รวมมิตรทริป 2007-2008 ชิล ชิล ที่อิยิปต์ เวนิส เวียนนา
ไม่ได้มาปัดฝุ่นใน Blog ซะนานเลยค่ะตอนแรก ตั้งใจจะมารีวิวให้ได้ทุกๆทริป เผื่อจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆที่จะไปบ้าง เพราะตอนเราไปเที่ยว ก็อาศัยหาข้อมูลในห้องพันธ์ทิพย์และห้องต่างๆนี้มาเยอะแปะเอาไว้หลายทริปเลยนะเนี่ย ทริปปี 2007สิงหา 2007สวิส - สองปีที่แล้ว ริวิวไปได้ครึ่งทริป ยังขาดอีกหลายเมือง โดยเฉพาะเมือง Stein Am Rhine เมืองโปรดของเรา เมืองนี้เพิ่งฉลองครบ 1000 ปีไปค่ะ ตามตัวบ้านเค้าจะเพนท์เป็นสีต่างๆ แล้วก็จะมีป้ายเหล็ก เป็นรูปน่ารักๆ เพื่อบอกว่าแต่ละร้านขายอะไรค่ะ Stein Am Rhine เมือง 1000 ปีที่มีตึกเพนท์สีสวยๆค่ะ แถมทริปสวิส ด้วยเวนิส กับ เวียนนาไปเวนิส อากาศไม่ดี ฝนตกค่ะ แล้วเราก็ไม่ได้หาข้อมูลมาเลยว่ามีอะไรน่าเที่ยวมั่งก็ไปกางแผนที่ กางร่ม เดินหลงทาง อยู่ตั้งเป็นนานสองนานเราชอบเมืองเวนิสมากเลยนะคะ ตึกมันดูเก่าๆ แต่ไม่ได้ดูสกปรกอ่ะเรียกว่าเก่าแบบคลาสสิกอ่ะอันนี้เป็นสะพานริอัลโตนะคะ แหม นึกว่าเป็นสะพานทอดถอนใจไปได้ไงเนี่ยเรา เชยจริงๆที่เวนิส มีหน้ากากสวยๆเยอะเลยค่ะ อดใจไม่ไหว ต้องสอยมาฝากแม่ค่ะกลับมาถึงเจอคนอื่นๆที่สถานีรถไฟ มาดูรูปของน้องแฮทกะน้องปอยเราเพิ่งรู้ว่า เราพลาดจุดไฮไลท์ของเวนิสไปซะได้ จตุรัสซานมาร์โค กะสะพานทอดถอนใจเสียดายมากกกกกกกกกกกกกก ไม่น่าเลยตรู มัวแต่หลบฝน ดั๊นอยากจะมานั่งเรือซะตอนบ่าย 3 ซื้อตั๋ววันไปซะด้วย 13 ยูโรแหน่ะแล้วได้นั่งไปแค่ชั่วโมงกว่าๆ เพราะกลัวตกรถไฟค่ะ แหะๆจัตุรัสซานมาโค ใหญ่เบ้อเร้อเลยค่ะ พลาดได้ไงเนี่ย สะพานที่เห็นไกลๆ นั่นล่ะสะพานทอดถอนใจค่ะ เค้าว่าก่อนจะประหารนักโทษจะให้มายืนที่สะพานนี้ค่ะ เรือกอนโดล่ากับวันฟ้าหม่น ไปเวียนนา ตึกเค้าสวยดีนะ แต่ก็เหมือนเดิม ไม่ได้ทำการบ้านไป ก็เดินๆดมๆถ่ายรูปไปเที่ยวพระราชวังเชอร์บรุนน์กันเถอะค่ะสวนในพระราชวังค่ะ ที่เห็นไกลๆลิบเป็นประตูวังค่ะ ไม่รู้เค้าเรียกว่าอะไรอ่ะ เห็นมีประตูแบบนี้แทบทุกวังเลย ที่อิสตันบูลก็มีถึงแล้วค่ะ ดูเหมือนจะไม่ไกล แต่กว่าจะเดินไปถึง เล่นเอาแฮ่กเหมือนกันนะคะจากนั้นก็ไปเดินเล่นที่ในเมือง มีคนแต่งตัวแบบนี้มายืนเต็มไปหมดเลยค่ะพอเราให้เงินแล้วเค้าจะโค้งขอบคุณ ขอทานในยุโรปจะไฮโซๆนิดนึงค่ะรูปพวกนี้ของน้องปอยกะน้องแฮทเป็นแรงบันดาลใจให้เราอยากได้เลนส์ไวด์ค่ะเพราะถ้าเลนส์ไม่ไวด์จริง เก็บรูปความใหญ่โตแบบนี้ไม่ได้แน่โบสถ์ St.Stephen's เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเวียนนาเลยนะคะ สูงใหญ่ๆมากๆเลย กล้องเราเก็บได้แต่ฐานรูปนึง ยอดรูปนึง เอาไปแปะกันเอาเอง หุหุอันนี้น่าจะเป็นวังของเจ้าหญิงซักองค์นี่แหล่ะค่ะ (จำชื่อไม่ได้แล้วว)ปิดท้าย เป็น Hoftberg ซึ่งเป็น พระราชวังของจักรวรรดิ์ออสเตรียตอนแรก นึกว่าเป็นสถานที่ราชการนี่แหล่ะค่ะ ไม่ได้เข้าเลย บอกแล้ว ถ่ายรูปอย่างเดียวเลยชื่อสถานที่นี่เรายังเพิ่งมาหาชื่อใน Google ทีหลังเลย เอาเป็นว่า ตั้งใจจะกลับไปแก้ตัวใหม่อีกครั้งนะคะ เวียนนากะเวนิส +.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.+.ทริปปี 2008ไปมา 3 ทริปค่ะ เก็บเบี้ยบ้ายรายทางเวลากลับบ้าน ^__^มีนา 2008 ไปเพตรา ทริปจอร์แดนนี่ก็เขียนไปแค่เมืองเดียว เหลือเพตรากับ dead sea ล่าสุดสดๆร้อนๆกลับบ้านเมื่อช่วงคริสต์มาส ได้แวะ transit ที่ Amman ก่อนกลับเมืองไทย 12 ชม. เค้าก็เลยให้ออกไปพักที่โรงแรมแถวๆ airport ฟรีนะ ตอนแรก ก็แอบจินตนาการ หูย โรงแรมใน airport เชียว ต้องหรูเริ่ดแน่ๆแต่พอไปเจอจริงๆ ห้องนอนเรานะ น้ำนองเต็มห้องน้ำเลย ที่โรงแรมนี้ มีจัดอาหารให้สามมื้อเลย ลงไปดู อ่ะ ก็พอทานได้น่ะ ของฟรี จะหวังไรมากกินเสร็จ ก็เดินๆวนๆอยู่รอบโรงแรม จะทำอะไรดีพอดีเจอ Caesar คนแคนาดา ที่ทำงานอยู่ด้วยกัน เค้ามาทำเป็น financial consultant ให้ที่บริษัท แล้วเค้าหมดสัญญา กำลังจะกลับบ้าน เค้าก็เลยชวนว่า ออกไปเที่ยวกันไหมไปดูโปรแกรม เค้ามี city tour เวลา 3-4 ชม. เราไป Amman รอบที่แล้ว ที่ไฟลท์มันดีเลย์ ก็เลยยังไม่ได้เที่ยวในเมืองเลยก็เลยตกลงจะไปอันนี้ เพราะตอนนั้นก็บ่ายสองแล้ว ราคา 70$ พอรับได้ขาไปเนี่ย ฝนตกตลอดทาง ไหนจะต้องห่วงกล้องที่เพิ่งสอยมาใหม่ อากาศก็หนาวมาก ได้ไปดูแค่ Citadel เองนะ มีเสาอยู่ต้นนึง กะพิพิธภัณฑ์เล็กๆ จริงๆ ตั้งใจอยากจะไป Roman Amphitheatre มากๆ แต่รอบนี้ก็แห้วเหมือนเคย ได้แต่มองลงมาเห็นจาก Citadel แต่พอจะเข้าไป 4 โมงเย็น มันปิดซะแล้วล่ะ ตัวเมือง Amman จาก Citadel เห็นโรงละครโรมันอยู่ทางขวามือค่ะ มีเรื่องให้เซ็ง เกี่ยวกับแขกอีกแล้ว ก็ตาคนที่ขับรถพาเราไปนี่แหล่ะนะจริงๆ เราเอาเงินดอลล์ไปแลกเงิน Jordan Dinar ไว้แล้วล่ะกะว่าเผื่อจะต้องซื้อของกินกะทิปอะไรพวกเนี๊ยราคา 1 Jordan Dinar = 50 บาท แพงกว่าเงินปอนด์อีกนะ เป็นเล่นไปแล้วทีนี้ พอไปเที่ยว คุณไกด์ หรือคุณคนขับรถเนี่ย แกก็พยายามจะย้ำกับเรามากว่า เวลาจะเข้าสถานที่ต่างๆ เดี๋ยวไอจะไปจ่ายเงินให้ยูก่อนนะ เดี๋ยวยูไปจ่ายเองจะโดนเค้าโกง แล้วยูค่อยมาจ่ายคืนไอทีหลัง แล้วกันนะเราก็อืมๆ ไม่ได้คิดอะไร เพราะฝนตกด้วยแหล่ะ ก็มัวแต่ห่วงกล้อง สุดท้าย เราก็เข้าไปดูที่เดียวแหล่ะ ที่ Citadel ทีมีเสาเล็กๆอยู่อ่ะนะพอจบทริป เค้ามาส่งเราที่โรงแรมเค้าก็บอกว่า ที่ไอจ่ายให้ยูสองคนไปค่าเข้า Citadel เนี่ย คนละ 20 JDโหย กรี๊ดดด ไอ้เสาต้นเล็กๆแค่นั้นอ่ะนะคนละ 1000 บาท ทำแบบนี้ปล้นกันไปเลยดีกว่าแต่ว่า เราไปกะคนแคนาดาอ่ะ ดูเค้าเป็นผู้ใหญ่ จะโวยวายก็ไม่ถนัดอยู่นี่ถ้ามากะเพื่อนนะ มีการขอดูตั๋วแน่นอน อันนี้ต้องสงบนิดนึง Caesar ทำหน้าประมาณว่ากล้าขอก็จ่ายมันไปเรารู้สึกตะหงิดๆในใจนะ ขอหน่อยเหอะเราก็บอกเค้า ยูแน่ใจเหรอว่า 20 JD น่ะ เราเคยมาแล้วนะจอร์แดนเนี่ยขนาดไป Jerash เมืองโรมันทั้งเมืองเลย ยังแค่ 8 JD เองนะหรือว่า Petra เนี่ย ที่เค้าฮิตๆ เดินกันทั้งวันเนี่ย ยังแค่ 21 JD เองจริงๆก็แพงนะ Petra เนี่ย เราไม่เคยจ่ายค่าเข้าชมสถานที่ที่ไหนแพงขนาดนั้นเลยแต่ก็นะ หลังจากมันติดอันดับ new 7 wonder นะ ก็เป็นเวลาที่เค้าจะหารายได้เข้าประเทศเค้ายิ่งตอนนี้แพลนทริปจะไปยุโรป ไปเที่ยวพระราชวังแวร์ซาย ยังไม่ถึง 15 ยูโรเลยเฮอคิวลิส Temple บน Citadel ค่ะ กับเสาเจ้าปัญหาอายุ 2000 ปี ราคา 1000 เอิ๊กส์ๆๆ เค้าก็อ้อมแอ้มๆๆ ถามว่าเราไปมาตอนไหนเซ็งวุ้ย ก็ชั้นเพิ่งไปมาเมื่อเดือนมีนานี่เอง -"- (ตอนนั้น ดันเผลอบอกราคาผิดไปว่า 16 JD แต่เราก็มานึกได้อีกทีว่ามันเป็น 21 JD อ่ะนะ)คือ แบบจะโกง ก็เอาให้มันเนียนหน่อยดิ เราไม่ได้รู้ราคาเข้ารอกนะแต่คิดว่า ถ้า 5 JD นี่ก็อย่างแพงแล้ว มันไม่มีอะไรเลยมารู้ราคาตอนหลังจากเพื่อนว่า มันแค่ 2 JD เท่านั้นแหล่ะ พี่แกบอกซะ 20 JDที่เซ็งมากๆๆ ก็คือ เค้าย้ำๆตลอดว่า ระวังเราสองคนโดนโกงทำไมพี่ไม่บอกมาต่อล่ะ ว่าเก็บเงินไว้ให้พี่โกงเองเหอะ เฮ้ออออ โดยแขกหลอกอีกจนได้ตอนจะจ่ายตังค์ สรุปว่า เราต้องจ่ายเค้าเพิ่มอีก 40 JD + ทิปอีก 10 JD(ไม่รู้ทำไมต้องให้ทิปมันอีกนะ เอาเราไปเต็มๆ 35 JD แล้วเนี่ย ยังกล้าขอทิปอีก)รวมๆ ก็คือ อีก 70$ แหน่ะ กลายเป็นทริปราคาแพงมากๆไปเลยเรามีแต่แบงค์ 100$ นะ Caesar เค้าก็ไม่มีเศษทอนเราเราก็เลยบอกว่า เดี๋ยวเราไปแลกเงินให้ยูละกันนะปรากฏว่าพี่แกมาบอกว่า ไม่เป็นไรหรอก ถือว่าเป็น complimentary service จากไอละกันเพราะถึงว่ายูจะไม่ไป ไอก็ต้องเสียเท่านี้อยู่แล้วเฮ้อ รู้สึกผิดน่ะ เพราะปกติ เราไม่ชอบรับของของใครเปล่าๆอยู่แล้วก็เลยพยายามชวนเค้าไปว่า งั้นยูไปทานข้าวไหม มันมีร้านอาหารในโรงแรมด้วยที่ต้องเสียตังค์อยากจะเลี้ยงเค้าซักมื้อแทน พี่เค้าก็บอกว่า ไม่เอาอีก ไอไม่หิวน่ะสรุปว่า งานนี้เที่ยวฟรีค่ะ แต่ก็ยังเซ็งที่โดนแขกหลอกไม่ชอบโดนหลอกค่ะ รู้สึกตัวโง่ๆไงไม่รู้ ก็จำไว้เป็นบทเรียนใครทำยังไง ก็ได้รับอย่างนั้นเองแหล่ะนะ ต.ค. 08 ไปอิยิปต์ ไปมา 7 วันค่ะ อากาศกำลังดี มีครบทุกบรรยากาศนั่งรถไฟ นอนเรือ ขึ้นบอลลูน นั่งรถม้า อ้อ อูฐไม่ได้ขี่อ่ะ เคยไปแตะผ่านตอนไปดูไบคราวนี้ เราเลือกที่จะไปกับทัวร์ เพราะกิตติศัพท์ของคนอิยิปต์เนี่ยไม่อยากจะไปเสียอารมณ์ต่อสู้กับแขกค่ะ สนนราคาค่าเสียหาย ก็ไม่แพงเท่าไหร่ ไปสองคนกับเพื่อน นอน 2 ห้องค่าทัวร์ 800$ เสียค่าทิป ค่าขึ้นบอลลูนไปอีกประมาณ 350$ ได้หนักๆเลยก็เป็นค่าทิปเนี่ยแหล่ะ ไปอิยิปต์ต้องเสียเงินทุกๆอย่าง ทุกๆที่เราจะเข้า mosque มีคนชี้ให้เราถ่ายรูป ก็เสียเงินเสียเงินทุกอย่าง จนหลอนเราไปเลยอ่ะตอนไปที่ห้องสมุด Alexandria เราก็ถามทางไปห้องน้ำกับน้องนักศึกษาในนั้น ยังไม่แน่ใจเลยว่า เราควรจะต้องให้เงินเค้าด้วยหรือเปล่า :Pหลักๆก็ประทับใจนะคะ อิยิปต์ อลังการงานสร้างมากแต่ก็เหนื่อยมากๆเช่นกัน วันไป Abusimbel เนี่ย เราต้องออกตั้งแต่ตี 3เดินทางไปเป็น convoy เพราะว่ามันอันตรายมาก นั่งรถไปกลับ 6 ชม.เพื่อจะไปถ่ายรูปที่ Abusimbel เป็นเวลาแค่ 1 ชม. เท่านั้นโดนแขกหลอก(อีกแล้ว) หน่อยนึง ตอนอยากลองของไปเอง ช่วงที่ว่างเดินๆถ่ายรูปอยู่ มีแขกมาตื้อให้ไปขึ้นรถม้าเราก็เดินหนีอ่ะ ยังไงในโปรแกรมเราก็ต้องนั่งรถม้าอยู่แล้วทีนี้ แขกเค้าก็มาตื้ออ่ะ บอกว่านั่งรถม้าไปตลาดไหมคุยไปคุยมาทนลูกตื้อไม่ไหว จบที่ 3$ อ่ะ ถูกบรมเลยก็ยังย้ำกับเค้าว่า no more แล้วนะ อิตาคนขับม้า ก็บอกว่า ไม่มีแล้ว เชือใจมั่งสิก็นั่งรถม้าไป ถ่ายรูปกับ mosque ก็สวยดีนะคะ ถ่ายมาจากข้างนอกแล้วพอดีเราก็บอกเค้าว่า เดี๋ยวเราอยากได้กาวติดรองเท้าผ้าใบ พอดียางรองเท้ามันหลุดพี่แกก็ขับวนไปวนมา พาไปร้านขายรองเท้ามั่ง ถามทางมั่งสรุปว่า หาไม่เจอ ก็ช่างมัน ใส่รองเท้าหนังกลับไปก็ได้ เสียดายจริง เพิ่งสอยมาหมาดๆ แล้วลืมนึกไปว่า ฝุ่นมันเยอะอ่ะ ทำความสะอาดยากตอนนั่งรถ เรายังชมคนขับอยู่เลยว่า ทำไมมันถูกจังฟระ เดี๋ยวต้องทิปให้เยอะๆหน่อยนะ แต่พอมาถึง เพื่อนเราดันไปถามว่าเท่าไหร่ เค้าก็ทำท่าคิดนิดนึง แล้วก็บอกว่า 20$ โหยยยย อะไรกันเนี่ย จาก 3$ เป็น 20$ เสียรู้แขกอีกแล้ว จริงๆ เราก็ได้ยินมาอ่ะนะ ว่าแขกอิยิปต์นี่ก็สุดๆเหมือนกันอย่างขี่อูฐ ตกลงกันเรื่องราคา พอจะลงมันบอกอีกราคานึงเหตุผลก็คือ ราคาตะกี้คือค่าขึ้น ค่าลงก็ต้องจ่ายด้วย ไม่งั้นอาจจะไม่ได้ลง แต่ทีนี้เราก็ไม่ยอมอ่ะ ก็เถียงๆกัน เค้าก็อ้างว่า ไปตั้งหลายที ก็เค้าหลงทางอ่ะ แถมเราก็ไม่ได้ของอีกนะสรุป เราก็ให้ไป 9$ อ่ะ หงุดหงิดสุดๆ แล้วเราก็เข็ดว่า ต่อไป เราจะไม่หนีไกด์เที่ยวเองอีกแล้ว เหอๆเอารูปรวมมิตรอิยิปต์มาให้ชมค่ะ วันแรก (9 ต.ค.51) ไปดูปิระมิดที่กีซ่ากับเมมฟิสค่ะปิระมิดแรกในอิยิปต์ คือที่เมืองเมมฟิส อายุ 6000 ปีได้แล้วมั้งคะ เป็นปิรามิดแบบขั้นบันได 6 ชั้นค่ะ ส่วนปีระมิดที่ใหญ่ที่สุดนั้น ทำจากหินประมาณ 2 ล้านก้อนเชียวนะคะ หินแต่ละก้อน หนักประมาณ 2 ตัน วางได้ชิดกันมากวันที่สอง (10 ต.ค. 51) ไปเมือง Aswan ค่ะต้องนั่งรถไฟไปจาก Cairo ประมาณ 13 ชั่วโมงค่ะแล้วก็ไปเที่ยวเขื่อนอัสวาน อันนี้สวยสู้เขื่อนเมืองไทยไม่ได้เลยค่ะ ได้ดูสันเขื่อนหน่อยนึงค่ะ ที่เมืองนี้ เราได้ไปวิหารฟิเล่ค่ะ สวยมากๆ ไม่น่าเชื่อว่าเค้าย้ายวิหารทั้งวิหารจากที่นี่มาไว้ที่เกาะนี้ เพราะว่าเค้าจะสร้างเขื่อนอัสวานน่ะค่ะ วันที่สาม (11 ต.ค.51) อย่างที่บอก ต้องออกเดินทางกันตั้งแต่ตี 3 เพื่อไปวิหาร Abusimbel ค่ะอันนี้ก็อลังการงานสร้างอีกแล้วค่ะ ย้ายทั้งวิหารหนีน้ำท่วมมาอีกแล้วเค้าว่าใช้งบประมาณเยอะมากในการย้ายมาตั้งไว้ที่ภูเขาลูกใหม่ที่ทำขึ้นนี้รูปปั้นที่เห็นใหญ่โต เป็นของกษัตริย์รามเสส 2 ในช่วงพระชนมายุต่างๆค่ะเสียดายที่รูปองค์ที่สองพังลงมา ตอนที่เกิดแผ่นดินไหวไปวันนี้ ทัวร์ให้ไปหาไกด์เอาที่โน่นเอง แต่เราหาไม่เจอค่ะบ้านไกล เวลาน้อย มีเวลาแค่ ชั่วโมงเดียวค่ะ เลยรีบถ่ายๆรูปอย่างเดียวตอนบ่ายๆ กลับมาก็ล่องเรืออย่างเดียวค่ะ นั่งกินนอนกินในเรือจนตอนเย็น แวะวิหารคอมออมโบค่ะ ตอนแรก เรานึกว่าจะไม่มีอะไร แต่วิหารตอนกลางคืนเปิดไฟสีนวลๆ สวยดีค่ะไกด์เราอธิบายดีมากเลยนะ เพราะเราพยายามอ่านประวัติอิยิปต์มาก่อนจะมาเที่ยวบ้างแต่ว่าเทพของอิยิปต์มีเยอะเหลือเกินค่ะ อ่านแล้วงงไกด์อธิบายว่า คอมออมโบเป็นวิหารของสองเทพ คือ เทพฮอรัส และเทพโซเบคที่เป็นจระเข้จึงเป็นวิหารเดียวที่มีทางเข้าสองทาง เทพฮอรัส จะเป็นฝ่ายดี เข้าทางประตูซ้าย เค้าว่า เป็นฝั่งเดียวกับหัวใจค่ะคือมันชักนานๆแล้วอ่ะ รายละเอียดปลีกย่อยเราก็จำไม่ค่อยได้แล้วค่ะส่วนเทพโซเบค เค้ามีมัมมี่จระเข้ด้วยค่ะ แต่คิวยาวมาก กลัวตกเรือ เลยไม่ได้เข้าไปดูอ่ะวันที่สี่ (12 ต.ค.51) วันนี้ได้เที่ยววิหาร Edfu ค่ะ ต้องนั่งรถม้าไปประมาณ 20 นาที อากาศตอนเช้าเย็นมากๆค่ะมีรูปปั้นนกเหยี่ยว ที่พระนางคลีโอพัตราทรงสร้างไว้เป็นพระเอกของวิหารนี้ค่ะส่วนตอนเย็น เรือเราต้องผ่านช่องแคบ Esna เพื่อทำการปรับระดับน้ำค่ะโดยเรือเข้าไปแล้ว เค้าก็จะปิดประตูระบายน้ำ แล้วก็ปรับระดับน้ำให้เท่ากับขาออก ซึ่งน้ำต่ำกว่าประมาณ 5 เมตรได้มั้งคะ ตื่นเต้นดี ไม่เคยเห็นอ่ะคืนนี้ เราได้นอนบนเรือคืนสุดท้าย เพราะพรุ่งนี้เราจะถึงเมืองลักซอร์แล้วก็นั่งรถไฟกลับไคโรค่ะบนเรือก็สะดวกสบายดีค่ะ เหมือนโรงแรมลอยน้ำมีครบทุกอย่าง อาหาร 3 มื้อ มีสระว่ายน้ำด้วย พนักงานบนเรือก็น่ารักค่ะ กลับมาที่ห้องทุกวัน เค้าก็จะพับผ้าห่มเราเป็นรูปต่างๆอย่างรูปไก่ รูปดอกบัว น่ารักดีเหลือทริปอีก 3 วันที่ยังไม่ได้เลือกรูปเลย จนป่านนี้ โดยเฉพาะวันที่ไปลุกซอร์ ได้ขึ้นบอลลูน ล่องเรือเฟลุกก้า เราชอบมากๆ ถ่ายรูปกันไป 500 กว่ารูปค่ะไว้จะหาโอกาสมาลงอีกครั้งนึง นอกนั้น ก็เป็นทริปประปรายค่ะไปเที่ยวอิสตันบูล อันนี้หลายรอบแล้ว เพราะไป transit บ่อยปกติ เราชอบเที่ยวนะ แต่ไม่นิยมออกไปเที่ยวคนเดียวอ่ะแต่อิสตันบูลนี่ไปเดินเล่นคนเดียวมาสองรอบ ด้วยความที่ไปมันบ่อยแล้ว ก็เลยชินก็เดินดูแถวๆ sultan ahmed นะ เดินคนเดียวไม่นานก็จะมีคนเข้ามาทักเรื่อยๆ แต่เราก็ระวังตัวอยู่แล้ว เพื่อนเราผู้ชายโดนล้วงกระเป๋าที่นี่ไปสองรอบแหน่ะอ้อๆๆ วันหยุดปีที่แล้ว ออกไปเที่ยวเมือง Dohuk & Erbil ของอิรักมาด้วยอยู่มา 3 ปีกว่าแล้ว เพิ่งจะได้ออกนอกเมืองเนี่ยแหล่ะค่ะล่าสุด ปีนี้ อยากไปเที่ยวยุโรป เพราะไม่รู้หมดสัญญาปีนี้แล้วเราจะไปล่องลอยอยู่ไหนอย่างที่สองคือ ไมล์เราก็จะหมดอายุแล้วน่ะ ต้องแลกไปไหนสักแห่งจากอิสตันบูลไปยุโรป ใช้แค่ 20,000 ไมล์เท่านั้นเอง ก็เลยเอาซะหน่อยEurope in Spring ปีนี้ วางแผนไว้ทัวร์ 5 ประเทศ 20 วันไอ้ตอนจัดทริปนี่ก็ปวดหัวมาก เพราะอยากจะไปมันหมดทุกที่เลยแต่ก็ต้องมาตัดใจ เลือกเอาทริปตามใจฉันได้เป็นปารีส - มิวนิค - เชค - ออสเตรีย - อิตาลี่ตอนแรก ดั้นวางไว้ว่า เมืองภาคบังคับ ต้องเป็น ปารีสกับอิตาลี่แต่ไปๆมาๆ ไหนๆก็ไปยุโรปตะวันออก ก็อยากจะไปฮังการีด้วย เอ หรือว่าตัดอิตาลี่ไป แต่พี่ที่จะไปกับเรา ก็บอกว่าอย่าเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเลย เพราะเราจองตั๋วไว้แล้วแล้วสุดท้าย พี่เค้าก็ไม่ไปกะเรา สรุปก็มาจบที่อิตาลี เอาไว้เมืองสุดท้ายเลย เพราะว่าโจรชุมเหมือนยุงกะว่ามาถึงอิตาลี่ เงินคงใกล้หมดแล้ว ฮ่าๆๆจริงๆ ก็อยากไปเวนิสด้วยอ่ะ มันยังคาใจอยู่เลย ตอนแรก จะโยกวันเล็กน้อย เพื่อให้ได้ไปแก้ตัวที่เวนิสแต่ก็แอบมาเสียดายค่าตั๋วรถไฟ ไป florence ดันงกรีบซื้อไปก่อน กลัวโปรโมชั่นหมดก็เลยต้องทำใจตัดมันทิ้งไป บอกตัวเองว่า ไว้ไปแก้ตัวตอนฮันนีมูนนะ (แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ เหอๆ)ตอนนี้กำลังทำการบ้านอย่างหนัก เพราะเราไม่เคยไปเที่ยวยุโรปเองซะด้วยสิไม่รู้จะหมดแรงก่อนหรือเปล่านะ เพราะว่า เดินทางตั้งแต่ยุโรปตะวันตก ไปตะวันออก มาจบที่ยุโรปใต้ เริ่มจากไปถอยกล้อง Canon 450D มา ไปเรียนถ่ายรูปมาสองวันเอารูปที่ไปเที่ยวยุโรปมาแล้ว เราช่างถ่ายภายไม่ได้เรื่องเลย องค์ประกอบภาพไม่ได้ สีไม่สวย เสียดายอย่างแรงยิ่งมาดูรูปของน้องปอยกะแฮท รูปบวมๆ หน้าชัดหลังเบลอ เลยต้องกัดฟันไปซื้อเลนส์ไวด์มาตัวนึงตั้ง 22,000 เพราะมีคนบอกว่าเลนส์ไวด์ ถ่ายอะไรก็สวย ไม่รู้ว่า รอบนี้ไปเรียนมา จะถ่ายดีขึ้นหรือเปล่านะคะ แต่กล้อง DSLR อ่ะนะ แค่ถือขึ้นมา ก็ดู(เหมือนจะ)ถ่ายเป็นมืออาชีพแล้ว อิอิอัพเดทที เขียนคุ้มเลยนะเรา