​​​​​​

1. ตรวจเช็กรอยรั่วบริเวณ 3 จุดสำคัญ

หลังคา ฝ้าเพดาน และผนัง เรียกได้ว่าเป็น 3 จุดสำคัญ ถ้าหากตรวจพบการรั่วซึมจะเกิดปัญหากับบ้านอย่างแน่นอน ซึ่งวิธีตรวจสอบการรั่วซึมของจุดต่าง ๆ  คือ หมั่นสังเกตรอยแตก รอยร้าว หรือรอยต่อของวัสดุต่าง ๆ ว่ามีคราบน้ำหรือไม่ ผนังตรงไหนมีรอยแตกร้าว หรือเกิดรูรั่วตามรอยต่อไหม หากพบรอยรั่วซึมควรเรียกช่าง เพื่อทำการซ่อมแซมให้เร็วที่สุด เพราะหากปล่อยไว้นานอาจส่งผลกระทบให้ส่วนอื่นของบ้านเสียหายตามไปด้วย

โครงการ ทาวน์โฮมบางพลี พร้อมอยู่ 2 ชั้น เริ่ม 2.89 ลบ.

2. ดูแลทำความสะอาดรางน้ำฝน และรางระบายน้ำ

ไม่ว่าจะเป็น ทางระบายน้ำ รางน้ำฝน หรือท่อระบายน้ำทิ้ง ควรตรวจเช็กทำความสะอาด เพื่อไม่ให้มีสิ่งอุดตันมาขวางทางน้ำไหล ซึ่งเมื่อน้ำฝนไหลลงมาจากหลังคาผ่านรางน้ำลงสู่ท่อระบาย น้ำก็จะไหลออกจากตัวบ้าน ทาวน์โฮมบางพลี อย่างรวดเร็ว ช่วยป้องกันปัญหาน้ำไหลย้อนเข้าไปรั่วซึมภายในบ้าน หรือน้ำท่วมขังรอบตัวบ้าน ทำให้โครงสร้างส่วนนอกเปียกชื้น โดยเฉพาะส่วนฐานรากของตัวบ้านที่จะดูดซับความชื้นจากใต้ดิน และอาจทำให้บ้านเกิดความเสียหายได้

3. ขัดพื้น ล้างคราบตะไคร่บริเวณทางเดิน และระเบียง

ความเปียกชื้น และการท่วมขังของน้ำฝน ส่งผลให้เกิดคราบตะไคร่เกาะติดอยู่บนพื้นภายนอก ทำให้เป็นคราบสกปรก และอาจเกิดอุบัติเหตุลื่นหกล้มได้ แต่หากปล่อยไว้นานไม่รีบทำความสะอาด จะเกิดคราบฝังแน่นที่ทำความสะอาด และขจัดคราบออกได้ยาก

โครงการ ทาวน์โฮมบางพลี พร้อมอยู่ 2 ชั้น เริ่ม 2.89 ลบ.

4. ตรวจสอบพื้นที่รอบบ้านว่ามีโพรงสัตว์หรือไม่

ฤดูฝนแบบนี้มักมาพร้อมกับสัตว์มีพิษ และสัตว์เลื้อยคลานต่าง ๆ เพราะหากฝนตกหนักจนน้ำท่วมบริเวณที่อยู่อาศัยของสัตว์ ส่งผลให้สัตว์เหล่านั้นเข้ามาในบ้านโดยไม่ได้ตั้งตัว เพราะฉะนั้นควรเริ่มต้นจากการหมั่นดูแลพื้นที่รอบบ้าน ด้วยการทำความสะอาดให้บริเวณบ้าน ทาวน์โฮมบางพลี มีความโล่ง ไม่มีโพรงสัตว์ และปิดฝาท่อต่าง ๆ ให้มิดชิด เพื่อความปลอดภัยของคุณ และครอบครัว

5. ต่อเติมกันสาดป้องกันน้ำฝน

ปกติแล้วน้ำฝนมักจะไหลย้อนเข้ามาทางประตู หน้าต่าง หรือผนังบ้าน ทำให้เกิดเป็นรอยคราบน้ำ หรืออาจเกิดการสึกหรอชำรุดได้ เพราะฉะนั้นจึงควรต่อเติมกันสาด เพื่อป้องกันการผุพัง คราบเชื้อรา และคราบตะไคร่น้ำไปเกาะติดบริเวณดังกล่าว

6. จัดการตัดแต่งกิ่งไม้รอบบ้าน

ถึงแม้ว่าต้นไม้จะให้ร่มเงาที่เย็นสบายในฤดูร้อน แต่อาจทำให้เกิดอันตรายในช่วงฤดูฝน เพราะหากมีพายุ หรือลมกรรโชก อาจทำให้กิ่งไม้หักล้มทับตัวบ้าน หรือทำให้บ้านเสียหายได้ ดังนั้น เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนควรตัดแต่งกิ่งไม้ให้เรียบร้อยอยู่เสมอ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้

7. เช็กปลั๊กไฟ หรือโคมไฟกลางแจ้ง

บ้านบางหลังที่มีความจำเป็นต้องต่อสายไฟ หรือมีปลั๊กไฟนอกบ้าน ควรยกปลั๊กให้อยู่สูงจากพื้นบ้าน และระดับที่น้ำท่วมถึง ทั้งยังควรตรวจเช็กระบบไฟฟ้า และปลั๊กไฟที่อยู่ในจุดเสี่ยงว่ามีการรั่วของไฟหรือไม่ นอกจากนี้ยังควรทำฝาครอบปิดให้แน่น เพื่อป้องกันละอองน้ำฝน หรือเปลี่ยนไปใช้ปลั๊กไฟแบบฝาเปิด-ปิด

Create Date : 18 ตุลาคม 2566
Last Update : 18 ตุลาคม 2566 16:28:20 น.		0 comments
Counter : 148 Pageviews.
Share Tweet