จากถนน 3304 วิ่งตรงไปจนถึง อ.แปลงยาวแล้วเดินทางต่อโดยใช้เส้นทาง 3010 ก่อนจะเลี้ยวซ้ายไปตามถนน 3013ขับไปอีกไม่นานนักก็ถึงถนนสาย 3259 โดยจุดหมายแรกของผมในวันนี้คือโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาคลองสียัด
คลองสียัดในวันที่ครึ้มฟ้าครึ้มฝนเช่นนี้ดูสวยงาม และทำให้สดชื่นทีเดียว
ข้างๆ อ่างเก็บน้ำเต็มไปด้วยผืนหญ้าสีเขียวกับดอกหญ้าต้นเล็กๆ ที่ขึ้นแซมเป็นช่วงๆ
นั่งรับลมเย็นๆ อยู่ริมอ่างเก็บน้ำมองไปเห็นภูเขาเบื้องหน้าลิบๆ เมฆฝนในวันนี้มีเยอะมากเลยทีเดียว
นอกจากจะเป็นแหล่งน้ำสำหรับการทำเกษตรกรรมแล้วที่นี่ยังเป็นแหล่งหาอาหารที่ชาวบ้านเข้ามาจับปลากันได้อีกด้วย
ทุ่งหญ้าสีเขียวขจีข้างถนนเรียบอ่างเก็บน้ำยังเป็นแหล่งอาหารชั้นดีให้กับฝูงวัวควายของชาวบ้านในแถบนี้ได้อีก
ผมใช้เวลาเดินเล่นอยู่ริมอ่างเก็บน้ำได้สักพักก็ออกเดินทางมุ่งหน้าต่อไปยังภูเขาเบื้องหน้า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนโดยใช้เส้นทางสาย 3259 ต่อ
ไม่นานนักผมก็มาถึงที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน
การเดินทางมายังเขาอ่างฤาไนนั้นจะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมากเพราะนอกจากถนนสาย 3259 นี้จะเป็นถนน 2 เลนที่รถวิ่งสวนกันแล้วถนนเส้นนี้ยังตัดผ่านผืนป่าซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของช้างป่าและสัตว์ป่าน้อยใหญ่มากมายซึ่งสัตว์ป่าเหล่านี้มักจะเดินข้ามถนนไปมา จนบางครั้งอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุกับผู้สัญจรไปมาได้
ย่างก้าวแรกที่เข้ามาในที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนก็พบกับฝูงกวางน้อยที่ออกมาคอยต้อนรับ
และก็คงเป็นก้าวย่างแรกที่ทำให้รับรู้ถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าแม้เพียงแค่จุดเริ่มต้นในการเดินทางก็ตาม
ผมขับรถไปทางด้านหลังของที่ทำการเขตฯเพื่อไปยังอ่างเก็บน้ำเล็กๆ ที่ผมเคยมาเมื่อหลายปีก่อนสองข้างทางยังคงเป็นป่ารกทึบ ไม่ต่างจากในครั้งก่อนที่มาเยือน
ความทรงจำในครั้งก่อนที่ได้พบเจอสัตว์ป่าบริเวณนี้ผุดขึ้นมาอีกครั้งภาพของนกยูง กระรอก และกวาง ที่ในวันนี้ไม่มีแม้แต่วี่แววที่จะได้พบเจอ
ดอกไม้เล็กๆที่สวยงามคงไม่ต่างจากผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์แต่ไร้ซึ่งการเหลียวแลเยี่ยมเยือน
คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการได้นั่งพักทอดสายตามองธรรมชาติรอบๆ ตัว ฟังเสียงนกนาๆ ชนิดขับร้องบทเพลงธรรมชาติ
ศาลาที่ดูเงียบเหงาไร้นักท่องเที่ยวคงอาจได้ต้อนรับผู้คนบ้างในยามฤดูหนาว
สำหรับที่นี่สามารถเข้ามาตั้งแคมป์พักแรมได้ หากแต่ต้องทำเรื่องขออนุญาตจากที่ทำการเขตฯ เสียก่อน
เป็นความสวยงามอย่างแปลกประหลาดและเป็นภาพที่ผมชอบภาพหนึ่ง ดอกบัวสีชมพูที่กำลังจะเบ่งบาน ท่ามกลางใบบัวแห้งๆเต็มผืนน้ำ หากมองให้ดีแล้วเราคงจะเห็นอะไรบางอย่างในนั้น
ในวันที่ไร้ผู้คนมาเยี่ยมเยือนธรรมชาติอาจกำลังฟื้นตัวเพื่อรอคอยการกลับมาของใครบางคน
ในบริเวณนี้จะมีหอคอยสูงประมาณ 20 เมตรให้เราได้ขึ้นไปชมวิวมุมสูงทั่วบริเวณ
จากลาความสงบเงียบของที่นี่ไปเพื่อเดินทางไปยังน้ำตกอ่างฤาไนซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่จุดนี้มากนัก แต่เราต้องผิดหวังเมื่อไปถึงทางเข้าน้ำตกเพราะเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ขึ้นไปบนน้ำตกเนื่องจากเกรงอันตรายจากน้ำป่าและช้างป่าที่จะออกมาหาอาหารกินในช่วงเย็น
เจ้าหน้าที่แนะนำว่ามีน้ำตกอีกแห่งหนึ่งในอ.บ่อทอง จ.ชลบุรี ซึ่งยังอยู่ในความดูแลของเขตฯ มีชื่อว่า น้ำตกอ่างผักหนามหรือที่ชาวบ้านแถบนั้นเรียกกันว่า น้ำตกเขาใหญ่ซึ่งการจะไปยังน้ำตกแห่งนี้ต้องลัดเลาะไปตามภูเขาและไร่สวนของชาวบ้าน
ถนนบางช่วงตัดผ่านสวนยางพาราสูงชะลูดมองดูสวยงามไปอีกแบบ
ไม่นานนักผมก็มาถึงน้ำตกอ่างผักหนามซึ่งอยู่ด้านหลังของวัดมุตโตทัยนี้เอง ป่าที่นี่เป็นป่าดงดิบมีต้นไม้สูงใหญ่ปกคลุมไปทั่วบริเวณและด้วยเป็นหน้าฝนทำให้พื้นค่อนข้างลื่นต้องเดินด้วยความระมัดระวัง
เดินเข้ามาเพียงไม่กี่เมตรก่อนจะถึงตัวน้ำตกเราจะได้พบเห็นเห็ดแชมเปญขึ้นอยู่ทั่วบริเวณ
ความสุขของคนชอบเข้าป่าอย่างผมคงหนีไม่พ้นความตื่นเต้นที่ได้พบเห็นเห็ดแชมเปญสีสวยๆ สำหรับกล้องโอลิมปัส OMD-EM10 นี้ยังให้สีสันที่สวยสดโดยไม่ต้องตกแต่งเพิ่มเติมสีสันแต่อย่างใดทั้งสิ้น
บางทีธรรมชาติก็ช่างสรรค์สร้างสิ่งที่เล็กๆแต่แสนสวยงามเหล่านี้
อีกไม่กี่วันเห็ดแชมเปญกลุ่มนี้ก็คงจะโตขึ้นมาเป็นเห็ดถ้วยขนาดใหญ่ให้ได้เชยชม
ธรรมชาติที่นี่มีความอุดมสมบูรณ์ไม่แพ้ป่าบนเทือกเขาสูงชันทำให้พบเห็นเห็ดแชมเปญสีสันสดสวยได้อย่างไม่ยากเย็นนักสำหรับภาพนี้ผมใช้การโฟกัสเฉพาะจุดเพื่อหาโฟกัสได้ง่ายๆ ในมุมที่รกและแคบ
เดินมาเพียงไม่กี่สิบเมตรจากทางเข้าก็ถึงตัวน้ำตกอ่างผักหนามในชั้นที่1 ที่ดูสวยงาม และสามารถลงเล่นน้ำได้
น้ำตกที่นี่มีทั้งหมด 7 ชั้นแต่ด้วยความที่พวกเรามาถึงเย็นมากแล้ว จึงขอแค่สัมผัสความงามเพียงแค่ชั้นที่ 1 ก็เพียงพอ
สายน้ำที่ใสสะอาดและเย็นทำให้รู้สึกสดชื่นและหายเหนื่อยจากการขับรถอยู่ไม่น้อย สำหรับภาพน้ำตกผมจะปรับกล้องไปที่หมวด M หรือแมนนวล เพื่อใช้ S หรือสปีดที่ต่ำทำให้สายน้ำตกดูนุ่มนวลเป็นสายๆ แต่ต้องใช้ขาตั้งกล้องในการถ่ายนะครับ
นอกจากพวกเราแล้วก็ยังมีนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นมาเที่ยวเล่นน้ำกันบางกลุ่มก็กำลังทยอยกลับ ส่วนมากเป็นคนในท้องที่
มอสที่ปกคลุมหินแต่ละก้อนๆคงแสดงให้เห็นว่าพื้นที่ป่าแห่งนี้ยังคงความสมบูรณ์อยู่ไม่น้อย
น้ำตกในชั้นนี้จะลึกไม่มากนัก ส่วนมากเป็นแอ่งน้ำตื้นๆน้ำไหลผ่านเรื่อยๆ เล่นน้ำได้อย่างเพลิดเพลิน
ภาพนี้ก็เช่นกันที่ผมจะปรับสปีดชัตเตอร์ให้ต่ำๆปรับหน้ากล้องให้แคบเช่น F16เพื่อให้สายน้ำตกดูนุ่มนวล
ฝนที่ตกชุกในช่วงนี้ทำให้โดยทั่วบริเวณเป็นสีเขียวขจีมองไปทางไหนก็สบายตา
ต้นเฟิร์นเล็กๆ กลุ่มนี้ หากมองเพียงผ่านๆก็คงเป็นเพียงพืชต้นเล็กๆ ธรรมดา
เหมือนกับน้ำตกเล็กๆแห่งนี้ซึ่งแม้เพียงวันนี้เราจะมาเยือนแค่เพียงชั้นที่ 1แต่กลับได้รับความสุขความสบายใจเหลือเกิน
จากลากันไปด้วยภาพน้ำตกอ่างผักหนามหรือน้ำตกเขาใหญ่ กับภาพสายน้ำที่ไหลเย็นชุ่มฉ่ำ เชิญชวนให้เข้าไปสัมผัสอีกครั้ง
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง OLYMPUS https://www.facebook.com/penclubthailand ที่นำกล้อง OMD-EM10 มาให้ทดลองใช้ในทริปนี้
และอีกหนึ่งพื้นที่การเดินทางบนเส้นทางสายธรรมชาติในแบบฉบับของผม ม่วงมหากาฬ LIFE FOR TRAVEL
https://www.facebook.com/PEESAT.PANTIP
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมแล้วพบกันใหม่ในทริปต่อไป สวัสดีครับ