูกมองข้ามไป ราฟาปิดฤดูกาล 2005 ด้วยการเป็นมือสองของโลกที่กวาดถ้วยแชมป์มาทั้งหมด 11 ถ้วย เท่ากับเฮียเฟดที่เป็นมือหนึ่ง……ในปีนี้ก็เป็นปีแรกที่แฟนๆเทนนิสได้เห็นชัดว่า สองหนุ่มสองเทพได้ครอบครองอาณาจักรวงการเทนนิสแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด กล่าวคือจาก WB 04 ถึง USO10 เฟดกับราฟาโกยแชมป์ GS ไปทั้งสิ้น 23 จาก 26 ถ้วย แบ่งให้คนอื่นแค่ 3 คนๆละถ้วยคือมารัต ซาฟิน AO05 โนล AO08 และเดล โปโตร USO09….

เฟดเป็นจ้าวพ่อ GS เจ้าของสถิติ 16 ถ้วย ราฟาได้ 9 ถ้วย ส่วนถ้วยมาสเตอร์ซี่รี่ หรือ ATP1000 ราฟาก็เป็นจ้าวพ่อ ครองสถิติแชมป์ถ้วยนี้มากสุด คือ 18 ถ้วย เฟดรองมาได้ 17 ถ้วย….นี่ยังไม่นับโอลิมปิคปักกิ่ง 08 ที่ราฟาได้เหรียญทอง และเดวิสคัพที่ราฟาพาสเปนครองแชมป์ถึง 3 สมัย(2004, 2008, 2009)

แม้ว่าเฟดกับราฟาร่วมกันสร้างสถิติเทพต่างๆ ในวงการเทนนิสชาย แต่สิ่งที่ต้องบันทึกไว้ว่ามีอีกอย่างที่ราฟาไม่เหมือนเฟดเลย…คือ ในขณะที่เฟดสุขภาพร่างกายเต็มร้อยแทบจะตลอดเวลาทำให้เล่นเทนนิสได้อย่างต่อเนื่องราบรื่น ราฟาประสบปัญหาบาดเจ็บอยู่เนืองๆ

เช่นปี 2004 มีปัญหากระดูกเท้าซ้ายแตก (stress fracture of a small bone in his left foot) ทำให้ไม่ได้เล่นคอร์ดดิน รวมทั้ง FO04, WB04 รวมทั้งโอลิมปิคที่เอเธนส์ด้วย ราฟาก็ต้องเริ่มใส่รองเท้าแบบมีหนุน(simple orthopedic shoe insoles) ตั้งแต่นั้นมา พอมาปลายปี 2005 หลังสะบักสะบอมกับการแข่งขันแบบไม่หยุดหย่อน ก็มีปัญหาที่เท้าเดิมอีกหลังจากเล่นโหด 5 เซ็ตนัดชิงที่ Madrid กับ Ljubicic ทำให้ไม่ได้เล่น AO06 ตอนนั้นปัญหาเรื่องเท้าของราฟาค่อนข้างหนัก ทำให้ราฟาเองก็ไม่มั่นใจว่าตัวเองจะกลับมาเล่นเทนนิสได้ดีอีกหรือเปล่า ไนกี้ได้ออกแบบรองเท้าหนุนพิเศษตามคำแนะนำของหมอ (more heavy-duty special orthopedic shoe insoles for support) เพื่อรักษาและถนอมเท้าให้ราฟาโดยเฉพาะ แต่ราฟาก็ยังไม่เต็มร้อย เพราะต้องปรับตัวการวิ่งเคลื่อนที่ การลงน้ำหนักตัวเวลาเล่นเทนนิส ทำให้ปัญหาย้ายจากเท้ามาเป็นหัวเข่าแทน เป็นปัญหาใหม่คือ หัวเข่า กล้ามเนื้อต้นขา

จนมาในปี 2008 ที่ราฟาประสบความสำเร็จมากทั้งปีแบบมาเทปพันเข่าทั้งสองข้างตลอด พอมาปลายปีปัญหาใหม่ คือเรื่องเข่า ก็หนักหนาสาหัสแบบต้อง retire ในการแข่งขันที่ปารีส, และต้องถอนตัวจากรายการใหญ่ Master Cup ที่เซี่ยงไฮ้ ราฟาหยุดซ่อมเข่าตอนพักปลายปี และปัญหาที่โด่งดังที่สุดก็คงไม่พ้นปี 2009 ที่ราฟาได้แชมป์ AO09 เป็นแชมป์ GS คอร์ดปูนแรกตอนต้นปี แต่ราฟาต้องมาเสียแชมป์ FO และไม่สามารถเข้าแข่ง WB09 ได้ แถมกลับมาเล่นปลายปี 09 ก็มีปัญหากล้ามเนื้อท้องฉีกอีก แม้ปัจจุบันนี้ ราฟาก็เริ่มต้นปี 2011 ด้วยปัญหากล้ามเนื้อต้นขาฉีกในการแข่งขัน AO11

จากปัญหากทารบาดเจ็บสารพัดสารพันที่กล่าวมา จึงทำให้สภาพร่างกายและความฟิตของราฟา เป็นประเด็นสำคัญเมื่อกล่าวถึงสุดยอดนักเทนนิสคนนี้ และเราก็คงลืมที่กล่าวถึงทีมงานที่ทำหน้าที่ดูแลสภาพร่างกายราฟาไม่ได้ เพราะถ้าไม่มีทีมงานที่สุดยอดทีมนี้ ราฟาอาจไม่ได้เล่นเทนนิสระดับสุดยอดให้แฟนๆได้ชมเป็นเวลายาวนานถึง 6-7 ปีแล้ว และพวกเค้าจะทำให้ราฟาเล่นเทนนิสต่อได้อีกสัก 6-7 ปีไม่แพ้เฮียเฟด

คนแรกที่เราเห็นบ่อยๆ คือ Rafa Maymó ชื่อแรกเหมือนราฟาเลย แต่เค้าเป็นนักกายภาพบำบัด (physiotherapist) หรือเรียกง่ายๆก็ประมาณ หมอนวดประจำตัว เป็นคนที่รู้จักราฟาใกล้ชิดทุกซอกทุกมุม…ยิ่งกว่าซิสก้าอีก เพราะเมโม่อยู่ในทีมงานประจำติดตามราฟาไปทุกหนทุกแห่งที่ราฟาแข่งเทนนิส ดูแลการ warm up – warm down รวมทั้งการบูรณะฟื้นฟูร่างกายประจำวัน….หมูทองเคยไปดูราฟาที่เซี่ยงไฮ้ เมโม่ ก็ไม่เคยห่างราฟาเลย แถมช่วยจดบันทึกเรื่องสำคัญๆที่โค้ชสั่งและให้ไปทำการบ้านเพิ่ม…ดูจากภายนอก หล่อขยันและซีเรียสมาก และถ้าดูจากคำพูดก็รู้ว่ารักราฟามากขนาดไหน
“Of course I read about his injuries and I try to forget about most of it. How it is with Rafa now is how it was when I joined him four years ago — the main thing for us is that Rafa is happy, fit and can play. You can’t do anything about what is written. I have the confidence of Rafa and I am confident in him. Other things are superfluous.”

คนถัดมานี่ปิดทองหลังพระสุดๆ คือ Joan Forcades คุณ Forcades เป็นอาจารย์ด้านพละศาสตร์ที่มานาคอร์ เมื่อ 20 ปีที่แล้วคุณอาโทนี่ขอให้มาช่วยคิดโปรแกรมการฝึกซ้อมให้กับหลานชายสุดเลิฟ ราฟาเอล นาดาล….และก็ติดหล่มช่วยดูแลเป็นที่ปรึกษามา และล่าสุดก็ช่วย set up โรงยิมพิเศษมีอุปกรณ์ไฮเทคต่างๆนานา (state-of-the-art gymnasium, complete with several high-tech machines for high-impact aerobic work) ทั้งนี้เพื่อให้ราฟามีสถานที่อุปการณ์ที่ดีพอสำหรับการฝีกซ้อมพัฒนาความแข็งแกร่งของร่างกายซึ่งส่วนใหญ่ราฟามีเวลายาวพอในเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนธันวาคมก่อนเข้าฤดูกาลใหม่ของแต่ละปี
คุณ Forcades แกบอกว่ายังงี้ "We work on different types of movements, with changes in speed and direction. That's how we improve his speed of movement, so Rafa can change direction quickly and easily," says Mr. Forcades. "We also use a 'bosu' [an inflatable training ball with one flat side] to work on coordination, footwork, movement and balance. Mostly we train towards more aggressive tennis to improve his footwork, coordination and explosive strength. The aim is that he doesn't wear himself out in matches."


ฝึกหนัก ก็คือ ฝึกความทนทาน ความสมดุลย์ ทำให้ราฟามีการตอบสนองที่รวดเร็ว ว่องไวและอึดนรก….ระดับ Die Hard ก็แค่จะขอบอกว่ามันไม่ได้เป็นส้มหล่น ลอยมาจากฟ้า แต่เกิดจากการทำงานหนักของราฟาและทีมงาน

"You have to work on hip strength, particularly on clay when points on last longer," says Mr. Forcades. "Resistance is very important and we have to improve Rafa's recovery time."
"Rafa works on his joints in the morning when he gets up. Then he does lots of stretching. Afterwards there is also lots of hydrotherapy where he submerges his body first in a hot bath, then in an ice bath."
มีของแถมที่ทีมงานต้องศึกษาและวางโปรแกรมให้ราฟาคือเรือง ”การกิน“ ที่ตามใจปากแบบเราๆไม่ได้ ในระหว่างการแข่งขันส่วนใหญ่จะเน้น คาร์โบไฮเดรต เราก็จะได้ยินราฟาพูดถึงแต่พาสต้า พาสต้า แล้วก็พาสต้า เสริมได้ด้วยผักสด ปลาที่เป็นของโปรด ทีมงานเค้าไม่อนุญาติให้ราฟากินเนื้อก่อนวันแข่งขัน แต่เค้ายอมให้ราฟากินของหวานสุดโปรดได้บ้างคือ ช๊อคโกแลต, บิสกิตของมายอร์ก้า Quely ที่ราฟากินมาแต่เด็ก, เค็กตำรับพิเศษของคุณย่า….ราฟาไม่เคยดื่มชา กาแฟ.. Oh my God อะไรจะเด็กดีเด็กอนามัยปานนี้

คนสุดท้ายเป็นหมอประจำตัวราฟา..Dr. Angel Ruiz Cortorro เป็นคุณหมอประจำอยู่ที่บาเซโลน่า ดูแลรักษานักกีฬาดังๆมาเยอะ และรู้จักกับตระกูล Nadal มานาน คุณหมอบอกว่าราฟาเป็นนักกีฬาพันธุ์พิเศษที่มีพลังงานล้นหลาม และกล้ามเนื้อพิเศษที่เป็นส่วนผสมของนักวิ่งเร็ว 200 เมตรกับนักวิ่งมาราธอน(42.2 กิโลเมตร)รวมกัน

"He mixes the explosive pace of a 200-meter runner with the resistance of a marathon runner," says Dr. Cotorro.

 

โดย: หมูทอง IP: 125.25.62.162 27 กุมภาพันธ์ 2554 21:03:28 น.  

 

สุดยอดมากๆครับพี่หมูทอง และขอบคุณพี่ปลาดาวมากครับ

 

โดย: Title@MCOT IP: 49.229.231.187 27 กุมภาพันธ์ 2554 22:52:33 น.  

 

เข้ามาติดตามเหมือนเคยนะครับ ขออนุญาตเอาบทความของคุณหมูทองไปปริ้นท์เก็บไว้ด้วยนะครับ เพราะแฟนสงสัยเหลือเกินว่าราฟามีอะไรดี ที่ต้องคอยตามเชียร์ ดึกๆดื่น รวมถึงเช้ามืด คงต้องเอาบทความของคุณหมูทองไปอ่านให้ฟังครับ จะได้เข้าใจ และมารักราฟาด้วยกันไปเลย

ปล ปลอดภัยสำหรับการเดินทางนะครับคุณหมูทอง

 

โดย: น้อง IP: 58.64.126.242 28 กุมภาพันธ์ 2554 12:38:01 น.  

 

อยากบอกว่า Chapter I ของราฟายังไม่จบนะจ๊ะ ขาดอีกหน่อย หมูทอง กลับบ้านดึกๆ กะว่าจะปั่นให้เสร็จภายในวันศุกร์นี้

ดีจ๊ะ คุณน้อง ของดีของราฟา มันมากกว่าเทนนิสมากมาย เป็นตัวอย่างให้กับเราในหลายๆเรื่อง แถมของดีที่ราฟามีมันถูกกระจายเปร่งรัศมีออกมาจากปากคนอื่นๆ ที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับราฟา จากพฤติกรรมการปฎิบัติตัวของราฟา....และเป็น Model ให้คนอื่นอยากเลียนแบบ

 

โดย: หมูทอง IP: 182.53.61.22 28 กุมภาพันธ์ 2554 23:58:38 น.  

 

คิดอยู่เหมือนกันครับว่าอ่านของราฟาจบเมื่อวาน เหมือนว่ายังไม่เต็ม รอติดตามแต่ไม่ต้องรีบมากนะครับคุณหมูทอง ของดี รอได้ ครับ

 

โดย: น้อง IP: 58.64.75.184 1 มีนาคม 2554 10:45:10 น.  

 

ปล บล็อคคุณปลาดาวน่ารักจัง

 

โดย: น้อง IP: 58.64.75.184 1 มีนาคม 2554 10:46:41 น.  

 

(ต่อ...ตอนสุดท้ายของราฟา ใน I. เส้นทางเดินและผู้ร่วมทาง)

นอกเหนือจากทีมดูแลเรื่องฟิตพร้อมของร่างกายตามที่ได้กล่าวมาแล้ว ราฟายังต้องการทีมงานดูแลงานเรื่องสื่อ ประชาสัมพันธ์ การตลาด รวมทั้งดูแลภาพพจน์ผลประโยชน์จากการเป็นนักกีฬาดังอีกด้วย เนื่องจากราฟาไม่มี One Stop Shopping เหมือนเจ๊เมียร์ก้าของเฟด ราฟาจึงมีคนช่วยทำงานกันเป็นทีม ประกอบด้วย

Benito Perez-Barbadillo (PR/Publicist Manager, 42) เป็นผู้จัดการดูแลด้านสื่อประชาสัมพันธ์ บางทีก็ช่วยเป็นล่ามให้ยามที่ราฟาต้องการ คนนี้แหละที่เป็น PR ให้ โนวัค โจโควิชด้วย ถ้าใครจำได้ Benito เป็นสื่อจัดการจับคู่ของมือ 1-2 ของโลก ราฟา-โนล ที่แคนาดาเมื่อปีที่แล้ว 2010…แล้วเป็นไงหละ แพ้ดาวรุ่งคู่เจ้าบ้าน Raonic ตกรอบแรกเลย

หลายคนอาจไม่รู้ว่าพ่อของราฟา Sebastián Nadal เป็นคนแนะนำเปเรสออกมาตั้งบริษัทของตัวเอง และให้งานแรกก็คือ ดูแลราฟาหลังจากที่เห็นว่าเปเรสเริ่มไม่สนุกกับการทำงานเป็นสื่อให้กับ ATP แล้ว เปเรสก็คงต้องผูกพันกับราฟาเป็นพิเศษ ส่วนโนลมาทีหลังแต่เปเรสคิดว่าโนลให้เปเรสมาทำงานเป็น PR ให้เพราะชอบผลงานที่เปเรสทำกับกรณีของราฟา

คนต่อมา Carlos Costa (Manager/Agent, 43) เป็นผู้จัดการส่วนตัว และเราจะเห็นหนุ่มหล่อคนนี้ติดตามราฟาเหมือนเงาตามตัวเลย คุณคอสต้าเนี่ยเป็นอดีตนักเทนนิสสเปนมือ 10 ของโลกตอนปี 1992 เก่งไม่ใช่เล่นนะ ตอนนี้ทำงานให้กับ IMG Agent ของนักกีฬาระดับโลกที่ทรงอิทธิพล และหนุ่มคนนี้เป็นคนที่คุณต้องติดต่อด้วยถ้าอยากได้ตัวราฟาไปเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าให้ อย่างกรณีล่าสุด ราฟาถ่ายแบบกางเกงใน กางเกงยีนส์ ให้อามานี่ แบบ Sexy สุดๆ ชอบไม่ชอบ ได้ตังเท่าไรก็ต้องถามคุณ Carlos Costa

นอกจากนี้สินค้าที่ราฟาเป็น Image สำคัญ เช่น ธนาคารใหญ่ในสเปน Banesto ก็ให้ Felipe Martin เป็นคนดูแลราฟาเลย หรือ Nike ก็มี Mr. Tuts คนที่ผมเกรียนใส่แว่นตาเดิ้นๆ มาอยู่ในทีมจนสนิมสนมกับราฟานมนาน ตามมาเชียร์ในการแข่ง GS ตลอด คุณทุดจะคอยดูแลผลิตภัณฑ์ไนกี้ เช่น มีรองเท้าแบบเท่ห์ๆ ติดชื่อราฟา และแบบพิเศษสำหรับเท้าที่ไม่ปกติของราฟา เป็นต้น

คนในเส้นทางนักเทนนิสอาชีพที่สำคัญต่อราฟามากที่สุด ก็คือ อาโทนี่(50) ที่เป็นทั้งโค้ชทั้งอา โทนี่เป็นคนพาหลานราฟารักมาลองเล่นเทนนิสตั้งแต่ 3-4 ขวบและก็กลายเป็นโค้ชให้มายาวนาน 20 ปี แบบไม่คิดตัง เพราะโทนี่ต้องการที่จะสอนราฟาได้…มี say ที่ราฟาต้องฟังในฐานะอา และเพราะอาโทนี่ต้องการจะปั้นราฟาให้ไม่ใช่เป็นนักเทนนิสที่เก่งอย่างเดียว แต่ต้องเป็นคนที่สมบูรณ์ น่ารัก มีมารยาทดี มีบุลคลิกภาพ…มี Character อาโทนี่มีความเชื่อว่าคุณภาพภายในที่ดีเหล่านี้สำคัญมาก และจะเป็นส่วนช่วยให้ราฟาพัฒนาเทนนิสในระดับขั้นเทพได้ด้วย

อาโทนี่ทุ่มเทความรักความเอาใจใส่ ส่งผ่านแนวความคิดของตัวเอง สะท้อนอยู่ในการสั่งสอนราฟาที่ประหนึ่งลูกชายตัวเอง ตัวอย่างเช่น
• จงติดดิน ทำอะไรเอง ไม่ใช้อภิสิทธิ์ที่ตัวเองมีพร่ำเพื่อ….หิ้วกระเป๋าเทนนิสเอง เอาไม้เทนนิสไปขึ้นเอ็นเอง เกี่ยพื้นคอร์ดเอง (โทนี่ไม่อยากเห็นราฟาเป็นนักเทนนิสมือ 1 ของโลก ที่สั่งโค้ชไปเรียกแท็กซี่ให้เหมือนโมย่า)

• จงถ่อมตน อย่าหลงตัวเอง….ในวันที่ราฟาได้แชมป์ GS แรก ของตัวเองคือ FO 05 ตอนอายุแค่ 19 ปี อาโทนี่ได้จดบันทึกเรื่องที่ราฟาต้องปรับปรุงแก้ไข และรีบบอกราฟาเลย โทนี่มีความเชื่อว่าความสำเร็จเกิดจากการฝีกซ้อม ทำงานหนัก และไม่มีทางลัดใดๆ ไม่ว่าเราจะมีศักยภาพ พรสวรรค์สักเท่าไร

“ I could experience that, by working hard, people can succeed more than expected. I have seen good players that have not succeed because they are lack of hard work and I have seen other normal players that have succeed by working very hard. I lived with two relatives, apparently normal, my brother Miguel Angel and my nephew. Both of them have worked hard and they have reached the elite.”

• ไม่โทษสิ่งแวดล้อมรอบข้าง ดูแลสิ่งที่ตัวเองควบคุมได้ และตัวเราเป็นผู้รับผิดชอบผลของการกระทำ….ห้ามขว้างแร็คเก็ต ฝึกเล่นในคอร์ดคุณภาพไม่ดี ลูกบอลไม่ได้ความ
"If I ever see you throw a racket, then it is over. Rackets are expensive and there are a lot of people who cannot afford them."

• นิ่ง มีสมาธิ และคิดบวก….ตอนเด็กๆ ที่ราฟาต้องแข่งแม็ทช์สำคัญ อาโทนี่ บอกราฟาว่า “Don't worry, just stay calm and relaxed. If things don't go well I will make it rain and get the game stopped.” ปรากฎว่าราฟาตามหลังคู่แข่งมาก แล้วฝนก็ตก ราฟาบอกอาว่า. ” It's OK, you can stop the rain. I think I can beat this guy.”

• มีมารยาทดี ให้เกียรติ์ผู้อื่น และสถานที่….ราฟาจะไม่อนุญาติให้แต่งตัวไม่เหมาะสมกับสถานที่ ต้องเปลี่ยนทันที ราฟาจะไม่พูดจายกตัวข่มท่าน คุยโม้โอ้อวด และอดทนต่อการรบกวน น่ารำคาญ ของผู้คนได้อย่างเหลือเชือ….ล่าสุดราฟาไปแข่งขัน DC 2011 รอบแรกที่เบลเยี่ยม มีรายการวิทยุเล่นพิเรน โดยแกล้งทำเป็นแม่ราฟาโทรศัพท์เข้าไปที่โรงแรมที่ราฟาพักตอนราฟากำลังนอนหลับอยู่ ราฟาตื่นมารับโทรศัพท์รบกวนด้งกล่าว…ด้วยความสุภาพยิ่ง แบบนึกไม่ถึงว่านักเทนนิสมือ 1 ของโลก เป็นคนดังจะอ่อนโยน ให้อภัยได้มากขนาดนี้…สาวนักวิทยุคนนี้คงปลื้มราฟากินข้าวไม่ลงไปหลายวัน

“Hello Maria del Rio on the phone”
“Hello………….and who is it?”
“ Sorry I am so excited, actually we are from the Belgian radio uno and we aren’t expecting to be able to get you on the telephone”
“I am sleeping”
“I am so sorry, very sorry but we are very happy to have you on the phone this morning”
“Yes, I was also very happy sleeping but if you don’t mind……”
“I am sorry, so sorry, one thing – would you mind coming here one morning to speak with us”
“I am very sorry but I am here to play tennis and to train and time doesn’t allow me to go anywhere”
“Not one morning”
“no no no”
“Just for half an hour”
“You will have to call the Federation and ask them.. I am here on behalf of the Federation you would have to speak to them”
“Right we’ll try through the Federation. Rest well. Bye bye”
“Thanks, Bye”

อาโทนี่คิดว่าส่วนที่ดีที่สุดของราฟาคือ “จิตใจที่เข้มแข็งเป็นนักสู้ ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ” แม้ว่าอาจะรู้ว่าราฟาเป็นเด็กมีพรสวรรค์ เรียนรู้เร็ว มีวินัย เป็นคนมีพลังงาน กระตือรืนร้นในการทำทุกสิ่งทุกอย่าง รวมทั้งกระหายที่จะพัฒนาเกมเทนนิสของตัวเองตลอดเวลา โทนี่รู้ว่าคุณสมบัติเหล่านี้เป็นคุณสมบัติของแชมเปียนส์ที่หาไม่ได้ง่ายๆ และก็สอนกันไม่ได้ง่ายๆ เช่นกัน…อาโทนี่พูดสรุป ไว้ดังนี้

"As a player, his most important asset is his fighting spirit," says Toni. "I think he has a better mental control [than the others]. You have to work on that from when you are very young. It is just the same as working on your backhand or forehand. If you only start on this when you are older, it is much more difficult. With Rafael, we have worked a lot on his intensity and mentality. Like most things in life, it is about the little details."

..............และแล้วราฟาก็กลายเป็นเครื่องปั้นชั้นดี จากช่างปั้นที่ชื่อ ”โทนี่ นาดาล”

 

โดย: หมูทอง IP: 182.53.53.51 3 มีนาคม 2554 10:23:37 น.  

 

(ต่อ)

เปลี่ยนโค้ช ?……แม้ว่าอาโทนี่จะเฮียบ เคร่งครัว วินัยจัด บางอย่างราฟาจะไม่เห็นด้วย แต่ราฟาก็ไม่ดื้อ ไม่เคยคิดปลดอาโทนี่ออกจากโค้ช เปเรสแอบกระซิบให้ฟังว่า “With Toni, Rafa might not agree all the time but there is no way he will never have a fight with him; he will never fire him.”

และแม้มีหลายคนให้ความเห็นเรื่องการเปลี่ยนโค้ช โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตอนที่ราฟาเก่งแต่คอร์ดดิน ยังไม่มีผลงานในคอร์ดอื่น ใครๆ ก็คิดว่าโทนี่น่าจะหมดมุขในการพัฒนาราฟาแล้ว แต่ราฟาปฎิเสธ เพราะรู้ว่าไม่มีใครจะรัก เข้าใจ ร่วมทุกข์ร่วมสุข และอยากให้ราฟาได้ดี ประสบความสำเร็จไปมากกว่าอาแล้ว…ที่เหลือมันจะมีหนทางเอง ราฟาตอบสั้นๆว่า "Uncle is Uncle,"

มาถึงวันนี้ วันที่ราฟาประสบความสำเร็จมากมาย ได้แชมป์ GS ครบทั้ง 4 Carrer Slam และยังเป็นคนแรกคนเดียวในโลกที่ได้ GS ครบทุกพื้นผิวติดกัน คือ FO ดิน – WB หญ้า – USO ปูน ในปี 2010….ก็ไม่มีใครถามถึงการเปลี่ยนโค้ชอีก

ในขณะที่โทนี่ก็นึกไม่ออกว่าตัวเองจะไปโค้ชใครได้อีก….มันเหมือนหัวใจ มันสมอง ทุกอย่างอาโทนี่ได้ทุ่มเทให้กับหลานรักคนนี้ไปหมดแล้ว

นอกจากอาโทนี่ ราฟามีโค้ชเสริมอีกหนึ่งคน คือ Francis Roig (43) ที่คอยดูแลราฟายามที่โทนี่มีภาระกิจ หรือหยุดพักผ่อนกับครอบครัว คุณ Roig เคยเป็นนักเทนนิสระดับ Top 60 แต่ตอนนี้ทำงานเป็น Technical Director ให้กับ Barcelona Total Tennis Academy (BBT) รอยเป็นโค้ชอีกคนที่เห็นพรสวรรค์ สิ่งที่ดีที่สุดในตัวราฟามาตั้งแต่แรก และบอกกับผู้อื่นว่า ราฟาเกิดมาเพื่อเป็นแชมป์เปียนส์

"He was born a champion," says his coach Francis Roig, who is training and travelling with the world No. 2 for the Chennai Open 2007.

ในตอนต้นปี 2007 แม้ราฟาจะเก่งมาก แต่ก็มีชื่อเสียงเฉพาะคอร์ดดิน แต่รอยก็เห็นแววดีในตัวราฟาที่จะพัฒนาได้อีกมาก…ดีสุด คือคือ “พร้อมจะฟังผู้อื่น” เพราะมันหมายถึงราฟาทำตัวเป็นน้ำไม่เต็มแก้ว ทั้งๆที่ตอนนั้นราฟาก็เป็นมือ 2 ของโลกมีสถิติที่ดีเยี่ยมเหนือนักเทนนิสทุกคน ยกเว้น โรเจอร์ เฟดเดอร์เรอ…และคุณสมบัติแบบนี้เองที่รอยบอกว่าเค้ารู้สึกเป็นเกียร์ติมากที่ได้เป็นโค้ขให้ ราฟาเอล นาดาล

"Rafa is physically and mentally very strong. He knows exactly what his good points are, what his best shot is and he plays to his strengths. He's got a good attitude and loves playing mental battles with his opponents."
"He lives for tennis," adds Roig. "He enjoys everything about the game. Rafa is not at all difficult to coach. He always ready to listen and learns things quickly; he's very fast in the mind. Nadal may be one of the youngest players around, but he’s more mature than others. He’s very sharp and eager to learn.”

นอกเหนือจากทีมงานที่ดูแลราฟาสารพัดเรื่องเกี่ยวกับการเล่นเทนนิสอาชีพแล้ว ราฟาแวดล้อมด้วยครอบครัว เพื่อนฝูง คนรู้ใจที่พร้อมจะยืนเคียงข้างราฟาไม่ว่าวันที่ราฟาชนะ หรือวันที่แพ้ วันที่ราฟาฟู่ฟ้ารุ่งเรื่อง หรือวันที่มีเรื่องเศร้าเคล้าน้ำตา ซึ่งถ้าเทียบเป็นกองทัพ ราฟาก็มีทัพหลังที่แน่นปึ๊ก พร้อมจะเป็นกันชน ศาลาพักใจ ให้ทุกเมื่อ

…เริ่มจากเพื่อนสนิทของราฟาก็เห็นกันบ่อยๆ ก็คือ Tomeu, Feliciano Lopez และ Marc Lopez ที่ราฟาเล่นคู่ด้วยจนได้แชมป์มาหลายใบ ตอนนี้ Marc ก็ตามไปช่วยเป็นคู่น๊อคให้ราฟาใน DC รอบแรกกับเบลเยี่ยมในเดือนมีนาคม 2011 ด้วย ทั้งที่ไม่ได้อยู่ในทีม DC ของสเปน..ส่วนเพื่อนใจที่ขาดไม่ได้ก็คือแฟนสาวของราฟา Maria Francisca Perello หรือชื่อเล่นว่า Xisca อายุ 22 ปี อ่อนกว่าราฟา 2-3 ปี เป็นเพื่อนโรงเรียนเดียวกัน แล้วก็เป็นแฟนกันมาตั้งแต่ปี 2006 ก็เกือบ 5 ปีแล้ว โดยมีน้องสาวเป็นแม่สื่อให้ Xisca เธอสวยน่ารัก และก็ไม่ชอบกรี๊ดกราดเป็นข่าว แถมสนิทใกล้ชิดกับครอบครัวราฟามาก โดยเฉพาะคุณย่ากับคุณแม่ราฟา ทุกๆปีหลัง WB เราจะได้เห็นซีน Xis in Bikini เล่นน้ำกับราฟาแสดงความเป็นเจ้าของนิดหน่อย ยั่วน้ำลายให้เป็นที่อิจฉาของสาวๆทั่วโลก เพราะเธอต้องเรียนหนังสือเป็นหลัง แต่ตอนนี้ก็จบปริญญาตรีด้านบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลับใน Palma แล้ว พวกเราก็ได้เห็นเธอติดตามไปเชียร์ราฟาบ่อยมากขึ้นแน่นอน…ไม่ตามติดแฟนโดนแฮบไม่รู้นะจ๊ะ Xisca ยิ่ง Hot Hot อยู่

บางที่เราอาจสงสัยว่าทีมงานของราฟา รวมทั้งแฟนสาวด้วย มีแต่หน้าเก่าๆ เห็นมาตั้งแต่ตอนราฟายังเด็กวัยรุ่น 4-5 ปีที่แล้ว วันนี้ก็ยังเป็นคนเดิมๆ อะไรกันนะที่ยึดโยงพวกเค้าไว้ให้อยากทำงานของตัวเองให้ดีที่สุด และร่วมมือกับคนอื่นๆ สร้างสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นในทีม เพื่อวัตถุประสงค์เดียวคือ อยากให้ราฟาประสบความสำเร็จสูงสุด…มันไม่ใช่ค่าจ้าง แต่เป็นตัวของราฟาเอง

* เมโม่หนุ่มนักกายภาพของราฟามันเกือบ 5 ปีแล้ว บอกว่า “Rafa does all that he has to do to be, if not the No 1, one of the best in the world,” Maymo said. “We try to help him but the main and only important person there is Rafa.”
Costa ผู้จัดการส่วนตัว บอกว่า “Rafa gives things to many people with his tennis,” he said. “He is incredibly easy to work with. I do not think that is always typical in tennis.”

* ส่วน Perez คนดูแลเรื่องสื่อประชาสัมพันธ์ของราฟา บอกว่า “We are family,” Pérez-Barbadillo said. “That’s good and it can be not good, but that is our relationship. There is so much we do for one another that is not in the job description.”
“Rafa is a dream to work with because he understands the work, he gets it,” Pérez-Barbadillo said. “He’s a nice guy, easy to work with. I don’t even have to brief him on things. He says whatever he wants. I just tell him what the situation is. He trusts his team to do their best for him.”

และท้ายสุด ที่พักพิงสำคัญที่สุดของราฟา ก็คือ “ครอบครัว” ราฟาจะพูดถึงบ้านที่มาร์ยอก้า ตลอดเวลา และด้วยน้ำเสียงที่สะท้อนถึงความรัก คุณค่าความสำคัญของทุกคนในครอบครับ

….."Whenever I can I spend time with my family and friends at home. For me, that is simply the best, I enjoy every minute of it,"

ราฟาชอบกินกับข้าวที่คุณแม่ทำ กินเค็กสูตรต้นตำรับของคุณย่า ราฟาซี้ปึกกับนัองสาวสุดเลิฟ แล้วก็ชอบดนตรีเหมือนคุณปู่…ราฟาเป็นนักกีฬาอาชีพเหมือนคุณอาคนเล็ก และมีอาคนรองเป็นโค้ชให้ ดูๆไปก็เหมือนชีวิต ก็คือกิจกรรมครอบครัว…เป็นฟันเฟื่องสำคัญ เป็นสายใยเบื้องหลังให้แชมป์เปียนส์สร้างตำนานอันยิ่งใหญ่ไร้เทียมทานได้…อยู่เคียงข้างร่วมสุขยามราฟาได้ถ้วยแชมป์ ได้รางวัลเกียรติยศต่างๆนานา เป็นขวัญกำลังใจยามที่ราฟาต้องต่อสู้ในการแข่งขันอันเข้มข้น และช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิต

ยกตัวอย่างในปลายปี 2005… ราฟาบาดเจ็บ มีปัญหาเรื่องเท้าซ้ายหนักมากระดับแทบเดินไม่ได้ ต้องใช้ไม้เท้าค้ำยัน ราฟาทุกข์ใจมากและกังวลว่าจะไม่สามารถมาเล่นเทนนิสได้อีก พ่อของราฟาสอนว่าในชีวิตนี้ไม่ได้มีเทนนิสเพียงอย่างเดียว เราสามารถมีสิ่งดีๆ อีกมากมายในชีวิตของเรา…และนั่นมันก็ทำให้เรามีความสุขได้เสมอ
และถ้าใครจำได้ตอนราฟาได้แชมป์ FO ปี 2006 ราฟาดีใจมากๆ กระโจนเข้าไปหาคุณพ่อ…และเราก็ได้เห็นภาพราฟาในอ้อมกอดอันอบอุ่นของคุณพ่อ…และมันคือความรักอันยิ่งใหญ่

 

โดย: หมูทอง IP: 182.53.53.51 3 มีนาคม 2554 10:28:28 น.  

 

จบตอนแรกของทั้งสองเพพแล้ว....อาจอ่านเหนื่อยเลย
ยินดีรับฟังคำวิพากษ์วิจารณเพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้น

เดี๊ยวคงต้องอีกพักก่อนจะมี Chapter II. เกมเทนนิสที่แสนแตกต่าง

ยิ่งใครๆ เค้าบอกว่าหมดยุคเฟด-ราฟา แล้ว ก็ยิ่งทำให้อยากเก็บเรื่องราวรายละเอียดของสองเทพนี้ไว้ให้ผู้คน เพราะส่วนตัวดูเทนนิสมายาวนาน ไม่คิดว่ามีใครเป็นที่สุดของแจ้เท่าสองหนุ่มนี้แล้ว

 

โดย: หมูทอง IP: 182.53.53.51 3 มีนาคม 2554 10:37:55 น.  

 

สวดยอด...ครับ แล้วอย่างนี้ใครจะมาแทนที่ราฟาได้

 

โดย: น้อง IP: 1.47.103.192 5 มีนาคม 2554 21:18:21 น.  

 

ตอน 2 : เกมเทนนิสที่แสนแตกต่าง

ส่วนของชีวิตที่สำคัญ ถือเป็นโชคชะตาฟ้าลิขิตที่ทำให้สองเทพเวียนว่ายมาเจอกันก็คือการเข้ามาเป็น “นักเทนนิสอาชีพ” ถ้าราฟาเกิดเลือกที่จะเป็นนักฟุตบอลตอนพ่อบังคับให้เลือกเล่นกีฬาเพียงอย่างเดียว เราก็คงไม่เห็นเรื่องราว “เฟดเดอร์เรอ-นาดาล” ให้กล่าวขานระดับตำนานในประวัติศาสตร์วงการเทนนิสโลก และที่น่าทึ่งทำให้เรื่องราวมีสีสรรไม่เหมือนนักเทนนิสอื่นๆ ก็คือ สองเทพ คือ สองขั้ว เป็นเหมือนหยินกับหยาง, เหมือนฟ้ากับดิน, เหมือนขั้วโลกเหนือกับขั้วโลกใต้, เหมือนสีขาวกับสีดำ, เหมือนเพลงแจ๊สกับเพลงร๊อค…เป็นอะไรที่ไม่เหมือนกันสุดๆ แต่บอกไม่ได้ว่าอะไรจะดีกว่ากัน ดังนั้น เฟดเดอร์เรอ-นาดาล จึงเป็นหัวข้อถกเถียงไม่มีวันสิ้นสุด เพราะอะไร ? เพราะของสุดขั้ว ถ้าเราเลือกอยู่ข้างใดข้างหนึ่ง มันเป็นเรื่องของรสนิยม ความชอบในสไตส์ และเราก็จะมีเหตุผลนานับประการมาอธิบายความชอบของเรา….รักใครชอบใครก็ไม่ผิด ถือว่านานาจิตตัง

Roger Federer

เฟดถือเป็นนักเทนนิสระดับสร้างตำนาน สถิติต่างๆนานา ที่คงหาคนมาลบได้ยากมากๆ ไม่ว่าจะเป็น เจ้าของแชมป์ GS มากที่สุด 16 ถ้วย, การครองมือ 1 ของโลกติดต่อกัน 237 อาทิตย์, การได้ชัยชนะบนคอร์ดหญ้า และคอร์ดปูนติดต่อกันสูงสุด 65 และ 56 แม็ทช์ตามลำดับ เป็นต้น ซึ่งแสดงถือความสุดยอดแบบสม่ำเสมอต่อเนื่องโดยเฉพาะในปี 2005-7 เฟดเป็นดั่งเทพเจ้าเทนนิสที่แฟนเทนนิสแทบไม่ต้องดูแม็ทช์การแข่งขัน ก็มั่นใจผลว่าเฟดจะชนะแน่นอน…เฟดเก่งมาก ไม่ใช่นับแต่ผลของการแข่งขัน แต่รูปแบบการเล่นเทนนิสยังเป็นที่ประทับใจแฟนเทนนิสทั่วโลก เพราะเฟดมีอาวุธที่หลากหลาย การเคลื่อนไหวพริ้วสวยงาม...คู่ต่อสู้อาจจะมองดูความงามของลีลา จนโดนเชือดเลือดสาดไปแล้วยังไม่รู้ตัวเลย...มึนงงว่า อ้าวตูแพ้แล้ว (ถ้าประสบการณ์น้อยๆแบบน้องเดลตอนรุ่งใหม่ๆ...ก็อาจออก 6:0 6:0 สองเซ็ตซ้อนที่ AO09) เฟดได้รับการกล่าวขานว่า เป็น GOAT Greatest od All Time

และเนื่องจากยุคก่อนหน้าเฟด สไตส์เทนนิสที่รุ่งเรืองคือ “serve & valley” ของนักเทนนิสอเมริกัน นำโดย พีท แซมพราส ครองความรุ่งเรื่องเป็นเวลายาวนานในยุค 1990 ลักษณะเด่นของเกมเทนนิสจะพึ่งพาเสริฟอย่างมาก พอเสริฟตูมแล้วตามไปซัดวอลเล่ย์หายเลย ไม่ต้องมีลีลากลยุทธ์อะไรมากมาย ไม่ต้อง rally เยิ่นเย่อยาวนาน เกมจะสั้นมากดูแป๊ปเดียวจบ แฟนๆเทนนิสหลายคนไม่ชอบแบบนี้ก็หันไปดูเทนนิสผู้หญิงให้ Steffi Graf ซัดกับ Monica Seles มันส์กว่าเยอะ…นักเทนนิสอเมริกันที่ครองอาณาจักรความรุ่งเรืองมาได้ยาวนาน แต่ทำได้ดีเฉพาะคอร์ดเร็ว คือ หญ้ากับปูน แต่มีจุดอ่อนในคอร์ดดิน เพราะเสริฟดีได้เปรียบน้อยสุดบนคอร์ดนี้ แต่ทักษะอย่างอื่นสำคัญกว่า

ในปี 2001….มีสัญญานการแจ้งเกิดของเทพเฟดบนคอร์ดหญ้า…WB เฟดโคจรมาเจอกับพีทในรอบ 16 คน แล้วเฟด เด็กหนุ่มวัย 20 ก็ล้มพีทเจ้าพ่อคอร์ดหญ้าด้วยการเล่น 5 เซ็ตแบบสกอร์บาดใจ 7-6(7), 5-7, 6-4, 6-7(2), 7-5 วันนั้นพีทก็รู้ว่าราชาคอร์ดหญ้าคนใหม่เกิดขึ้นแล้ว ในปีนั้นเฟดเข้าถึงรอบ QF แล้วไปแพ้ Tim Henman แบบสูสี 3:1 เซ็ต….และอีกสองปีถัดมาเฟดก็มาเอาแชมป์ WB ได้เป็นครั้งแรกได้ในปี 2003 และก็ได้แชมป์ WB ต่อเนื่องมา 5 ปีจนถึงปี 2008 ที่เราได้ดูนัดชิงประวัติศาสตร์ของสองเทพ เฟด-นาดาล…ราฟาได้แชมป์ WB เป็นครั้งแรกและเหมือนกับจะบอกว่าเค้าก็เป็นเทพเทนนิสอีกคนหนึ่งของวงการ

จากลีลาเทนนิสของเฟดที่แตกต่างไปจากพีทโดยสิ้นเชิง หรือแม้แต่ อังเดร อกัสซี่ คู่ปรับพีทเจ้าตำรับเกมจาก Baseline ใช้ Rising ball & Passing shot ที่มีประสิทธิภาพ ทรงพลังและสวยงาม…แต่เหมือนรูปแบบเกมเทนนิสของเฟดเหนือชั้นกว่าพีทและอังเดรไปอีกขึ้นหนึ่ง มีการผสมผสานจุดแข็งของสองแชมเปียนส์ ให้มีเกมบุกนำ โดยมีเสริฟที่ดี เป็นรากฐานของเกม แม้เกมของเฟดยังเป็น Baseliner อยู่แต่ก็มีการผสมผสานการเคลื่อนที่ครอบคลุมพื้นที่คอร์ดอย่างรวดเร็วสวยงาม มีทักษะกลยุทธ์ในการเลือกอาวุธหลายหลาก (shot selection) ที่นำมาซึ่งความได้เปรียบ เพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้ได้อย่างสวยงาม เบ็ดเสร็จเด็ดขาด อาวุธหลักของเฟดที่ทรงอานุภาพก็คือ เสริฟและ FH ที่นำมาสรรสร้างเกมบุก รูปแบบเกมบุกก็ต้องกล้าเสี่ยงพอควร ทำให้ UE จะมากเป็นเงาตัวตาม

เกมสไตส์นี้จึงต้องวัดและแลกกันระหว่าง Winner กับ UE ผู้ที่ใช้รูปเกมนี้ได้ดีจึงต้องคุมเสริฟ คุมระดับความเสี่ยง ถือเป็นรูปแบบเกมที่มีประสิทธิภาพมาก ใช้พลังงานน้อย ได้ผลลัพธ์สูง จะเห็นได้ว่าตอนเฟด Top Form จะแม่นมาก ยากมากๆที่จะเอาชนะเฟดได้ รูปแบบเกมนี้ต้องใช้ทั้งพรสวรรค์ (ทั้งด้าน Motion ในทุกการเคลื่อนที่ เสริฟ FH BH Volley Drop-Shot Smatch ที่ถูกต้องสมบูรณ์แบบ ไร้ที่ติ กินแรงน้อย บวกกับมันสมองเชิงเทนนิสในการผสมอาวุธปรับกลยุทธเพื่อจัดการกับคู่ต่อสู้ได้ทุกรูปแบบ) รวมกับพรแสวง (ต้องฝึกฝนหนัก เพื่อให้อาวุธแต่ละอย่างทรงพลัง มีประสิทธิภาพ และโดยส่วนตัวคิดว่าเฟดทุ่มเทกับการฝีกซ้อมไม่น้อยไปกว่านักเทนนิสชั้นนำคนอื่นๆ รวมทั้งไม่มีวอกแวกเอาใจออกห่างจากเทนนิสเลย….เพียงแต่ไม่ได้มาโม้เท่านั้น มีแฟนยังต้องเป็นนักเทนนิสเลย เพื่อให้เข้าใจไว้คุยเทนนิสรู้เรื่อง) และนั่นก็เป็นเหตุผลเพียงพอที่เฟดจะได้รับสมญานามว่า “Geneius of Tennis”….และรูปแบบเกมเทนนิสที่สมบูรณ์แบบของเฟดที่ขอเรียกว่า “Elegance Tennis” นั้นสามารถใช้เป็นทฤษฎีมาตราฐานสำหรับตำราสอนเทนนิสได้เลย

 

โดย: หมูทอง IP: 180.180.101.145 11 มิถุนายน 2554 17:28:34 น.  

 

Rafael Nadal

ราฟาถือเป็นเทพเทนนิสระดับสร้างตำนาน สถิติต่างๆนานา และก็คงหาคนมาลบได้ยากมากๆ เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น เจ้าของแชมป์ GS สามพื้นผิว ดิน-หญ้า-ปูน ติดกัน(FO-WB-USO 2010) และยังได้ Goldern Slam คือ GS ทั้ง 4 สนามและเหรียญทองโอลิมปิค(Beijing 2008) นอกจากนี้ราฟายังร่วมทีมกวาดแชมป์ DC ทีมชาติสเปนถึง 3 สมัย(2004, 2008 และ 2009) แถมด้วยการได้ชัยชนะบนคอร์ดดินติดต่อกันสูงสุด 81 แม็ทช์ และเป็นแชมป์ FO 6 สมัยสูงสุดเท่ากับบอร์ก และแชมป์รายการ ATP-1000 7 ปีติดกันที่ MC และได้ Clay Slam ในปี 2010 (แชมป์ ATP-1000 + GS คอร์ดดินทุกรายการ)….ซึ่งแสดงถือความสุดยอดของนักเทนนิส โดยเฉพาะคอร์ดดินที่ราฟาเป็น King of Clay มาตั้งแต่ปี 2005 สถิติต่างๆที่กล่าวมา ก็เป็นสถิติที่ไม่รู้อีกกี่สิบปีจะมีใครมาลบได้ เนื่องจากความสม่ำเสมอต่อเนื่องบนคอร์ดดิน โอกาสในการชนะบนคอร์ดดินมากกว่า 92% ทำให้อัตราต่อรองในการได้แชมป์ FO ของราฟาสูงมากระดับ 4:1 หรือแทง 4 บาทได้แค่บาทเดียวมาโดยตลอด ซึ่งถือเป็นเรื่องผิดปกติมากในวงการต่อรองที่อาศัยความเป็นเป็นได้พยากรณ์ผลล่วงหน้า…หรืออีกนัยหนึ่งมันแปลว่า ชัยชนะของราฟาบนคอร์ดดิน เป็นความชัวร์แน่ยิ่งกว่าแช่แป้ง….แต่ถึงวันนี้ราฟาก็ไม่เคยหยุด พอใจอยู่แค่การเป็นเจ้าพ่อคอร์ดดิน เค้ารู้ว่าถ้าเรามานะ พยายาม ปรับปรุงพัฒนาเกมเทนนิสของตัวเองก็สามารถขึ้นสู่งสุดยอดได้ในทุกคอร์ด

รูปแบบเกมเทนนิสของนาดาล เป็น “Powerful Tennis” เกมรับนำ ที่ถูกสร้างสรรขึ้นมาคู่ขนานกับ “Elegance Tennis” ของเฟด ในระยะแรกๆ คือในช่วงปี 2004-2007 เกมของราฟาปักหลักเกมรับอยู่ที่ Baseline มีอาวุธหลักคือ FH Heavy Top spin และอาศัย footwork ที่ไม่เป็นสองรองใคร ทำให้ราฟาเคลื่อนที่ครอบคลุมทั่วคอร์ดอย่างรวดเร็ว และเนื่องจากใช้เกมรับนำ จึงเน้นความเหนียวแน่น แน่นอนสูง UE จะต่ำมาก Winner ก็ไม่มากเช่นกัน เน้นเอาชัวร์ไว้ก่อน แต่ก็สามารถเปลี่ยนจากรับ เป็นรุกได้เสมอจะทำ Winner ต่อเมื่อโอกาสอำนวย เท่านั้น….เนื่องจากมีเกมรับนำ ความอดทน ใจเย็นรอคอยจังหวะ และความใจสู้ ไม่ยอมแพ้ พร้อมจะยืดเยื้อเมื่อเจอคู่ต่อสู้เก่งๆ เหนียวๆ จึงเป็นหัวใจของความสำเร็จ และก็เห็นชัดเมื่อต้องไปสู้กับคู่ต่อสู้เกมบุกก็สามารถเอาชนะได้ แม้ว่าในช่วงแรกจะทำงานได้ผลดีมากๆในคอร์ดดิน แต่ถ้าเป็นคอร์ดเร็วราฟาก็ยังเป็นรองอยู่

แต่ในปี 2008 ราฟาได้ปรับปรุงรูปแบบเกมของตัวเองให้มีส่วนผสมของเกมบุกมากขึ้น โดยการปรับเสริฟ เพิ่มเกมหน้าเน็ท โดยการใช้วอลเล่ย์อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังไปฝึกการใช้อาวุธ BH cross court แบบ flat ที่มีการฉีกมุมกว้าง เป็นการดึงคู่ต่อสู้ให้เสียหลักออกนอกคอร์ด เมื่ออาวุธมีหลากหลายขึ้นก็กล้ายิง Winner เสี่ยงๆมากขึ้นโดนยอมให้มี UE มากขึ้นเช่นกัน จากการปรับปรุงเกมดังกล่าวทำให้ราฟาเอาชนะเฟดได้ในแกรนสแลมคอร์ดหญ้าวิมเบอร์ดัน 08 และคอร์ดปูน ออสเตรเลียนโอเพ่น 09 และล่าสุดราฟาก็ได้แชมป์ USO10 มาครอง ทำให้เกมเทนนิสของราฟาตอนนี้ครบเครื่อง และสามารถชนะทุกคนได้ในทุกพื้นผิว

และก็เช่นเดียวกันกับเกมของเฟด……รูปแบบเกมเทนนิสของราฟาก็พิเศษสุดใม่มีใครเหมือน ไม่เหมือนใคร ต้องใช้ความสามารถระดับยอดเยี่ยม ทั้งพลังกำลัง ความมานะอดทน พรสวรรค์พรแสวงมากมาย กว่าจะมายืนอยู่บนยอดเขาได้….(ใครที่คิดว่าราฟาไม่ค่อยมีพรสวรรค์ ถึงวันนี้ก็คงต้องคิดใหม่หลังจากได้ดูนัดชิง FO 10 และ FO11 โดยส่วนตัว คิดว่า ทักษะและมันสมองด้านเทนนิสของราฟาไม่เคยเป็นรองใคร) แต่สิ่งที่ต้องบันทักไว้คือ เกมของราฟา unique มาก…เป็นนักเทนนิสมือซ้าย, ใช้ BH สองมือที่มีพลังเพราะราฟาถนัดขวาด้วย, มีวง FH top spin ที่หมุนขึ้นไปรอบหัว, มีร่างกายที่ฟิตและยึดหยุ่นสมดุลย์ ทำให้ footwork การเคลื่อนที่และการทรงตัวยอดเยี่ยมสามารถเอื้อมไปเกี่ยวบอลจากจุดที่ไม่น่าถึงได้อย่างเหลือเชื่อ

เกมเทนนิสราฟานั้นจะเป็นสไตส์ “งูรัดเขียด” คือค่อยๆบด ค่อยๆเบียด ค่อยๆทุบ...อย่างใจเย็น และเลือดเย็นด้วย แถมบางที่ใจร้ายด้วยการสร้าง shot พิศดารที่สร้าง surprise บั่นทอนกำลังใจคู่ต่อสู้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ คือ เหมือนคู่ต่อสู้จะรุกได้เปรียบสุดๆ ราฟาเสียจังหวะ น่าจะแย่เสียแต้มชัวร์ๆ ราฟาก็เปิดก๊อกสี่ ก๊อกห้า วิ่งไปเกี่ยวลูกไม่น่ารับได้มาได้อย่างเหลือเชื่อ ….เกมทันมาคู่ต่อสู้ก็ใจเสีย เกมเทนนิสรวนหมด เสริฟแรกมาดีๆ ก็หายไป และรู้สึกเหนื่อยใจ รู้สึกถึงงานหนักกว่าจะเอาแต้มจากราฟาแต่ละแต้ม ราฟาเอาชนะคู่ต่อสู้ด้วยอาวุธที่ทรงอานุภาพสุดคือ ” หัวใจที่ไม่ยอมแพ้ ” หรือ Fighting Spirit ที่ไม่เคยจืดจางตลอดเวลาร่วม 10 ปีในวงการเทนนิส (ราฟามีประวัติตามที่แต้ม 1:5 แล้วกลับมาชนะที่ 7:5..... แบบเหลือเชื่อ หรือแม็ทช์กับนาลบี้เจอเข้าไป 5 MP แล้วกลับมาชนะเซ็ตสุดท้ายด้วยสกอร์ 6:0 ที่ IW09 และล่าสุดที่ FO11 ตามอยู่ 1:5 คู่ต่อสู้เสริฟแต้มอยู่ที่ 40-0 เจอ 3SP แล้วตามกลับมาชนะไทร์เบรก 7:6(4) เจอทั้งหมด 8 SP ....ก็เหลือจะเชื่ออีกเช่นกัน)

โดยสรุปเกมเทนนิสของราฟาจีงเหมือนเกมนอกตำรา เป็น Outsider ที่ยากและต้องใช้ดุลพินิจในการเลียนแบบ เพราะอาจเจ็บตัวได้…เฟดบอกผู้สื่อข่าวหลังการเล่นกับราฟานัด SF ที่ Miami 2011 ว่า
“ Rafa is such a unique player in terms of how he plays that he always makes it difficult for any player. I was determined and trying to cut down the length of the rallies, taking the ball early, serving well and mixing it up well and then a few specific details I'm not going to share but I wasn't able to do it tonight; Rafa was able to do his game plan, and he deserves to be in the finals.”

 

โดย: หมูทอง IP: 180.180.101.145 11 มิถุนายน 2554 17:55:57 น.  

 

ยังไม่จบนะ...บทต่อไป "สองเทพต่างสไตส์มาเจอกัน"

คนเขียนไม่อยากกดดันตัวเองเกินไป ปีนี้ไม่รู้เป็นไงเดินทางบ่อยมาก สมาธิในการเขียนก็เลยน่อย

 

โดย: หมูทอง IP: 180.180.101.145 11 มิถุนายน 2554 18:29:01 น.  

 

อ่านเรื่องราวราฟา ได้ไม่เบื่อเลย
ขอบคุณครับ

 

โดย: คนตะวันออก IP: 161.200.139.241, 161.200.139.237 13 มิถุนายน 2554 14:24:29 น.  

 

Many thnx, Khun Moothong. Look forward to the next chapter already. No pressure though. Cheers!

 

โดย: Neutral Viewer IP: 58.9.19.113 17 มิถุนายน 2554 19:59:28 น.  

 

อิ่มเลย ขอบคุณมากครับคุณหมูทอง เรื่องดีๆแบบนี้ครึ่งปีมาทีนึงก็ยังรอไหว เป็นกำลังใจให้คุณหมูทอง ต่อไปครับ

 

โดย: น้อง IP: 192.168.100.19, 180.183.121.147 18 มิถุนายน 2554 23:16:29 น.  

 

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและให้กำลังใจ ไม่รู้จะแก้ตัวยังไง...แต่เป็นโรคจิตเล็กๆ คืออยากเชียนเรื่องของสองคนนี้ให้ดีมากๆ สมกับความเจ๋งของทั้งคู่จ๊ะ

ติดตามตอนต่อไปเร็วๆนี้ คาดว่าจะได้ฤกษ์อยู่กับที่สัก ระยะหนึ่งแล้ว

 

โดย: หมูทอง IP: 125.27.44.136 14 สิงหาคม 2554 15:11:28 น.  

 

โอ้ หมูทองจบ Chapter III สักทีนะจ๊ะ ขอโทษด้วยว่าช้าาาาาาา มากกกกกกกกกกกกก แต่ถือว่าทำเสร็จในปีนี้ละกันเนอะ

==========================
III. สองเทพต่างสไตส์มาเจอกัน

คงเป็นสิ่งที่โลกเทนนิสต้องจดบันทีกไว้ถึงเรื่องราวที่สองเทพเทนนิส เฟดเดอร์เรอ-นาดาล มาเจอกัน ทั้งคู่เป็นนักเทนนิสสระดับโลกที่มีสไตส์แสนจะแตกต่างกันสุดขั้ว แต่มีเรื่องที่คล้ายกันมากในวิชาชีพ คือ ความมุ่งมั่น มีวินัยสูง และพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา ในเกมทั้งคู่มีสมาธิดีเยี่ยม นิ่ง ไม่หงุดหงิดโหวกเหวกโวยวาย มีความรักอันมั่นคงอยู่กับเกมเทนนิส ผ่านอุปสรรค บทพิสูจน์มากมายตลอดเวลาอันยาวนานทั้งในคอร์ด นอกคอร์ด ทั้งคู่ได้ร่วมกันสร้างสถิติตำนานต่างๆ ไว้ให้วงการเทนนิสต้องจดจำ และก็ยังไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไหนจึงจะมีใครมาลบสถิติเหล่านี้ได้ แม้ว่าทั้งคู่ต่างก็เป็นคนหยุดสถิติของกันและกัน แต่ดูเหมือนว่าทั้งคู่เกิดมาเพื่อกันและกัน เติมเต็มสร้างความสมบูรณ์ให้แก่กันและกัน และให้กับเกมเทนนิสในยุค 2000 ด้วย นึกไม่ออกจริงๆว่า มีเฟด ไม่มีราฟา…หรือมีราฟา ไม่มีเฟด วงการเทนนิสจะจืดชืด ขาดสีสรรไปขนาดไหน…

ถ้าฉายภาพ flashback กลับไปที่ปี 2004 ปีที่ Roger Federer ในวัย 22-23 เข้ายึดพื้นที่แชมเปียนส์เทนนิสอย่างชัดเจน 3 GS + 3MS ดับรัศมีของนักเทนนิสรุ่นเก่าอย่างพีท อากัสซี่ ซาฟิน ฮิววิต เฟอร์เรโร หรือแม้กระทั่งร๊อดดิดนักเทนนิสดาราร่วมรุ่นอย่างสิ้นเชิง เฟดฉายราศีของนักเทนนิสหนุ่มสวิสหน้าตาดี ดูสะอาด สุภาพเรียบร้อย แถมด้วยลีลาเทนนิสที่พลิ้วไหว, FH ทรงพลัง, เกมผสมผสานรุกรับ ดูยังไงไม่มีเบื่อ แถมเฟดเริ่มชนะบ่อยๆ เชียร์มันส์ไม่มีผิดหวัง เฟดได้กลายเป็นนักเทนนิสขวัญใจของแฟนๆทั่วโลก…แบบไร้เทียมทาน (หาคนเทียบ…ไม่มี)

แต่ถ้าใครสังเกตดีๆ จะพบว่าในปี 2004 นี้มีเด็กหนุ่มชาวสเปนจากเกาะมาร์ยอก้า ผมยาวโพกผ้า เสื้อแขนกุดสีเจ็บๆ อายุแค่ 17-18 ปี…Rafael Nadal นักเทนนิสหนุ่มที่โดดเด่น มองเห็นแต่ไกลว่าไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร…ที่ Miami ราฟาเอาชนะเฟดในการพบกันครั้งแรกแบบสองเซ็ตรวด 6-3, 6-3 บนคอร์ดปูน ในตอนนั้นคงมีแต่ตัวเฟดเองที่เป็นมือ 1 ของโลกหมาดๆ ที่รู้ว่าเค้าได้พบกับคู่ปรับตัวฉกาจเข้าแล้ว เฟดรู้ว่าเด็กน้อยยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม มืออันดับ 36 คนนี้เป็นของจริง เพราะถ้าไม่แน่จริงก็เอาชนะเค้าไม่ได้(แม้ว่าจะไม่ฟิต 100%)…คนที่ช่างสังเกต เข้าใจเกมเทนนิส คงได้เห็นเกมเทนนิสที่แน่น ละเอียด พื้นฐานดี แม้ว่ายังมีจุดอ่อนเรื่องเสริฟอยู่บ้าง วันนั้นราฟาเล่นเทนนิสได้ดีมาก ไม่เจอ BP เลย, 81% 1st serve, เล่นหน้าเน็ทได้แต้ม 13 ใน 14….ที่สำคัญจริงๆ คือราฟาเล่นเทนนิสแบบ “ไม่กลัวแพ้ ” สู้ทุกลูก มีสมาธิเล่นเทนนิสดีมาก ยืนสู้กับเฟดที่เป็นมือ 1 ของโลกได้อย่างน่าดู…แสดงคุณสมบัติด้านจิตใจที่แข็งแกร่ง ราฟาคงไม่คิดฝันว่า เฟดคือคนที่เค้าต้องเจออีกมากมายหลายแม็ทช์สำคัญๆต่อมา

 

โดย: หมูทอง IP: 125.25.139.149 12 ธันวาคม 2554 16:03:32 น.  

 

(ต่อ)

เฟดให้สัมภาษณ์บอกรายละเอียดของการตีลูกเทนนิสของราฟาว่ามันไม่เหมือนใคร เป็นความ unique และพิเศษที่ยากจะจัดการ โดยเฉพาะ FH top spin ที่อันตรายมาก รวมทั้งความเร็วในการเคลื่อนที่ครอบคลุมทั้งคอร์ด ราฟามีรังสี มี fighting spirit ในระดับของคนที่จะเป็นแชมป์เปียน ทรงเทนนิสมีกลิ่นอายคล้ายๆ ฮิววิตอดีตมือ 1 ของโลกปี 2001-2 เฟดได้พยากรณ์ตั้งแต่วันนั้น วันแรกที่ประทะมือกับราฟาแล้วว่า ราฟาเป็นดาวรุ่งมีฝีมือ ถ้ายืนหยัดได้อีก 3 ปี เค้าจะขึ้นมาเป็นแชมป์เปียนที่ยิ่งใหญ่ได้…เฟดยังรู้สึกได้ว่าราฟามีความชื่นชมเคารพเฟดอยู่มากและเฟดเองก็ดูจะเอ็นดูน้องใหม่คนนี้พอควร

Q. Were you surprised how aggressive he did come out? It seemed like every shot he was hitting was perfect.

ROGER FEDERER: He doesn't hit the ball flat and hard. It's more with a lot of spin, which makes the ball bounce, bounce high, and that's a struggle I had today. I tried to get out of it, but kind of couldn't. I thought in the beginning I maybe wasn't going for my shots enough, where in the end I thought I was hitting the ball better. But I felt the match maybe kind of went his way, and, you know, he hit some really incredible shots. That's what youngsters do, so... (Laughter).

Q. Are you surprised such a young guy could come at you like that?

ROGER FEDERER: No, no, I'm not surprised. I've heard a lot about him and saw some matches of him. I think this is not a big surprise for everybody.

Q. What do you think is the biggest weapon Nadal has?

ROGER FEDERER: I think his forehand, you know, is for sure his biggest shot in his game, and his all-court speed.

Q. It was great. His attitude today, I mean. Could you imagine you at 17 years old...

ROGER FEDERER: Well, we have to get a tape when I played Moya, Moya in Marseille when I was 17. But I think, you know, he's a different character on the court. He relies much more on his fighting spirit, like Lleyton does a little bit, you know, I compare him at his age. So, you know, everyone has their attitude. I think it's a definite good one to have very much success early in his career.

Q. As the world No. 1, still only 22, does it frighten you that he is almost five years younger than you?

ROGER FEDERER: Well, what can you do (smiling)? I think he's put a lot of hard work into his game. We all know that, you know, the youngsters from today - because we feel young, but there's always younger players than you, and, you know, we all remember when we were 17, we already felt we were great players. Then suddenly, you're around for a few years and you feel like, "Well, now I've proven it to everybody I'm a good player." It's totally different view of the game, especially I think interesting are the first three years. So I think he's enjoying his tennis. That's exactly what he should do. We'll see how strong he will be in two years. But, I mean, the start to his career so far has been incredible.

Q. Did you sense that he was nervous at all? Did you see that in him?

ROGER FEDERER: No. In the beginning maybe little bit, when you walk on court. I think he's kind of a little bit shy, you know, on court. He looks at me as an incredible great player, you know. I just felt more of a respect level than nerve.

และนี่คือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ สองเทพเทนนิส เฟด-ราฟา……ไม่น่าเชื่อว่า คำพูดของเฟดแม่นมาก…..เพราะมันเป็นอย่างที่เฟดพูดในวันแรกพบนั้นจริงๆ

 

โดย: หมูทอง IP: 125.25.139.149 12 ธันวาคม 2554 16:09:35 น.  

 

(ต่อ)

จากบทเริ่มต้นปี 2004 เข้ามาสู่ปี 2005 ราฟาในชุดคาปรี กางเกงขายาว…ยาวกว่าชาวบ้าน ได้ดินแดนคอร์ดดินแบบเป็นเรื่องเป็นราว พร้อมกับสมญานาม King of Clay หลังกวาดแชมป์คอร์ดดินแบบไม่แบ่งคนอื่น แล้วก็เอาแชมป์ FO 05 จากการเข้าเล่นครั้งแรกตอนอายุแค่ 19 ปี ส่วนเฟดก็ชัดเจนว่าเป็นเจ้าพ่อคอร์ดหญ้ากับคอร์ดปูนแบบไม่เกรงใจใครเช่นกัน สถิติชนะ-แพ้ 81-4 เป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก นี่ยังไม่นับการล่าแชมป์ GS ทุกสนาม ปีละ 2-3 สแลม สถิติต่างๆนานาที่เฟดตั้งตกตั้งใจลุยล่าถ้วยแชมป์…..สนุกเหมือนการสะสมแต้มแลกของแถม

ตามมาด้วยปี 2006-07 ก็น่าเบื่อเช่นเดิม เพราะผลลัพธ์คล้ายๆเดิม เฟดชนะบ่อย เก็บแชมป์หญ้ากับปูน ราฟาเก็บคอร์ดดิน…ช่วง 2-3 ปีนี้ เฟดเป็นดั่งเทพเทนนิสที่ได้แชมป์แทบทุกสนาม แต่เฟดมาติดแค่คอร์ดดิน ติดที่ราฟา…เฟดบอกว่าเค้าไม่เคยมีปัญหากับการเล่นคอร์ดดิน เค้าเล่นคอร์ดดินได้ดี ดีมากด้วย แต่ปัญหาของเค้าคือคนที่อยู่ตรงข้ามเน็ทที่ชื่อ “ ราฟา” บนคอร์ดดิน

แต่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ ค่อยเป็นค่อยไป ถ้าใครสังเกตดีๆ ราฟาเริ่มพัฒนาเกมเทนนิสในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ราฟาเริ่มรุกคืบในดินแดนหญ้าของเฟด โดยการได้เข้าชิง WB ทั้งสองปี ในปี 06 ราฟาได้ไปหนึ่งเซ็ต ส่วนปี 07 ได้ถึงสองเซ็ตแบบเฟดได้เสียวไส้ว่าจะเสียแชมป์คอร์ดหญ้าที่ตัวเองรักที่สุดให้ไอ้น้องคนนี้อีกหรือเปล่า? …ราฟามีความฝันกับ WB มาตั้งแต่เด็กแล้วแกก็มี profile คล้ายบอร์กคือเล่นได้ดีเยี่ยมทั้งดิน ทั้งหญ้าแบบน่าอัศจรรค์ใจ ทั้งที่คอร์ดต่างกันราวฟ้าดิน

ส่วนเฟดเป็น All court player เล่นเทนนิสได้ดีเยี่ยมหมดทุกคอร์ด แต่พื้นฐานรูปเกมของเฟดจะได้เปรียบมากในคอร์ดเร็ว ดังนั้นเฟดจึงเป็นเจ้าพ่อคอร์ดหญ้า และคอร์ดปูนแบบไร้เทียมทาน ส่วนคอร์ดดินเฟดก็พยายามคิดค้นหาวิธีมาต่อกรกับราฟา และใกล้เคียงสุดก็คือ Rome 06 ซึ่งถือเป็นแม็ทช์คอร์ดดินที่สุดยอดที่สุดแม็ทช์หนึ่งในประวัติศาสตร์ ส่วนราฟาก็พัฒนาตัวเองในคอร์ดปูนขึ้นมาดีขึ้นกว่าเดิม แต่ยังไม่ดีพอจะต่อกรกับเฟดได้…ฝีมือยังห่าง โดยเฉพาะเสริฟ ราฟาเสริฟเบาเป็นปุยนุ่น แล้วก็ยังอยู่หลังเบสไลน์เป็นวาๆ เล่นเกมรับดี แต่เกมบุก หน้าเน็ทน้อย…..แต่ถ้าซูมกล้องขยายให้ดีอีกนิด เราจะเห็นว่าปลายปี 2007 มีเด็กหนุ่มเซอร์เบียวัย 20 โดดเด่นขึ้นมาในคอร์ดนี้ ได้โชว์ฝีมือเกมเทนนิสที่คล่องแคล่ว ปราดเปรียว ครบเครื่องและเป็นระดับเข้าชิง USO07 กับเฟด แม้ว่าโนลจะแพ้เฟดไป แต่เกมเทนนิสของโนลก็ถูกกล่าวขานว่า “ใช้ได้ น่าติดตาม”

ปี 2008…มันเริ่มต้นด้วยการที่โนลยังโดดเด่ดต่อเนื่องในคอร์ดปูน AO โนลเอาชนะเฟดได้ในรอบรอง ในขณะที่ราฟาถูกซองก้าปราบราบคราบในรอบรองเช่นกัน โนลได้แชมป์ AO08 ไปอย่างสง่างามโดยคว่ำซองก้าที่กำลัง top form ไป 3:1 เซ็ต…โนลและครอบครัว บอกว่า “ The King is die, and the New King is born” เหมือนโนลกำลังบอกว่า เฟดตกจากบัลลังก์ราชาเทนนิสโลกแล้ว และเค้าแหละคือราชาเทนนิสคนใหม่…โนล(และครอบครัว) คงมองข้ามราฟาไปเลยในตอนนั้น เพราะคิดว่ายังไงๆราฟาก็คงยึดพื้นที่แต่ในคอร์ดดิน แต่มากกว่าครึ่งมันเป็นคอร์ดปูนคอร์ดถนัดของเค้า…ไม่ยากในการยึดครอง แต่โนลก็คิดผิดถนัด เพราะปี 2008 เป็นปีที่ราฟาปรับปรุงเกมเทนนิสของตัวเองในคอร์ดเร็ว คือคอร์ดหญ้าและปูนอย่างเห็นได้ชัด หลัง AO08….ราฟาเริ่มเข้ารอบลึกๆ ที่สนามปูนในอเมริกา…และได้แชมป์ FO08 (เป็นสมัยที่ 4 ติดต่อก้น และซัดเฟดคู่ชิงแบบให้แค่ 4 เกม) แล้วต่อด้วยแชมป์ WB08 จากการชิงกับเฟดในแม็ทช์ประวัติศาสตร์ 5 เซ็ต 5 ชั่วโมงกว่า ราฟาได้ก่อนสองเซ็ต เฟดต้องไล่ตามแบบได้ฝนมาช่วยให้ได้พักเบรค ต้องเซฟ MP ถึง 3 MP ต้องดึงทุกสิ่งทุกอย่างที่เรียกว่าเทพเทนนิส ออกมาเพื่อปกป้องบัลลังก์หญ้า…แต่ไม่สำเร็จ ราฟาได้แชมป์ WB08 เป็นสมัยแรก ณ. ตอนนี้ก็เหมือนว่าราฟาได้กินดินแดนเพิ่มคือคอร์ดหญ้าของเฟดแล้วแบบชัดเจน

แม็ทช์การแข่งขันนัดชิง WB 08 ระหว่าง เฟด กับ ราฟา ถือเป็นแม็ทช์เทนนิสชายเดี่ยวที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์เทนนิส เริ่มตั้งแต่ความยิ่งใหญ่ของตัวนักกีฬา คุณภาพของเกมที่เข้มข้น สวยงาม มีฝนตกมาเบรกเกมสองครั้ง ทำให้มีความตื่นเต้นระทึกใจตลอดการแข่งขันแบบที่ไม่รู้ว่าผู้ชนะจะเป็นใครจนถึงจุดจบของแม็ทช์ที่ราฟาลงไปนอนที่พื้นหญ้า ราฟาทำเรื่องที่ไม่มีแชมป์ WB คนไหนทำ คือปีนขึ้นไปบนอัศจรรย์เพื่อแชร์ความรู้สึกมหัศจรรย์การ “ทำได้” กับครอบครัวทีมงาน รวมถึงเจ้าหญิง-เจ้าชายของสเปน รวมถึงเราได้เห็นสีหน้าแววตาของเมียร์ก้าที่คงเสียใจที่เฟดเอาชนะราฟาไม่ได้ แต่ก็เอื้อมมือไปแตะขาราฟาเหมือนจะบอกว่า “นายแน่มาก” เป็นการยอมรับความสามารถของเด็กรุ่นน้องที่มุมานะมาถึงวันที่มีชัยต่อเทพเฟดในสนามหญ้า….แสงในสนาม WB หรี่สลัว การถ่ายรูปตอนรับถ้วยต้องใช้แฟลท แต่ก็บดบังสีหน้าความรู้สึกของนักกีฬาทั้งสองคนไม่ได้

ความรู้สึก รายละเอียดของแม็ทช์นี้ยังได้รับการคัดเลือกไปถ่ายทอดอยู่ในหนังสือ “ Rafa..my story “ ของ John Carlin ด้วย ทำให้แม็ทช์นี้คงเป็นตำนานไปอีกนานแสนนาน

 

โดย: หมูทอง IP: 125.25.139.149 12 ธันวาคม 2554 16:12:03 น.  

 

(ต่อ)

ราฟาสร้างผลงานต่อเนื่องจาก WB08 ด้วยแชมป์เหรียญทองโอลิมปิคที่ปักกิ่ง(คอร์ดปูน)…เอาชนะโนลในรอบรอง (แบบโนลเสียใจมาก ถึงกับหลั่งน้ำตา…และน่าจะอยากมาเอาคืนที่ลอนดอน ปี 2012) ส่วนเฟดซึ่งไม่ค่อยให้ความสำคัญกับโอลิมปิค เข้าแข่งมา 3 หนก็ไม่เคยได้เหรียญเลย (ก็น่าจะอยากได้แบบราฟาบ้าง…ต้องวัดที่ลอนดอน 2012 เช่นกัน) เฟดเค้นก๊อกสุดท้ายด้วยความช่วยเหลืออย่างมากจากสตานเพื่อนร่วมชาติ เฟดได้เหรียญทองประเภทคู่มา และในปี 2008 เฟดก็ยังไว้ลายได้ GS สุดท้ายของปี US08 มาดับเสียงไก่กา และดับความคิดของโนล(และครอบครัว) ที่บอกว่าเค้าเป็นขาลงได้อย่างสะใจ

ผลงานของโนลที่โดดเด่ดมากตอนต้นปี 2008 ก็ถูกลืมหายไปจากจอตั้งแต่เข้าคอร์ดดิน…ในวงการเทนนิสชายก็มีแต่เฟด-ราฟา ราฟา-เฟด และเป็นแนวที่ว่าราฟาจะมาครองบัลลังก์ราชาเทนนิสชายแทนเฟด…ราฟาได้ Channel Slam(FO-WB) ต่อจาก Borg ซึ่งห่างกันถึง 31 ปี และเป็นมือ 1 ของโลกพร้อมเหรียญทองโอลิมปิคในปี 2008 นี้ แฟนคลับของเฟด และราฟาแยกกลุ่มชัดเจน มีแนะแหน่ เหน็บกันบ้างตามประสา…แต่ลึกๆ แฟนเทนนิสทั่วโลกก็ให้ความยกย่อง นับถือ และชื่นชมนักเทนนิสทั้งคู่มากมายทั้งในและนอกสนาม เฟด-ราฟาเป็นสองเทพเทนนิสที่ไร้เทียมทาน ครองใจแฟนเทนนิสทั่วโลกแบบแข่งกันสร้างสถิติตำนานเรื่องราวของตัวเอง

ปี 2009 เริ่มต้นปี ราฟาก็ยัง Hot ต่อเนื่องแม้ว่าปี 2008 จะเป็นปีที่ราฟาเหน็ดเหนื่อย…กรอบแบบเห็นได้ชัดเจนตอนปลายปี แต่พอปีใหม่เริ่มต้น ก็ต้องเติมเต็มถังกันมาสู้ต่อ ใน AO09 แฟนเทนนิสทั่วโลกก็ได้คู่ชิงในฝันเช่นเดิม เฟด-ราฟา เนื่องจากคอร์ดปูนไม่ใช่คอร์ดถนัดของราฟา การได้เข้าชิง GS คอร์ดปูนครั้งแรก มันก็ส่งสัญญานให้เห็นแล้วว่า ราฟาไม่ได้ต้องการหยุดแค่การเป็น King of Clay แต่ค่อยๆพัฒนาตัวเองเป็น King of Tennis ที่ได้แชมป์ GS ทุกสนาม ทุกพื้นผิว…ราฟาไม่เหมือนเฟด ที่มีพื้นฐานแบบเก่งทุกสนาม ทุกพื้นผิว แม้ราฟาจะได้เหรียญทองโอลิมปิคที่เป็นคอร์ดปูนมา แต่เครดิตที่ได้อาจไม่เท่า GS

…..ในนัดชิง AO09 เฟดเป็นต่อมากมาย เพราะราฟาไปเจอนันโด้ในรอบรอง ที่เพื่อนร่วมชาติไม่มีการยอมสูอี๋เลย แม็ทช์ยากมาก ราฟาเกือบไม่รอด เล่น 5 เซ็ต กินเวลายาวนานมากกว่า 5 ชั่วโมง(อีกแล้ว) ทำลายสถิติของ AO ราฟาได้พักน้อยมากคือ 1 วัน ในขณะที่เฟดได้พักยาว 3 วัน แถมแม็ทช์รอบรองอย่างง่าย…แต่ราฟาก็คือราฟา สามารถเอาชนะทุกแต้มต่อ…against all odds ด้วยจิตใจนักสู้ผู้ไม่ยอมแพ้ ราฟาเอาชนะเฟดได้ใน 5 เซ็ตแบบสุดยอด เหมือนเป็น Superman แห่งวงการเทนนิสโลก ถึงตอนนี้ราฟาก็ลบคำสบประมาทของทุกสำนักว่า ราฟาเป็นแชมป์ GS ทุกพื้นผิวคอร์ด ราฟาไม่ใช่แค่เป็น King of Clay แต่เป็น King of Tennis ได้เหมือนเฟด…ราฟาดังมากในตอนนี้เทียบรัศมีเฟดได้อย่างสมภาคภูมิ

สิ่งที่ราฟาทำเพิ่มเติม แตกต่างจากเฟด…ก็คือการทุ่มเทให้เทนนิสทีมชาติสเปนอย่างมาก อย่างเต็มใจ และเต็มที่….นอกเหนือจากโอลิมปิคที่ทำในนามประเทศชาติแล้ว ราฟาโดดเด่นมาตั้งแต่ปี 2004 …ราฟาอายุ 17 ปีเอาชนะร๊อดดิดมือ 2 ของโลก และเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้สเปนได้แชมป์ DC ด้วยการเอาชนะอเมริกาได้ ราฟายังเป็นส่วนร่วมทำให้สเปนได้แชมป์ DC ปี 2008, 2009 และ 2011 อีกด้วย…ราฟา เป็นตัวอย่างกระตุ้นให้นักเทนนิสชั้นนำของโลกเสียสละเวลา แรงกายแรงใจ ไปช่วยทีมชาติใน DC มากขึ้น
แต่โลกนี้ไม่มีน้ำขึ้นอย่างเดียว มันมีน้ำลงด้วย…จากการขึ้นสุดๆของราฟาหลัง AO09 ราฟาก็เจอมรสุมหนักในชีวิต เริ่มตั้งแต่ข่าวการหย่าร้างแยกกันอยู่ของพ่อแม่ ข่าวร้ายนี้พ่อราฟาเป็นคนบอกตอนขึ้นเครื่องบินจากออสเตรเลีย กลับบ้าน…ความแข็งแกร่งด้านจิตใจทั้งหมดของราฟามีพื้นฐานมากจากครอบครัว ก็ถูกสั่นคลอนอย่างหนัก และต้องใช้เวลาพอควรในการเยียวยา ยังไม่พอความแข็งแกร่งด้านร่างกายของราฟาก็เริ่มสั่นคลอนด้วย จากปัญหาเข่าทั้งสองข้างเริ่มส่งสัญญาน “ไม่ไหวแล้ว” แม้ทีมแพทย์ก็เยียวยาประคองเต็มที่แต่เหมือนว่าปัญหาเข่าก็ยังรบกวนราฟาตลอดเวลา….ระหว่างนี้ราฟาสูญเสียอะไรไปบ้าง เริ่มจากเสียแชมป์ FO (แพ้โซเดอริ่งในรอบ 4 แบบช๊อตโลก) ตามมาด้วยการถอนตัวที่ WB แล้วก็เจ็บโน่นนี่ ประคับประคองตัวมาอย่างกระท่อนกระแท่นจนจบปี…ราฟายังคงเป็นมือ 2 ของโลกตอนสิ้นปี

…แต่ที่น่าสนใจคือ ตอนที่ราฟาหายไปจากซีนพระเอก เฟดก็เข้ารับบทนั้นแทน รับไม้กันอย่างรู้ใจ พอราฟาแพ้โซเดอริ่งที่ FO09 เฟดก็เก็บแชมป์ FO ได้เป็นครั้งแรกในชีวิตเพราะไม่มีราฟาเป็นก้างขวางคอแล้ว และเป็นคนที่ได้ Career Slam ครบทุกรายการเป็นคนที่ 6 ในโลกและเป็นคนที่ 2 ต่อจากอากัสซี่ที่ได้ Career Slam แบบครบทุกพื้นผิวหญ้า ดิน ปูน…แถมพอราฟาถอนตัวที่ WB เฟดก็ได้ Channel Slam FO-WB ในปีเดียวกันเหมือนราฟาทำได้ในปี 08 อีก แม้ว่าเฟดจะเสียแชมป์ USO09 ให้กับน้องใหม่ในวงการอย่างเดล ปอร์โต้ แต่เฟดก็กลับมาเป็นมือ 1 ของโลกได้อีกครั้ง…เห็นได้ว่า เฟดกับราฟา สองเทพนี้เค้าถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน รับลูกกันอย่างดีเวลาคนหนึ่งกำลังแย่ๆ อีกคนก็เข้ามารับ ทำให้แชมป์ต่างๆนานา ไม่หลุดออกจากสองคนนี้เลย

ตอกย้ำเพิ่มเติมในปี 2010…เริ่มจากต้นปี ใน AO10 ที่ราฟามีปัญหาเข่าต้องถอนตัวตอนรอบรองที่เล่นกับมารีย์ หลังจากแม็ทช์นี้ราฟาต้องเริ่มใช้เทคนิคพิเศษ Platelet Rich Plasma (PRP) injection ในการรักษาเข่าทั้งสองข้าง พอราฟาแย่ เฟดก็เข้ามาจัดการเก็บแชมป์ AO10 ไป แต่พอราฟารักษาตัว รักษาใจกลับมาได้ ก็เร่งเครื่องเก็บแชมป์ดิน หญ้า ปูน ต่อเนื่อง non-stop รวมทั้ง USO10 ทำให้ราฟาได้ Career Slam เป็นคนที่ 7 ของโลกต่อจากเฟด และเป็นคนแรกของโลกที่ทำ 3 GS บน 3 พื้นผิวติดต่อกันในเวลา 3 เดือน…ในขณะที่เฟดก็อ่อนล้าลงไปบ้างในปีนี้ แต่ราฟาก็มาเก็บเกี่ยวถ้วยแชมป์ให้ จนถึงปลายปี 2010 วงการเทนนิสชายก็ยังมีแต่ชื่อของ เฟด-ราฟา, ราฟา-เฟด สองเทพผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่มีใครมากล้ำกลายบัลลังก์ได้

 

โดย: หมูทอง IP: 125.25.139.149 12 ธันวาคม 2554 16:15:27 น.  

 

(ต่อ)

ถ้าพูดเป็นตัวเลขน่าจะแสดงให้เห็นชัดขึ้น จากปี 2004-2010….7 ปีเต็มๆ มี GS ทั้งหมด 28 ถ้วย เฟดกับราฟาแบ่งให้คนอื่นเพียง 4 ถ้วยคือ
• FO 04 Gaston Gaudio
• AO 05 Marat Safin
• AO 08 Novak Djokovic
• USO 09 Juan Martin del Potro
ที่เหลือ 24 ถ้วย GS แบ่งกันระหว่างสองเทพ เฟด 15 ราฟา 9 (เฟดได้ WB 03 + ราฟาได้ FO11) เหลือเชื่อจริงๆ และไม่มียุคไหนในประวัติศาสตร์เทนนิสชายจะมีการครอบครองบัลลังก์เทนนิสแบบเฟด-ราฟา ทั้งคู่เหมือนเกิดมาเพื่อกันและกันขนาดนี้

เฟดครองสถิติขั้นเทพที่ยังไม่รู้ว่าใครจะมีโอกาสมาแย่งชิง เช่น
• เจ้าครองแชมป์ GS มากสุดในโลก = 16 GS (4 AO + 1 FO + 6 WB + 5 USO)
• เป็นมือ 1 ของโลกติดต่อกันยาวนานที่สุด คือ 237 อาทิตย์
• ชนะติดต่อกันในคอร์ดหญ้า 65 แม็ทช์
• ชนะติดต่อกันในคอร์ดปูน 56 แม็ทช์

ส่วนราฟาครองสถิติขั้นเทพ เช่น
• 3 GS บน 3 พื้นผิวติดต่อกันในเวลา 3 เดือน คือ FO-WB-USO 2010
• ชนะติดต่อกันในการแข่งขันระดับ ATP1000 ที่ Monte Carlo 7 สมัยซ้อน
• ชนะติดต่อกันบนคอร์ดดิน 81 แม็ทช์
• Clay Slam 2010 แชมป์รายการคอร์ดดินทุกรายการ MC - Rome - Madrid – FO
• เจ้าของสถิติแพ้น้อยสุดที่จำนวนแม็ทช์ 400 คือ 400-91 และ 500 แม็ทช์คือ 500-105

สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นตำนานดังกล่าวนี้ ทำให้นักเทนนิสชั้นนำ ฝีมือดีในยุค 2004-10 แทบจะหมดหวังในการขึ้นมาทาบรัศมีของสองเทพ เช่น รุ่นเฟด…ฮิววิต ซาฟิน ดาวิเดนโก้ นาลบาลเดี้ยน ลูบิคซิค ร๊อดดิด ฟิส ส่วนรุ่นราฟาก็มี….โซเดอริ่ง เฟอร์เร นันโด้ อมาโกร ก๊าสเก้ ซองก้า ซิมง เบอร์ดิช เดล ซิลิค

แต่ที่น่าเจ็บปวดที่สุด ก็น่าจะเป็นโนลกับมารีย์ ซึ่งอยู่ในอันดับ 3 และ 4 มาเป็นเวลา 3-4 ปี…ทั้งคุ่เล่นเทนนิสได้ดีมาก รักษามาตรฐานระดับเทนนิสของตัวเองได้สม่ำเสมอ….แต่ไม่เคยเพียงพอที่จะผ่าด่านอรหันต์สองเทพไปได้เลย หันซ้ายเจอเฟด หันขวาเจอราฟา จะได้แชมป์แต่ละทีก็มักต้องผ่านสองคนนี้ในทัวร์เดียวกัน เพราะสองคนนี้ก็ไม่ค่อยตกรอบแรกๆ ง่ายๆ ซะด้วย…แค่คิดเอาชนะแค่เทพคนเดียวก็เหนื่อยแล้ว ขี้เกียจคิดต่อจะเอาชนะสองเทพในทัวร์เดียวกัน โนลเองก็พยายามหา GS ที่สองของตัวเองหลังจากการพุ่งขึ้นมาในต้นปี 08 มารีย์ก็เช่นกันพยายามหา GS แรกของตัวเองอย่างเข้มข้น โอกาสมันก็มีอยู่บ้าง ไปพอเข้าชิงก็เป๋ทุกงวด…ทั้งคู่ได้เข้าชิง GS คอร์ดปูนทั้ง AO และ USO แต่เวลาแห่งชัยชนะของพวกเค้ายังไม่มาถึง
แม้ว่าในปี 2011…จะเป็นปีที่โนล breakthrough ขึ้นมาและสามารถเอาชนะได้ทั้งเฟดและราฟา กวาดไปถึง 3GS และ 5MS และก้าวขึ้นเป็นมือ 1 ของโลกอย่างสง่าผ่าเผย โนลได้สร้างปีที่ยอดเยี่ยมในชีวิตการเล่นเทนนิสของตัวเอง แต่เฟดและราฟาก็ยังคงวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ตามติดชนิดอย่าได้ถอยมาละกัน พร้อมแซงโค้งได้เสมอ

ตอนนี้ปี 2012 ทั้งคู่ยังคงเล่นเทนนิสอยู่และก็คงเป็นสองเทพ อมตะนิรันดร์กาลแห่งปประวัติศาสตร์วงการเทนนิสชายตลอดไป….การได้ดูเทนนิสชั้นเลิศจากทั้งคู่มาเป็นเวลา 7-8 ปีถือเป็นกำไรคนดูมาก …ทั้งคู่มีแฟนๆเทนนิสทั่วโลกเป็นกำลังใจแบบท่วมท่น และหลายคน(รวมทั้งหมูทอง)ก็ยังชอบแม็ทช์ Fedal (Federer-Nadal) มากกว่าคู่อื่นๆ อาจเป็นเพราะสไตส์การเอาชนะของทั้งคู่ไม่เหมือนกัน เทพเฟดมีทั้งรูปแบบและอาวุธที่หลากหลาย การเคลื่อนไหว พริ้วสวยงาม...คู่ต่อสู้อาจจะมองดูความงามของลีลา จนโดนเชือดเลือดสาดไปแล้วยังไม่รู้ตัวเลย...มึนงงว่า อ้าวตูแพ้แล้ว เฟดเอาชนะคู่ต่อสู้ด้วยทักษะและมันสมองเทนนิสที่ครบเครื่องที่สุดเท่าที่จะหาได้ในนักเทนนิสอาชีพ…ถ้าคู่ต่อสู้อยากจะโจมตีจุดอ่อนของเฟด ก็หาไม่ค่อยเจอ…BH ของเฟดที่ว่าอ่อนสุด ก็ยังดีกว่านักเทนนิส Top 10 หลายคนมากๆ แล้วสร้าง winner ได้เสมอ ส่วนราฟาก็มีเทนนิสที่ไม่มีใครเหมือน และไม่เหมือนใคร เป็นส่วนผสมของความดุดันราว Jimmy Corner และ John McEnrole กับความเหนียวแน่น คล่องตัวว่องไวของ Borg และ Landl หลายครั้งนึกว่ารับอยู่ ก็เปลี่ยนมาเป็นรุกจนตั้งต้วไม่ทัน นึกว่าจะได้แต้มชนะแน่ๆ ก็ยังไม่แน่ เทนนิสของราฟามีพลังของการต่อสู้ การเบียดบดแบบ “งูรัดเขียด” แจมด้วยความท้าทายจากความประหลาดใจ (power of surprise) โดยเฉพาะเวลาเธอสร้างสรรค์ลูกบั่นทอนกำลังใจคู่ต่อสู้ที่หลายๆลูกกลายเป็น signature shots

แต่แฟนๆเทนนิสก็รู้ว่าไม่มีอะไรในโลกนี้จีรังยั่งยืน เรามาถึงช่วงสุดท้ายที่จะได้ดูเทนนิสสุดยอดจากทั้งคู่ เฟดก็มีครอบครัวลงต้ว และแก่ลงทุกวัน ไฟในการเล่นเทนนิสก็คงจะโรยราไปเรื่อยๆ และแม้จะรู้ทั้งรู้ว่าเฟดยังเล่น Indoor HC ได้หรูเลิศอลังการระดับไร้เทียมทานแชมป์ WTF 6 สมัยที่ไม่มีใครทำได้ แต่เฟดเองก็อาจไม่สามารถสร้างผลงานระดับเลิศบน Outdoor court ที่ต้องทนทานกับสภาพอากาศ สภาพสนามมากกว่า Indoor ได้เยอะแยะเหมือนเมื่อก่อนอีก ส่วนราฟาเองก็มีปัญหาสภาพร่างกายรบกวน อาจเล่นเทนนิสได้ไม่ต่อเนื่องยาวนาน ทั้งคู่ รอดาราดวงใหม่ที่จะเกิดมาแทนที่….(ปี 2011 มีโนลเข้ามาแทน แต่ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าจะยืนระยะได้นานเท่าไร ?) แต่ก่อนจะถึงตอนที่ทั้งคู่ลาเวทีไปนั้น ขอให้เราได้รำลึกแม็ทช์ในความทรงจำของทั้งคู่สักหน่อย….

• นัดชิง Rome 2006 ที่ต้องสู้กัน 5 เซ็ต ก็น่าจะถือเป็นแม็ทช์คอร์ดดินที่ดีที่สุดแม็ทช์หนึ่ง
• นัดชิง WB 2007 และ 2008 ก็เช่นกันต้องสู้กัน 5 เซ็ต แต่แม็ทช์ปี 2008 ถือว่าดราม่าสุดๆ แทบไม่มีข้อโต้เถียงว่าเป็นแม็ทประวัติศาสตร์ที่จะอยู่ในความทรงจำไปอีกนานแสนนาน
• นัดชิง AO 2009 เป็นแม็ท HC outsoor ที่ต้องสู้กัน 5 เซ็ตเช่นกัน แม้ว่าเซ็ต 5 จะขาดไปหน่อยแต่ 4 เซ็ตก่อนหน้าก็สนุกสุดๆ สวยสุดๆ และก็มี shot เฟดร้องไห้ตอนรับถาด “ God, it’s killing me” ให้แฟนลืมไม่ลง

• หรือแม้แต่นัดชิง ATP World Tour Final ปลายปี 2010…Indoor HC แบบ 3 เซ็ต ก็ทำให้แฟนๆเทนนิสรู้สึกได้ว่าแม็ทช์ของสองเทพโดดเด่นแตกต่างไปจากนักเทนนิสอื่นๆ เนื่องจากมีลีลา ลูกล่อลูกชน ชั้นเชิงเทนนิสชั้นเซียนระดับเทพจริงๆ….ดูเทนนิสเหมือนดูหมากรุก
• ล่าสุดนัดชิงที่ FO 2011…แม็ทช์ที่หลายๆคนบอกว่าเฟดเล่นคอร์ดดินได้ดีที่สุด ดีกว่าตอน 2006 เฟดฟอร์มดีมากเอาชนะโนลที่กำลังฮอตสุดขีด(ชนะติดต่อกันมาตั้งแต่ต้นปี 41 แม็ทช์ 7 แชมป์..non stop) หยุดสถิติของโนลเพื่อเข้าชิงกับราฟา…แล้วก็เหมือนแม็ทช์ที่พิสูจน์ว่าเฟดจะสามารถชนะราฟาบนคอร์ดดินที่ Roland Garros ได้หรือไม่ หลังจากที่เฟดได้แชมป์ FO 2009 แบบไม่ได้เจอราฟาที่แพ้โซเดอริ่งตกรอบ 4 ไปก่อน แม็ทช์นี้ก็เป็นอีกแม็ทช์ที่ราฟาแสดงให้เห็นทำไมเค้าถึงได้สมญา…King of Clay

เนื่องจากทั้งคู่เจอกันมา 26 แม็ทช์ใน 8 ปี ตั้งแต่นัดแรกที่ Miami 2004 และนัดหลังสุดที่ WTF 2011 แม้ Head to Head ของราฟาจะดีกว่าคือ 17-9 แต่ส่วนใหญ่เจอกันบนคอร์ดดินที่ราฟาได้เปรียบหน่อย แต่ถ้าเป็นคอร์ดหญ้า หรือคอร์ดปูน ก็จะสูสีกันมาก ผลเป็นได้ทั้งแพ้-ชนะ แล้วแต่ฟอร์มวันนั้นๆ ของทั้งคู่ แต่นั่นคือเรื่องราวบนคอร์ดที่ทั้งคู่มาเจอกันก็ต่างทำหน้าที่นักกีฬาอาชีพมาเกือบ 8 ปีและถึงตอนนี้แฟนๆเทนนิสทั่วโลกก็ยังอยากให้คู่นี้มาเจอกันอีก…เฟด-ราฟา ก็ยังเป็นสองเทพเทนนิสที่แฟนเทนนิสทุ่มเทใจให้สุดๆ ไม่เชื่อดูแฟนๆในสนาม French Open 2011 รอบชิงชนะเลิศที่ผ่านมาได้ ฟังไม่ออกว่าเสียงแฟนใครมากกว่าใคร ต่างคนต่างมีแฟนคลับ ต่างคนต่างชื่นชอบนักกีฬาของตนและให้เกียรติคู่ต่อสู้ยามสร้าง shot งามๆด้วย เป็นรอบชิง GS ที่สุดยอดเหมือนกับรอบชิงประวัติศาสตร์ที่ Wimbledon 2008 หรือรอบชิง Australian Open 2009 คงขาดแต่รอบชิงที่ USO ที่ทุกคนรอบคอยให้ทั้งคู่มาเจอกันก่อนจะโรยราไปด้วยกันทั้งคู่….และถึงจะไม่เจอกันอีกในรอบชิง GS เจอกันที่ไหนก็ได้ รอบชิงหรือไม่ก็ได้ แข่งจริงหรือแข่งเพื่อการกุศลก็ได้ เรามั่นใจว่าแฟนๆเทนนิสก็ยังเต็มสนาม และเสียงเชียร์ลั่นเหมือนเดิม….เหมือนจะบอกดังๆว่า เรารักคุณ โรเจอ เฟดเดอเรอ, ราฟาเอล นาดาล สองเทพเทนนิสที่ยิ่งใหญ่แห่งวงการเทนนิสชาย

 

โดย: หมูทอง IP: 125.25.139.149 12 ธันวาคม 2554 16:18:16 น.  

 

ตามมาอ่านค้าบ คุณหมูทอง ขอบคุณมากที่ทำให้มีอะไรอ่านยามไร้เทนนิส

 

โดย: อ่อน IP: 122.0.2.141 14 ธันวาคม 2554 10:20:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ปลาดาวสีคราม
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ใครเข้ามาเยี่ยมชมขอเชิญคอมเมนท์บ้างนะคะ (แอบอ่านก็ไม่ว่ากัน)

ยินดีต้อนรับทุกคนค่ะ

คุณหมูทองให้เกียรติอนุญาตให้นำข้อเขียนมาปะไว้ ขอบคุณมา ณ ที่นี้ค่ะ

บล็อกล่าสุดทำด้วยอารมณ์ล่อเป้า หลังจากห่างหายไปนาน เชิญติขม
12 พค 2555


Friends' blogs
[Add ปลาดาวสีคราม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.