|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
Inside ชีวิต : เพลียใจ
ได้ FW mail มาฉบับหนึ่ง ตรงใจแถมเข้ากะอารมณ์เราช่วงนี้เลยแหละ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ระยะนี้มีหนุ่มสาวไฟแรง ที่เคยเรียนดี ทำงานเก่งมาปรึกษาหลายคน ด้วยอาการเพลียใจ ไม่ค่อยมีแรงไม่สดชื่น เหมือนที่เรียกว่าขาดไฟนั่นแหละ
พวกนี้เรียนจบปริญญา ทำงานในบริษัทใหญ่่ๆ มีชื่อเสียง ทุกคนทำงานแข่งขันกับเอง และเพื่อนร่วมงาน
แลดูเหมือนน่าจะมีความสุข แต่ทำไมยิ่งทำไปๆ รู้สึกเพลียมากขึ้น ผมสอบถามดูได้ความว่า เขารู้สึกว่าเขาทำงานหนัก มีประชุมบ่อย เวลาพักผ่อนน้อย
บางคนจะมีแฟนก็ไม่มีเวลาให้แฟนเลย เลิกกันไปก็มี พวกที่หาแฟนไม่ได้ ก็ไม่มีโอกาสหาแฟน
แต่ประโยคที่เขาพูดคล้ายๆ กันก็คือ เขาไม่รู้ว่าทำไมเขาต้องมาทำงานหนักเช่นนี้
เงินเดือนแม้จะได้มากขึ้น แต่ก็ต้องเสียภาษีมากขึ้น ยิ่งทำมากแต่แลดูเหมือนได้เงินน้อยลง อนาคตก็ไม่เห็นจะร่ำรวย เขาอยากทำงานเป็นเจ้าของกิจการเล็กๆ เช่น เกี่ยวกับการให้เช่าหรือขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งน่าจะรวยกว่า และมีเงินเก็บได้มากกว่า แต่ก็ยังไม่พร้อมและขาดประสบการณ์
คนเหล่านี้เป็นพวกสมองไว คิดมาก และคิดซับซ้อน ความเพลียเกิดจากความสับสนในตัวเอง เกิดความขัดแย้งในตัวเองว่าจะทำอะไรดี จะทำงานเก่าต่อไป หรือจะลาออกหางานใหม่ สมองฉลาดพอที่จะมีคำตอบว่าสิ่งใดดีกว่า แต่ตัวเองไม่พร้อมจะทำสิ่งนั้น ไม่กล้าลอง และไม่กล้าทิ้งงานเก่า
เขาจึงเกิดความขัดแย้ง(Conflict)ในใจตลอดมา ความขัดแย้งที่มีอยู่ประจำ ทำให้ตัดสินใจยาก เกิดเป็นความเครียดสะสมมากขึ้น
เมื่อเกิดความเครียด เขาจะขาดสิ่งสำคั 3 อย่าง คือ 1) ขาดพลังงาน ทำให้รู้สึกเพลีย เหนื่อยง่าย และหน่ายชีวิต 2) ขาดความคิดสร้างสรรค์ คิดอะไรไม่ค่อยออก ไม่อยากคิด 3) ขาดความรักตัวเองและเพื่อนมนุษย์ ทำให้ขาดความกระชุ่มกระชวย ขาดความกระตือรือร้น
นี่คือสาเหตุของความเพลียในทุกๆ เช้าที่ลืมตาขึ้นมา และเพลียมากขึ้นในช่วงเริ่มทำงานตอนกลางวัน
พอเลิกงานก็เพลีย กลับบ้าน กินข้าว ดูทีวี แล้วก็นอนทำจนเป็นกิจวัตรประจำวันที่จำเจ บางคราวมีงานทำน้อย ก็รู้สึกเพลียและคิดว่าตัวเองไร้ค่า
ผมสอนให้เขายอมรับตัวเองว่า ขณะนี้เขาเป็นอะไร แค่ไหน การเรียนรู้ทำให้ได้ประสบการณ์ อุปสรรคทำให้เกิดความเข้มแข็งในอนาคต ทุกอย่างที่ทำอยู่ในปัจจุบันจะมีทั้งสิ่งดีและไม่ดี
แต่ต้องรู้จักเลือกมองสิ่งดีให้มากขึ้น ไม่ใช่นั่งจ้องมองสิ่งไม่ดี-ไม่ชอบ ซ้ำๆ ซึ่งจะทำ ให้เกิดความหน่าย และเบื่อหน่ายทุกอย่าง
สอนให้มองโลกในแง่ดีว่าต้องมีทางออกที่ดีๆ สอนให้มีอารมณ์ขัน อย่าไปจริงจังกับชีวิตมากนักจะยิ่งเครียดมากขึ้น และให้ปรับตัวเข้าหาสภาพความเป็นจริง
ให้ออกกำลังกาย มองโลกในแง่ดี รู้จักสร้างความหวัง และลดความคาดหวังที่มากๆ ลงเสีย
คนพวกนี้ผ่านชีวิตวัยเด็กที่ได้ทุกอย่างง่ายๆ และได้อย่างรวดเร็ว เช่น เรียนจบได้เร็ว พอเป็นวัยรุ่นก็สนุกกับชีวิต พอมาพบปัหาของชีวิตจริงเข้า ก็ไม่อยากยอมรับ เริ่มมองเห็นทุกข์
การจะปรับตัวให้รับความจริง รู้จักตั้งความหวังและยอมรับให้ได้ว่า แม้จะทำเต็มที่แล้วก็อาจไม่ได้ดังใจนึก เป็นสิ่งที่เขาต้องเข้าใจ และทำใจยอมรับให้ได้
เขียนถึงตรงนี้แล้ว นึกถึงบทกวีของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพที่เคยประพันธ์เอาไว้ว่า
ยามเยาว์เห็นโลกล้วน แสนสนุก เป็นหนุ่มสาวก็แสนสุข ค่ำเช้า กลางคืนเริ่มเห็นทุกข์ สุขคู่ กันนอ ตกแก่จึงรู้เค้า ว่าล้วน อนิจจัง
มนุษย์เราก็เป็นเช่นนี้เอง ถ้ารู้ความจริงและยอมรับธรรมชาติของมนุษย์ได้ดังบทกวีข้างบนนี้ จะไม่ทุกข์มากนักหรอกครับ ไม่ต้องรอให้ตกตอนแก่แล้วจึงค่อยรู้เค้าว่า
ทุกสิ่งล้วนไม่แน่นอนหรอก ใครรู้และยอมรับได้เร็ว ก็ทุกข์น้อยลง หายเพลียใจได้ทันที
+++++++++++++++++++++++++
เฮ่อ...... เอาน่าสักวันเราคงคิดได้บ้างแหละเนอะ
Create Date : 22 สิงหาคม 2550 |
|
24 comments |
Last Update : 22 สิงหาคม 2550 12:59:36 น. |
Counter : 606 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Globalrich IP: 58.10.192.57 22 สิงหาคม 2550 17:16:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: หนูชล 23 สิงหาคม 2550 13:12:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: Nisasa 24 สิงหาคม 2550 9:33:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: แอบมอง IP: 202.28.169.165 24 สิงหาคม 2550 18:02:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: NuPamPam (N'Pam ) 28 สิงหาคม 2550 10:10:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: noo_jar 17 กันยายน 2550 22:04:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: ^Antz^ 18 กันยายน 2550 11:33:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: noo_jar 4 ตุลาคม 2550 21:33:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: อยากจะสวยช่วยไม่ได้ IP: 222.123.104.237 7 ตุลาคม 2550 0:28:10 น. |
|
|
|
|
|
|
|