แล้วก็มาถึง ที่จอดรถที่ได้หามาไว้ แต่มันไกลไป พอดีเจอคุณตำรวจใจดีขับรถพาไปส่งที่จอดรถที่อยู่ด้านบน ใกล้มากเลยค่ะ
· จากตรงนี้ต้องเดินจากหาดที่มีที่จอดรถไปที่หาดหินปูนประมาณ1 กิโลเมตร ทางเดินตอนเราไปยังไม่ดีค่ะเพราะเขากำลังทำทางเตรียมสำหรับหน้าร้อนที่จะมาถึง
· วิวด้านบน คุ้มกับการเดินมาจริงๆกลับลงมาจากหินปูน
วิวดีๆอยู่ด้านบน
กลับลงมาล้างเนื้อล้างตัว กินกาแฟแล้ว ขับรถไปต่อ เมือง Agrigento เป็นที่รวมมหาวิหารยุคกรีกที่เรียกว่า The Valley of Temple
อยู่ไม่ไกลจากเมือง Realmonte แล้วค่ะ พอไปถึงที่นี่ เราเจอปัญหาเมืองนี้ใหญ่มาก เราต้องหาที่จอดรถที่สามารถเดินใกล้ที่สุด ปรากฏว่าเต็ม
เราได้รับคำแนะนำจากคนแถวนั้นแบบนี้
ขับรถลงมาจอดด้านล่าง ที่มีที่จอดรถกว้างขวางมีห้องน้ำด้วย ให้จอดฟรีแล้วเรียกแท็กซี่ขึ้นไปบนเขา คิดค่าแท็กซี่คนละ 3 ยูโร เที่ยวจากบนสุดเดินลงมาก็จะถึงทางเดินมาที่ลานจอดรถได้เอง
แต่วิธีนี้ เราจะเที่ยวได้ 5 วิหาร เพราะอันที่ขาดไปไม่ได้เป็นไฮไลต์ ซึ่งถ้าใครจะขับรถไปเที่ยว แนะนำว่า ขับขึ้นไปส่งเพื่อนที่หน้าทางเข้าให้หมด แล้วขับรถลงมาจอดเองที่ลาน แล้วเรียกแท็กซี่คนเดียว ประหยัดตังค์ไปโข(ตอนนั้นไม่ได้คิด)
เมืองนี้เป็นเมืองที่ได้รับการขนานนามว่า เมืองที่งามที่สุดของมวลมนุษย์ เคยรุ่งเรืองอย่างสูงสุดในศตวรรษที่5 โดยการเข้ามายึดครองของพวกกรีกชาวกรีกได้สร้างหมู่วิหารเพื่อบูชาเทพเจ้าต่างๆไว้มากมาย
หมู่วิหารอันอลังการเป็นสง่าอยู่ในหุบเขา ที่เด่นสุดคือ เตมปิโอ เดลลากองการ์เดีย ซึ่งเป็นวิหารที่อนุรักษ์ไว้ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
เตมปิโอ ดิโจเววิหารบูชาเทพเจ้าซุส สร้างด้วยศิลปะแบบดอริก
และเตมปิโอ ดิจูโนเนวิหารบูชาเทพีจูโน(เฮรา) ที่เห็นวิวทิวทัศน์ของหุบเขาอันงดงาม
วิหารแรกที่เรามาเจอ สภาพไม่สมบูรณ์แล้ว
ทางเดินไปยังวิหารใหญ่
ถึงแล้วค่ะ มีต้นมะกอกยักษ์อยู่เป็นเพื่อนกัน
วิหารนี้สมบูรณ์มาก มีคนบอกว่าดีพอๆกับที่เอเธนส์เลยทีเดียว
งานศิลป์ที่หน้าวิหาร นักท่องเที่ยวถ่ายภาพไปมากที่สุดเลยละมังคะ
อีกวิหาร เหลือแค่นี้ค่ะ ธรรมชาติเอาคืนหมดแล้ว
อากาศดีๆ มีเมืองใหญ่เป็นแบ็กกราวน์
เที่ยวกันลงมาสโลเสล ต้องกินข้าวในรถอีกแล้วเพราะร้านในเมืองปิดนอนกันหมด ไม่ให้เสียเวลา พุ่งไปเมืองต่อ เมือง Amerina เรามุ่งไป PiazzaAmerina ซึ่งเป็นงานศิลปะโมเสคยุคโบราณที่ไม่ควรพลาด
VillaRomana del Casale ค่าเข้า 14 euro
ของงามๆอยู่บนโน้น บ้านขาวๆด้านล่างคือที่ที่พนักงานจะนั่งต่อโมเสคกับทำโมเสคใหม่เพื่อบูรณะ
ที่นี่เกือบไม่เข้าแล้วเพราะคิดว่าไม่มีอะไรน่าดู ที่ไหนได้ งานโมเสคยุคโบราณนี่มันสุดยอดสุโค่ยจริงๆ
ห้องแรกๆ ยังดูเฉยๆ
ถ่ายรูปก็ยากจะเห็นความอลังการ์
วิลล่าที่สุโค่ยอันเป็น World Heritage แห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นในสมัยโรมัน ช่วงต้นศตวรรษที่ 4 ในเมืองเกษตรกรรมขนาดใหญ่ งานศิลปะสะท้อนภาพชีวิตจริงๆในอดีต
เราเดินผ่านห้องหับต่างๆในวิลล่าที่ผ่านทั้งแผ่นดินไหว ไฟไหม้มานับครั้งไม่ถ้วน แต่สุดท้ายก็ไม่พ้นความพยายามของมนุษย์ที่จะกอบกู้ศิลปะเหล่านี้ขึ้นมาในช่วง ศต.19 จึงได้มีการขุดค้นกันเรื่อยมาจนได้สภาพในปัจจุบัน
· ภาพโมเสค ที่ปรากฏแต่ละห้องในวิลล่าบอกถึงกิจกรรมของคนในยุคนั้นๆ และบ่งบอกว่าห้องนั้นเป็นห้องอะไร
· ภาพโมเสค ไม่เพียงแต่ใช้ชิ้นเล็กชิ้นน้อยแต่ยังมีการไล่สี ไล่แสงเงา ทำให้ภาพมีมิติ
· ภาพสาวๆในชุดบิกินี เป็นภาพที่โด่งดังที่สุดของวิลล่า เป็นการทำขึ้นมาภายหลังเป็นการปูทับของเดิมไป
จบจากโมเสคอเมซิ่งแห่งนี้ ท้องมันหิวจนตาลาย หนุ่มคนขายตั๋วที่วิลล่าแนะนำร้านอาหารในเมือง ชื่อ Amici miei เป็นร้านพิซซ่าที่เขาว่าอร่อยมาก
ที่อยู่ Largo Capodarso 5, 94015 Piazza Armerina, Sicily, Italy
พวกเราเบนหัวไปที่ร้านนี้ทันที หาที่จอดรถวุ่นวายอยู่นาน พอไปถึงร้านยังไม่เปิด ก็เลยบอกเจ้าของร้านไว้ว่า "ลุงเดี๋ยวพวกเรามาเตรียมอาหารไว้เยอะๆ พวกข้าจะมาถล่ม" ว่าแล้วก็เดินขึ้นไปที่โบสถ์บนเขา ดูพระอาทิตย์ตกดินกันพลางๆ
เมืองเล็กๆ เก๋ากึ๊ก เงียบเชียบ แต่ยืนยันว่ามีคนอยู่ ดูจากรถที่เต็มเมือง
เมืองนี้เป็นเมืองอย่างที่เรียกได้เลยว่าเมืองเล็กๆต่างจังหวัด เงียบเชียบ มีคนไม่เยอะ ส่วนใหญ่เป็นคนทำการเกษตรอยู่รอบๆแวะมานั่งคุยกันกินอาหารกันในเมืองก็ไม่หนาแน่น เชื่อว่าเมืองนี้คงจะคึกคักยามหน้าร้อนแน่ๆ
บ้านเรือนรอบๆ โบสถ์
เรากลับลงมาร้านคุณลุงเปิดพอดี สั่งอาหารชุดใหญ่มากเพราะหิวโซซัดโซเซมา ร้านนี้แป้งพิซซ่าอร่อยมาก
ออเดิร์ฟรวม ตรงกลางเป็นชีสนมแพะ อร่อยดี
บุกไปดูหลังร้าน เจอเตาพิซซ่า เลยขอลองเล่นหน่อย ไปเที่ยวอิตาลีมาครั้งนี้เป็นครั้งที่2 เราไม่เคยเห็นร้านพิซซ่าที่ใช้เตาหินเลย ที่นี่เป็นที่แรก ที่เคยเห็น ไม่รู้เพราะหิวหรืออร่อยจริงพิซซ่าร้านนี้อร่อยมาก
พวกเราสั่งอาหารแบบลืมตาย ชนิดที่พ่อครัวพากันเดินออกมาดูหน้าว่าใครหว่าอดอยากมาถึงนี่
ตอนท้าย คุณลุงเปิดลิมอนเชลโลเลี้ยง....ถือว่าเป็นร้านเดียวในทริปที่ได้กินฟรีนะคะ ที่อื่นไม่เจอที่เลี้ยงเลย
คืนนี้เราเจอหนุ่มคนเก็บตั๋วที่เป็นคนแนะน้ำร้านนี้ เขาสาวมาเดทด้วยค่ะ เขาดูภูมิอกภูมิใจที่พวกเราชอบร้านนี้ ได้ภาษีกับสาวไปโข
ร่ำลาเมืองน่ารักแห่งนี้ ออกเดินทางกันตอนสามทุ่มไปยังเมืองที่จะพักนอนเฉยๆ ชื่อเมือง Modica เพื่อวันพรุ่งนี้เราจะบุกบาโร้คทาวน์กันอย่างเต็มที่
คืนนี้เรานอนที่โรงแรม Torre Del Sud, Modica เป็นโรงแรมบิสิเนสโฮเทล ขนาดโคตรกว้าง ราคาไม่สูงมากค่ะ