ม่วงมหากาฬ LIFE FOR TRAVEL
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2556
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
8 กรกฏาคม 2556
 
All Blogs
 

"กำแพงเพชร" จากผืนป่าสีเขียว สู่เมืองมรดกโลก

“กรุพระเครื่อง เมืองคนแกร่ง ศิลาแลงใหญ่ กล้วยไข่หวาน น้ำมันลานกระบือ เลื่องลือมรดกโลก”  คำขวัญประจำจังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดที่ผมไม่รู้จักมากนัก การเดินทางในชุดนี้จึงเหมือนการเปิดโลกทัศน์ให้ตนเอง จังหวัดนี้จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ตามผมมาสิครับ มารู้จักกับจังหวัดกำแพงเพชรให้มากขึ้นกัน



แผนที่จังหวัดกำแพงเพชร สถานที่ท่องเที่ยว และเส้นทางหลวงหมายเลขต่างๆ ภายในจังหวัด

เช้าตรู่วันนั้นผมออกเดินทางโดยใช้เส้นทางหมายเลข 1 พหลโยธิน มุ่งหน้าสู่จังหวัดกำแพงเพชร โดยก่อนถึงอำเภอเมือง ผมใช้เส้นทางหมายเลข1242 เพื่อไปยังอำเภอปางศิลาทองก่อนเป็นที่แรก 

สองข้างทางที่เรียงรายไปด้วยทุ่งนา ไร่อ้อย ก่อนก้าวเข้าสู่อำเภอปางศิลาทอง ผมต้องสะดุดตากับวัดๆหนึ่งที่สวยงาม และร่มรื่นเอามากๆ จนอดใจไม่ได้ที่ต้องเข้าไปสัมผัส ซึ่งอยู่นอกเหนือจากโปรแกรมที่ผมกำหนดไว้ว่าจะต้องไปอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ก่อน

วัดป่าธรรมธารา ต.หินดาต อ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร เป็นวัดที่สวยงามตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา ทางเข้าจะมีต้นตะแบกออกดอกสีม่วงเรียงรายดูสวยงาม สบายตาสบายใจเอามากๆ

เมื่อเข้ามาด้านในอาคารของวัดสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามออกไปกว้างไกล โดยมีพระพุทธรูปที่กำลังก่อสร้างตั้งตระหง่านอย่างโดดเด่น

จากวัดป่าธรรมธารา ผมใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1117 เพื่อมุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ 

อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ มีพื้นที่ครอบคลุม อ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร และอำเภอแม่วงก์ จ.นครสวรรค์ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร

บริเวณส่วนใหญ่ของอุทยานฯ จะเป็นป่าไผ่ แก่งหิน และหน้าผาที่สวยงาม ก่อให้เกิดน้ำตกเล็กๆ และลำธารที่ร่มรื่น

สภาพภูมิประเทศของอุทยานแห่งชาติแม่วงก์จะเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนเรียงรายกันอยู่ตามเทือกเขาถนนธงชัย โดยมียอดเขาโมโกจู เป็นยอดเขาที่สูงที่สุด 

อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ยังมีบ้านพักไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว ผมชอบบ้านพักของที่นี่มาก เพราะมีระเบียงที่ยื่นออกไปทำให้สัมผัสธรรมชาติได้อย่างกลมกลืนทีเดียว

แก่งผาคอยนาง ซึ่งอยู่ถัดจากที่ทำการอุทยานฯ ขึ้นมาด้านบนกิโลกว่าๆ มีนักท่องเที่ยวมานั่งปิกนิกทานอาหารหลายกลุ่มทีเดียว เด็กๆ ก็ลงเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน

ธรรมชาติที่ดูร่มรื่น สายน้ำที่ไหลเอื่อยๆ ลัดเลาะไปตามแก่งหิน บวกกับอากาศที่เย็นสบาย ทำให้อุทยานแห่งชาติแม่วงก์เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างยิ่ง

ผมใช้เวลาพักผ่อนภายในอุทยานฯ นานพอสมควร บางทีการได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ได้นั่งเอนไปกับต้นไม้ใหญ่ มองสีเขียวๆ รอบๆ กาย เป็นความสุขที่ไม่อยากจากไปเลยทีเดียว

จากอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ผมมุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติคลองลานโดยใช้ทางหลวงหมายเลข 1117 ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร

อุทยานแห่งชาติคลองลานตั้งอยู่ท้องที่ตำบลโป่งน้ำร้อน ตำบลคลองน้ำไหล และตำบลคลองลานพัฒนา อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำหลายสายไหลรวมกันลงสู่แม่น้ำปิง

น้ำตกคลองลานอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 500 เมตร แม้ในวันนี้จะเป็นช่วงฤดูแล้งของเดือนเมษา แต่สายน้ำก็ยังคงหนาแน่น

น้ำตกคลองลานมีความสูงราว 100 เมตร กว้าง 40 เมตร มีน้ำไหลตลอดปี ทางเดินไปยังน้ำตกจะไม่ไกล และลำบากมากนัก บริเวณโดยรอบค่อนข้างร่มรื่น ปกคลุมด้วยต้นไม้ใหญ่เย็นสบาย ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเยือนกันอย่างไม่ขาดสาย

ความชุ่มชื้น และความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า ทำให้เป็นที่อยู่อาศัย และพึ่งพิงของสิ่งมีชีวิต เหล่าผีเสื้อหลากสีแต่งแต้มผืนป่าให้มีสีสัน เป็นความสวยงามที่ธรรมชาติรังสรรค์ได้อย่างลงตัว และสวยงาม

บริเวณน้ำตกคลองลานจะมีทั้งผีเสื้อ แมลงนานาชนิดบินวนไปมา สายน้ำของน้ำตกที่กระเซ็น ละอองน้ำฟุ้งกระจายไปทั่ว เย็นสบายเอามากๆ จนบางทีก็แยกไม่ออกเหมือนกันว่าระหว่างผมกับเจ้าแมลงตัวน้อยใครมีความสุขกว่ากัน

แมลงปอสีสวยก็มาเชยชมความสวยงามของน้ำตกคลองลานด้วยเช่นกัน

ที่อุทยานแห่งชาติคลองลานยังมีที่พัก มีลานกางเต็นท์ มีห้องน้ำที่สะดวกสบาย มีร้านค้าสวัสดิการ ร้านอาหารทั้งของอุทยานฯ และของเอกชนอำนวยความสะดวก เหมาะที่จะมาพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง

โดยส่วนตัวผมชอบที่นี่เอามาก ด้วยสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ ตัวน้ำตกที่เดินเข้ามาไม่ไกลนัก ทำให้ไม่เหนื่อยจนเกินไป ต่างจากน้ำตกแห่งอื่นๆ อีกอย่างคือน้ำตกที่นี่จะมีน้ำตลอดทั้งปี ความสูง และความสวยงามของน้ำตกทำให้เป็นที่ดึงดูดใจ

จากอุทยานแห่งชาติคลองลาน ผมมุ่งหน้าสู่อำเภอเมืองกำแพงเพชร ระยะทางราว 60 กิโลเมตร สองข้างระหว่างทาง ส่วนใหญ่จะเป็นนาข้าว ไร่อ้อย มันสำปะหลัง และการทำเกษตรกรรมอื่นๆ เป็นส่วนใหญ่ ย่างก้าวแรกเมื่อมาถึงในตัวเมือง ความรู้สึกลึกๆ คือรับรู้ได้ถึงความเงียบสงบ

หอนาฬิกา และวงเวียนต้นโพธิ์ประจำจังหวัดตั้งอย่างโดดเด่นสะดุดตาเมื่อผมข้ามสะพานแม่น้ำปิงลงมา ก่อนเข้ามาในตัวเมือง

เมื่อมาถึงเมืองกำแพงเพชร สิ่งที่ต้องปฏิบัติเป็นอย่างแรกคือ การสักการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง 
ศาลหลักเมืองกำแพงเพชรตั้งอยู่บริเวณวัดพระแก้ว ใกล้ๆ กับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติฯ เมืองกำแพงเพชร

สันนิษฐานว่าศาลหลักเมืองกำแพงเพชรสร้างสมัยพระมหาธรรมราชาที่1 ลิไท โดยได้มีการปฏิสังขรณ์หลายครั้งจนถึงยุคปัจจุบัน เป็นที่เคารพบูชาของคนกำแพงเพชรเป็นอย่างยิ่ง ผู้คนที่ขับรถผ่านไปมาต้องบีบแตรกันทุกคัน 

ในอดีตเมืองกำแพงเพชรถือเป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญของอาณาจักรสุโขทัย ลักษณะของศิลปะและสถาปัตยกรรมจึงเป็นศิลปะแบบเดียวกับอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย 

วัดพระแก้ว ตั้งอยู่ติดกับศาลหลักเมือง เป็นพระอารามหลวงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอยู่กลางเมืองเช่นเดียวกับวัดมหาธาตุกรุงสุโขทัย และวัดพระศรีสรรเพชญกรุงศรีอยุธยา เป็นวัดที่ไม่มีพระภิกษุจำพรรษา สิ่งก่อสร้างภายในวัดเรียงเป็นแนวยาวตามทิศตะวันออกสู่ทิศตะวันตกขนานกับกำแพงเมือง ตามตำนานโบราณกล่าวว่าพระแก้วมรกตได้เคยประดิษฐานที่เมืองกำแพงเพชร ซึ่งน่าจะประดิษฐานที่วัดพระแก้วแห่งนี้

วัดพระธาตุ ตั้งอยู่ติดกับวัดพระแก้วไปทางทิศตะวันออก เจดีย์ประธานภายในวัดเป็นแบบเจดีย์ทรงกลม หรือทรงระฆังสูงใหญ่ก่อด้วยอิฐ องค์เจดีย์ตั้งอยู่บนฐานแปดเหลี่ยมที่ซ้อนลดหลั่นกันหลายชั้น องค์ระฆังค่อนข้างเล็กอันเป็นรูปแบบเฉพาะของเมืองกำแพงเพชร

บันทึกการเดินทางในครั้งนี้ต้องบอกว่าทั้งสนุก ทั้งได้ความรู้ ได้ซึมซับวัฒนธรรม ความสวยงามทรงคุณค่าของศิลปะ สถาปัตยกรรม และโบราณสถาน ทุกเวลานาที ทุกย่างก้าวที่ได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ ทำให้รู้สึกหวงแหน รักชาติ และภูมิใจที่ได้เกิดเป็นคนไทย 

เมื่อมาเยือนกำแพงเพชร สิ่งที่เป็นไฮไลท์ และไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง คือการเข้าไปศึกษาเยี่ยมชมอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรซึ่งตั้งอยู่ถัดจากศาลหลักเมืองไปทางทิศเหนือไม่ไกลนัก โดยบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรแห่งนี้จะมีโบราณสถาน และวัดโบราณอยู่กระจัดกระจายรวมกันหลายสิบวัดเลยทีเดียว

เมื่อผมเข้ามาภายในอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ถนนที่ลัดเลาะไปตามพื้นที่พันกว่าไร่ เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ โบราณสถาน และโบราณวัตถุมากมายจริงๆ ผมจอดรถแวะที่วัดพระสิงห์แห่งนี้เป็นที่แรก

วัดพระสิงห์  เป็นวัดขนาดย่อมใช้ศิลาแลงก่อสร้างโดยรอบตามแนวสี่เหลี่ยมผืนผ้า ภายในวัดมีบ่อน้ำ 2 บ่อ กรุด้วยศิลาแลง สันนิษฐานว่าใช้เวลาสร้างวัดพระสิงห์แห่งนี้ถึง 2 สมัย คือสมัยสุโขทัย และสมัยอยุธยา

ถัดจากวัดพระสิงห์มาราวๆ 100 เมตร เป็นที่ตั้งของวัดพระสี่อิริยาบถ หรือวัดพระยืน ซึ่งเป็นวัดที่สำคัญอีกวัดหนึ่งในอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร

วัดพระสี่อิริยาบถ เป็นวัดขนาดใหญ่สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 20-22 ภายในวัดมีมณฑปที่ก่อด้วยศิลาแลง และอิฐ ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นทั้ง 4 ด้าน ซึ่งต่างอิริยาบถกันไป ปัจจุบันเหลือเพียงพระพุทธรูปอิริยาบถยืนที่สภาพค่อนข้างสมบูรณ์เพียงองค์เดียว

จากวัดพระสี่อิริยาบถ ผมเดินทางเข้ามาด้านในสุดของอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ถนนที่เลี้ยวไปมาถูกปกคลุมด้วยร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ทำให้ร่มรื่นเย็นสบาย ระยะทางไม่ไกลนักเราจะพบความงดงามทางด้านสถาปัตยกรรมของวัดช้างรอบ

วัดช้างรอบ  เป็นวัดขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนเนินสูง มีพระเจดีย์องค์ใหญ่ตั้งอยู่กลางฐาน ที่ฐานเจดีย์มีรูปช้างครึ่งตัวเห็นแต่สองขาหน้า หันศีรษะออกจากฐานรายรอบพระเจดีย์ จํานวน 68 เชือก ศิลปะเป็นสมัยสุโขทัยตอนปลาย หรืออยุธยาตอนต้น

วัดสุดท้ายที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร คือวัดพระนอน

วัดพระนอนสร้างขึ้นในยุคสุโขทัยตอนปลาย สิ่งก่อสร้างภายในวัดล้วนใช้ศิลาแลงเป็นหลัก ภายในวิหารแต่เดิมมีพระนอนปางไสยาสน์ประดิษฐานอยู่ จึงเรียกกันว่าวัดพระนอน แต่ปัจจุบันได้ชำรุดจนหมดแล้ว

ถัดจากวิหารวัดพระนอนจะเป็นพระเจดีย์ประธาน รูปทรงจะเป็นเจดีย์ทรงระฆังองค์ใหญ่ดูสง่างามสวยทีเดียว
ผมเดินทางออกจากอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร มุ่งหน้าเข้ามาในเมืองเพื่อมาอีกสถานที่หนึ่งที่ผู้คนให้ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง นั่นคือศาลพระอิศวรซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านหลังศาลจังหวัดกำแพงเพชร

ศาลพระอิศวร เป็นที่ประดิษฐานองค์เทวรูปพระอิศวรสัมฤทธิ์ ฐานก่อด้วยศิลาแลงยกพื้นสูง โดยรอบบริเวณร่มรื่นด้วยร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ ในวันที่ผมไปเยือนมีผู้คนมากราบไหว้สักการะกันอย่างไม่ขาดสายเลยทีเดียว

เย็นวันนั้นผมมานั่งเล่นพักผ่อนซึมซับบรรยากาศที่ริมแม่น้ำปิง หลังจากเดินทางมาทั้งวัน การได้นั่งนิ่งๆ มองวิถีชีวิตผู้คน มองสายน้ำที่แม้จะแห้งขอดในฤดูนี้ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้เหมือนกัน

ผู้คนจำนวนมากลงเล่นน้ำคลายร้อนในแม่น้ำปิงที่ไหลพาดผ่านตัวเมืองจังหวัด เสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงคนกำแพงเพชร ดูไปก็น่าสนุกดี คล้ายๆ กับอยู่ชายทะเลก็ไม่ต่างกันนัก

บ้างก็มาออกกำลังกาย วิ่งตามฟุตบาทเรียบริมน้ำไป ดูแล้วก็แอบคิดและสงสัยในใจว่าผู้คนในจังหวัดนี้ดูมีความสุขดีจัง ตกเย็นก็มาผ่อนคลาย มาออกกำลังกาย ซึ่งต่างจากเมืองหลวงที่วันๆ แทบจะไม่มีเวลาได้พัก

แม่น้ำปิงที่แห้งขอดจนเป็นเกาะผุดขึ้นกลางลำน้ำดูสวยแปลกตาไปอีกแบบ ผู้คนจูงลูกหลานมานั่งปิกนิก เอาอาหาร เครื่องดื่มมาทาน บางทีความสุขก็ไม่ต้องแลกมาด้วยเงินตรามหาศาล

ดวงตะวันสีทองสาดแสงสุดท้ายสะท้อนผิวน้ำ เป็นภาพที่สวยงาม ยิ่งมาต่างถิ่นแบบนี้ความสวยงามยิ่งเพิ่มทวีคูณ

แสงสุดท้ายกำลังจากลาพร้อมๆ กับความสุขของผู้คนที่กำลังเดินทางเคียงคู่แสงตะวัน

วันนี้ผมมีความสุขที่ได้พบเห็น เรียนรู้อะไรต่างๆ มากมายของจังหวัดนี้ เวลาและความสุขที่อยากเก็บไว้นานๆ มักจะเดินทางสวนกันเสมอ เช้าวันพรุ่งนี้ผมจะจูงมือความสุขกลับมาอีกครั้ง

ค่ำคืนของที่นี่ผู้คนไม่ถึงกับพลุกพล่านมากนัก ยานพาหนะสัญจรไปมาก็ไม่มาก เป็นเมืองที่ถือว่าเงียบสงบอีกเมืองหนึ่ง

ตลาดยามค่ำคืนอยู่ใกล้ๆ กับแม่น้ำปิงมีของกินให้เลือกซื้อหาค่อนข้างมาก ส่วนใหญ่เป็นอาหารง่ายๆ ขนม อาหารพื้นบ้าน

ตลาดไนท์บาซาร์ของที่นี่มีของใช้ ของกิน เสื้อผ้าให้เลือกซื้อหาพอสมควร ดูคึกคักดีเหมือนกัน ผู้คนก็ดูหนาตา

หากมาเยือนเมืองกำแพงเพชรไม่ควรพลาดที่จะมาเยือนตลาดไนท์บาซาร์แห่งนี้ เป็นเสน่ห์ที่เติมเต็มให้การเดินทางแห่งความสุขสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

เฉาก๊วยชากังราว มีขายโดยทั่วไปในเมืองกำแพงเพชร ด้วยรสชาติที่เหนียว นุ่ม หวานหอม เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนกำแพงเพชร

ค่ำคืนนั้นผมพักที่โรงแรมชากังราวริเวอร์วิว ในตัวเมืองกำแพงเพชรติดกับแม่น้ำปิง บรรยากาศดีมากๆ 

เช้าวันใหม่ผมมุ่งหน้าสู่อำเภอโกสัมพีนคร เพื่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวแห่งสุดท้ายในการมาเยือนจังหวัดกำแพงเพชร นั่นคืออุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ระยะทางราว 40 กิโลเมตร

อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า มีเนื้อที่ราว 4 แสนกว่าไร่ ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร และจังหวัดตาก เป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์อีกแห่งหนึ่ง มีไม้สักขึ้นเองตามธรรมชาติจำนวนมาก มีน้ำตกที่สวยงามน่าท่องเที่ยวหลายแห่ง รวมถึงมีหมู่บ้านชาวกระเหรี่ยงที่อาศัยอยู่รอบๆ อุทยานฯ ใช้วิถีชีวิตแบบดั้งเดิมให้ได้ศึกษาด้วย

ภายในอุทยานฯ ร่มรื่นด้วยร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ มีนักท่องเที่ยวมาเยือนหลายกลุ่มทีเดียว บ้างก็ลงเล่นน้ำ บ้างก็เอาอาหารมาทานกัน 

บรรยากาศที่ร่มรื่น สายน้ำไหลผ่านแบบเอื่อยๆ มองไปรอบๆ มีแต่สีเขียว หากมีเวลาในวันหยุดลองหาโอกาสมาเยี่ยมเยือน มานอนเล่นที่บ้านพักของอุทยานฯ ที่ตั้งอยู่ริมน้ำ หรือจะมากางเต็นท์แอบอิงธรรมชาติ ชาร์จแบตให้ชีวิตมีพลังก็คงดีไม่น้อย

ความโดดเด่นของอุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า คือมีน้ำตกที่สวยงามหลายแห่งตั้งอยู่ไม่ห่างกันนัก ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกเต่าดำ น้ำตกคลองวังเจ้า น้ำตกคลองสมอกล้วย น้ำตกกระแตไต่ไม้ น้ำตกนาฬิกาทราย น้ำตกเขาเย็น น้ำตกคลองโป่ง นอกจากนั้นยังมีถ้ำต่างๆ อีกหลายแห่งเช่น ถ้ำเขาพนัง ถ้ำเทพพนม

น้ำตกคลองวังเจ้าในฤดูแล้ง ก็ยังพอมีน้ำให้ได้ชมอยู่บ้าง แม้จะไม่มากนัก ในภาพเราจะยังไม่สามารถมองเห็นน้ำตกได้ ต้องลงน้ำเดินเข้าไป ถึงจะเห็นน้ำตกซึ่งซ่อนอยู่ในซอก แต่หากจะชมความสวยงามของน้ำตกจากด้านบนก็สวยไปอีกแบบ ไม่ต้องลงน้ำเดินไปชม

สายน้ำที่ตกลงมากระทบผืนน้ำด้านล่างทำให้เกิดละอองฟุ้งกระจายไปทั่ว ตัวน้ำตกที่สูงราว 20 เมตร แม้จะเป็นน้ำตกที่ไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็สวยงามได้บรรยากาศที่แตกต่างจากที่อื่นไปอีกแบบ

ผีเสื้อสีสวยๆ มีให้เห็นบริเวณน้ำตกเยอะมากๆ บรรยากาศดีดีแบบนี้ อยากอยู่ตรงนี้ให้นานๆ

ความสวยงามของน้ำตก กับความสวยงามของเหล่าผีเสื้อน้อยใหญ่ บางทีก็แยกไม่ออกว่าสิ่งไหนสวยกว่ากัน  

ดอกไม้ป่าขึ้นแซมตามข้างทางระหว่างทางเดินจากน้ำตก สีสันดึงดูดใจมากๆ จนต้องหยุดบันทึกภาพ

การเดินทางในชุดนี้ เป็นการเดินทางที่ประทับใจอีกบทหนึ่ง จังหวัดกำแพงเพชรอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากร แหล่งท่องเที่ยว ป่าเขาลำเนาไพร โบราณสถานโบราณวัตถุมากมาย เป็นจังหวัดมรดกโลกที่น่าไปเยือนมากๆ อีกจังหวัดหนึ่ง ทุกย่างก้าวที่ได้สัมผัส ทำให้รู้สึกมีความสุข จังหวัดเล็กๆ ที่ผมไม่เคยแวะ มีดีมากกว่าที่คิดไว้จริงๆ 

ขอบคุณทุกท่านที่มาเยี่ยมชม แล้วพบกันใหม่ในทริปต่อๆ ไปครับ สวัสดีครับ




 

Create Date : 08 กรกฎาคม 2556
0 comments
Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2557 21:26:13 น.
Counter : 5523 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


ม่วงมหากาฬ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




บล็อกของคนชอบเที่ยว
https://www.facebook.com/PEESAT.PANTIP
Friends' blogs
[Add ม่วงมหากาฬ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.