สำหรับวัดนี้นะคะต้องขอเล่าคร่าวๆก่อนว่าเป็นพระพุทธบาทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยค่ะ วัดนี้อยู่ที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ค่ะ
ตัวเราไปวัดนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้วค่ะ แต่ว่าก็ว่างเว้นไปนานเหลือเกิน ประมาณ4-5ปีได้มั้ง จำได้ว่าครั้งก่อนโน้น ถนนยังเป็นดินแดงอยู่เลย เนื่องจากวัดนี้อยู่บนเขาค่ะ แถมทางขึ้นยังเป็นโค้งหักศอกอีกต่างหาก จำได้ว่าตอนนั้นนั่งเกร็งแทบไม่หายใจเลยค่ะ เพราะถนนก็ลื่นด้วย แต่ตอนนี้เป็นถนนคอนกรรตแล้วนะคะ ถนนขึ้นเขาดีตลอดสายเลยค่ะ เลยถือโอกาสงีบซะเลย ไม่ต้องนั่งลุ้นจนตัวเกร็งแล้ว
บางคนก็ถามนะคะว่าไปลำบากแล้วจะไปทำไมหลายๆครั้ง ต้องขอบอกว่าต้องไปสำผัสด้วยตัวเองค่ะถึงจะรู้ว่าดีอย่างไร ที่วัดบรรยากาศสงบมากๆเลยค่ะแถมเย็นสบายทั้งปีอีกต่างหาก ถึงแม้ว่าแดดจะจ้าก็ตาม
เรื่องของเรื่องเกิดเพราะครั้งที่แล้วที่ไปพี่สาวเราอธิฐานไว้ว่าจะมาใหม่อีกครั้งค่ะ แต่เพราะว่าพี่สาวไม่ว่างซะที พอวางแผนจะไปก็ต้องเกิดเรื่องทุกที จนผ่านมาหลายปีก็ยังไม่ได้ไป จนเร็วๆนี้พี่สาวเราฝันแปลกๆติดต่อกันหลายๆคืนค่ะ ฝันเห็นจระเข้ แล้วแต่ละคืนก็ตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ก็เลยปรึกษากันแล้ววางแผนไปกัน จากนั้นพี่เราก็ไม่ได้ฝันเลย แปลกดีเหมือนกัน
อย่างที่บอกไว้ตอนแรกเลยนะคะว่าอากาศที่นั่นจะหนาวตลอดปี ขนาดตอนที่เราไปนะคะเป็นหน้าร้อนอากาศยังเย็นสบายเลยค่ะ ครั้งนี้ถือว่าเราโชคดีมากๆเลยค่ะ เพราะได้ไปกราบครูบาที่เป็นเจ้าอาวาสด้วย เพราะนานครั้งท่านถึงจะลงจากถ้ำที่ไปภวนาจิตสักครั้ง คือปีนึงจะมีประมาณ2ครั้งที่ท่านมาจำวัดที่วัด เพราะที่วัดนี้เป็นสายธุดงค่ะ พระที่จำอยู่ที่วัดจึงมีน้อย มีแค่8-9รูปค่ะ แต่จะมีพระที่พลัดเปลี่ยนมาธุดงเยอะมากๆค่ะ
ในความคิดของเรานะที่วัดนี้ทำโบสถ์สวยมากอ่ะค่ะ บรรยายไม่ถูกแต่สวยมากจริงๆ อ้อ ส่วนของพระพุทธบาท กับโบสถ์ของแยกกันค่ะ ไม่ใช่ที่เดียวกัน
ตรงทางขึ้นไปไหว้พระพุทธบาทจะมีแผ่นหินเล่าเรื่องตำนานของพระพุทธบาทอยู่ด้วยค่ะ
สำหรับรอยพระพุทธบาทนะคะ ทั้ง4 รอยจะซ้อนทับกันอยู่ค่ะ รอยแรกยาว 12 ศอก รอยที่2 ยาว 9 คอก รอยที่3ยาว 7 ศอก และรอยสุดท้าย ยาว 4 ศอกค่ะ
พอมองไปที่ราวบันไดวัด ก็เห็นตัวมกร(อ่านว่า มะ-กะ-ระ)กลืนนาคอยู่ด้วยค่ะ ส่วนมากวัดทางภาคเหนือจะเป็นราวบันไดแบบนี้ แต่ถ้าเป็นภาคกลางก็จะเป็นพญานาคธรรมดาค่ะ เรื่องนี้เดี๋ยวจะเล่าคราวหน้านะคะ
Free TextEditor
.
.
.
.
.
.
.