กรกฏาคม 2555

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
13
14
15
16
17
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
11 กรกฏาคม 2555
ทำดีได้ดี




 ทำดีได้ดี คุณช่วยเขา เขาก็ช่วยคุณ 

   เรื่องสั้นกฏแห่งกรรมในแง่มุมของดวงชะตาชีวิต ว่าคนเราเมื่อทำดีโดยไม่ได้หวังผลตอบแทนนั้น ทำดีจะได้ดีจริงหรือไม่ 

     วังจื้อเหยิน มีอาชีพขายใบชา มีฐานะค่อนข้างดี เขาอายุ 40 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีบุตรชายเลย วันหนึ่งเขาออกไปเดินเล่นพบหมอดูคนหนึ่งชื่อไส้หลิ่วจวง จึงแวะเข้าไปขอให้เขาทำนายดวงชะตา หมอดูพินิจดูหน้าตาเขาอย่างละเอียดแล้วก็บอกว่า คุณวังจื้อเหยิน อย่าโมโหนะ ตามลักษณะโหงวเฮ้งของคุณ เรื่องบุตรชายสืบสกุลนั้นอาจพูดได้ว่าไม่มีหวังและ จื้อเหยินเห็นหมอดูพูดค้างไว้ก็ถามว่า ไม่มีบุตรชายก็แล้วไป แล้วมีอะไรอีก? บอกมาตรง ๆได้เลย 

    หมอดูกล่าวว่า คุณใจเย็นหน่อยนะ ผมจะบอกเดี๋ยวนี้ ตามลักษณะโหงวเฮ้งของคุณจื้อเหยิน เดือนสิบปีนี้จะประสบภัยพิบัติและสิ้นอายุขัย จื้อเหยินได้ฟังดังนั้นรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ หลังจากจ่ายค่าทำนายแล้วก็กลับบ้านทันที


   ตั้งแต่จื้อเหยินถูกหมอดูทำนายว่าจะมีภัยในเดือนสิบ ต้นเดือนเก้าคุณวังก็ไปที่ซูโจว เก็บบัญชีตามร้านค้าต่าง ๆ เพื่อปิดบัญชีจบเรื่องทางโลกจื้อเหยินพักอยู่ที่โรงแรมเดือนกว่า เมื่อเก็บบัญชีเรียบร้อยแล้ว มีเวลาว่างก็ออกไปเดินเล่นข้างนอก 


   ขณะนั้นก็เห็นมีหญิงคนหนึ่งเดินไปที่แม่น้ำแล้วก็โดดลงไปในน้ำ จื้อเหยินตกตะลึงหันไปเห็นเรือหาปลาลำหนึ่งกำลังพายผ่านมาใกล้ที่เกิดเหตุจึงตะโกนร้องเรียก คุณ...รีบลงไปช่วยคนเร็ว เราจะให้เงิน คนหาปลาได้ยินก็โดดลงไปในน้ำ สักครู่หนึ่งก็ลากหญิงคนนั้นขึ้นมาบนฝั่ง จื้อเหยินให้รางวัลเขา 10 ตำลึง

    เมื่อหญิงคนนั้นฟื้นขึ้นมาจื้อเหยินก็ถามนางถึงสาเหตุการคิดสั้น นางบอกว่า ตอนสามีฉันไปทำงาน ที่บ้านหมูที่เลี้ยงไว้หนึ่งตัว ฉันได้ขายมันไปได้เงินแปดตำลึง วันนี้เอาเงินไปจ่ายค่าเช่าจึงรู้ว่าเป็นเงินปลอม ด้วยเกรงว่าสามีกลับมาจะถูกด่าว่า จึงจัดสินใจโดดน้ำตายให้จบเรื่อง จื้อเหยินรู้สึกสงสารมากจึงเพิ่มให้อีกเท่าหนึ่ง โดยมอบเงิน 16 ตำลึงให้นาง นางถามชื่อแซ่และที่อยู่ ขอบอกขอบใจเป็นการใหญ่แล้วก็จากไป


  จื้อเหยินได้ช่วยชีวิตคน จิตใจรู้สึกสบาย ตอนค่ำกลับถึงโรงแรมก็เข้านอนเลย ส่วนหญิงคนนั้นเมื่อกลับไปบ้านผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปียกแล้ว พอดีสามีกลับมาจึงเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ทราบ สามียังรู้สึกคลางแคลงใจ จึงถามถึงที่พักของจื้อเหยินแล้วพาลูกเมียไปที่โรงแรมเพื่อถามไถ่ให้กระจ่าง จื้อเหยินกำลังนอนหลับอยู่พลันได้ยินเสียงเคาะประตูก็ถามว่า ใคร? คนนอกห้องตอบว่า คนที่โดดน้ำตายมาขอบพระคุณค่ะ จื้อเหยินพูดเสียงดังว่า ดึกดื่นค่ำคืนเช่นนี้ ชายกับหญิงจะพบกันสองต่อสองได้อย่างไร? สามีของนางได้ยินเช่นนี้ ก็รู้ว่าเขาเป็นคนมีคุณธรรมจึงบอกว่า คุณ.....เราสองคนผัวเมียมาด้วยกัน จื้อเหยินได้ฟังก็ใส่เสื้อออกมาเปิดประตู สองผัวเมียคุกเข่ากล่าวว่า เราทั้งสองขอคารวะท่านผู้มีพระคุณ

       โครม! เสียงปานฟ้าถล่มทลาย ฝาผนังห้องเกิดถล่มลงมาตรงเตียงของจื้อเหยินพอดี ทุกคนตกตะลึง ต่างอุทานว่า อามิตตาพุทธ สามีภรรยาขอบคุณแล้วขอบคุณอีกแล้วก็จากไป

        หลังจากจื้อเหยินผ่านพ้นอันตรายจากฝาผนังถล่มแล้ว วันรุ่งขึ้นก็โดยสารเรือกลับบ้าน ซึ่งตอนนี้เป็นเดือน 11 แล้ว วันหนึ่งได้ออกไปข้างนอกผ่านไปที่หมอดูหลิ่วจวง ขณะกำลังคิดจะถามหลิ่วจวงเห็นเข้าก็กล่าวว่า โอ รอยอัปมงคลบนใบหน้าของคุณหายไปจนหมด คุณคงไปสร้างกุศลอันยิ่งใหญ่มาแน่ๆ จื้อเหยินได้เล่าเรื่องการช่วยชีวิตคนและเรื่องฝาผนังถล่ม หมอดูบอกว่า ถูกแล้ว ต่อไปคุณยังจะโชคดีอีกนะ จื้อเหยินถามว่า ในเมื่อดวงชะตากำหนดไว้แล้ว ทำไมเมื่อได้สร้างบุญกุศลจึงสามารถเปลี่ยนแปลงได้ล่ะ? หมอดูกล่าวว่า อันนี้เข้าใจไม่ยาก คือเป็นธรรมชาติของกฏแห่งกรรม สร้างกรรมใดก็ต้องรับกรรมนั้น แม้ว่าโหงวเฮ้งของคุณจะไม่มีบุตรสืบสกุลและอายุสั้น แต่ตอนหลังคุณเกิดมีเมตตาจิต ได้ช่วยชีวิตคน ความมืดมนแห่งชีวิตจึงสลายไป หมดด้วยแสงตะวัน คุณช่วยเขา เขาก็ช่วยคุณ นี่คือ ทำดีได้ดี ต่อมาภรรยาของจื้อเหยินได้ให้กำเนิดบุตรชายห้าคน ส่วนตนเองมีชีวิตอยู่ถึงอายุ 90 ปี

                       จบ

   เก็บมาฝากจากเวป  www.tumsrivichai.com



Create Date : 11 กรกฎาคม 2555
Last Update : 11 กรกฎาคม 2555 15:16:29 น.
Counter : 629 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

peka
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



คนซื่อๆ มองโลกตามความจริง ใช้ชีวิตไปตามสภาพดินฟ้าอากาศ วันไหนฟ้าใส จิตใจสดชื่น อาจหัวเราะเริงร่า พูดคุยสนุก วันไหนฟ้ามืด จิตใจซึมเศร้า อาจนั่งเงียบเหงาเขียนบทกวี วันไหนโลกแล้งยุติธรรม จิตใจหดหู่ อาจกินๆนอนๆดูทีวีทั้งวัน