สิงหาคม 2549

 
 
1
2
3
4
5
6
7
9
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
10 สิงหาคม 2549
ปี 2549 ภาคสอง
เขียนไปเขียนมา ชักยาว เลยแยกเป็นสองภาคซะเลย

ในเดือนกันยา

Crazy People จำไม่ได้แล้วว่าไปจำใครแนะนำให้ดูมา เป็นหนังไม่ใหม่นะ (ปี 1990) เกี่ยวกับวงการโฆษณา เนื้อเรื่องจริงๆไม่มีอะไรมาก แต่สโลแกนในหนังซิ สุดยอดเลย ยกตัวอย่างให้ฟัง เช่น โฆษณาเที่ยวเมืองนิวยอร์ก เขาเขียนว่า "Come visit New York. We have less murder than last year." หรืออย่างโฆษณา Quaker Oats มีสโลแกนว่า "Does this stuff taste good? Who knows...but at least the box is cute." บรรยายด้วยตัวหนังสือ อาจไม่ขำเท่าไหร่ แต่ในหนังมันมีแผ่นภาพประกอบด้วย โหย..ขำสุดๆ แล้วนี่แค่ตัวอย่างนะ มีโฆษณาเด็ดๆในหนังอีกหลายอัน..ชนิดที่ฟังแล้วขำก๊ากกกก

The Jacket เรื่องนี้นำแสดงโดย Adrien Brody พระเอกที่เล่นเรื่อง The Pianist ในเรื่องนี้แกถูกส่งไปในอนาคต ฟังแล้วดูท่าเป็นหนังไซไฟ แต่ดูแล้วมันไม่เชิงนะ ครึ่งแรกไม่ประทับใจเท่าไหร่ ชอบครึ่งหลังมากกว่า ตอนจบ พอใจกับบทจบที่เขาเลือก พอดีดู Special Features เห็นมีalternate endings ตั้งสามแบบ แบบไหน ก็สูแบบที่อยู่ในหนังไม่ได้ ต้องไปหาดูเอาเอง :)

King Kong
นี่ดูฉบับที่ Jessica Lange เล่นนะ ไม่ใช่อันใหม่ที่ Naomi Wattsเล่น ดูแล้วไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ดูท่าทางเป็นหนังแบบจุดขายที่ให้ยายนางเอก (ตอนนั้นแกซัก 26-27เอง) นุ่งน้อยห่มน้อย วิ่งไปมา ทำตัวน่ารัก น่าสงสาร..แค่นั้น
นี่ถ้านึกว่าเป็นหนังเมื่อ 30 ปีก่อน ก็ถือว่าspecial effectsดีมากนะ เดี๋ยวนี้อะไรๆก็ CGI ทำเอาเรื่องนี้ดูดึกดำบรรพ์ไปเลย

The Aviator ดูแล้วว่าไม่น่าสนใจเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะส่วนตัวไม่ค่อยชอบพวกชีวประวัติของคน ว่า DiCaprio ก็เล่นดีน่ะนะ แต่ก็ยังไม่ทำให้รู้สึกสนุกกับหนัง แต่ที่ทำให้สนใจ คือ เกี่ยวกับตัว Howard Hughes เจ้าของเรื่องตัวจริง ในดีวีดีมันมีสารคดีเกี่ยวกับแกด้วย ตัวจริงหล่อออ ถึงว่ามีข่าวคราวเกี่ยวกับสาวๆเยอะ ดูเรื่องนี้จบ เลยไปหาเรื่อง Hell's Angels ที่ Hughes ตัวจริงสร้าง จะดูซิว่ามันดีแค่ไหน เป็นยังไง

ในเดือนสิงหา

Citizen Kane กำกับ เขียนบท และแสดงนำโดย Orson Welles เรื่องนี้ถือเป็นอันดับหนึ่งของหนังที่ดีที่สุดของ American Film Institute เลยนะ นั่งดูแล้วก็พยายามคิดตามว่ามันดีตรงไหนหว่า จนจบก็ไม่เห็นอ่ะ แล้วก็เลยนั่งดู Special Features ในแผ่นที่สองต่อ เขาพูดถึงที่ว่าหนังเรื่องนี้ลอก(ล้อเลียน)ชีวิตของ William Randolph Hearst ซึ่งเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์หลายฉบับในสมัยนั้น ในแผ่นนี้ เขาบอกด้วยว่า "rosebud" คำพูดสุดท้ายของ Kaneในหนัง จริงๆแล้วคืออะไรสำหรับ Hearst (ฟังแล้ว โห..แสบจริงๆ)

Orson Welles เนี่ยถ้าใครเรียนพวกmediaคงรู้จัก แกมีชื่อตอนทำรายการวิทยุ (ก่อนมาทำหนัง) แล้วดันออกอากาศในช่วงnews broadcastว่ามีมนุษย์ต่างดาวบุกโลก สมัยนั้นคนยังไม่มีทีวี ฟังกันแล้วนึกว่าเรื่องจริง ทำการเตรียมการอพยพกันใหญ่ จนทางสถานีต้องออกมาชี้แจงว่าไม่ใช่เรื่องจริง

ตอนทำหนังเรื่องนี้ Orson แกอายุ 24-25 เองนะ

Ray เรื่องนี้รอคิวจากห้องสมุดเป็นเดือนๆเลย ตอนดู ก็ไม่รู้สึกว่ามันเด่นอะไร แต่พอจบ แล้วเข้าไปเช็ค Special Features ได้เห็น Ray Charles ตัวจริง และความพยายามที่ Jamie Foxx ตั้งใจเล่นให้เหมือน Ray ตัวจริงแล้วเลย อืม..Jamie เล่นได้เหมือนจริงๆนะ ทั้งท่วงท่า อิริยาบถในทุกๆช่วง (เล่นได้ดีจนได้ออสการ์จากเรื่องนี้) จริงๆ Jamie นี่แกได้piano scholarship เข้าcollegeนะ เพราะฉะนั้น แกเล่นเปียโนได้อยู่แล้ว แต่ถึงแกเล่นไม่ได้ คนที่เลือกแกมาเล่นบทนี้ ก็กะให้ฝึกซ้อมเปียโนจนรับบทได้อยู่แล้ว นี่เลยทำให้งานผู้กำกับง่ายเข้าไปอีก

Prime พอดีเมื่อวานเย็นว่าง ก่อนกลับบ้านเลยไปหาหนังมาดูซักหนึ่งเรื่อง ว่ายายUma Thurmanสวยดี และMeryl Streepก็เป็นนักแสดงที่เล่นดีนะ เลยเลือกเรื่องนี้มาดู จริงๆหนังเป็นแบบromantic comedyธรรมดา แต่ชอบที่เรื่องราวมันสมจริงดี เลยว่าดูแล้วสนุก ตอนที่ตลก ว่ามันก็ตลกจริงๆนะ

The Tao of Steve อันนี้ไปดูบ้านเพื่อน นั่งเล่นๆไม่มีอะไรทำ พอดีเขามีเรื่องนี้ เลยยัดเข้าเครื่องDVDดู หนังไม่มีอะไรมาก แต่หลายๆอย่างที่พูดในเรื่องว่ามันค่อนข้างจริง ดูเรื่องนี้ ถ้าเดทบ่อยๆ อาจเข้าถึงได้ดีกว่า

Duplex พอดีเจอเสาร์อาทิตย์ เลยหาอะไรมาดูเย็นๆใจตอนอยู่บ้าน ไปคืนหนังสือที่ห้องสมุด แวะไปดูcartที่คืนหนัง เห็นเรื่องนี้เลยคว้ามาดูซักหน่อย ตลกดี คนที่ชอบอารมณ์ขันอย่าง There's Something About Mary น่าจะชอบนะ ส่วนตัวว่า Ben Stiller แกตลกดี แต่ก็มีเพื่อนบางคนไม่ค่อยชอบแก ดูแล้วนั่งหัวเราะก๊ากอยู่คนเดียว ว่าหนังมันตลกแบบน่ารัก..



Create Date : 10 สิงหาคม 2549
Last Update : 9 กันยายน 2549 5:37:25 น.
Counter : 370 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Overseas
Location :
กรุงเทพ  United States

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



อยู่เมืองที่ใครตั้งชื่อไว้ว่า เมืองแดด คนตั้งเขาไม่ได้ล้อเล่นนะ หน้าร้อนนี่ แดดมันร้อนจริงๆ เป็นเมืองไทย ตากผ้าสบายเลย

อยู่มาตั้งนาน ก็ยังอยู่ที่เดิม ไม่แน่ใจว่าเพราะโชคชะตาหรือความขี้เกียจ

ปล. อายุที่เห็น..เป็นอายุที่อยากอยู่ถึง(ไม่พูดเล่นนะ) พอดีมันสุดแค่ 100 เลือกเลข99 ดูไม่เลว อย่างน้อยก็สวยดี