110316 คำพยานชีวิต My testimony.

หลังจากที่ได้รับโบนัสกันถ้วนหน้า เป็นเวลาที่เราปิติยินดีกัน และกำลังคิดว่าจะเอาเงินไปใช้ในส่วนไหนบ้าง?พอดีเจ้านายเรียกไปคุยบอกว่าถ้าย้ายไปบริหารงานฝ่ายบุคคลจะยินยอมมั้ย? ดิฉันก็บอกว่าไม่ยินยอมเพราะฝ่ายบุคคลก็ต้องมีคนทำงานตามปกติอยู่แล้ว ก็ไม่นึกว่าการปฏิเสธงานในวันนั้นทำให้ผู้บริหารคนใหม่ถึงกับมีคำสั่งเลิกจ้าง โดยให้เหตุผลว่าไม่ยินยอมรับในตำแหน่งที่ย้ายงานไป(ความจริงอาจจะไม่พอใจที่ดิฉันเรียกร้องเงินโบนัสให้พนักงาน รักษาสวัสดิการให้พนักงาน และเวลาเดินทั่วโรงงาน พนักงานยกมือไหว้ดิฉันกันทุกคน ซึ่งผู้บริหารคนใหม่ ไม่มีใครไหว้)เหมือนถูกหลอกถาม เพราะตามหลักแล้วต้องมีคำสั่งมาเป็นลายลักษณ์อักษร แล้วถึงจะมานั่งคุยกันว่ายินยอมหรือไม่? ถึงจะถูกต้อง

จึงเป็นเหตุผลและข้ออ้างในการเลิกจ้างว่าเสนองานฝ่ายบุคคลให้ดิฉันแต่ถูปฏิเสธ ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย เนื่องจากเงินเดือนของดิฉันสูงที่สุดในสำนักงาน โดยไม่มีความผิดใดๆ และได้รับเงินชดเชยมาตาม กฎหมายเป็นเวลา 6 เดือนตอนแรกมีความรู้สึกโกรธและเกลียด ผู้บริหารคนใหม่นี้ ไม่คิดที่จะอธิษฐานเผื่อเพราะดิฉันคิดว่าเราได้เป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทฯ ทุกอย่างผู้บริหารงานคนจีนต้องพึ่งพาเรา ซึ่งเป็นคนไทย เหมือนกับเค้าไม่รู้บุญคุณของเราและมีความคิดชั่วร้ายขึ้นมาในสมองว่าจะแจ้งสรรพากรเพื่อย้อนรอยนายจ้าง ให้ได้เสียเงินค่าปรับย้อนหลังเป็นจำนวนเงินมหาศาลอาจจะต้องปิดโรงงานไปเลยก็ได้

ก่อนครบกำหนดที่ต้องออกจากงาน ในวันที่ 21 มกราคม 2554 ดิฉันก็ไปสมัครงานไว้ 3 ที่ ที่แรกเป็นบริษัทฯส่งออกของชาวบังคลาเทศ เค้ารับเข้าทำงานโดยมีเงื่อนไขที่ยังไม่เป็นที่พอใจเลยปฏิเสธไป ที่ที่สองไม่มีการเรียกสัมภาษณ์คงจะเห็นด้วยว่าอายุมากแล้ว แต่ด้วยความเชื่อในพระเจ้าว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามน้ำพระทัย ของพระองค์ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำงานที่เดิมก็เชื่อว่าพระองค์ทรงเตรียมทุกอย่างไว้ให้แล้วดิฉันจึงอธิษฐานและรอคอย วันที่ 28 มกราคม 2554 ช่วงเช้า บริษัทบี.บี.ซี(เชียงใหม่)จำกัด BLACK CANYON COFFEE ได้โทรติดต่อมาเพื่อเรียกสัมภาษณ์ในวันที่29มกราคม2554ดิฉันรู้สึกขอบคุณพระเจ้าด้วยความเชื่ออย่างสุดจิตสุดใจ

แต่ดิฉันรู้สึกปวดท้องกระทันหันได้โทรเรียกสามีให้ไปส่งที่โรงพยาบาลในครั้งแรกคุณหมอวินิจฉัยว่า"อาหารเป็นพิษ"รับยาและกลับมาทีบ้าน แต่อาการปวดท้องก็ยังไม่หายยาก็ทานไปแล้วดิฉันไม่รู้จะทำอย่างไรในเวลานั้นดิฉันอธิษฐานขอให้ความเจ็บปวดนั้นหายไป แต่ก็ยังปวดท้องรุนแรงกว่าเดิมดิฉันเริ่มอธิษฐานอีกครั้งขอบคุณพระเจ้าที่ทรงประทานสติปัญญาในเวลานั้นให้ดิฉันคิดได้ว่ามันไม่ใช่ "อาหารเป็นพิษ" อย่างแน่นอน จึงได้ให้สามีพาไปส่งโรงพยาบาลเป็นครั้งที่สองในวันเดียวกันซึ่งเป็นเวลาค่ำแล้วต้องเข้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลราชเวช คุณหมอพยายามวิเคราะห์สาเหตุและส่งต่อหมอศัลยกรรมโดยวิเคราะห์ออกมาว่าเป็นใส้ติ่งต้องผ่าตัดด่วนในเวลานั้น สามีดิฉันบอกให้ลูกสาวอธิษฐาน ขอพรจากพระเจ้าให้ดิฉันได้ผ่าตัดด้วยความปลอดภัยด้วยดี ก่อนเข้าห้องผ่าตัดดิฉันนึกถึงพระคุณของพระเจ้านึกถึงคุณพ่อคุณแม่

ในระหว่างผ่าตัดใส้ติ่งปรากฏว่าใส้ติ่งยังดีอยู่ คุณหมอเลยรีบผ่าใส้ติ่งออก และเย็บแผลก่อน 1 แผล เนื่องจากแผลเล็กไม่สามารถมองเห็นลำใส้ที่อยู่อีกด้านหนึ่งได้พอคุณหมอผ่าอีก 1 แผลปรากฏว่าเป็นลำใส้ มุดโพรงมดลูก ซึ่งเป็นเคทหนึ่งในร้อยที่จะเป็นกัน ทำให้ลำใส้เล็กขาดเลือดและเริ่มเน่าคุณหมอเลยต้องตัดลำใส้เล็กทิ้งไป 1 ฟุต โดยใช้เวลาผ่าตัดและพักฟื้นเป็นเวลา 3 ชั่วโมงเต็ม ( ขอบคุณ คุณหมอ ณเรณ ที่การผ่าตัดผ่านพ้นไปด้วยดี )

พอฟื้นขึ้นมาวินาทีแรก ดิฉันรู้สึกขอบคุณพระเจ้าที่ทรงให้ดิฉันตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ดิฉันยังไม่ได้ไปพบพระองค์ ดิฉันยังมีชีวิตอยู่ นึกถึงคุณแม่นึกถึงคุณพ่อ สามีและลูก นึกถึงสมาชิกทุกคนที่โบสถ์สันติสุข และเพื่อนร่วมงานทุก ๆ คน ความกังวลใจในครั้งแรกคือ งานก็ไม่มีทำแล้วนะยังต้องมาพักรักษาตัวอีก ชีวิตข้างหน้าจะเป็นอย่างไรนะ?  ดิฉันเริ่มอธิษฐาน ขอพรจากพระเจ้าว่าอย่าทรงทอดทิ้งดิฉัน ขอพระองค์ทรงโปรดนำทางขอพระองค์ทรงโปรดปูแนวทางในการดำเนินชีวิตให้ดิฉัน และที่สำคัญดิฉันได้อภัยให้กับผู้บริหารที่ทำการเลิกจ้างดิฉัน ไม่คิดที่จะแจ้งสรรพากรไม่คิดที่จะทำอะไรทั้งสิ้น ขอพระองค์ทรงโปรดยกโทษให้ดิฉันด้วย เหมือนที่ดิฉันคิดได้และอภัยให้ผู้อื่น ดิฉันเชื่อว่าพระองค์ได้ทรงจัดเตรียมสิ่งต่างๆไว้ให้ดิฉันอย่างแน่นอน

ดิฉันอธิษฐานขอบคุณพระเจ้าตลอดเวลา และรู้สึกขอบคุณสมาชิกที่โบสถ์สันติสุข ที่ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล และทุกท่านที่อธิษฐานเผื่อดิฉัน ส่งแรงใจไปให้ ช่วงนั้นดิฉันรู้สึกสับสนว้าวุ่นใจ ว้าเหว่ แต่พอได้เห็นความรักที่พระองค์ทรงมอบให้ พระองค์ทรงรักษา ความรักจากพี่น้องร่วมความเชื่อเดียวกันและกำลังใจจากครอบครัวคือคุณพ่อที่อยู่พม่าไม่ได้พบกันมาหลายปีดิฉันไม่ได้โทรบอกท่านเพราะกลัวว่าท่านจะเป็นห่วง แต่ท่านก็มีความกระวนกระวายใจอยากจะมาเยี่ยมดิฉันและท่านก็มาเจอสภาพที่ถูกผ่าตัดใหม่มาให้กำลังใจคุณแม่ก็มาจากกรุงเทพฯในคืนที่ดิฉันเข้าห้องผ่าตัดทำให้ดิฉันมีกำลังใจที่จะต่อสู้กับปัญหาต่างๆที่ประเดประดังเข้ามาในชีวิต

ถึงวันนี้ ดิฉันได้หายจากอาการเจ็บป่วย และใช้ชีวิตเหมือนคนปกติแล้ว และอธิษฐานขอบพระคุณพระองค์ ที่บริษัท บี.บี.ซี(เชียงใหม่)จำกัด ยังรอดิฉันอยู่เค้าเรียกสัมภาษณ์มาอีกครั้งในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 และเริ่มงานในวันนั้น แต่ปัญหาก็คือเจ้าของบริษัทฯ ได้ให้ดิฉันไปทำงานในวันอาทิตย์ ดิฉันก็บอกเจ้าของบริษัทฯไปว่า ดิฉันไม่สะดวกที่จะทำงานในวันอาทิตย์ เพราะเป็นคริสตเตียน ให้เค้าพิจารณาคนอื่นแทนก็ได้ดิฉันต้องขอบคุณพระเจ้าอีกครั้ง ที่เจ้าของบริษัทฯ บอกว่าไม่เป็นไร ให้หยุดงานวันอาทิตย์ได้ และจะไม่พิจารณาคนอื่น จะให้ดิฉันทำงานดังเดิมถึงแม้ว่ารายได้จากที่ทำงานใหม่ จะน้อยกว่าที่ทำงานเก่า แต่ดิฉันก็พอใจและพอเพียงในการดำเนินชีวิต พระองค์จะทรงเติมเต็มให้ดิฉันอย่างแน่นอน นี่เป็นพระพรของพระองค์ พระองค์ทรงเป็นความรักและความจริง ขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงสร้างสิ่งทั้งปวง ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์จริง ๆ ดิฉันวางใจในพระองค์ พร้อมที่จะเป็นผู้รับใช้พระองค์ จะดำเนินชีวิตในทางของพระองค์ตลอดไป

Create Date : 07 ตุลาคม 2554		4 comments
Last Update : 16 พฤศจิกายน 2555 22:53:52 น.
Counter : 1395 Pageviews.
Share Tweet