กรกฏาคม 2555

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
13
14
15
16
17
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
ความรักครั้งยิ่งใหญ่

เรื่องเล่าจากนับดับเพลิงคนหนึ่ง

ผมทำงานเป็นพนักงานดับเพลิงในนิวยอร์ค บางครั้งอาชีพนี้ก็ทำให้หดหู่ใจ เพราะคราใดที่บ้านถูกไฟเผาผลาญ คุณจะหัวใจแหลกสลายไปด้วย พนักงานดับเพลิงเจอแต่เรื่องน่าสะพรึงกลัวและบางครั้งก็ต้องเจอกับความตาย

แต่วันนี้ผมเจอเจ้าแมว”สการ์เล็ต” เป็นอีกเรื่องหนึ่งและมันเป็นเรื่องของชีวิตและความรัก

วันนั้นเป็นวันศุกร์ เรารุดออกไปดับเพลิงตามที่ได้รับแจ้งตั้งแต่เช้าตรู่ว่ามีไฟไหม้ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง

ระหว่างจัดเตรียมอุปกรณ์อยู่นั้นก็ได้ยินเสียงแมวร้องแต่ผมหยุดมือไม่ได้ต้องดับไปก่อนแล้วจึงจะหาแมวได้ ไฟไหม้ครั้งนี้ลุกลามใหญ่โตมากเราจึงมีหน่วยงานอื่นๆมาช่วยสนับสนุนด้วยทั้งฝ่ายตะขอเกี่ยวและฝ่ายบันได

เราได้รับแจ้งว่าทุกคนในอาคารนี้ได้ออกโดยปลอดภัยทั้งหมดแล้ว ผมเองก็หวังเช่นนั้นเพราะที่นั่นมีแต่เปลวไฟเต็มไปหมดใครขืนเข้าไปกู้ภัยคงไม่รอดแน่ กว่าจะดับไปได้ก็ต้องกินเวลานานมากและต้องใช้กำลังคนมากมาย

ถึงตอนนี้เวลามองหาแล้วว่าเสียงแมวมาจากไหน ควันไฟยังพวยพุ่งออกจากตัวปั้มเต็มไปหมด

ผมมองอะไรไม่ค่อยเห็นได้แต่เดินตามเสียงแมวร้องไปเรื่อยๆ จนถึงบาทวิถี ห่างจากปั้มราวๆห้าฟุตเห็นจะได้ ก้เห็นลูกแมวตัวเล็กๆท่าทางอกสั่นขวัญหายสามตัวกอดกันกลมส่งเสียงร้องกันระงมอยู่

พอมองไปรอบๆผมก็เจออีกสองตัว อยู่บนถนนตัวหนึ่ง ส่วนอีกตัวอยู่อีกฝากหนึ่งของถนน แมวพวกนี้คงติดอยู่ใต้อาคารเป็นแน่เพราะขนของมันถูกไฟลนเสียจนโกร๋น



ผมตะโกนขอลังสักใบและมีนักมุงหามาให้ใบหนึ่ง ผมจับลูกแมวทั้งห้าตัวใส่ในลังและอุ้มลังไปพักไว้หน้าระเบียงบ้านหลังหนึ่งแถวนั้น

ผมมองหาแม่แมว สังหรณ์ว่าแม่แมวคงจะเข้าไปในปั้มที่กำลังไฟไหม้และทยอยคาบลูกออกมาวางไว้บนบาทวิถีทีละตัวลองคิดดูก็แล้วกันว่าต้องวิ่งเข้าไปในกองไฟที่ลุกโชติช่วงถึงห้าครั้งห้าคราว

จากนั้นก็ต้องพยายามให้ลูกแมวไปอยู่อีกฝั่งไกลอาคารออกไปทีละตัวเช่นกัน แต่แม่แมวดูเหมือนจะขนลูกออกมาไม่หมด เอ...แล้วแม่แมวไปอยู่ที่ไหน

ตำรวจคนหนึ่งบอกผมว่าเห็นแม่แมวเข้าไปที่ร้านตรงที่ผมเจอลูกแมวสองตัวสุดท้าย แม่แมวอยู่ที่นั่นจริงๆ มันนอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด ตามตัวมีแผลถูกไฟไหม้สาหัส ตาสองข้างบวมปูดจนลืมไม่ขึ้น อุ้งเท้าดำเพราะถูกไฟลน ขนถูกไฟลามเลียจนเห็นหนังบางแห่งแดงเหวะหวะ ตัวอ่อนปวกเปียกจนเคลื่อนไหวอะไรไม่ได้


ผมเดินไปหามันช้าๆค่อยๆพูดกับมันเบาๆมันคงจะเป็นแมวป่า ผมไม่อยากให้มันตกใจ เมื่อผมอุ้มมันขึ้นมา แม่แมวร้องอย่างเจ็บปวดกลิ่นขนและเนื้อหนังของมันส่งกลิ่นเหม็นไหม้

มันไม่กระดุกกระดิกแต่พยายามลืมตามองดูผม แต่ลืมไม่ขึ้น ดูมันเหนื่อยอ่อนเต็มประดา ได้แต่ซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนผม ผมตื้นตันจนน้ำตาคลอ เมื่อรู้ว่ามันไม่กลัวผมและไว้ใจผมแล้ว

ผมตั้งใจจะช่วยชีวิตแม่แมวผู้กล้าหาญและลูกทั้งห้าตัวของมัน ชีวิตของพวกมันขึ้นอยู่กับผม ผมค่อยๆวางแม่แมวลงในลังรวมกับลูกๆของมัน

แม่แมวตาบอดยังอุตส่าห์ใช้จมูกแตะลูกแมวแต่ละตัวจนทั่วเพื่อให้แน่ใจว่าทุกตัวปลอดภัย มันคงเบาใจที่ลูกของมันอยู่ครบทุกตัวแม้ตัวเองจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม แมวทั้งหมดต้องได้รับการรักษาโดยด่วน

ผมนึกถึงบ้านสงเคราะห์สัตว์ องค์กรนี้คงช่วยได้แน่ ผมจึงโทรศัพท์ไปแจ้งให้ทราบล่วงหน้าว่ากำลังจะพาแมวที่ถูกไปลวกสาหัสไปรักษา

ผมไม่มีเวลาแม้แต่จะเปลี่ยนเสื้อผ้า ยังสวมชุดที่มีกลิ่นควันไฟอยู่เต็มบึ่งรถบันทุกของผมไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อไปถึงก็เห็นสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่สองชุดเตรียมตัวรับอยู่แล้ว

พวกเขารีบนำแมวทั้งหมดเข้าไปในห้องพยาบาล ทีมหนึ่งรักษาแม่แมวอยู่บนโต๊ะและอีกทีมหนึ่งดูแลลูกแมวอยู่บนโต๊ะอีกตัวหนึ่ง ผมรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเป็นกำลังจึงนั่งรออยู่ข้างนอก

หลังจากรออยู่ครู่ใหญ่พวกเขาก็ออกมาบอกผมว่าต้องเฝ้าดูอาการของพวกมันตลอทั้งคืน ไม่มั่นใจว่าแม่ของมันจะรอดหรือเปล่า

ผมจึงกลับไปบ้านและวันรุ้งขึ้นผมก็กลับไปอีก รออยู่นานมากจนเกือบจะหมดหวัง แล้วสัตวแพทย์ก็เดินออกมาแจ้งข่าวดีว่าลูกแมวรอดแล้ว

แล้วแม่แมวล่ะ .....ผมกลัวคำตอบที่จะได้ยินเหลือเกิน

ยังบอกไม่ได้ครับต้องดูไปก่อน ...เขาบอกอย่างนั้น ผมจึงกลับไปที่นั่นทุกวันเพื่อรอฟังอาการ

แต่ละวันก็ได้ยินคำตอบเดิมว่าต้องรอดูก่อน

จนหนึ่งสัปดาห์ล่วงไปผมกลับไปที่สถานสงเคราะห์อีกครั้ง นึกในใจว่าป่านนี้แม่แมวคงตายไปแล้วล่ะ หรืออาจจะร่อแร่อยู่อย่างนั้นไปอีกนาน

แต่ทันทีที่ผมเดินเข้าไป สัตวแพทย์ก็ยกนิ้วให้สัญญาณผมว่าแม่แมวไม่เพียงแต่รอดพ้นจากขีดอันตรายเท่านั้น มันจะมองเห็นได้อีกด้วย

เจ้าหน้าที่คนหนึ่งตั้งฉายาให้มันว่า“สการ์เลต”แปลว่าแดงก่ำ ตามสีผิวของมัน

ผมสะเทือนใจอีกครั้งที่ได้เห็นแม่แมวเจอหน้าลูกๆอีกครั้ง เพราะรู้ดีว่ามันต้องกัดฟันต่อสู้ขนาดไหนกว่าจะรอดมาได้




แล้วทายดูซิว่าสิ่งแรกที่แม่แมวจะทำคืออะไร

มันนับลูกอีกครั้งโดยเอาจมูกแตะทีละตัวๆ เพื่อให้รู้ว่าลูกปลอดภัยครบถ้วน มันยอมเสี่ยงภัยถึงห้าครั้งเพื่อช่วยลูกๆของมันทุกตัว

มันจึงเป็นวีรกรรมที่ผมไม่อาจลืมได้ เป็นสุดยอดวีรกรรมที่มาจากความรักของแม่โดยแท้......

 เรียบเรียงเรื่องโดย  โอม   พัฒนโชติ

ขอบคุณภาพจากGoogle




Create Date : 18 กรกฎาคม 2555
Last Update : 18 กรกฎาคม 2555 20:43:22 น.
Counter : 1312 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

peka
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



คนซื่อๆ มองโลกตามความจริง ใช้ชีวิตไปตามสภาพดินฟ้าอากาศ วันไหนฟ้าใส จิตใจสดชื่น อาจหัวเราะเริงร่า พูดคุยสนุก วันไหนฟ้ามืด จิตใจซึมเศร้า อาจนั่งเงียบเหงาเขียนบทกวี วันไหนโลกแล้งยุติธรรม จิตใจหดหู่ อาจกินๆนอนๆดูทีวีทั้งวัน