1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 27 28 29 30 31
|
เมื่อเหมียวเป็น F.I .P.
เฮ้อ ไม่บ่นละนะ เห็นเหมียวไม่สบาย ไม่กินข้าว เลยพาไปหาหมอ เอ็กซเรย์แล้ว ก็เป็นโรคนี้ ไม่นึกนะ ว่าจะร้ายแรง
ขอบคุณ//topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/J3822018/J3822018.html โรคติดเชื้อผนังช่องท้องอักเสบ
หลายท่านที่เคยเลี้ยงแมวหรือเห็นแมวท้องใหญ่ พอจับแมวตัวนั้นมาตบท้องเบาๆ ถ้าพบว่าเป็นลักษณะของการมีน้ำในช่องท้อง ส่วนมากจะเกิดจากโรคติดเชื้อผนังช่องท้องอักเสบ โรคนี้เป็นโรคร้ายแรงและแมวที่เป็นโรคนี้จะจบลงด้วยการตายทุกตัว มีรายงานการพบโรคนี้ครั้งแรกเมื่อปีค.ศ. 1964 และมีการสรุปโดย Ward ในปี 1970 ว่าสาเหตุของโรคเกิดจากเชื้อไวรัส ช่องท้องอักเสบ
สาเหตุ เกิดจากเชื้อไวรัส Feline infectious peritonitis virus (FIPV) ซึ่งไวรัส ตัวนี้อยู่ในตระกูล Coronaviridae เชื้อนี้ค่อนข้างทนทานในสิ่งแวดล้อมทั่วๆไป ที่อุณหภูมิ 21 ํC ในสภาพแห้ง ไวรัสจะอยู่ได้นานอย่างน้อย 1 เดือน - 1 1/2 เดือน โดยไม่สูญเสียคุณสมบัติทำให้เกิดโรค ภาชนะ กรง สิ่งปูนอนต่างๆของแมวป่วย และสิ่งปนเปื้อนรอบๆตัวสามารถเป็นแหล่งแพร่เชื้อได้นานหลายเดือน เชื้อ FIPV ถูกทำลายได้ง่ายโดยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค และกลุ่มน้ำยาซักฟอกทั่วไป เชื้อ FIPV มีหลายสเตรน จนถึงปี 1985 พบถึง 8 สเตรน
ระบาดวิทยา โรคมักเกิดกับแมวอายุระหว่าง 6 เดือนถึง 5 ปี จะพบมากช่วงอายุ 6 เดือนถึง 2 ปี กลุ่มแมวอายุมากกว่า 5 ปีไม่ค่อยพบแต่จะพบอีกในแมวที่อายุมากกว่า 13 ปีขึ้นไป แต่ในช่วงหลังพบในแมวอายุ 2-4 เดือนได้บ่อย อัตราการเป็นโรคในเพศผู้และเพศเมียมีเท่าๆกัน
การติดต่อ เชื้อ FIPV จะถุกขับออกจากสิ่งคัดหลั่งของแมวป่วย โดยจะพบมากที่สุดในอุจจาระ และน้ำมูกน้ำลาย สามารถพบเชื้อได้ก่อนที่แมวจะแสดงอาการ การติดเชื้อจากการรับเชื้อทางปาก (อุจจาระ-ปาก, ปาก-ปาก) หรือเชื้อเข้าทางจมูก(ปาก-จมูก)
อาการของโรค การติดเชื้อ FIPV นั้นต้องใช้เวลาตั้งแต่สองสัปดาห์ขึ้นไป อาการของ FIP จัดได้เป็น 3 ประเภท
1. effusive (wet) FIPเป็นสักษณะที่ภายในช่องท้องหรือช่องอกมีของเหลวอยู่ ซึ่งภายในน้ำนั้นประกอบด้วย โปรตีน และหนอง
2. non-effusive (dry) FIP เป็นลักษณะที่ ภายในอวัยวะช่องท้องเกิดลักษณะเป็นเยื่อหุ้มก้อนหนองที่อยู่ภายในช่องท้อง (pyogranuloma) รวมทั้งในสมอง ไขสันหลัง และลูกตา
3. เกิดทั้งข้อ 1 และ 2 ร่วมกัน
อาการของ wet FIP จะมีความรุนแรงและจะทำให้แมวเสียชีวิตได้เร็วกว่าประเภทอื่นๆ ระยะแรกแมวจะมีอาการไม่สบายทั่วๆไป เช่น มีไข้ขึ้นๆลงๆ ไม่ตอบสนองต่อยาปฏิชีวนะ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ผอมลงเรื่อยๆ เยื่อบุเมือกมีสีซีดลง บางรายพบอาการดีซ่านเมื่อมีความผิดปกติของตับร่วมด้วย ท้องผูกหรือท้องเสีย เวลาต่อมาจะท้องขยายใหญ่ขึ้น เนื่องจากมีการสะสมของของเหลวในช่องท้อง ปริมาณของเหลวจะมีมากขึ้นในรายที่เป็นเรื้อรัง คลำช่องท้องแล้วแมวแสดงอาการเจ็บปวด ประมาณ 20-30% ของแมวป่วยมักจะมีการสะสมของของเหลงในช่องอก ซึ่งจะไปขัดขวางการทำงานของปอด จึงทำให้แมวหอบและเหนื่อยง่าย เวลาจับอุ้มยิ่งเหมือนหายใจลำบาก เสียงหัวใจและปอดฟังด้วยเครื่องตรวจฟังไม่ชัด บางรายอาจมีน้ำในถุงหุ้มหัวใจ ถุงหุ้มลูกอัณฑะบวมน้ำ ของเหลวจากช่องท้องหรือช่องอกจะมีสีเหลือง จนถึงมีสีเหลืองจัด ขุ่นเล็กน้อย ข้น เวลาเขย่าจะมีฟองอยู่นาน แสดงให้เห็นว่ามีส่วนประกอบของโปรตีนอยู่มาก
อาการของ dry FIP แมวป่วยจะผอมลงไปเรื่อยๆ มีไข้ ไม่ตอบสนองต่อการใช้ยาปฏิชีวนะรักษา อ่อนเพลีย อาการจะเป็นเช่นนี้อยู่นานหลายสัปดาห์ ก่อนที่จะแสดงอาการเฉพาะของความผิดปกติของอวัยวะต่างๆในช่องท้อง สมอง และตา ลักษณะของโรคที่แสดงอาการในช่องท้องเวลาคลำบริเวณท้องแมวจะรู้สึกเจ็บ คลำพบต่อมน้ำหลืองในเยื่อที่ยึดติดของลำไส้ จะขยายใหญ่เป็นลักษณะเป็นก้อนไม่สม่ำเสมอ ถ้าคลำบริเวณไตมักจะพบว่ามีลักษณะเป็นก้อนบนผิวไต และบางรายจะพบลักษณะก้อนหนองภายในปอดซึ่งจะเป็นผลให้แมวหายใจลำบาก
รอยโรคที่ตาพบบ่อยที่สุดคือการอักเสบของม่านตาจนถึงการเกิดก้อนหนองบริเวณม่านตา รวมทั้งอาจพบของเหลวในช่องตาจะขุ่นและมีหนองขังอยู่ในลูกตา กระจกตาเกิดอาการบวมน้ำ ความดันในลูกตาต่ำลง อาจพบจุดเลือดออกบริเวณจอตา
อาการของระบบสมองส่วนกลาง การทรงตัวไม่ปกติ ขาหลังเกิดอัมพาต ลูกตากลิ้งกลอกไปมา ชัก เกร็ง บางรายมีอาการสั่นหนาว หัวเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง นิสัยเปลี่ยน ตกใจง่าย และปัสสาวะกะปริบกะปรอย
การรักษา ปัจจุบันไม่มีการรักษาที่ทำให้แมวหายจากโรคนี้ได้ แต่การรักษาของสัตวแพทย์ทำเพื่อให้แมวมีอาการที่ดีขึ้นไม่ทรมานต่อโรคนี้
1. การเจาะเอาของเหลวออก การเจาะเอาของเหลวออกจากข่องท้องหรือช่องอกจะทำให้แมวส บายขึ้นและหายใจดีขึ้น และอาจทำให้มีความอยากอาหารมากขึ้น
2. การให้กลุ่มยาเพื่อกดภูมิคุ้มกัน การใช้ยากลุ่มนี้เพื่อป้องกันการตอบสนองของร่างกายที่จะทำลายไวรัส ซึ่งจะทำให้เกิดกระบวนการ immune complex ลดลง รวมกับการใช้กลุ่มยาปฏิชีวนะที่ควบคุมการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดความคุม ร่วมกับการให้ยาลดการแข็งตัวของเลือด ส่วนการอักเสบของตา ให้ใช้ยาหยอดตาเพื่อลดการอักเสบ
3. การให้กลุ่มยาต้านไวรัสและกลุ่มยาเพิ่มภูมิของร่างกาย เช่น Ribavirin human recombinant alpha interferon เป็นต้น
การป้องกัน เนื่องจากไวรัสมีหลายสเตรนและมักจะไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ทุกสเตรน แต่ก็มีบางบริษัทผลิต voc FIP ขึ้นมาและอ้างผลการทดลองว่าสามารถป้องกันได้หลายสเตรน เป็นวัคซีนหยดจมูก หยดครั้งแรกที่อายุ 4 เดือนขึ้นไป หยดอีกครั้งหลังจากครั้งแรกประมาณ 1 เดือน และจากนั้นให้วัคซีนกระตุ้นปีละครั้ง
อย่างไรก็ตามวัคซีนนี้ยังไม่เป็นที่ยอมรับในสถาบันการศึกษาของสหรัฐอเมริกา
สำหรับแมวตัวที่เป็นแล้วแนะนำให้แยกเลี้ยงและห้ามใช้กระบะทรายร่วมกันเด็ดขาด ส่วนแมวที่เลี้ยงอยู่รวมกันแต่ยังไม่แสดงอาการแนะนำให้กินยาเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย เช่น human recombinant alpha interferon
|
2 ก.พ.53 77.9
ปั่นอิลิปติคอล
และเวทเทรนนิ่ง
20 ส.ค.53 62.6
กีหลาด Work Out
1 ม.ค.54 62.0
5 ม.ค.55 63 Turbo
Jam ปั่นอิลิปติคอล ดัมเบล
11 ม.ค.56 65.7
Turbo Fire
1 ม.ค. 57 65.2
Turbo Fire
25 ก.พ.57 64.4
เริ่มเดินออกกำลังกาย
เวทแขน AB
31 ธ.ค.57 62.5 |
ขอให้น้องแมวของ Nilz สุขภาพแข็งแรงๆนานๆนะคะ