|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | |
|
|
|
|
|
|
|
รัก? ต้องฆ่า?
อันว่าความรักนั้นงดงาม หากรักนั้นสมหวัง แต่ยังมีความรักอีกมากที่บทสรุปสุดท้ายลงเอยด้วยเลือดและน้ำตา แปลกที่มนุษย์ใช้ข้ออ้างคำว่า "รัก" ในการ กำจัดชีวิต ของอีกผู้หนึ่ง ได้
นั่นเป็นความรู้สึกของผมเมื่อก่อน จนกระทั่งผมโดนเข้ากับตัวเอง จึงได้เข้าใจว่า การ แปรสภาพของความรู้สึกที่เราเรียกว่า "รัก" เป็น "แค้น" นั้น มันมีกระบวนการเช่นไร ทำไมเราถึง เคียดแค้น คนบางคนได้ถึง ขนาด ที่ไม่ต้องการให้ คนนั้นมีชีวิตอยู่บนโลกนี้อีกต่อไป ยิ่งกับ คนบางคนที่เรา เคย "รัก" ความจริงคำตอบที่วางอยู่ ปลายทางแห่ง ปัญญา และ ตัณหา ก็แค่ เรา "รัก" ตัวเองมากเกินไป(ไม่อยากใช้คำว่าเห็นแก่ตัว) ที่จะให้ใครบางคนมาทำร้าย จิตใจเราได้ นั้นเอง
ในสังคม กับ เรื่อง ฆ่าเพราะ "รัก"(ตัวเอง) มีให้เห็น อยู่มากมาย แต่การฆ่า ในแต่ละครั้ง นั้น ศาล มีแนว ในเรื่องนี้ที่น่าสนใจ จาก อดีต ในมุมมองของการ ฆ่าชู้ ฆ่าเพราะมาย่ำยีหัวใจ ที่น่าสนใจ พอให้อ่านแล้วมีความหวัง สำหรับ คนที่คิด จะ ฆ่า เพราะ "รัก" เก็บไว้อ่านเล่นๆ
Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2551 |
|
13 comments |
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2551 15:17:03 น. |
Counter : 3878 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: o-hung IP: 124.121.215.41 10 กุมภาพันธ์ 2551 15:30:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: o-hung IP: 124.121.215.41 10 กุมภาพันธ์ 2551 15:55:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: o-hung IP: 124.121.69.232 10 กุมภาพันธ์ 2551 20:53:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: o-hung IP: 124.121.69.232 10 กุมภาพันธ์ 2551 21:11:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: O-Hung 10 กุมภาพันธ์ 2551 21:39:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: O-Hung 10 กุมภาพันธ์ 2551 21:55:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: Jakaey 23 กันยายน 2551 19:24:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: (ศฏ. หมอเสริม)honghow IP: 113.53.73.136 15 ธันวาคม 2552 12:53:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: O-Hung 23 ธันวาคม 2552 23:52:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: 90210 3 มกราคม 2553 14:02:37 น. |
|
|
|
|
|
|
|
"คดีได้ความตามข้อเท็จจริงว่าคืนวันเกิดเหตุจำเลยไปอาบน้ำเพื่อทำงาน ครั้นกลับมาไม่พบภรรยาได้เที่ยวตามหา ไปพบภรรยาตนกำลังนอนร่วมประเวณีกับผู้ตายในมุ้ง จึงคว้ามีดที่วางอยู่ปลายตีนมุ้งแล้วโถมเข้าคร่อมผู้ตายทั้งสองจนมุ้งชายคลุมผู้ตายทั้งสองไว้ แล้วจำเลยก็แทงด้วยมีดไม่เลือก จนภรรยาและชายชู้ถึงแก่ความตายทั้งสองคน
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันว่า การที่จำเลยฆ่าชายชู้ถึงตายนั้นเป็นการป้องกันเกียรติยศและชื่อเสียงพอสมควรแก่เหตุ ไม่มีโทษตามกฎหมายอาญา ม.๕๐ แต่การที่จำเลยฆ่าภรรยาถึงตายนั้นหาได้รับความยกเว้นตามมาตราข้างต้นนั้นไม่ จำเลยต้องมีผิดตามม.๒๔๙ ให้จำคุก ๑๕ ปี ลดโทษฐานยั่วโทษะตามมาตรา ๕๕ อีกกึ่งหนึ่งแลลดฐานปราณีโดยรับสารภาพตาม ม.๕๙อีกกึ่งหนี่งคงจำคุก ๓ ปี ๙ เดือน
ศาลฎีกาตัดสินว่าการที่ภรรยานอกใจสามีโดยไปกระทำชู้ด้วยผู้อื่น ย่อมแสดงให้เห็นว่าภรรยาได้ร่วมมือกับชายชู้ทำลายเกียรติยศของสามี การที่ภรรยาทำชู้ย่อมถือกันว่าเป็นการเสื่อมเสียเกียรติยศของชายอย่างร้ายแรง และการทำชู้ของภรรยานั้นจะสำเร็จได้ก็ต้องมีฝ่ายชายชู้มาร่วมมือด้วย ฉะนั้นทั้งชายชู้และภรรยาต่างได้ชื่อว่าก่อการทำชู้ขึ้น เป็นการเสื่อมเสียเกียรติยศของชายผู้สามี เมื่อจำเลยฆ่าผู้ตามทั้งสองตายในขณะร่วมประเวณีกันอยู่ จึงไม่มีโทษตามมาตรา ๕๐ เพราะได้ชื่อว่าเป็นการป้องกันเกียรติยศพอสมควรแก่เหตุให้ปล่อยจำเลยไป"
แม้ฎีกานี้เป็น คำพิพากษาศาลฎีกาที่เก่ามากแล้ว แต่ใจความที่น่าสนใจ ในมุมมอง การนอกใจของคน ทีเคยรัก เรียกว่า ตบมือข้างเดียวไม่ดัง หากชู้ผิด หญิงที่นอกใจทำชู้ย่อมผิดด้วย เมื่อพบเห็นขณะสมสู่การฆ่าทั้งชู้ทั้งเมีย เป็นการป้องกันเกียรติยศพอสมควรแก่เหตุ (ปัจจุบันไม่พบฎีกาลักษณะ สามีพบเห็นขณะภรรยากับชู้กำลังมีสัมพันธ์สวาทอีก และใน ประมวลกฎหมายอาญา ปัจจุบัน มิได้กล่าวถึง การป้องกันเกียรติยศพอสมควรแก่เหตุได้รับการยกเว้นโทษ)