ม่วงมหากาฬ LIFE FOR TRAVEL
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2556
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
8 กรกฏาคม 2556
 
All Blogs
 
"ภูลมโล" ห้วงเวลาแห่งสีชมพู

ภาพถ่ายใบนั้นจากโลกออนไลน์...
ภาพถ่ายใบนั้นที่ดอยทั้งดอยเป็นสีชมพู...
ภาพถ่ายใบนั้นที่สวยจับใจ...
และเป็นภาพถ่ายใบนั้นที่สร้างแรงบันดาลใจได้มากมาย จนผมต้องตามหามัน “ภูลมโล”

บ้านร่องกล้าก่อนขึ้นดอยภูลมโลมีชาวม้งตั้งแผงขายของพื้นบ้าน พืชผักท้องถิ่นในราคาไม่แพงนัก


ดอกกระดาษมีขายไปทั่ว แอบงงอยู่เหมือนกันว่าทำไมถึงขายกันเยอะมาก แต่ดูไปก็สวยดี


ผมใช้เส้นทางอุทยานฯภูหินร่องกล้า ถนนค่อนข้างดีจนถึงบ้านร่องกล้า แต่หลังจากนั้นทางจะค่อนข้างลำบากระยะทางราวๆ 5 กิโลเมตรก่อนถึงภูลมโล


วิวทิวทัศน์สองของทางสวยงามทีเดียว


ถนนช่วง 5 กิโล จากบ้านร่องกล้า ทางเป็นดินแดง มีหลุมร่องเป็นระยะ ไม่ควรใช้รถเก๋งในการเดินทาง


จากบทเกริ่นนำของรีวิว ภาพถ่ายใบนั้นยังอยู่ในความทรงจำ จนถึงวันที่ใกล้เป็นความจริง


ผมไม่รู้หรอกว่ามันจะไกลแค่ไหน ไม่รู้หรอกว่าเส้นทางจะลำบากเพียงใด รู้แค่ว่าผมต้องออกเดินทาง


ถ้าถนนดีดี ถนนสายนี้คงสวยไม่แพ้ที่ใดในโลก คงมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนไม่น้อย


แต่ผมกลับคิดว่านี่คือเสน่ห์ของการเดินทาง


จากบ้านร่องกล้าระยะทางเพียง 5 กิโลเมตร แต่ใช้เวลาค่อนข้างมากทีเดียวก่อนถึงภูลมโล


ภูลมโล มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1664 เมตร


เมื่อมายืนด้านบนของภูลมโลสามารถมองเห็นทัศนียภาพกว้างไกล มองเห็นได้ถึง 3 ภู คือ ภูทับเบิก ภูหินร่องกล้า และภูขี้เถ้า


ภาพถ่ายใบนั้น ไม่ได้เป็นเพียงแค่ภาพถ่ายอีกต่อไป


ดอกนางพญาเสือโคร่งที่บานสะพรั่ง สีชมพูสดงดงามจับใจ


ที่แห่งนี้มีต้นนางพญาเสือโคร่งถึงหนึ่งแสนต้น หรือกว่าพันไร่


ในวันที่ผมไปเยือนคือช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ดอกนางพญาเสือโคร่งยังบานไม่ถึง 40 เปอร์เซ็นต์


แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ดอยเป็นสีชมพู และทำให้หัวใจของผมพองโต


แต่เดิมโดยรอบภูลมโลเป็นพื้นที่ปลูกกระหล่ำปลีของชาวม้ง


ต่อมาทางอุทยานฯ ต้องการให้ชาวม้งออกจากเขตพื้นที่ จึงได้ตกลงกับชาวม้งให้ปลูกต้นนางพญาเสือโคร่งสลับกับปลูกกระหล่ำปลี


เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว นำรายได้มาสู่ชุมชน ซึ่งเป็นผลดีกับทุกฝ่าย


ย้อนกลับไปในสมัยก่อน ดินแดนแห่งนี้เคยเป็นพื้นที่สีแดง


โดยฝ่ายคอมมิวนิสต์ใช้เป็นฐานที่ตั้ง และลำเลียงอาวุธในการสงคราม


ปัจจุบันพื้นที่แห่งนี้กลับคืนสู่ความสงบ ร่องรอยการสู้รบยังมีหลงเหลือให้เห็นอยู่บ้าง รวมถึงบันทึกเรื่องราวต่างๆ ทาง ประวัติศาสตร์ ให้ลูกหลานได้ศึกษาเป็นบทเรียน


ในวันนี้มีนักท่องเที่ยวมาเยือนไม่มากนัก หรือแทบจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะถนนหนทางที่ค่อนข้างลำบาก และที่พักต้องกางเต็นท์เท่านั้น


นักท่องเที่ยวที่ไม่มีรถ4วีล ก็สามารถว่าจ้างรถเช่าขึ้นมาได้ ซึ่งมีให้บริการโดยทั่วไป ทั้งที่บ้านร่องกล้า และบ้านกกสะทอน


นับจากวันที่ผมรีวิวนี้ ก็ยังสามารถไปเที่ยวชมได้ทัน ดอกนางพญาเสือโคร่งน่าจะบานเต็มที่ในราวกลางเดือนมกราคม จนถึงปลายเดือนมกราคม


ผมเชื่อว่าหลายๆท่านจะต้องตะลึงในความงาม ความอลังการ และจำนวนต้นนางพญาเสือโคร่งที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก


มากจนสุดลูกหูลูกตา มากในแบบที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน และมากที่สุดในประเทศไทย


การเดินทางในวันนี้ชั่งแสนวิเศษ ภาพถ่ายใบนั้น ทำให้ผมได้มาเจอความสวยงามในวันนี้


และภาพความทรงจำในวันนี้จะอยู่ในใจผมตลอดไป


ยืนอยู่นิ่งๆ ค่อยหมุนตัวอย่างช้าๆ มองออกไปให้ไกลๆ เก็บบันทึกเรื่องราวลงในความทรงจำ สายลม ท้องฟ้า ภูเขา เราจะอยู่คู่กันตลอดไป


จุดนี้เมื่อมองออกไปริบๆ จะเห็นภูร่องกล้า ซึ่งเป็นอีกสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมากางเต็นท์ค้างแรม


คืนนี้พวกเราจะกางเต็นท์ค้างแรมกันที่บริเวณนี้


ช่วงบ่ายแก่ๆ ของวัน ความสุขค่อยๆ เดินไปตามห้วงเวลา ความเย็นเริ่มเข้ามาทักทาย


นั่งเขียนรีวิวชุดนี้แบบเร่งด่วนเพื่อให้ทันคนที่จะตามรอย จะได้ทันดอกนางพญาเสือโคร่งที่บานเต็มที่


นั่งเรียบเรียงเรื่องราวความทรงจำ ความสุขเริ่มกลับมาอีกครั้งเมื่อได้เห็นภาพถ่าย


อยากกลับไปยืนตรงนั้นอีกครั้ง ในวันที่ดอกนางพญาเสือโคร่งบานแบบ 100 เปอร์เซ็นต์


ที่พักของเราในค่ำคืนนี้ มีเพียง 2 กลุ่มบนยอดภูลมโล


แสงสุดท้ายกำลังลาลับไปพร้อมกับความสวยงาม และอุณหภูมิเลขตัวเดียว


ภาพแห่งความทรงจำกำลังลาจาก รอเวลาบันทึกมันอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น


อาจมีแค่ผมเพียงคนเดียวที่กำลังมองไปยังดอยฝั่งนั้น แต่จะมีซักกี่คนที่มองมายังภูลมโล


คงเปรียบได้กับจะมีนักท่องเที่ยวซักกี่คนที่จะนึกถึงภูลมโลเป็นลำดับต้นๆ ในการเดินทาง


แสงสุดท้ายในวันนี้สวยจับใจดีเหลือเกิน เป็นแสงจากธรรมชาติจริงๆ ที่ไม่ได้ย้อม


ยิ่งดึกอุณหภูมิก็ยิ่งหนาวเหน็บ หนาวจนต้องจุดกองไฟผิงกาย


พี่ที่เป็นไกด์ของนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มเล่าว่า บางวันยังเกิดแม่คะนิ้งบนภูลมโล


เช้าวันใหม่พร้อมกับการรีบตื่นของพวกเราเพื่อไปเก็บภาพแสงแรกของวันบนดอยซึ่งไปไกลจากกันนัก


เป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชื่นชมความงามของแสงแรก ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่เรากางเต็นท์ไม่กี่ร้อยเมตร


จุดนี้สามารถมองเห็นภูทับเบิก และบ้านทับเบิกที่อยู่ด้านล่าง สวยงามเกินบรรยายจริงๆ


ดวงตะวันเริ่มส่องแสงสีทองเจิดจ้า การเดินทางของชีวิตกำลังเริ่มขึ้น


ต่างสถานที่ ในเวลาเดียวกัน ความสุขและความทรงจำที่แตกต่างกันไป


เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ตะวันทอแสงได้สวยงามจริงๆ จนต้องเก็บภาพความทรงจำในห้วงเวลาแบบนี้ให้มากที่สุด


เช้าแล้วหรือ บางทีก็ใจหายที่ใกล้จะถึงเวลาที่ต้องจากลากัน


ไม่รู้ว่าอีกเมื่อไหร่จะได้มายืนบนจุดนี้ และไม่รู้อีกนานแค่ไหนจะได้ทำตามหัวใจที่อยากทำ


แสงสีทองปูพรมห่มยอดดอย หากจะเรียกดอยสีทองคงไม่ผิดไปจากภาพถ่ายนัก


บางช่วงของดอยเป็นภูเขาหัวล้าน อาจเพราะชาวบ้านเข้าไปลุกล้ำเพื่อทำไร่


บางช่วงเป็นหุบเหว ดูหวาดเสียวดีเหมือนกัน


หมอกจางๆ ละเลียดไปกับสายลมเอื่อยๆ ถ้ามีทะเลหมอกคงงดงามเกินกว่าที่ใดๆ


อยากให้หลายๆ คนตามรอย เพราะไม่ไกล และลำบากเกินไปนัก


รายได้จะได้กระจายเพื่อช่วยเหลือชุมชน ผมชอบในความจริงใจของชาวบ้าน ชอบในรอยยิ้มและอัธยาศัย มิตรไมตรีของผู้คน


เมืองไทยยังมีที่ที่ UNSEEN อีกมาก และภูลมโลคือหนึ่งในนั้นแน่นอน


จากลากันไปด้วยภาพความสวยงามของภูลมโล แล้วพบกันใหม่ทริปหน้าครับ สวัสดีครับ



Create Date : 08 กรกฎาคม 2556
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2557 21:26:54 น. 2 comments
Counter : 1549 Pageviews.

 
สวยงามมากค่ะ เข้ามาชมตอนดึกๆ ตื่นตา จนหายง่วงเลยค่ะ


โดย: the last woman วันที่: 8 กรกฎาคม 2556 เวลา:1:16:56 น.  

 
thx u crab


โดย: Kavanich96 วันที่: 8 กรกฎาคม 2556 เวลา:10:03:10 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ม่วงมหากาฬ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




บล็อกของคนชอบเที่ยว
https://www.facebook.com/PEESAT.PANTIP
Friends' blogs
[Add ม่วงมหากาฬ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.