Bloggang.com : Peakroong :

ความรู้เบื้องต้นสำหรับคนสนใจ LPG

ท่ามกลางกระแสของการหาพลังงานเชื้อเพลิงทดแทนน้ำมันที่มีราคาสูงลิบลิ่วอยู่ในขณะนี้ ยังคงมีความสับสนอยู่มากทั้งจากนโยบายของภาครัฐมุ่งเน้นไปที่ การรณรงค์ให้รถหันมาใช้แก๊ส NGV แต่ไม่มีการทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันขณะที่พลังงานอีกประเภทได้รับความนิยมเป็นอย่างมากแต่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐนั่นก็คือ “แก๊ส LPG” ซึ่งองค์ความรู้ที่แท้จริงของเรื่องนี้ยังรู้กันอยู่ในวงแคบ (เฉพาะในหมู่ร้านติดตั้งแก๊ส)
จึงขอนำความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวของ “ระบบแก๊ส LPG” มาวางไว้แบ่งปัน

ชุดอุปกรณ์ติดตั้งแก๊ส LPG ในปัจจุบันมีกี่แบบ?
ตอนนี้มี 3 แบบ คือ
1. Fix Mixer แบบใช้หม้อต้ม ปริมาณของแก๊สที่ปล่อยเข้ามาในระบบเผาไหม้จะคงที่
2. Lamda Control หรือ Step Motor หรือแบบกึ่งหัวฉีด มีวาล์วเปิด-ปิด แบบนี้จะดีกว่าแบบหม้อต้มนิดหน่อย เพราะจะมีวาล์วหนึ่งตัวคอยสั่งการเมื่อรถวิ่งด้วยความเร็วสูงต้องการปริมาณแก๊สที่มากขึ้นวาล์วก็จะเปิดให้แก๊สเข้ามามากขึ้น ในขณะที่เมื่อรถวิ่งด้วยความเร็วต่ำไม่ต้องการปริมาณแก๊สมาก วาล์วก็จะปล่อยก๊าซออกมาน้อย
3. ระบบหัวฉีด มีจำนวนหัวฉีดตามจำนวนสูบ เช่น 4 สูบ ก็มี 4 หัว จะควบคุมด้วยกล่อง ECU การทำงานจะเหมือนรถน้ำมัน อัตราเร่งใกล้เคียงระบบน้ำมัน แต่ราคาจะสูงมากเฉลี่ยสูบละหมื่นบาท

แบบไหนนิยมที่สุด?
แบบหม้อต้ม จะแบ่งเป็นรุ่นธรรมดา ซึ่งเหมาะกับรถที่มีกำลังประมาณ 140 แรงม้า ราคาประมาณ 3,000-4,000 บาท รุ่นซูเปอร์ เหมาะกับรถที่มีกำลังสูงๆ และบางรุ่นที่ติดเทอร์โบราคาก็จะเพิ่มขึ้นรุ่นละประมาณ 1,000-2,000 บาท ตามลำดับ

ในตลาดเห็นมีหลายยี่ห้อ ยี่ห้อไหนดีที่สุด? ยี่ห้อที่มาจากอิตาลี เพราะอิตาลีพัฒนาระบบแก๊สมาตลอดเป็นระยะเวลากว่า 60 ปี และทางศูนย์ของเราเคยได้รับการอบรมการติดตั้งอุปกรณ์จากช่างของอิตาลีซึ่งบินมาอบรมให้ถึงประเทศไทย ดูจากคุณภาพของวัสดุที่ใช้ทำหม้อต้มก็เห็นว่าแตกต่างกัน และยี่ห้อที่มีเกรดรองลงมาคือ ตุรกี เกาหลี อินเดีย โดยราคาของแต่ละยี่ห้อจะต่างกันไม่มากในระดับหลักร้อยถึงหลักพันบาท

ตัวถังแก๊ส มีกี่แบบ?
ตัวถังแก๊สแบ่งได้ 3 ชนิด
1. ถังแบบวาล์วแยก ได้รับความนิยมอยู่ ใช้งานแล้วไม่มีปัญหา ได้มาตรฐาน เมื่อต้นปีนี้มีกฎหมายออกมาให้เติมแก๊สได้แค่ 85% ของความจุถัง เพราะเป็นเรื่องของความปลอดภัย และมีอุปกรณ์เสริมเป็นสวิตซ์ควบคุมด้วยไฟฟ้า เพื่อเปิด-ปิดวาล์วเสริมความปลอดภัยขึ้นมาอีกระดับ แทนที่ระบบปกติซึ่งจะต้องเดินมาปิดวาล์วที่ถังแต่ถ้าเป็นวาล์วไฟฟ้าเพียงแค่บิดกุญแจปิดเครื่องระบบปล่อยแก๊สก็จะปิดทันที ถังแบบนี้ราคาประมาณ 3-4 พันบาท (เป็นถังที่ผลิตในประเทศทั้งหมด)
2. แบบมัลติวาล์ว ทั้งวาล์วรับแก๊สและปล่อยออกอยูในหน้ากากอันเดียว ควบคุมด้วยไฟฟ้าตลอด ขณะนี้ในบ้านเราเริ่มผลิตแบบนี้กันมากขึ้น ราคาประมาณ 5-6 พันบาท
3. แบบโดนัท และเป็นถังแบบมัลติวาล์วชนิดหนึ่ง เหมาะกับรถที่ไม่มีพื้นที่เก็บถังแก๊ส อย่างเช่น เชฟโรเลต ซาฟิรา หรือ ฮอนด้า ซีอาร์-วี ซึ่งถังโดนัทนี้มีมาตรฐานเหมือนกับต่างประเทศ แต่จะมีปัญหาเรื่องตรวจสภาพกับขนส่งไม่ผ่านเพราะไม่มี มอก. รับรองแม้ว่าวัสดุจะดีกว่าก็ตาม (สาเหตุที่ไม่ได้ มอก. เนื่องจาก มอก.ไม่รู้จักถังโดนัท) ดังนั้นจึงไม่มีผู้ผลิตในไทยจำหน่ายต้องนำเข้าจากต่างประเทศเท่านั้น ซึ่งจริงๆ ถังโดนัทผลิตจากบ้านเรานี่เอง แต่ส่งออกไปขาย จากนั้นก็นำกลับเข้ามาขายใหม่ ราคาประมาณหมื่นกว่าบาทแล้วแต่ความจุและประเทศผู้ผลิต ถ้าเป็นเกาหลีก็อาจจะไม่ถึงหมื่น

ตัววาล์วที่ติดกับตัวถังทั้งหมดนั้นจะมีให้เลือกใช้ทั้งจากอิตาลี เกาหลี ตุรกี เช่นกัน และรถทุกคันจะได้รับการติดตั้งท่อเติมแก๊สอยู่ด้านนอกรถ ซึ่งจะอยู่ที่ท้ายรถคนละด้านกับท่อไอเสีย เพื่อความปลอดภัย แต่ถ้าเป็นรถที่มีท่อไอเสีย 2 ข้างก็อาจจะย้ายไปติดที่ด้านข้างรถแทน

แล้วตัวถังแก๊สมีกี่ขนาด?
มีขนาดตั้งแต่ 25, 36, 48, 58, 64, 75 และ 96 ลิตร โดยขนาด 25 ลิตรมักจะเห็นกันในรถตุ๊ก ตุ๊ก ส่วน 48 ลิตรจะอยู่ใน รถเก๋ง 1,500-1,600 ซีซีทั่วไป (รถแท็กซี่ก็ใช้ขนาดนี้เป็นส่วนใหญ่) และ 58 ลิตรก็เป็นที่นิยมในหมู่รถเก๋งใหญ่เช่นกัน สำหรับถังแบบมัลติวาล์วจะมีขนาดใกล้เคียงกันแต่ไม่เท่ากันเป๊ะ ความจุประมาณ 46 หรือ 52 ลิตร เป็นต้น ถังโดนัทเท่าที่ทราบจะมี 3 ขนาด 42, 47 และ 59 ลิตร

ทั้งชุดราคาเท่าไหร่?
เริ่มต้นตั้งแต่ 15,000 บาท เป็นต้นไปขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ ส่วนอุปกรณ์ที่เราใช้จะเป็นของใหม่ทั้งหมด ไม่มีของเก่าหรือของมือสองจากญี่ปุ่นอย่างแน่นอน ซึ่งแบบ Fix Mixer หม้อต้มจากอิตาลี กับถังแบบวาล์วแยก ชุดนี้จะเป็นชุดที่นิยมมากที่สุดด้วย (ในรถแท็กซี่ส่วนใหญ่ก็จะติดชุดนี้เช่นกัน)

มาตรฐานในการติดตั้งแก๊สรถยนต์เบื้องต้น

-อัตราการเร่งต้องไม่ต่างจากน้ำมัน
-มีกล่องหลอกหัวฉีด
-น้ำมันไม่หายไปจากถัง เวลาใช้แก๊ส
-ไม่โชว์ Error ต่างๆ ที่หน้าปัดรถยนต์
-ถังแก๊ส ต้องเป็นถังใหม่ เพื่อความปลอดภัย
-หม้อต้ม หากเป็นมือ2 ต้องเปลี่ยนผ้าใหม่แล้ว
-ต้องมีใบวิศวกรให้( หรือเปล่า )
-ต้องมีการตรวจเช็คหลังการติดตั้งให้ รับประกันอย่างน้อย 1 ปี
-มีใบรับประกันจากอู่ว่าประกันค่าแรงและอะไหล่
-การเดินสายไฟ หรือท่อต่างๆ ต้องมีการหุ้มป้องกัน
-สามารถปรับไปใช้น้ำมัน/แก๊ส ขณะเครื่องติดได้
-การ Start สามารถเลือกได้ทั้งแก๊ส และ น้ำมัน โดยไม่มีปัญหาเกี่ยวกับเครื่อง
-ไม่มีกลิ่นแก๊สเข้ามาในรถยนต์
-งานติดตั้งภายในเรียบร้อย ไม่มีสายไฟระเกะ ระกะ
-เจ้าของอู่ไม่ขูดเลือดมากเกินไป
-ต้องป้องกันไม่ให้ระบบหม้อน้ำมีปัญหา
-เกย์วัดระดับแก้สในรถต้องตรงหรือใกล้เคียง
-อู่ที่ติดตั้งระบบแก้สต้องทดสอบการใช้น้ำมัน และยอมรับว่ารถมีสภาพปกติก่อนติดแก้ส
-มีฟิวส์ตัดระบบที่เจ้าของรถถอดได้ เพื่อไปใช้ระบบน้ำมันในกรณีที่ระบบแก้สมีปัญหา และระบบตัดสวิทช์ไม่ทำงาน
-การเจาะรูสองรูเพื่อเดินสายแก้สที่ตัวถังห้องเก็บของ ต้องมีการซีลอย่างดี ป้องกันไม่ให้น้ำหรืออากาศเข้า ด้านล่าง
-ต้องสอนให้เจ้าของรถรู้วิธีดูแลระบบแก๊สเบื้องต้น และสามารถปรับจูนด้วยตนเองได้ ถ้าเป็นระบบ Mixer
-ใบรับรองไอเสีย Emission จะต้องปรับให้อยู่ในเกณฑ์ของกรมการขนส่ง หรือไม่เกินตอนใช้น้ำมัน เพราะขนส่งจะเข้มงวดและยกเลิก ตรอ ที่รับเงินแล้วปล่อยผ่าน ตอนนั้น ระบบ Mixer จะได้มีการปรับปรุง
-สะอาด ไม่เอามือสกปรก ไปจับเบาะ หรืออุปกรณ์ภายในรถ
-ติดตั้งกรองแก๊ส
-ใช้สายอ่อน เป็นสายเติม ไม่ใช่ใช้ท่อทองแดง
-มีการทดสอบ วาล์วเติม ว่าสามารถทำงาน ปกติ ในขณะที่ท่อขาด ให้เจ้าของรถดูได้
-ใช้ท่อหุ้มท่อทองแดงชนิดหนา ทนทานต่อการ ขูดขีด และการกระแทก
-ต้องเดิน ท่อทองแดง ไว้ใต้ท้องรถ โดยห่างจากแหล่งความร้อนเช่น ท่อไอเสีย และไม่ตำกว่าจุดตำสุดของรถ เพื่อป้องกันการกระแทก จากใต้ท้อง
-การดัดท่อภายในห้องเก็บสัมภาระ (ที่ถังแก๊ส) ต้องมีความสมมาตร สั้นยาวแต่ละข้างควรเท่ากัน ไม่ดูเกะกะ
-พยายามติดตั้งหัวเติมในที่มิดชิด ได้ไม่โผล่ออกมามากแบบแท็กซี่
-ถ้ารถเป็นระบบหัวฉีด ควร มีระบบชดเชยรอบแอร์ และเดินเบาคงไม่ ไม่เกิน 900 รอบ ในขณะเปิดและปิดแอร์ รวมถึงรถเกียร์ออโต้ เมื่อใส่เกียร์ D หรือ R รอบเครื่องต้องไม่ตก และเครื่องไม่สั่น

10 ข้อเสียของ LPG

1.ติดแล้วใช้รถมากขึ้น สิ้นเปลืองมากขึ้น (ไม่เห็นประหยัดตรงไหน)
2.เงินเหลือมากขึ้น เอาไปใช้ทางอื่น กิน เที่ยว ช็อปปิ้ง มากขึ้น สิ้นเปลืองเข้าไปอีก
3.เป็นคนขี้บ่นขึ้นเยอะ เมื่อรัฐปรับราคา LPG แต่ละที
4.วันหยุดแทบไม่ได้พักผ่อน คิดแต่จะไปไหนดี
5.ทำให้น้ำมันในถังบูดไปเลย
6.ติดแล้ววิ่งได้ไกล คนขับอาจเมื่อยล้าได้
7.เบื่อเวลาให้แบ็งค์พันแล้วต้องรอเงินทอน เสียเวลา
8.ทำให้เป็นโรคลืม ลืมไปว่าที่เติมน้ำมันอยู่ข้างไหนตรงไหนกันแน่
9.เป็นพวกปากจัด เวลามีคนมาว่า LPG และเชียร์ NGV
10.เป็นพวกจิตใจเย็นชาไปเลย ไม่สนใจ ใด ๆ เกี่ยวกับราคาน้ำมัน

จากคุณ : frontier
จาก พันทิป.คอม
//www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V6807109/V6807109.html

เพลงประกอบ : :::Supreme:::

Create Date : 17 ธันวาคม 2554

0 comments

Last Update : 17 ธันวาคม 2554 18:39:28 น.

Counter : 4292 Pageviews.