 Life is beauty,admire it 
ในช่วงหลังผ่าตัดใหม่ๆ เป็นช่วงที่มีท่านผู้รู้ต่างเมตตาแนะนำของรับประทานให้ป้าวี
อยู่เสมอมิได้ขาด ในบรรดาท่านผู้รู้ทั้งหลาย มีแม่ของป้าวีเป็นหนึ่งรวมอยู่ด้วย
เพราะเธอเป็นกูรูในทุกๆด้านอันนี้ต้องให้เครดิต แม่มีพีสาวร่วมอุทรเพียงคนเดียว
และเสียชีวิตด้วยมะเร็งตับ เมื่อสามปีที่แล้วลูกสาวคนที่สี่ของแม่ก็เป็น
มะเร็งเต้านม และบัดนี้ลูกสาวคนที่สองของแม่ ก็...ด้วย (ไม่รู้เป็นไง......
ไม่คุ้นจริงๆที่จะเขียนว่าตัวเองเป็นอะไร !)
แม่หอบหนังสือต่างๆมามากมาย เพื่อมาเป็น reference ยืนยันเรื่องที่แม่บอก
ในจำนวนนี้มีหนังสือชื่อ "นาฬิกาชีวิต"ของ อ.สุทธิวัสส์ คำภา รวมอยู่ด้วย
ซึ่งป้าวีเปิดอ่านก่อนเล่มอื่น (เพราะเล่มบาง แหะๆ) ในนั้น บอกเวลาการทำงาน
ของอวัยวะภายในร่างกายมนุษย์ ว่าเวลาไหนส่วนใดทำงาน ควรทำตัวอย่างไร
ควรรับประทานอาหารชนิดใดจึงเหมาะสมกับเวลา มีตอนหนึ่งกล่าวถึงการ
รับประทานเห็ดสามอย่าง
อ.สุทธิวัสส์บอกว่า เห็ดสามอย่างเมื่อรวมกันนั้นจะมีค่ากรดอะมิโนที่สามารถลด
อัตราการเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ ทั้งยังช่วยล้างพิษที่สะสมในตับ ทั้งจากอาหาร
และสารเคมี เช่น พิษจากสุรา สารตกค้างในเนื้อสัตว์ สารเคมีจากเครื่องสำอาง
และพิษจากสารอนุมูลอิสระ นอกจากนั้นยังล้างไขมันในตับ ทำให้ตับเเข็งแรง
สร้างเม็ดเลือดแดงได้ดี
เห็ดที่นำมาใช้ คือ เห็ดสามชนิดที่กินได้เช่น เห็ดหูหนูดำ เห็ดหูหนูขาว เห็ดหอม
เห็ดฟาง เห็ดนางฟ้า เห็ดโคน เห็ดเข็มทอง เห็ดออรินจิล้างน้ำให้สะอาด ก่อน
เห็ดชนิดเดียว ประโยชน์ยังไม่มากเท่ากับเห็ด 3 อย่าง มารวมกัน อาจารย์เขาว่า
เหมือนเอาส่วนผสมของดินระเบิดมารวมกัน (ประมาณนั้น! )
สรุปประโยชน์ของเห็ดสามอย่างเมื่อนำมารวมกันปรุงอาหาร
- ล้างสารพิษที่ตกค้างในตับ ช่วยบำรุงตับ
- ลดอนุมูลอิสระที่จะเกิดเป็นเซลล์มะเร็ง
เป็นที่แน่นอน ว่าเมนูอาหารตลอด 2 เดือนที่ผ่านของป้าวี แต่ละวันประกอบด้วย
เห็ด เห็ด และเห็ด
ซุปเห็ด เห็ดสามอย่างผัดกระเพรา แกงจืดเห็ดสามอย่าง
ยำเห็ดสามอย่าง เห็ดสามอย่างลวกจิ้มน้ำพริก แกงเลียงเห็ดสามอย่าง
เต้าหู้ผัดเห็ดสามอย่าง โอ..expert มาก วันนี้ชวนเข้าครัวซะเลย
เมนูวันนี้ ขอเสนออออ....เห็ดสามอย่างผัดขิง
เครื่องปรุง : ก็เห็ดสามอย่างน่ะซิ, ขิงอ่อน,หอมใหญ่
วิธีทำ : ก็เอาลงไปผัดๆในกระทะน่ะแหละ แต่ผัดขิงให้เหลืองก่อนนะคะ
วันนี้ป้าวีหม่ำกับข้าวกล้องธัญพืชยอดข้าวราชินี และตบท้ายด้วยน้ำแครอท
...มาทานด้วยกันซิคะ...
ขอแทรกโฆษณาซอสปรุงอาหารสักเล็กน้อย 55555
***ซีอิ๊วเกลือต่ำได้รับการพัฒนาสูตรจากอาจารย์แห่งสถาบันวิจัยโภชนาการ
มหาวิทยาลัยมหิดล โดยมีหลักการสำคัญได้แก่
ลดเกลือโซเดียม: จากการศึกษาวิจัยพบว่า การกินเกลือโซเดียมมากเกิน
มีส่วนเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคความดันเลือดสูง และทำให้คนไข้ความดันเลือดสูง
ควบคุมความดัน(เลือด)ได้ยาก
ใช้เกลือโพแทสเซียม: เกลือชนิดนี้เป็นเกลือชนิดดี มีในผลไม้ ผัก และข้าวกล้อง
มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคความดันเลือดสูง และเพิ่มสมรรถภาพในการออกกำลัง
ใช้น้ำตาลเทียม: การใช้น้ำตาลเทียม (sorbitol) ซึ่งเป็นน้ำตาลพิเศษ
(sugar alcohol) ที่พบในธรรมชาติ เช่น ลูกพรุน ฯลฯ ช่วยลดปริมาณน้ำตาลลง
ทำให้ดีกับคนไข้เบาหวาน และท่านที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก
 
| 
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
พิมพ์ในช่องคอมเนต์ตั้งนาน
ว่าทำไมตัวอักษรไม่ขึ้น
ก็ bg เป็นสีขาว font ก็สีขาว เลยอ่านไม่เห็นค่ะ
ป้าวีค่ะ อะไรที่เป็นเห็ดๆๆๆๆ
ทั้งหลายป้าซ่าส์ชอบหมดเลย
แต่ว่าตอนนี้มักจะทานอาหาร
ที่เดิมๆๆๆ ซ้ำๆๆๆๆ
เบื่ออาหารจังเลยค่ะ
อยากทานที่ป้าวีนำเสนอจัง