ครองใจคน : หลากเหตุผลที่คนไทยรักในหลวง

ตั้งแต่เด็ก ๆ ผมไม่เคยสงสัยว่า ทำไมในบ้านของเราจะต้องที่รูปของ พระเจ้าอยู่หัว และ พระราชินี แขวนไว้ด้วย เพราะไปบ้านไหน ๆ ก็จะมีให้เห็นอยู่ทุกที่ ทุกบ้าน ตอนนั้นคิดไปเองว่า สงสัย เป็นกฎว่าทุกบ้านต้องแขวนรูปท่านไว้

ผมเป็นคนไทยคนหนึ่งที่ชาติยังนี้ไม่มีบุญวาสนา ได้เข้าเฝ้าในหลวงแม้สักครั้ง ผมเป็นคนไทยที่รักในหลวง โดยที่ไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำว่าทำไม เคยแปลกใจ แม่ก็ไม่ได้สอนอะไร พ่อก็ไม่ได้สั่ง แต่รักพระองค์แม้ไม่เคยได้พบเจอ

ผมเชื่อว่า คนไทยหลายคนเป็นเหมือนกับผม เมื่อเห็นหนังสือเล่มนี้ จึงไม่รีรอที่จะหยิบมาอ่าน



หนังสือเล่มนี้ผู้ เรียบเรียง ได้รวบรวม เรื่องดี ๆ มาจากหนังสือพิมพ์ บทความจากหนังสือ บทสัมภาษณ์ จากหลากที่หลายแห่ง

มีหลายเรื่องที่เคยได้ผ่านหูผ่านตามาแล้ว และหลายเรื่องที่ไม่เคยรู้ และจินตนาการไม่ออกเลยว่า สมัยนั้น พระเจ้าแผ่นดินออกเยี่ยมประชาชน ชาวบ้านตาดำ ๆ จะรู้สึกยินดีปรีดาขนาดไหน อีสานในปี 2498 เป็นยังไง ทุรกันดารขนาดไหน แห้งแล้งเพียงใด พระองค์ท่านยังเสด็จมาเยี่ยมเยียน

"เพราะอีสานเวลานั้นแห้งแล้งเหลือแสน เส้นทางรถยนต์ในยุคนั้นก็ยังเป็นดินแดง ๆ ทุรกันดาร ยังไม่ทันที่พระองค์จะเสด็จมาถึง ก็มีข่าวว่า กรมทางหลวงเตรียมนำ น้ำ มาราดถนนทางเสด็จ เพื่อมิให้เกิดฝุ่นดินแดงคลุ้ง เมื่อรถพระที่นั่งแล่นผ่าน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชกระแสรับสั่งห้ามว่า ไม่ให้นำน้ำซึ่งเป็นของมีค่าหายากมาราดถนนรับเสด็จ แต่ให้สงวนน้ำไว้ให้ราษฎรใช้อาบกิน"
(หน้าที่ 23)

บางส่วนจากพระราชดำรัสของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่พระราชทานคำอธิบายถึงเหตุผลที่ทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงงานหนัก ว่า
"รับสั่งว่า เราต้องตอบแทนความรักของประชาชนด้วยการกระทำมากกว่าคำพูด ทำทุกสิ่งทุกอย่างที่จะบำบัดความทุกข์ของเขา...
จึงตัดสินพระทัยว่า การที่จะเสด็จไปไหน ๆ แล้วแจกผ้าห่มแจกเสื้อผ้าเป็นการถมมหาสมุทร อย่างไรก็ช่วยไม่ได้หมด ทางที่ดีรับสั่งว่าต้องลงไปพูดคุยกับเขา...
ตั้งแต่นั้นมา ก็เริ่มทรงศึกษาแผนที่ ซึ่งกรมแผนที่และกรมชลประทานช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา เพื่อที่จะได้ทรงตอบแทนพระคุณประชาชนได้อย่างเต็มที่ .."
(หน้าที่ 38)

บทความที่เปิดเผย ความรักที่มีต่อประสกนิกร แม้ในภาคใต้ในสมัยที่โจรร้ายชุกชุม ถึงขนาดที่หลาย ๆ หมู่บ้านแม้แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐก็ไม่กล้าย่างกรายเข้าไป

"ทว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จ ฯ ลงไปเยี่ยมเยียนเป็นขวัญกำลังใจให้ราษฎรของพระองค์โดยไม่ทรงหวาดหวั่น บางวันถึงกับเสด็จฯ เป็นการส่วนพระองค์โดยปราศจากกำลังอารักขา และบางหมู่บ้านตำรวจเพิ่งถูกคนร้ายแย่งปืนแล้วยิงตายก่อนเสด็จฯ ไปถึงเพียงไม่กี่ชั่วโมง
ทรงรักราษฎรถึงเพียงนี้ จึงไม่แปลกที่หญิงชราคนหนึ่งในหมู่บ้าน ถึงกับเข้ามาเกาะพระบาทของพระเจ้าอยู่หัวร้องไห้ แล้วบอกว่า ไม่นึกเลยว่าพระเจ้าอยู่หัวเป็นคนไทยพุทธ จะมารักมุสลิมได้ถึงขนาดนี้ "
(หน้า 42)

ปี 2526 น้ำท่วมใหญ่ที่กรุงเทพ มีใครรู้บ้างว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงช่วยราษฎรของพระองค์อย่างไร

"วันนั้นรถพระที่นั่ง แล่นออกจากพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ราวบ่ายสองโมงเศษ ไม่มีหมายกำหนดการ ไม่มีการปิดถนน แม้แต่ตำรวจท้องที่ก็ไม่ทราบล่วงหน้า
รถยนต์หระที่นั่งชะลอเป็นระยะ ๆ เพื่อทรงตรวจดูระดับน้ำ เมื่อถึงคอสะพานสร้างใหม่ที่คลองลาดกระบัง จึงเสด็จลงจากรถยนต์พระที่นั่ง เพื่อทรงหารือกับจ้าหน้าที่
ทรงฉายภาพด้ยพระองค์เอง เมื่อถึงสะพานคลองหนองบอน รถพระที่นั่งหยุดเพื่อให้พระองค์ ทรงฉายภาพบริเวณน้ำท่วม
จนเย็นย่ำ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงน้ำไฟฉายส่วนพระองค์ออกมาส่องแผนที่ป้องกันน้ำท่วมและ แนวพนังกันน้ำอยู่เป็นเวลานาน
กลายเป็นอีกภาพหนึ่งที่สร้างความตื้นตันใจแก่ประชาชนชาวกรุงเทพมหานครอย่างยิ่ง"

นอกจากนี้หลายเรื่องราว แสดงให้เห็นความผูกพัน เทิดทูน เคารพ ห่วงใย ของ คนไทยที่มีต่อในหลวง บางเหตุการณ์ที่ผมมีโอกาสได้เห็นด้วยตาตนเอง อย่างเช่น

เมื่อโอลิมปิกปี 2539 วินาทีแห่งชัยชนะของ สมรักษ์ คำสิงห์ ผมยังจำภาพที่สมรักษ์วิ่งเข้าไปที่มุม แล้วอัญเชิญ พระบรมฉายาลักษณ์ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวออกมาที่กลางเวทีได้
"วินาทีแห่งชัยชนะ ผู้ชมที่เวทีมวยเมืองแอตแลนตาต่างก็ต้องทึ่งและอึ้ง เมื่อกรรมการชูมือขวาของสมรักษ์ขึ้นประกาศชัยชนะ ขณะที่นักชกชาวไทยใช้มือซ้ายชูภาพพระบรมฉายาลักษณ์ขึ้นสูงที่สุด
ภาพนั้นทำให้ผู้ชมชาวไทยที่เชียร์อยู่อีกซีกโลกถึงกับหลั่งน้ำตา ด้วยความรู้สึกอันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับสมรักษ์
ความรู้สึกที่คนไทยด้วยกัน เข้าใจกันโดยไม่ต้องอธิบาย"
(หน้าที่ 162)

หลากความรู้สึกบางส่วนของคนไทย ที่อาจแทนความรู้สึกของคนไทยอีก 60 กว่าล้านคน
เช่น จาก webboard pantip

"เราเคยไปงานที่ฮ่องกง ตอนนั้นได้มีโอกาสรู้จักกับสตาฟที่ประสานงาน เขาสนอกสนใจเรื่องพระเจ้าอยู่หัวของเรามาก เราก็เลยเล่าให้ฟังว่า
ชาวต่างชาติที่เข้าใจว่าคนไทยถูกบังคับให้นับถือ พระเจ้าอยู่หัวนั้น เข้าใจผิดอย่างยิ่ง เพราะพระเจ้าอยู่หัวของเราทรงรักประชาชนอย่างแท้จริงต่างหาก พระองค์ถึงได้กุมหัวใจคนทั้งชาติได้
สำหรับคนไทยไม่มีใครมาบอกให้รักในหลวง เรารักและเทิดทูนพระองค์ด้วยหัวใจแท้ ๆ "
(หน้าที่ 179)

"หน้าจอคอมพิวเตอร์ของเรามีภาพของในหลวงสองภาพ ภาพที่พระองค์ท่านกำลังดูและมีพระเสโทที่พระพักตร์และพระนาสิก กับภาพที่พระองค์กำลังนั่งพิงรถทรงอ่านแผนที่ พออาจารย์เราเห็นก็ถามว่า ทำไมเอาสองรูปนี้มาไว้บนหน้าจอ เราก็บอกว่า เพื่อเตือนใจตัวเองในฐานะเป็นนักเรียนทุนของพระองค์ท่าน ว่าจะไม่ย่อท้อในการเรียน เพราะพระองค์ท่านทรงงานหนักกว่าเรา ไม่รู้กี่พันเท่า"
(หน้าที่ 202)




"ก่อนขึ้นเครื่องจากเมืองไทย เงินที่มีอยู่ในตัวควักให้พี่สาวหมดเลย ขอแบงค์ 500 ไว้ใบเดียว สังหรณ์ใจว่าคงอีกนานกว่าจะได้กลับไปเหยียบแผ่นดินไทย พ่อแม่ก็เสียหมดแล้ว มีแต่เจ้าชีวิตพระองค์นี้แหละที่นำติดตัวไป เวลาที่เหนื่อยยาก หรือคิดถึงบ้านก็ควักออกมาดู"
(หน้าที่ 204)

"มันน่าแปลกมาก การที่คนเราจะรักใครสักคน รักแบบเทิดทูนบูชา ยอมตายแทนได้โดยไม่เคยพูดคุยใกล้ชิดมาก่อน รักแบบไม่ต้องมีคนมาบอก ไม่ต้องบังคับ"
(หน้าที่ 219)

หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่คนไทยทุกคนควรได้อ่าน อ่านแล้วรู้สึกซาบซึ้ง รู้สึกว่าเราเองมีบุญเหลือหลายที่ได้เกิดมาใต้ร่มโพธิสมภารของพระองค์ท่าน

รู้สึกอิจฉา หลาย ๆ คนที่ได้มีโอกาสรับใช้ใกล้ชิด หรือได้เข้าเฝ้า ผมเองไม่เคยรู้สึกยินดียินร้ายกับคำว่า ข้าราชการ จนกระทั่งมารู้ว่า ในหลวงของเรา ตรัสว่า พระองค์ท่านมีอาชีพ ทำราชการ

ถึงแม้ชีวิตนี้จะไม่มีโอกาสได้ ใกล้ชิด แต่ผมเองจะเป็นข้าราชการ ที่ดี ทุ่มเทแรงกายแรงใจ เพื่อพระองค์ตราบชีวิตนี้จะหาไม่

 

Create Date : 18 เมษายน 2549		4 comments
Last Update : 18 เมษายน 2549 23:05:44 น.
Counter : 1045 Pageviews.
Share Tweet