1. เลือกกันสาดจากน้ำหนักที่สามารถรองรับได้

การเลือกกันสาดที่มีน้ำหนักไม่มาก หรือไม่เบาจนเกินไป เพราะหากไม่พิจารณาให้ดีอาจส่งผลกระทบต่อโครงสร้างของบ้านในอนาคตได้ ดังนั้นอย่าลืมสอบถามผู้เชี่ยวชาญว่าวัสดุสำหรับโครง และกันสาด แผ่นดีไลท์ แต่ละชนิดรองรับน้ำหนักได้มากน้อยแค่ไหน

2. วัตถุประสงค์ที่ต้องการใช้งาน

วัตถุประสงค์ที่ต้องการใช้งานจาก กันสาด นั้นมีอะไรบ้าง และจะเน้นตรงส่วนไหนเป็นหลัก เพราะในปัจจุบันกันสาดได้ถูกพัฒนาให้มีดีไซน์ที่หลายแบบ และหลายประเภท ไม่ว่าจะช่วยกันร้อน กันฝน หรือตกแต่งเพื่อความสวยงาม เป็นต้น

3. เลือกวัสดุกันสาดที่เหมาะสมกับดีไซน์ของบ้าน

วัสดุกันสาดแต่ละแบบมีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งคุณควรเลือกวัสดุให้เหมาะสมกับดีไซน์ของบ้านด้วย นอกจากนี้เราได้เลือกวัสดุสำหรับทำกันสาดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ 

• กันสาดไฟเบอร์กลาส

วัสดุกันสาดโปร่งแสงไฟเบอร์กลาส (GRP) อย่าง กันสาด แผ่นดีไลท์ เป็นกันสาดที่คุณภาพดีกว่าโพลีคาร์บอเนต โดยไฟเบอร์กลาสจะมีความทนทานมากกว่า เพราะคุณสมบัติในการขยายตัวน้อยกว่าประมาณ 50% จึงมีโอกาสเกิดความเสียหาย หรือชำรุดน้อยกว่า ทั้งยังสามารถดัดโค้งได้ตามต้องการ ทำให้เหมาะกับการติดตั้งกับบ้านหลากหลายรูปแบบ รวมไปถึง แผ่นดีไลท์ ยังมีคุณสมบัติช่วยป้องกันความร้อน และสะท้อนรังสี UV ได้มากถึง 99%

4. เลือกโครงหลังคาให้เหมาะสม

วัสดุโครงกันสาดเป็นตัวช่วยในการรับน้ำหนัก และช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับโครงสร้างของตัวบ้านได้ ดังนั้นอย่าลืมเลือกโครงหลังคาที่เหมาะกับบ้าน 

5. ฟังก์ชันการใช้งาน

ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน จึงไม่จำเป็นต้องใช้เชือกรอกดึงให้เมื่อย เพราะปัจจุบันมีกันสาดที่ทำงานผ่านเซนเซอร์ หรือระบบรีโมต ที่จะช่วยให้เจ้าของบ้านสามารถควบคุมเปิด-ปิดกันสาดได้ และสะดวกต่อการใช้งาน

6. งบประมาณ

เมื่อทราบถึงวัตถุประสงค์ และประเภทที่เหมาะสมได้แล้ว ขั้นตอนถัดไปคือตรวจสอบงบประมาณในการติดตั้ง เนื่องจากกันสาดในปัจจุบันบางรูปแบบก็อาจมีราคาในเรื่องของเทคโนโลยี หรือวัสดุที่ค่อนข้างสูง ทำให้การติดตั้งจำเป็นต้องคำนวณ และตรวจเช็กงบประมาณให้ดี ว่าเหมาะกับกันสาดชนิดไหน

ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.d-lite.co.th/

Create Date : 23 พฤศจิกายน 2566
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2566 15:48:45 น.		0 comments
Counter : 144 Pageviews.
Share Tweet