หลายๆคนคงคุ้นเคยกับคำว่า ประกันสุขภาพมากันนักต่อนักแล้ว สำหรับคนที่ยังไม่เคยทำประกันสุขภาพมาก่อน คงจะเกิดคำถามว่ามันคืออะไร เราจะมาไขข้อข้องใจและคุณน่ะเหมาะกับประกันสุขภาพแบบไหนถึงจะ ใช่ คุณ! การประกันสุขภาพนั้นแบ่งง่ายๆออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ประกันภัยอุบัติเหตุและสุขภาพรายบุคคล ทั้ง 2 ประเภท และแบ่งความคุ้มครอบหลักออกเป็น 7 หมวด ได้แก่ 1.คุ้มครองเมื่อผู้เอาประกันภัยรักษาตัวในโรงพยาบาลเพราะบาดเจ็บจากอุบัติเหตุหรือป่วยไข้ จะชดเชยค่าใช้จ่ายจาก 1.ค่าห้องและค่าอาหาร 2.ค่าบริการทั่วไป 3.ค่าใช้จ่ายในกรณีที่มีการรักษาพยาบาลฉุกเฉิน หลังการเกิดอุบัติเหตุ 2.ค่าใช้จ่ายเกิดจากการผ่าตัด ค่าปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการผ่าตัด 3.ค่าใช้จ่ายเกิดจากการให้แพทย์มาดูแล 4.ค่าใช้จ่ายสำหรับการรักษาที่คลีนิค หรือแผนกผู้ป่วยนอกโรงพยาบอล 5.ค่าใช้จ่ายในการคลอดบุตร 6.ค่าใช้จ่ายการรักษาฟัน 7.การชดเชยค่าใช้จ่าย อัตราเบี้ยประกันภัยจะขึ้นอยู่กับ 6 ปัจจัย คือ 1.อายุ : บุคคลที่มีอายุมากกว่าก็มีปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาสุขภาพได้มากกว่าบุคคลที่มีอายุน้อยกว่า 2.เพศ : เพศหญิงอาจจะรับประกันภัยได้ในอัตราดอกเบี้ยประกันภัยสูงกว่าเพศชาย 3.สุขภาพ : ประวัติเกี่ยวกับสุขภาพและการรักษาพยาบาล และสภาพร่างกายของผู้เอาประกันภัยย่อมจะมีอัตราดอกเบี้ยประกันภัยที่สูงกว่า 4.อาชีพ : อาชีพทีได้แสดงถึงกิจกรรมที่เกิดขึ้นในประจำวันที่มีแนวโน้มจะนำไปสู่ความเสี่ยงที่แตกต่างกันออกไป 5.การดำเนินชีวิต : สิ่งที่แสดงต่อพฤติกรรมที่จะมีผลต่อสุขภาพ เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ การเล่นกีฬาเสี่ยงอันตราย เป็นต้น 6.การประกันภัยหมู่จะต้องมีการพิจารณา ถ้าจำนวนบุคคลมาก การกระจายความเสี่ยงจะมากกว่าทำให้เบี้ยประกันต่ำลงได้ การทำประกันสุขภาพนั้นก็คือ การกระจายความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการเจ็บป่วยและการเสียชีวิตจากโรคภัยไข้เจ็บของเรา ไปให้แก่ผู้รับประกัน อีกความหมายหนึ่ง คือ การจ่ายเงินทดแทนให้ หรือการจ่ายค่าสินไหมให้กับผู้เอาประกันเพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่ายาต่างๆ วันนี้เราเอาหลักการซื้อประกันสุขภาพมาเพื่อประกอบการตัดสินใจ #1 ตรวจสอบค่าคุ้มครองของประกันไว้..อุ่นใจค่ะ ก่อนที่จะทำประกันภัยสุขภาพ สิ่งแรกเลยต้องตรวจสอบค่าคุ้มครองและเบี้ยประกันว่าคุ้มค่าหรือไม่ ทั้งค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาล และค่าบริการทั่วไปเพื่อดูว่าเราจะต้องจ่ายเงินสำรองไปมากน้อยเพียงใด และคุ้มมั้ย #2 รูปแบบของประกันภัยสุขภาพเป็นอย่างไร เพื่อที่จะได้รู้รูปแบบว่าหากเราเจ็บป่วยแล้วจะคุ้มครองได้ทันทีหรือต้องรอให้ครบตามกำหนดเสียก่อนจึงจะได้รับการคุ้มครอง #3 ตรวจสอบโรงพยาบาลในเครือยิ่งใกล้..ยิ่งดี หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้เข้ารับรักษาพยาบาลในเครือที่ครอบคลุมยิ่งอยู่ใกล้เท่าไหร่ยิ่งดี อีกหลักการนึงคือหาโรงพยาบาลที่มีเครือข่ายเยอะกว่าก็จะยิ่งประหยัดและครอบคลุมเงินในกระเป๋าเราอีกด้วย
Create Date : 09 ตุลาคม 2560 |
Last Update : 9 ตุลาคม 2560 17:35:26 น. |
|
0 comments
|
Counter : 423 Pageviews. |
|
|