เมืองนี้มีร้านช็อกโกแลตชื่อดัง เป็นช็อกโกแลตยุคดั้งเดิม มีน้ำตาลเป็นเม็ดๆ ชื่อร้าน Bonajuto ที่คุณต้าร์แนะนำให้มาเยี่ยม เป็นร้านช็อกโกแลตร้านแรกในอิตาลี
ในร้านจะมีตัวอย่างช็อกโกแลตให้ชิม พร้อมทั้งเหล้าช็อกโกแลต อร่อยๆหวานๆ
เราซื้อมาฝากที่บ้านเพียบเลย แต่กินเปล่าๆไม่อร่อยนะคะ เอาไปชงเป็นโกโก้กินร้อนๆ หรือใส่ในกาแฟ
พวกเราเพลินกันอยู่ได้แค่แป๊บเดียว ทัวร์นักเรียนมาลง เท่านั้นแหละวงแตกร้านนี้เขาดังจริงๆแฮะ ออกไปเดินเล่นดูเมืองกันดีกว่า
ป้ายชื่อเมืองนะคะ
อากาศตอนเช้าสบายดีนะคะ
หอมปากหอมคอแล้ว ไปเมืองต่อไปดีกว่า เป็นเมืองเก๋ากึ๊กพอๆกัน ชื่อเมือง Ragusa ค่ะเป็นเมืองมรดกโลกเช่นกัน อยู่บนเขา
เมืองนี้เป็นเมืองเงียบๆ เก่าๆ น่ารัก เราไม่รู็จะเริ่มกันตรงไหน เลยเลือกไปที่วัดที่ใหญ่ที่สุดกลางเมืองเป็นหลัก แล้วพาลถ่ายรูปเมืองจากมุมสูง ก็สวยไปอีกแบบ
เดินลงมาพลาซ่ากลางเมือง อู้หู วังเวง
มีวัดอยู่วัดนึง แต่ล้อมรั้วไว้ไม่ให้เข้าด้วยแฮะ
ไปต่อดีกว่า ตั้งใจว่าจะไปทานข้าวเที่ยงกันที่เมืองถัดไปคือ Syracuse
เมือง Syracuse ก็เป็นเมืองที่มีอารยธรรมแบบกรีก เป็นเมืองที่เป็นเกาะเล็กๆน่ารักซึ่งเราจะต้องผ่านสะพานที่ชื่อว่า OrtigiaIsle
แต่ปรากฏว่าตอนไปถึงเราไม่ได้ถ่ายรูปสะพานหรอกนะคะ เพราะเราลงจากรถไม่ได้ค่ะ
ตั้งใจมากินร้านนี้ แต่ไม่ทันปิดไปซะก่อน งานนี้ลูกทัวร์เริ่มบ่นกันแล้วว่า เมื่อวานก็ไม่ได้กินข้าวเที่ยง วันนี้อีกแล้วเหรอ
เราก็เลยไปหาแทะพิซซ่ารอวัดเปิดตามเคย
syracuse Cathedral ถ่ายรูปข้างหน้าวัดอารยธรรมแบบกรีกไปพลางๆ ตอนนี้ปิดนอนกลางวัน
ตึกแถวนั้นๆ ใหญ่โตโอ่อ่ามาก
พอตกบ่ายสี่โมง โบสถ์เปิดแล้วเราก็เดินเข้าไปชมกันค่ะ
ดูมีความขลังดีนะคะ
ออกมาเดินเล่นข้างนอก ก็จะมีเมืองเก่าสลับกับเมืองใหม่เป็นระยะ
อากาศเย็นๆ น้ำทะเลใสกริ๊งกรุ๊ง เดินผ่านร้านอาหาร ถัดไปเป็นบ้านคนอยู่ปลายๆแหลม มีคนนอนกลางวันกันที่บ้านริมทะเล ชิลจริงๆ
เมืองที่เราจะพักคืนนี้คือ Taormina ยังมีเวลาเหลือก่อนค่ำ เราเลยแวะเมืองสุดท้ายคือเมือง Catania อันนี้แวะเพราะไม่มีจุดหมายแวะไปดูๆ เพราะเห็นเป็นเมืองใหญ่ และเป็นทางผ่านไป
เมืองนี้ค่อนข้างโทรมพอๆกับ Palermo ออกแนวเป็นเมืองโรงงานอุตสาหกรรม มองๆดูมีคนงานเต็มเมือง เดินๆก็ดูเป็นจุดสนใจ
เราหาที่จอดได้ไม่ค่อยห่างจากจตุรัสกลางเมืองนักพากันมาหยอดเหรียญ แล้วก็พากันเดินตัดลัดสวน ผ่านตลาดที่ความน่ากลัวระดับ 3 ไปที่จตุรัสกลางเมือง
โบสถ์ปิดเช่นเคย เราก็เลยได้ชักภาพกับจตุรัสนิดหน่อย
เมืองนี้หัวหน้าทัวร์โดนกระแนะกระแหนมากว่าพามาทำไมกันฟะ แหม..โบสถ์สวยออก แต่ปิด
คนนำกลัวเสียหน้า...ก็เลยพากันขับรถวนรอบๆเมืองดูโน่นนี่
สิ่งนี้หน้าตาเหมือนคุก แต่เห็นว่าเป็นมหาวิทยาลัยนะ
เห็นว่าหมดหวังกับเมืองนี้ ก็ไปต่อที่จุดหมายปลายทาง ถึง Taormina ที่พัก ชื่อ Villa Astoria ที่อยู่ Via Luigi Pirandello 38, 98039 Taormina, Italy
ไม่รู้ใช่เจ้าของหรือเปล่า คุณผู้จัดการเป็นอิตาเลียนชื่อคุณ Mauro ซึ่งเป็นคนเฟรนด์ลี่เว่อร์ๆ ที่ชอบเมืองไทยมาก
คุณคนนี้สามารถเล่าเรื่องเมืองไทยได้เป็นคุ้งเป็นแคว แกชอบคนไทยเคยไปเที่ยวพิษณุโลก กินเหล้าไทย
เราขอคำแนะนำเรื่องร้านอาหารเขาบอกให้เราไปร้านของเพื่อนเขา เป็นอาหารซิซีเลียนชื่อดัง เราไม่รอช้ารีบพุ่งไปก่อนร้านจะปิดครัวตอน 3 ทุ่ม
ถือว่าได้เดินชมเมืองตอนกลางคืน จากโรงแรมเดินไปที่ร้านอาหารนี้ประมาณ เกือบ 1-2 กิโล อากาศกลางคืนค่อนข้างเย็น เมืองนี้ร้านรวงปิดกันตอน 1 ทุ่ม เลยมืดตื๊ดตื๋อแต่ไม่น่ากลัวนะคะ
ถึงแล้วคุณ Mauro โทรมาสั่งเมนูแนะนำให้เราแล้วเป็นสตาร์ทเตอร์สองจานใหญ่ๆ ด้วยความที่พวกเราหิวโทรมมากจากกลางวัน เลยสั่งกันหนักไปหน่อยกินไม่หมด
อาหารซิซิเลียนจะเค็มมากนะคะ ทำยังไงก็เค็ม มื้อนี้แพงหน่อยเพราะอาหารเป็นจานซีฟู้ด
พรุ่งนี้เราจะตื่นกันเช้ามากเพื่อไปพิชิตยอดเขา etna ขอให้ฟ้าเป็นใจ
ก่อนจะไปเที่ยวกันไกลกว่านี้ จะพูดเรื่องการใช้แอพ travel money สำหรับคนที่สนใจ เผื่อเป็นไอเดียนะคะ
ปกติเวลาเราเดินทางกันหลายๆคน มักจะเก็บเงินกองกลางแล้วมีคนหนึ่งเป็นเหรัญญิก แต่อาจจะมีปัญหาว่าเงินหาย ใบเสร็จหาย เพื่อนกินกันเราไม่ได้กินด้วย กินข้าวกันเรากินเหล้า เพื่อนไม่กิน แต่หารเท่า....บลา บลา
เราใช้แอพมาช่วย วิธีการคือไม่ต้องเก็บเงินกองกลาง ใครจ่ายเงินแทนก็ได้ จ่ายแล้วก็ใส่ข้อมูลลงไว้ในแอพ จะจ่ายเป็นเงินสดหรือจ่ายเป็นบัตรเครดิต ก็ตามแต่ ใครกินบ้าง
แอพก็จะเป็นตัวช่วยคำนวนให้ ว่าใครต้องจ่ายเงินใคร
ตัวอย่างของทริปเรา พอจบทริป แอพสรุปมาให้ขนาดนี้เลยล่ะ พอกลับบ้าน เราก็ค่อยเคลียร์กันว่า ใครจ่ายใครเท่าไหร่ จะจ่ายเป็นสกุลเงินไหน แอพคำนวนได้หมด