น้องร๊อกคลับ: คลังไดอารี่แสนเก๋ของน้องร๊อก ผู้มีหัวใจสีชมพูตลอดเวลา
<<
กุมภาพันธ์ 2551
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
242526272829 
 
29 กุมภาพันธ์ 2551
 
 
22. เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย

6.30 นัดเจอพี่ฮอฟกับตู่ที่สนามบิน วันนี้ต้องไปทำงานที่อุบลฯ มองเห็นตู่หน้ามู่ เพราะว่าตู่มาล่วงหน้า 30 นาทีเนื่องจากวันนี้เป็นครั้งปรกที่ตู่จะได้นั่งเครื่องบินกับเขา อากาศโดยรอบเริ่มเย็นลงๆ จากฝนตกช่วงเช้าที่เทกระหน่ำลงมา ราวกับฟ้ากำลังร้องไห้ให้กับคนทั้งโลก ที่สมัยนี้ช่างใจร้าย ใจจืดใจดำ เห็นแก่ตัวกันเสียเหลือเกิน



แม้ว่าจะเป็นสายการบินโลว์คอสท์ แต่ก็ไม่ทำให้ความตื่นเต้นของการนั่งเครื่องบินเป็นครั้งแรกของตู่ลดลงแต่อย่างใด

“เมิ่อคืน ผมนอนไม่หลับเลยอ่ะ พอรู้ว่าวันนี้จะได้นั่งเครื่องบินเป็นครั้งแรก” ตู่มาก่อนเวลานัดเกือบชั่วโมง หลังจากโทรหาเราตอนถึงสนามบินตอนตี 5 กว่าๆ ขณะที่เราเพิ่งจะออกจากบ้าน ตู่ดูกระวนกระวายผิดวิสัย ความกระตือรือร้น ที่จะได้นั่งเครื่องบินเป็นครั้งแรก คงทำให้ตู่รีบมาก่อนใครเขา ที่จริงตู่น่าจะคิดว่า การทำงานที่บริษัททุกวันนี้ ก็คือการทำงานวันแรก ตู่จะได้ไม่มาทำงานสายเหมือนที่เป็นอย่างทุกวัน



6.35 “เครื่องบินเลทแน่เลยพี่ ผมมาก่อนเวลาตั้ง 1 ชั่วโมง ยังไม่มีใครเรียกไปเช็คอินเลย” ตู่ถามด้วยความสงสัย

“ ก็ไม่เลทนี่ตู่ เครื่องบิน ออกตั้ง 8 โมง”

“อ้าว ก็พี่ฮอฟบอกผมว่าจะบินตอน 7 โมงนี่ โหย รู้งี้ ไม่น่ารีบตื่นตั้งกะ ตี4 เลย” โธ่ ที่จริงการที่ตู่มาก่อนเวลานัดถึง 1 ชั่วโมงเป็นเพราะหลงอุบายตื้นๆของพี่ฮฮฟ ที่รู้จักนิสัยเจ้าชายสายเสมออย่างตู่ ถึงขั้นต้องกุเวลาขึ้นเครื่องแบบผิดๆ ทำให้เจ้าชายสายเสมอกลายเป็นเจ้าชายย่ำรุ่งแบบวันนี้



7.00 ตู่ตื่นตามากๆ กับร้านดิวตี้ฟรีเล็กๆ นอกเกท แล้วมาบ่นว่า ทำไมของหนีภาษีราคาแพง ที่จริงร้านดิวตี้ฟรีอยู่ข้างในเกท อาคารอินเตอร์ฯขาออก ร้านในอาคารสายการบินภายในประเทศ จะไปมีของหนีภาษีได้อย่างไร ของที่ขายในร้านดิวตี้ฟรีน่าจะขายให้เฉพาะนักเดินทางต่างชาติ หรือคนที่กำลังจะเดินทางไปต่างประเทศภายในวันเดินทางเท่านั้น

“ที่จริงร้านมันเล็กเนอะพี่ ไม่เห็นมีไรขายเลยอ่ะ”

“ร้านดิวตี้ฟรีที่อาคารอินเตอร์ ใหญ่กว่านี้เป็น 100 เท่า” เราชักเริ่มรำคาญความอยากรู้อยากเห็นกินพอดีขอตู่ ขณะที่ตอนนี้ยังไร้เงาพี่ฮอฟ ตู่เดินวนเวียนในร้านดิวตี้ฟรี มองนาฬิกาดีเซลในตู้ที่จัดเรียงไว้อย่างดี

“ขนาดไม่มีภาษียังแพงเลย” ตู่บ่นราคานาฬิกาในตู้ นาฬิกาแฟชั่นราคา 3-4 พันบาท ก็เป็นราคาที่สมน้ำสมเนื้ออยู่แล้วนี่ ตู่คิดว่านาฬิกายี่ห้อดีๆสักเรือนราคาอยู่ที่เท่าไรกัน 500 บาทหรือไงล่ะ??

ลืมไป ก่อนหน้านี้ที่เห็นตู่ใส่นาฬิกา ก็เป็นนาฬิกาจากเดอะพิซซ่า ที่เค้าแจกฟรีตอนสั่งพิซซ่าถาดใหญ่มากินที่ออฟฟิซ ตู่เลิกใส่เพราะว่าโดนพี่ที่ออฟฟิซล้อว่า ทำตัวเหมือนเด็กไม่รู้จักโต

7.25 พี่ฮอฟ วิ่งกระหืดกระหอบตามหลังมา หลังจากที่เรากับตู่เช็คอินล่วงหน้าเพราะว่ารอไม่ไหว ไม่น่าเชื่อว่า ชายอายุสามสิบกลางๆ ที่รั้งตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการ จะเป็นคนไม่รักษาเวลาแบบนี้ แต่พอเห็นกริยากระหืดกระหอบของพี่ฮอฟ ที่ยืนหอบจนตัวโยน ตอนยื่นบัตรประชาชนแล้วรับบอร์ดดิ้ง ความไม่พอใจทั้งหลายหมดสิ้นลง กลายเป็นเรื่องตลกขบขันที่น่าเอ็นดูไปอีกแบบ



7.40 หลังจากที่ตู่ซึ่งสำรวจราคาสินค้าบริโภคภายในเกทก่อนขึ้นเครื่องแล้ว ก็ได้แต่บ่นอุบว่าของแพงในสนามบินราคาแพงจนน่าใจหาย พี่ฮอฟ ไปยืนต่อคิวซื้อเบอร์เกอร์ ตู่เห็นว่า ถ้ามัวแต่บ่นก็คงอดข้าวมือเช้าแน่ๆ เลยวิ่งไปหาพี่ฮอฟ เราเลยแยกออกไปซื้อครัวซองที่ร้านที่อยู่ใกล้ๆกัน



7.45 เรานั่งลงพร้อมพี่ฮอฟ แล้วนั่งกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย ขณะนั้นเราเห็นตู่ ที่เพิ่งซื้อเบอร์เกอรืเสร็จเช่นกัน เดินลอยละลิ่วผ่านหน้าเรา โดยที่ตู่ไม่ได้สนใจจะมองสิ่งรอบข้างว่าใครจะนั่งอะไร ที่ไหนยังไง เราเลยให้พี่ฮอฟเงียบๆ ไม่ต้องเรียกตู่ พลางหัวเราะคิกคักกันสองคนที่เห็นพฤติกรรมของตู่เหมือนเด็กน้อยที่โดนผู้ปกครองทิ้งไว้โดดเดี่ยวกลางสนามบิน ตู่เดินไปจนถึงเกททางเข้าเครื่องบินชะเง้อมองผู้คนรอบข้าง แล้วทำหน้าเจื่อนๆแบบไร้ความหวัง



ถ้าตู่ซื้อเบอร์เกอรืเสร็จ แล้วมองรอบๆร้าน ตู่จะเห็นเราสองคน นั่งอยู่พอดี แต่ตู่กลับมุ่งหน้าไปทางเกจทางเข้าเครื่องฯแล้วค่อยมองหาเราสองคน ทำไมคนเรามักมองหาสิ่งที่อยู่ไกลตัวก่อน ทั้งๆที่จริงแล้ว สิ่งที่ตามหาอาจจะอยู่ใกล้ๆตัวเราก็เป็นได้



7.50 เรากับพี่ฮอฟเดินไปสมทบกับตู่ ซึ่งทำหน้าเจื่อนเนื่องจากหาใครไม่เจอ นายหน้ามู่ยืนดูดน้ำปุ๋ยๆ ถือห่อเบอร์เกอร์ หน้าขวมด พอเห็นพวกเราสองคนเดินมา ก็ทำหน้าดีใจเหมือนมีใครมาช่วยให้รอดตาย แล้วก็บ่นว่าพวกเราไปไหนกันมา

“พี่กินเบอร์เกอรฺหมดแล้วเหรอ ทำไมไม่รอเลยอ่ะ ผมอุตส่าห์ยังไม่กิน นี่ซื้อชุดใหญ่มาตั้ง 140 แน่ะ!”

“ไหนบอกว่าแพงไงตู่ ทำไมซื้อชุดใหญ่มาเลยล่ะ” เราอดสงสัยไม่ได้เลยถาม เพราะตอนแรกตู่บ่นว่า อาหารในสนามบินแพง

“ก็พนักงานเค้าถามว่าเพิ่มอีก15 บาท ได้เฟรนฟรายใหญ่กับหอมทอดเพิ่มไหม ผมก็เลยตกลง” ไม่รู้ด้วยความงกหรือความตะกละ งบอาหารมื้อเช้าที่ไม่ควรจะเกินร้อย เลยเป็นร้อยสี่สิบไปโดยปริยาย



8.00 กำลังต่อแถวยืนรอเรียกขึ้นรถชัลเทิลบัสเพื่อขึนเครื่อง ขณะที่กำลังตรวจ ห็นโย่งอาร์มแชร์ยีนเข้าคิวกับเขาด้วย แต่ไม่ใส่หรอกเพราะว่าเราไม่ใช่พวกบ้าดารา พอถึงคิว พี่ฮอฟกับตู่ซึ่งยืนอยู่ข้างหน้าเราก็โดนกักบริเวณ เพราะว่ากำลังถืออาหารอยู่มือ พี่ฮอฟโดนริบน้ำ ส่วนตู่โดนริบทั้งน้ำและเบอร์เกอร์ที่เจ้าตัวหวังจะเอาไปกินในเครื่อง เนื่องจากสายการบินบัดเจ็ทแอร์ไลน์พวกนี้ ไม่อนุญาตให้นำอาหารขึ้นไปบนเครื่องเหมือนสายการบินทั่วไป เพราะว่าเค้าต้องการขายอาหารบนเครื่อง ตู่ตีหน้าเศร้า เบอร์เกอร์ที่ยังไม่ได้กิน ต้องถูกทิ้งลงในถังขยะต่อหน้า พี่ฮอฟกับเราได้แต่หัวเราะตู่

8.05 “พี่ฮอฟ พี่ก็โดนริบเหมือนกันนะ ทำเป็นหัวเราะ” ตู่อดไม่ได้ที่จะกัดเพราะพี่ฮอฟเอาแต่หัวเราะตลอดทางไปขึ้นเครื่อง

“พี่โดนแต่น้ำ แต่เอ็งโดนหมดเลยนะ แถมพี่ก็กินไปตั้งครึ่งแก้วแล้ว”

“รู้งี้ ไม่น่าเพิ่มหอมทอดกะเฟรนฟรายเลยอ่ะ นี่ถ้าแม่ผมรู้ว่าผมซื้ออาหารเช้า 140 แถมยังไม่ได้กินด้วยนะ ผมโดนด่าแน่ๆ” ตู่บ่นเสียดาย หน้าตากระเง้ากระงอดชวนขัน ชวนให้เผลอใจอ่อนเอ็นดูในความหน้ามู่ของมัน แต่เราต้องใจแข็งเพราะว่าเราต้องเป็นคนไม่หวั่นไหวในความรักเหมือนแบบที่เคยเป็นมา



8.15 ขณะที่เครื่องจะเทกออฟ แอร์โอสเตสเดินตรสจตราความเรียบร้อย สายตาเจ้าหล่อนสะดุดกับหูฟังเอ็มพีสามที่ตู่ยืเราไปฟัง เธอรีบพุ่งไปหายอดชายนายหน้ามู่ทันที!!

“ห้ามใช้งานอุปกรณ์อิเลกทรอนิคส์บนเครื่องบินเด็ดขาดนะคะ” สายตาคมกริบของเจ้าหล่อนจ้องมองพฤติกรรมที่คนเพิ่งเคยขึ้นเครื่องบินอย่างตู่อย่างตำหนิและเหยียดหยาม

“ไรวะ” ตู่บ่นอุบอิบพลางเก็บหูฟังเอ็มพีสาม เหมือนกับว่าวันนี้ทั้งๆที่ตัวเองมาเช้ากว่าเพื่อน แต่กลับเจอเรื่องซวยๆ ตั้งแต่เช้า



8.30 เราพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ภาพโสเภณีอย่างเรากำลังหยอกล้อกับสองดูโอพ่อลูกอย่างตู่และพี่ฮอฟ ชวนให้แอร์คนเมื่อกี้ อดใช้สายตาริษยาไม่ได้ จนในที่สุดพี่ฮอฟเริ่มง่วงและนอนลงซบไหล่ของเราแล้วหลับในที่สุด กลิ่นน้ำหอมซีเคบีอ่อนๆ ลอยเตะจมูก มันทำให้หัวใจของราเต้นไม่เป็นจังหวะ



9.05 เครื่องบินถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ เราเดินลงจากเครื่อง แล้วเดินเข้าเทอร์มินอล อากาศที่อุบลเย็นกำลังดี ลมหนาวพัดผ่านสัมผัสหน้าเรา จู่ๆเราก็รู้สึกเหงาอย่างบอกไม่ถูก อากาศดีๆในวันนี้ อาจจะทำให้ใครหลายคนรู้สึกเหงาเหมือนเราอยู่ตอนนี้ก็เป็นได้….




Create Date : 29 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 29 กุมภาพันธ์ 2551 18:15:05 น. 0 comments
Counter : 412 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 

น้องร๊อก
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add น้องร๊อก's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com