ม่วงมหากาฬ LIFE FOR TRAVEL
Group Blog
 
 
มกราคม 2559
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
19 มกราคม 2559
 
All Blogs
 

"ซันไชน์การ์เด้น รีสอร์ท" อีกหนึ่งมุมของการพักผ่อนกลางเมืองใหญ่



ท่ามกลางเมืองใหญ่อย่างพัทยา เมืองท่องเที่ยวที่คราคร่ำไปด้วยผู้คนและความพลุกพล่าน

ยังมีมุมสงบมุมหนึ่งที่ทำให้เราได้ใช้เวลาพักผ่อนได้อย่างเต็มที่
กับเรื่องราวที่น่าประทับใจอีกบทหนึ่ง ณ "ซันไชน์การ์เด้น รีสอร์ท"




อีกหนึ่งพื้นที่การเดินทางในแบบฉบับของผม ม่วงมหากาฬ LIFE FOR TRAVEL
https://www.facebook.com/PEESAT.PANTIP


"ซันไชน์การ์เด้น รีสอร์ท" โรงแรมขนาดกลางใจกลางเมืองพัทยาเหนือ ตั้งอยู่ไม่ห่างจากวงเวียนปลาโลมามากนัก 



เพียงย่างก้าวแรกก็สัมผัสได้ถึงความร่มรื่นจากต้นไม้นานาพันธุ์



บริเวณโดยรอบล็อบบี้ รวมถึงลานจอดรถ เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ชวนให้เข้าไปสัมผัสด้านใน



เวลคัมดริ้งค์ที่ทำให้เราได้รู้สึกสดชื่น และหายเหนื่อยจากการเดินทาง



ห้องพักและทางเดินที่ปกคลุมไปด้วยแมกไม้ทำให้รู้สึกร่มรื่นและผ่อนคลาย



ห้องพักสำหรับพวกเราในวันนี้เป็นห้อง Family Suite Two Bedroom ซึ่งเป็นห้องใหญ่แบบ connecting room 


มีห้องนอน 2 ห้อง และห้องนั่งเล่น 1 ห้อง ที่ค่อนข้างกว้างขวางและสะดวกสบาย




ภายในห้องนอนตกแต่งแบบเรียบง่าย เฟอร์นิเจอร์จะเน้นไม้เป็นหลัก ให้ความรู้สึกอบอุ่นและสบายเหมือนอยู่ที่บ้านตัวเอง




ทั้งสองห้องนอนจะตกแต่งคล้ายๆ กันเป็นแนว Earth tone ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย



ระเบียงหลังห้องเป็นมุมที่น่านั่งอีกมุมหนึ่ง ด้านหลังเต็มไปด้วยต้นไม้สูง มองไปทางไหนก็รู้สึกสบายตากับความร่มรื่นและสีเขียวของต้นไม้ใบหญ้า



ที่ซันไซน์การ์เด้นยังมีที่พักแบบบังกะโล ในความเป็นส่วนตัวที่ยังคงความร่มรื่นด้วยหมู่มวลแมกไม้


เที่ยงวันนั้นเราฝากท้องกันไว้ที่ห้องอาหาร The Green Park Restaurant ซึ่งเป็นห้องอาหารของโรงแรม The Green Park Resort
เป็นรีสอร์ทที่อยู่ติดๆ กันกับที่พวกเราพัก เดินทะลุถึงกันได้และเป็นอีกหนึ่งโรงแรมในกลุ่มโรงแรมรีสอร์ทซันไซน์

ปลากะพงราดพริกจานนี้ รสชาติออกหวานนิดๆ และไม่เผ็ดเท่าไหร่นัก  



ห้องอาหารที่นี่ถือว่าทำอาหารไทยได้รสชาติออกมาถูกปากคนไทยพอสมควร แม้จะเป็นโรงแรมในย่านพัทยาซึ่งร้านอาหารส่วนมากจะปรับรสชาติให้ฝรั่งทานได้ แต่ที่นี่ยังคงรสชาติแบบไทยๆ 
อย่างต้มยำทะเลรวมชามนี้ ต้องบอกว่ารสชาติจัดจ้านแบบไทยๆ เลยครับ





ทานอาหารเที่ยงเสร็จแล้ว ก็เป็นเวลาที่จะได้ผ่อนคลายเดินเล่นกัน 
ทางเดินรอบๆ สระว่ายน้ำยังคงเน้นเรื่องความร่มรื่นของต้นไม้ 



สระว่ายน้ำของที่นี่มีเพียงสระเดียว อยู่ตรงกลางรีสอร์ทเลย
แต่แม้จะมีเพียงสระเดียว แต่ก็ค่อนข้างกว้างครับ แยกสระเด็กและสระผู้ใหญ่ไว้อย่างชัดเจน



ด้านสระผู้ใหญ่นั้น ลึกตั้งแต่ 90 cm. ไปจนถึง 3 เมตรเลยครับ



และเพื่อความปลอดภัย ทางรีสอร์ทได้ทำตามกฎสากล 
โดยมีรั้วเหล็กกั้นระหว่างสระเด็กและสระผู้ใหญ่ เพื่อป้องกันเด็กๆ พลัดตกไปสระใหญ่ครับ



ช่วงเวลาวันหยุดสั้นๆ กับความเพลิดเพลินในสระว่ายน้ำ คงไม่มีอะไรน่าประทับมากไปกว่ามิตรภาพใหม่ๆ ที่เริ่มขึ้นในที่แห่งนี้
เพื่อนใหม่ ต่างชาติ ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม
แต่กลับมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ รอยยิ้มแห่งมิตรภาพ
และนี่คืออีกความประทับใจที่เด็กน้อยทั้งสองได้รับจากพื้นที่เล็กๆ ตรงนี้



เด็กน้อยเล่นน้ำอยู่นานจนล่วงเลยมาเป็นเวลาบ่ายแก่ๆ เริ่มหิวกันอีกแล้วครับ
เนื่องจากใช้พลังงานไปมาก งานนี้เลยต้องเพิ่มพลังกันด้วยปีกไก่พริกไทยดำ และคานาเป้





นอกจากห้องพักที่ผมพักในวันนี้แล้ว ยังมีห้องพักในแบบอื่นๆ อีกหลายแบบครับ

ห้อง Deluxe Jacuzzi เป็นอีกห้องหนึ่งที่คุ้มค่าแก่การพักผ่อน
รูปแบบการตกแต่งภายในห้อง จะคล้ายๆ กับห้องที่ผมได้พัก คือเน้นโทนไม้เป็นหลัก
สร้างความรู้สึกผ่อนคลาย สบายๆ





ห้องน้ำตกแต่งเหมือนกันครับ มีอ่างอาบน้ำให้นอนอาบน้ำอุ่นผ่อนคลาย



และความพิเศษที่แสนคุ้มค่านี้คือ อ่างจากุซชี่ด้านหลังห้องที่เชิญชวนให้เราเข้าไปสัมผัส



บรรยากาศด้านนอกก็ร่มรื่นไปด้วยแมกไม้น้อยใหญ่ คงจะดีไม่น้อยหากได้ใช้เวลาตรงนี้ในการผ่อนคลายความตึงเครียดหลังจากลุยงานหนักมาทั้งสัปดาห์




และที่เรียกได้ว่าเป็นห้องที่ราคาแสนจะคุ้มค่านั้น เพราะราคาเริ่มต้นของห้องนี้อยู่ที่ห้องละ 2,500 บาทเท่านั้น 
โดย location ของรีสอร์ทนั้นใกล้แหล่งช็อปปิ้งและร้านอาหารมากมายในย่านพัทยาเหนือและนาเกลือ



นอกจากห้อง Deluxe Jacuzzi ด้านบนแล้ว ผมยังได้มีโอกาสเข้าไปชมห้องในแบบอื่นด้วยครับ

ห้องพักแบบ Studio เป็นห้องที่มีขนาดกว้างมาก การตกแต่งเน้นไม้เช่นเดิมครับ





ภายในห้องมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน
ห้องพักที่กว้างขวางทำให้รู้สึกโล่งโปร่งสบาย เหมือนอยู่บ้านตัวเอง
มีทั้งมุมนั่งจิบชากาแฟ มุมเอนหลังนั่งเล่น อ่านหนังสือหรือฟังเพลงก็รู้สึกผ่อนคลายครับ

ต้องบอกว่าห้องนี้เป็นอีกห้องที่คุ้มค่าเกินราคามากๆ โดยราคานั้นเริ่มต้นนั้นอยู่ที่ 2,300 บาทเท่านั้นเองครับ




จากระเบียงหลังห้องยังมองออกไปเห็นบริเวณสระว่ายน้ำ มองเห็นต้นไม้น้อยใหญ่โดยรอบ
เป็นอีกจุดที่ถ้าได้นั่งคิดอะไรเพลินๆ อยู่ตรงนี้แล้ว คงไม่อยากลุกไปไหนเลยครับ




และอีกด้านหนึ่งของตึก เป็นห้องสุดท้ายที่ผมได้เข้าไปชม
ห้องพักแบบ Superior เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่เน้นการเดินทางแบบประหยัด แต่ได้พักผ่อนนอนสบายอย่างเต็มที่ ห้องนี้เลยครับ สอบถามจากพนักงานแล้ว ราคาเริ่มต้นของห้องนี้เพียง 1,420 บาทต่อคืนเท่านั้น



ภายในห้องมี facility ต่างๆ ครบครันเหมือนกัน





จากระเบียงหลังห้อง ยังนั่งเพลินๆ ชมวิวสระว่ายน้ำได้อีกด้วยครับ


ราคาห้องพักในแต่ละวันจะไม่เท่ากันครับ เนื่องจากเป็น dynamic rates ซึ่งเราสามารถเข้าไปเช็คราคาห้องพักในแต่ละวันได้จาก website ของรีสอร์ทเลยที่ www.sunshinegardenhotel.com หรือจะโทรสอบถามจากฝ่าย reservation โดยตรงก็ได้ครับที่เบอร์ 038-421300-1 ครับ



ที่เรียกได้ว่าเป็นที่พักที่คุ้มค่ากับการเข้าพักนั้น คงไม่ได้เป็นการพูดจนเกินความจริงไปนัก
เพื่อนๆ ของผม หลายๆ ครั้งที่พยายามจะจองห้องพักที่พัทยา เพื่อที่จะพาครอบครัวไปเที่ยวและพักผ่อนในช่วงเวลาสั้นๆ แต่หาห้องพักที่สวยในราคาที่ถูกใจไม่ค่อยได้เลย 

ที่ซันไชน์การ์เด้น รีสอร์ทแห่งนี้ เรียกได้ว่าตั้งอยู่ใจกลางพัทยาเหนือ
เดินทางสะดวก อยู่ใกล้วงเวียนปลาโลมา จะเดินทางไปพัทยาเหนือ พัทยากลาง ก็สะดวก
หรือจะไปหาร้านอาหารอร่อยๆ ทานที่นาเกลือก็ใกล้เหลือเกิน
ด้านหน้าโรงแรม ยังเต็มไปด้วยร้านอาหารหลากหลาย ร้านเสื้อผ้า ร้านกาแฟ ร้านสะดวกซื้อ และร้านขายยา


บริเวณล็อบบี้ เน้นความโล่ง ความโปร่งสบาย เพื่อให้อากาศถ่ายเท 
และได้รับลมธรรมชาติจากแมกไม้โดยรอบ ทำให้วันที่ร้อนอบอ้าวนั้น ไม่ร้อนจนเกินไปนัก







ด้านหน้าของโรงแรมในยามค่ำคืน คงเป็นอีกหนึ่งเมืองที่ไม่เคยหลับใหล



เย็นวันนั้น ที่ร้านอาหาร Sip & Byte Bistro เป็นเย็นย่ำที่อากาศดีมากๆ 
ร้านตั้งอยู่ด้านหน้ารีสอร์ท มีลมพัดเย็นสบายตลอดเวลา 
ร้านอาหารแห่งนี้มีแขกแวะเวียนเข้ามาเรื่อยๆ ส่วนมากจะเป็นชาวต่างชาติครับ
อาหารมีทั้งอาหารฝรั่งและอาหารไทย



ด้านในของร้านที่ดูโปร่ง กว้างขวาง ตกแต่งด้วยสิ่งของโบราณที่บ่งบอกถึงความคลาสสิค


มื้อนี้เด็กๆ ได้ลองทานอาหารฝรั่ง เป็นที่ถูกอกถูกใจเอาเหลือเกิน เพราะรสชาตินั้นไม่เลี่ยนจนเกินไปนัก ทำให้ทุกเมนูถูกจัดการไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ Sea bass Fillet of Sole สปาเก็ตตี้สีฟ้าสดสวยรสชาติกะเพราจัดจ้าน ถูกปากเด็กๆ มาก


เบอร์เกอร์ไก่สอดไส้ชิสชิ้นโตๆ ชิ้นใหญ่เต็มคำ เป็นเมนูเอาใจเด็กๆ ที่ เสิร์ฟพร้อมเฟรนช์ฟรายร้อนๆ เป็นออเดิร์ฟที่ถูกอกถูกใจมาก


เมนูอื่นๆ ก็ถูกเด็กๆ จัดการไปอย่างรวดเร็วเช่นกันครับ 
ไม่ว่าจะเป็น Grilled loin pork with basil leaf sauce ที่จัดจานมาอย่างน่ารักจานนี้


หรือจะเป็น Sip & Byte Chef Salad with Grilled duck ที่รสชาติเป็ดย่างนั้นอร่อยนุ่มเต็มปากเต็มคำ



วันนั้นเป็นวันที่ผมเข้านอนเร็วกว่าทุกวัน คงเพราะอยากจะนอนพักผ่อนให้เต็มอิ่ม
หากเป็นวันธรรมดาแล้ว ผมคงจะนั่งทำงานอยู่จนดึก

หลังจากหลับสนิทตลอดทั้งคืน เช้านั้นเลยตื่นเช้ากันเป็นพิเศษครับ
คงเพราะได้พักและได้นอนเต็มอิ่มจนถึงเช้า

ได้เวลาอาหารเช้าแล้ว เป็นช่วงเวลาที่ต้องเติมพลังมากๆ ก่อนที่เด็กๆ จะตะลุยสระว่ายน้ำกันอีกรอบ


มุมทานอาหารเช้าที่อยู่ด้านนอกอาคารดูร่มรื่นน่านั่งมาก


แขกทยอยกันเข้ามาที่ห้องอาหารเรื่อยๆ และโดยมากเป็นชาวต่างชาติทั้งหมดครับ


ไลน์อาหารที่มีค่อนข้างครบ ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย อาหารฝรั่ง ขนมปังต่างๆ สลัด ผลไม้ ชา กาแฟ และน้ำผลไม้







หลังจากสายๆ วันนั้นเด็กๆ ได้เล่นน้ำกับเพื่อนใหม่จนได้เวลาเช็คเอาท์กันแล้ว ผมได้มุ่งหน้าไปทางนาเกลือ เพื่อที่จะแวะไปเที่ยวปราสาทสัจธรรมกันก่อนครับ

ผมมาเยือนพัทยาหลายครั้ง แต่ยังไม่เคยมีโอกาสได้มาที่นี่เสียที


หลังจากได้เห็นแต่รูปผ่านสื่อออนไลน์และในนิตยสารต่างๆ ในที่สุดก็ได้มาเยือนที่แห่งนี้
ได้ยลความสวยงามและความอลังการด้วยสายตาของตัวเอง


ความยิ่งใหญ่ของปราสาทไม้แห่งนี้ จากเพียงรูปถ่ายใบหนึ่ง คงเทียบไม่ได้กับการได้มาชมด้วยตาตัวเอง
ปราสาทที่สร้างขึ้นด้วยแรงแห่งศรัทธา สร้างด้วยไม้ทั้งหมด ด้วยลวดลายไทยที่ประณีตงดงาม
เมื่อมองจากมุมไกลๆ แล้ว ภาพความสวยงามของปราสาทตัดกับผืนน้ำด้านหลัง เป็นภาพที่ประทับใจครับ


ครัวนาเกลือ เป็นร้านอาหารที่อยู่ด้านหน้าของทางเดินเข้าไปยังตัวปราสาทสัจธรรม 
ร้านอาหารแห่งนี้เป็นอาหารไทยครับ รสชาติแบบไทยแท้ๆ ถูกปากนักท่องเที่ยวชาวไทยจริงๆ


ทั้งต้มข่าทะเลที่หอมหวานลงตัว กุ้งราดซอสมะขามตัวโตๆ รสชาติเปรี้ยวหวานกำลังดี


หรือจะเป็นเมนูแนะนำของทางร้านอย่างปลากะพงทอดน้ำปลา ก็มีรสชาติที่ลงตัวถูกปากคนไทยครับ



อิ่มท้องกันแล้ว ก็เป็นเวลาที่จะได้เข้าไปชมความงามภายในปราสาท



ปราสาทสัจธรรม เป็นปราสาทไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สร้างด้วยไม้ทั้งหมดโดยไม่ได้ใช้ตะปูเลยแม้แต่ชิ้นเดียว แต่ใช้การใส่สลักไม้แทน

ยิ่งเดินเข้าไปใกล้เท่าไหร่ ก็ยิ่งรับรู้ได้ถึงพลังศรัทธาและความสวยงามวิจิตรบรรจง
ลวดลายของสถาปัตยกรรมที่งดงามตระการตา คงเป็นเหตุผลเหล่านี้ที่ทำให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนกันอย่างไม่ขาดสาย


ภายในปราสาทแฝงไปด้วยเรื่องราวทางศาสนา ปรัชญา และศิลปวัฒนธรรมอันดีงาม
แต่ละทิศทั้ง 4 ทิศ มีความหมายที่แตกต่างกันออกไป
ทิศตะวันตก เป็นเรื่องราวของธาตุทั้ง 4 ซึ่งก็คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ 
ด้านทิศใต้ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอิทธิพลของดวงดาวและเทพประจำวันเกิด
ทิศเหนือ เป็นเรื่องราวของพระโพธิสัตว์ พระมัญชุศรี พระอมิตาพุทธ พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร กวนอิม โป๊ยเซียน และเซียนต่างๆ ตามคติของชาวพุทธมหายาน
ส่วนทางด้านทิศตะวันออกนั้น ถูกสร้างให้เป็นสัญลักษณ์ของสถาบันครอบครัว ซึ่งสถาบันครอบครัวนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ก่อกำเนิดความรักและความเมตตา


เมื่อเดินอยู่ในปราสาทที่มีความยิ่งใหญ่ สิ่งหนึ่งที่รู้สึกได้คือ ตัวเรานั้นเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตเล็กๆ เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาๆ ที่จะต้องเป็นไปตามวัฏสังสารของชีวิต นั่นก็คือเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
ผมจึงเข้าใจในความมุ่งหมายของสถานที่แห่งนี้ คือเพื่อให้เราได้มองเห็นความสงบ สันติสุข และได้เรียนรู้เกี่ยวกับสัจธรรม ความจริงของชีวิต



ที่นี่เปิดให้เข้าชมทุกวันครับ ตั้งแต่เวลา 8 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น มีค่าเข้าชม 500 บาท สำหรับผู้ใหญ่ สำหรับเด็กความสูง 110-140 ซม. ราคาเข้าชม 250 บาท และเด็กความสูงไม่ถึง 110 ซม. เข้าชมฟรีครับ
โดยสามารถติดต่อซื้อตั๋วเพื่อเข้าชมได้ที่ด้านหน้าบริเวณลานจอดรถเลย
หากสุภาพสตรีท่านใดที่ใส่กางเกงขาสั้นมา ที่นี่มีผ้าคลุมให้สำหรับนุ่งคลุมก่อนเดินเข้าชมด้านในครับ 
เนื่องจากด้านในพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานอยู่



สุดท้ายนี้ขอขอบคุณสำหรับการติดตาม แล้วพบกันใหม่ในโอกาสต่อไปครับ สวัสดีครับ

อีกหนึ่งพื้นที่การเดินทางในแบบฉบับของผม ม่วงมหากาฬ LIFE FOR TRAVEL




 

Create Date : 19 มกราคม 2559
0 comments
Last Update : 12 มกราคม 2560 8:44:09 น.
Counter : 892 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


ม่วงมหากาฬ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




บล็อกของคนชอบเที่ยว
https://www.facebook.com/PEESAT.PANTIP
Friends' blogs
[Add ม่วงมหากาฬ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.