พฤษภาคม 2549
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
25 พฤษภาคม 2549
 

วางฟอร์มใหญ่ขึ้นปราศรัยแสดงวิสัยทัศน์ และยืนยันความพร้อม ในการเป็นนายกรัฐมนตรี

อ่านกันอีกครั้งครับ
เพื่อบางคนที่ยังไม่ได้อ่าน
สำหรับคนที่ ไม่ชอบท่านนายกทักษิณ
อ่านสัก 8 รอบนะ


มุมมองจากทูตประเทศต่าง ๆ ถึงการเมืองไทย

มุมมองคณะทูตต่อวงการเมืองไทย

ในการประชุมใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา นายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ วางฟอร์มใหญ่ขึ้นปราศรัยแสดงวิสัยทัศน์ และยืนยันความพร้อมในการเป็นนายกรัฐมนตรีต่อหน้าสมาชิกพรรค และทูตานุทูตกว่า 30 ชาติที่ได้รับเชิญมา มีประเด็นสำคัญที่น่าสนใจ นอกจากย้ำว่าจะไม่เป็นนายกพรรค – นายกภาค แต่จะเป็นนายกของประเทศไทย และจะเป็นนายกที่ไม่คอรัปชั่น ไม่ว่ารูปแบบใด ๆ จะเน้นเรื่องศีลธรรมและจริยธรรมเป็นหลัก

ส่วนประเด็นที่อยู่ในความสนใจของคณะทูตนั้นก็คือ เรื่องเมกกะโปรเจ็กต์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “จะเลิกเมกกะโปรเจคทุกโครงการของรัฐบาลปัจจุบัน แต่จะผุดเมกกะโปรเจค เรื่องการศึกษาเป็นสำคัญ ส่วนงานแก้จนล้างหนี้ประชาชนด้วย กองทุนหมู่บ้าน ก็จะเลิกและจะไม่ทำการแปรรูปรัฐวิสาหกิจต่อไปโดยเด็ดขาด

ทีมข่าวต่างประเทศ ได้มีโอกาสคุยกับคณะทูตซึ่งส่วนใหญ่ เป็นตัวแทนทูต และเป็นทูตพาณิชย์เสียเป็นส่วนมาก ถามความเห็นและความรู้สึก ต่อวิสัยทัศน์ของคลื่นลูกใหม่ความหวังหนึ่งเดียวของคนไทย ก็ได้รับคำตอบ และความรู้สึกคล้าย ๆ กันทุกสถานทูตว่า

รู้สึกผิดหวังแทนคนไทย ที่คิดว่า ถึงไม่มีนายกฯคิดใหม่ ทำใหม่ บริหารประเทศแบบใหม่อย่างทักษิณ แต่ก็มีนักการเมืองรุ่นใหม่ วิสัยทัศน์ไกลอย่างคุณอภิสิทธิ์ ไว้คอยทำงานบริหารงานแบบใหม่ ๆ แทน

แต่ตัวแทนทูตเหล่านั้น บอกว่าผิดหวัง เพราะการพูดและแนวคิดหลายอย่าง

ยังมีกลิ่นอายของการเมืองแบบเก่าอยู่มาก แสดงว่า ถูกครอบงำจากนักการเมืองเก่า ๆ เรียบร้อยแล้ว เริ่มจากแสดงวิสัยทัศน์ ยังเป็นลักษณะ Campaign Style Speech คือยังมีลักษณะคล้ายการปราศรัยหาเสียง
นอกจากนี้ทูตบางรายยังให้คะแนน บวกว่า อภิสิทธิ์ที่พยายาม แสดงความเป็นนักการเมืองอินเตอร์ให้เห็น ด้วยการพยายามแสดงให้เห็นว่า พร้อมจะทำงานร่วมกับต่างประเทศ บนเวทีโลกด้วยการเชิญนักการรทูตมาร่วมสังเกตการณ์การประชุม แสดงว่างานด้านการต่างประเทศของอภิสิทธิ์ คงจะไม่อ่อนด้อยกว่าผู้นำคนเดิมนัก
แต่อภิสิทธิ์ ยังขาดบุคลิกอันน่าดึงดูดใจ พอที่คนระดับ จอร์จ บุช วลาดิเมียร์ ปูติน โทนี่ แบลร์ ณ๊าค ชีรัก แม้แต่หู จิน เทา และเหวิน เจีย เป่า อยากคุยด้วยนัก หรือแม้แต่ผู้นำอาเซี่ยนด้วยกัน คงคุยด้วย ตามมารยาท คงไม่ค่อย อยากจะเชื่อถ้อยคำนัก เพราะรู้สึกเหมือนคุยกับเด็ก ๆ รุ่นลูก แสดงว่าสอบผ่านวิสัยทัศน์ด้านการต่างประเทศ แต่สอบตก ในบุคลิกภาพทางการทูต ตัวแทนทูตกล่าว

สำหรับเรื่องการแปรรูปวิสาหกิจที่บอก จะเลิกการแปรรูปนั้น หรือจะค่อย ๆ ทำ ทูตพาณิชย์บางชาติกล่าวว่า การแสดงความคิดเห็นนี้ออกมา ถ้าไม่ใช่เพื่อเป็นการหาเสียงกับผู้ใช้แรงงาน ก็แสดงว่า อภิสิทธิ์ไม่ประสีประสา ทางการค้าโลก เพราะการแปรรูปรัฐวิสาหกิจนั้น เป็นข้อบังคับขององค์การการค้าโลกที่ตกลงกันไว้ ตั้งแต่การเจรจา การค้ารอบ อุรุกวัย ที่กำหนดให้ทุกชาติต้องแปรรูปรัฐวิสาหกิจทั้งหมด เพื่อเปิดให้มีการแข่งขันทางการค้าอย่างเสรีและยุติธรรมโดยรัฐ ไม่เข้าอุดหนุน หรือตั้งตนเป็นคู่แข่ง ดังนั้นหากไม่ แปรรูปรัฐวิสาหกิจจะไม่มีชาติไหนคบค้าด้วย ส่วนการแปรรูปแบบช้า ๆ นั้น แสดงว่า ยังตามความคิดของทักษิณ ไม่ทัน

ในเรื่องการแปรรูปช้า หรือเร็ว ก็ต้องทำ แต่การรีบแปรรูปอย่างทักษิณทำนั้น ย่อมจะดีกว่ารอให้ข้อตกลงการค้ามีผลใช้บังคับ ถ้าทำตอนนั้น ชาติไหน ๆ ก็เทรัฐวิสาหกิจออกขายแข่งตัดราคากัน ส่วนในเรื่องของเมกกะโปรเจกนั้น ในแง่ของโครงสร้างพื้นฐาน และบรรยากาศการลงทุนนั้น เมกกะโปรเจ็ก โดนใจนักลงทุนทั้งพวกกำลังตัดสินใจไม่ถูกว่า จะย้ายไปตั้นฐานการผลิตที่ชาติไหนดี ให้สามารถตัดสินใจขนเงินเข้ามาลงทุนได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญการมีโครงการใหญ่ ๆ เข้ามาจะทำให้นักลงทุนต่าง ๆ ได้รับผลพวงด้วยเพราะจะมีการสั่งซื้อสินค้าเพิ่มมากขึ้น

คณะทูตกล่าวต่ออีกว่า อภิสิทธืไม่เข้าใจยุทธศาสตร์ด้านนี้ของทักษิณ ที่ต้องการบูมการลงทุน อุตสาหกรรมในชาติให้ได้ชั่วข้ามคืน คณะทูตชี้แจงว่า เมกกะโปรเจ็กของทักษิณ สร้างความฮือฮามากในวงการเศรษฐกิจโลก ขนาด ณ๊าค ชีรัก ผู้นำฝรั่งเศส ที่เชื่อมั่นในตัวเองและวางตัวเป็นมหาอำนาจชั้นหนึ่งไม่ยอมไปไหนง่าย ๆ แม้แต่ทำเนียบขาวก็ไม่ค่อยไป แต่กลับเดินทางมาไทย อย่างปัจจุบันทันด่วน เพราะเมกกะโปรเจคแท้ ๆ มาถึงก็คุยแต่เมกกะโปรเจคอย่างเดียว ขอจับมือเป็นพันธมิตรเศรษฐกิจกัน แต่จะให้เริ่มจากการร่วมกันทำก่อน ซึ่งอภิสิทธิ์ยังอ่อนตรงนี้

ส่วนโครงการกองทุนหมู่บ้านนั้น อภิสิทธิ์ไม่เข้าใจ มองว่าเป็นการหาเสียงนั้น ท่านทูตพาณิชย์ท่านหนึ่งกล่าวว่า ไม่ถูกต้อง การหาเสียงเป็นเรื่องรอง เพราะกองทุนหมู่บ้านจะทำให้เกิดการผลิต ด้านต่าง ๆ ระดับหมู่บ้านทั้งด้านการเกษตรและหัตถรรม การผลิตกุ้ง ยางพารา ลำไยและข้าวหอมมะลิ และหัตถกรรมเช่นสินค้าโอท๊อป ที่สามารถเป็นสินค้าส่งออกได้ กองทุนหมู่บ้านทำให้รัฐสามารถเพิ่มผลผลิตด้านต่าง ๆ เพื่อส่งออกตีตลาดโลกและแข่งขันได้ ทำใหเกิดระบบธนาคารขึ้นในแต่ละหมู่บ้าน ซึ่งจะสามารถสร้างความแข็งแกร่งให้กับหมู่บ้านได้

คณะทูตกล่าวว่าการเป็นนักเศรษฐศาสตร์จาก อ๊อกฟอร์ด เค็มบริด หรือแม้แต่มหาวิทยาลัยเยลนั้น ไม่ได้เป็นเครื่องประกันว่า จะสามารถบริหารเศรษฐกิจของชาติ ได้ดีเหมือนคนที่มีประสบการณ์ และประสบความสำเร็จในธุรกิจมาก่อน ซึ่งจะรู้ช่องทางเป็นอย่างดี

หากจะต้องบริหารประเทศ ต้องมีทีมงานเศรษฐกิจที่ดี และเข้มแข็ง ไม่ใช่อาจารย์มหาวิทยาลัยที่ไม่มีประสบการณ์ทางการค้า เปิดตำราสอนหนังสืออย่างเดียว

มาจากส่วนหนึ่งของบทความพิเศษ หนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย ฉบับวันที่ 18 พ.ค. 49 หน้า 17 (ทีมข่าวต่างประเทศ)

จากคุณ : chiangraiplus


//www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P4381740/P4381740.html


Create Date : 25 พฤษภาคม 2549
Last Update : 25 พฤษภาคม 2549 17:14:39 น. 0 comments
Counter : 324 Pageviews.  
 

~ Passer By ~
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add ~ Passer By ~'s blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com