Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
242526272829 
 
11 กุมภาพันธ์ 2551
 
All Blogs
 
ฟังกี่ครั้งก็ยังยิ้ม อ่านกี่รอบ...ยิ่งรักพ่อ

PhotobucketPhotobucketPhotobucket
 


เรื่องเล่า ที่ได้ฟังกี่รอบ อ่านกี่ครั้งก็มีความสุข สุขที่ได้เกิดในแผ่นดินไทย สุขที่ได้เกิดเป็นลูกของพ่อ...เรารักพระเจ้าอยู่หัว...


เรื่องเล่าจากในวัง- อ่านแล้วอ่านอีกก็ยังไม่เบื่อ
ผมมีเรื่องที่จะเล่าให้ฟังอยู่เหตุการณ์หนึ่งซึ่งเป็นเรื่องจริงเหตุการณ์เกิดที
จังหวัดตาก
เมื่อพระเทพทรงเสด็จไปเยี่ยมราษฏรตามที่ต่างๆ
และได้ทรงเสด็จไปเยี่ยมประชาชนในตลาดสด
และถามความเป็นอยู่กับบรรดาแม่ค้าในตลาด แต่ก็มาถึงแม่ค้าปลา
ซึ่งพระองค์ทรงตรัสถามว่า "ปลาพวกนี้ขายอย่างไงจ๊ะ"
แม่ค้าตอบว่า "ที่สวรรคตแล้ว กิโลละ 40 บาท
และที่เสด็จไปเสด็จมากิโลละ 80 บาทจ๊ะ"
เหตุการณ์นี้ ทำให้ข้าราชบริพารที่ตามเสด็จหัวเราะกันทุกคน





เช้าวันหนึ่ง เวลาประมาณ 7 โมงเช้า
นางสนองพระโอษฐ์ของฟ้าหญิงองค์เล็ก ได้รับโทรศัพท์เป็นเสียงผู้ชาย ขอพูดสายกับฟ้าหญิง
ทางนางสนองพระโอษฐ์ ก็สอบถามว่าใครจะพูดสายด้วย
ก็มีเสียงตอบกลับมาว่า คนที่แบงค์
นางสนองพระโอฐก็ งง...งง ว่าคนที่แบงค์ทำไมโทรมาแต่เช้า
แบงค์ก็ยังไม่เปิดนี่หว่า
แต่พอฟ้าหญิงรับโทรศัพท์แล้วถึงได้รู้ว่า คนที่แบงค์น่ะ
ก็ที่แบงค์จริงๆนะ ไม่เชื่อเปิดกระเป๋าตังค์
แล้วหยิบแบงค์มาดูสิ ............
ขนลุกเลย ทรงตรัสกับในหลวงท่านอยู่นั่นเอง





อีกครั้งหนึ่งที่ภาคอีสาน
เมื่อเสด็จขึ้นไปทรงเยี่ยมบนบ้านของราษฎรผู้หนึ่ง
ที่คณะผู้ตามเสด็จทั้งหลายออกแปลกใจในการกราบบังคมทูล
ที่คล่องแคล่วและใช้ราชาศัพท์ได้อย่างน่าฉงน
เมื่อในหลวงมีพระราชปฏิสันถารถึงการใช้ราชาศัพท์ได้ดีนี้
จึงมีคำกราบทูลว่า
"ข้าพระพุทธเจ้าเป็นโต้โผลิเกเก่าบัดนี้มีอายุมากจึงเลิกรามาทำนาทำสวนพระพุทธเจ้า.."
มาถึงตอนสำคัญที่ทรงพบนกในกรงที่เลี้ยงไว้ที่ชานเรือน
ก็ทรงตรัสถามว่า เป็นนกอะไรและมีกี่ตัว..
พ่อลิเกเก่ากราบบังคมทูลว่า
มีทั้งหมดสามตัว พระมเหสีมันบินหนีไป
ทิ้งพระโอรสไว้สองตัว ตัวหนึ่งที่ยังเล็ก ตรัสอ้อแอ้อยู่เลย
และทิ้งให้พระบิดาเลี้ยงดูแต่ผู้เดียว"
เรื่องนี้ ดร.สุ เมธเล่าว่าเป็นที่ต้องสะกดกลั้นหัวเราะกันทั้งคณะไม่ยกเว้นแม้ในหลวง






เมื่อครั้งท่านพระชนม์มายุ 72 พรรษา มีการผลิตเหรียญที่ระลึกออกมาหลายรุ่น
เจ้าของกิจการนาฬิกายี่ห้อหนึ่งได้ยื่นเรื่องขออนุญาตนำพระบรมฉายาลักษณ์ของท่านมาประดับที่หน้าปัดนาฬิกาเป็นรุ่นพิเศษ
ท่านทราบเรื่องแล้วตรัสกับเจ้าหน้าที่ว่า "ไปบอกเค้านะเราไม่ใช่มิกกี้เมาส์"





เรื่องการใช้ราชาศัพท์กับในหลวง ดูจะเป็นเรื่องใหญ่ที่ใครต่อใครเกร็งกันทั้งแผ่นดิน และไม่เว้นแม้กระทั่งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่
ที่ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายรายงาน
ครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนมีข้าราชการระดับสูงผู้หนึ่งกราบบังคมทูลรายงาน
ว่า " ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม
ข้าพระพุทธเจ้าพลตรีภูมิพลอดุลยเดช ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต กราบบังคมทูลรายงาน ฯลฯ"
เมื่อสิ้นคำกราบบังคมทูลชื่อในหลวงทรงแย้มพระสรวล อย่างมีพระอารมณ์ดีและไม่ถือสาว่า
"เออ ดี เราชื่อเดียวกัน..."
ข่าวว่าวันนั้นผู้เข้าเฝ้าต้องซ่อนหัวเราะขำขันกันทั้งศาลาดุสิดาลัย
เพราะผู้รายงานตื่นเต้นจนจำชื่อตนเองไม่ได้






มีอยู่ครั้งหนึ่งทรงเสด็จไปพระราชทานปริญญาบัตรให้กับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ในระหว่างที่ทรงเปลี่ยนในครุย
ทรงโปรดสูบมวนพระโอสถ แต่ว่าทรงหาที่จุดไม่ได้ ทางอธิการบดีซึ่งเฝ้าอยู่ก็จุดไฟให้พร้อมทูลว่า "ถวายพระเพลิงพระเจ้าข้า"
ในหลวงทรงชะงัก ก่อนจะแย้มสรวลน้อยๆ กับอธิการบดีว่า
"เรายังไม่ตายถวายพระเพลิงไม่ได้หรอก"






เคยมีเรื่องเล่าให้ฟังว่า ในหลวงเสด็จไปในถิ่นทุรกันดารเพื่อเยี่ยมเยียนราษฎร
อยู่ครั้งหนึ่งพระองค์ท่านทรงแจกพระเครื่องให้กับราษฎรจนหมดแล้ว
แต่ราษฎรผู้หนึ่งกราบบังคมทูลขอรับพระราชทานพระเครื่องว่า
"ขอเดชะ ขอพระหนึ่งองค์"
ในหลวงทรงตรัสว่า "ขอเดชะ พระหมดแล้ว "






วันหนึ่งพระองค์ท่านเสด็จเยี่ยมเยียนพสกนิกรของท่านตามปกติที่ต่างจังหวัด
ก็มีชาวบ้านมาต้อนรับในหลวงมากมาย
พระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินมาตามลาดพระบาท
ที่แถวหน้าก็มีหญิงชราแก่คนหนึ่งได้ก้มลงกราบแทบพระบาท
แล้วก็เอามือของแกมาจับพระหัตถ์ของในหลวง แล้วก็พูดว่า
"ยายดีใจเหลือเกินที่ได้เจอในหลวง"
แล้วก็พูดว่า ยายอย่างโน้น ยายอย่างนี้ อีกตั้งมากมาย
แต่ในหลวงก็ทรงเฉยๆ มิได้ตรัสรับสั่งตอบว่ากระไร
แต่พวกข้าราชบริพารก็มองหน้ากันใหญ่ กลัวว่าพระองค์จะทรงพอพระราชหฤหัย หรือไม่
แต่พอพวกเราได้ยินพระองค์รับสั่งตอบว่ากับหญิงชราคนนั้น
ทำให้เราถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหว เพราะพระองค์ทรงตรัสว่า
"เรียกว่ายายได้อย่างไร อายุอ่อนกว่าแม่ฉันตั้งเยอะ
ต้องเรียกน้าซิถึงจะถูก"






ครั้งหนึ่งหลายๆ ปีมาแล้ว
พระเจ้าอยู่หัวทรงประชวรนิดหน่อยเกี่ยวกับพระฉวีมีพระอาการคัน
มีหมอโรคผิวหนังคณะหนึ่งไปเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายการรักษา

คุณหมอเป็นผู้เชี่ยวชาญทางโรคผิวหนังแต่ไม่ได้เชี่ยวชาญทางราชาศัพท์
ก็กราบบังคมทูลว่า "เอ้อ - ทรง... อ้า-ทรงพระคันมานานแล้วหรือยังพะยะค่ะ
อ้า-ทรงพระคันมานานแล้วหรือยังพะยะค่ะ"
พระเจ้าอยู่หัวก็ทรงพระสรวล ตรัสว่า "ฉันไม่ใช่ผู้หญิงนี่จะท้องได้ยังไง"
แล้วคงจะทรงพระกรุณาว่า หมอคงจะไม่รู้ราชาศัพท์ทางด้านอวัยวะร่างกายจริงๆ
ก็พระราชทานพระบรมราชานุญาตว่า เอ้า พูดภาษาอังกฤษกันเถอะ
เป็นอันว่าก็กราบบังคมทูลซักพระอาการกันเป็นภาษาอังกฤษไป






เรื่องนี้รุ่นพี่ที่จุฬาฯเล่าให้ฟังว่า
มีอยู่ปีนึงที่ในหลวงทรงเสด็จพระราชทานปริญญาบัตร
อธิการบดีอ่านรายชื่อบัณฑิตแล้วบังเอิญว่า มีเหตุขัดข้องบางประการ
ทำให้อ่านขาดตอน ก็ต้องรีบหาว่าอ่านรายชื่อไปถึงไหนแล้ว
ปรากฏว่า ในหลวงท่านทรงจำได้ ท่านเลยตรัสกับอธิการไปว่า
"เมื่อกี้นี้ (ชื่อ....) เค้ารับไปแล้ว"
และมีอีกปีนึงขณะที่พระราชทานปริญญาบัตรอยู่ดีๆ ไฟดับไปชั่วขณะ...
ทำให้บัณฑิตคนหนึ่งพลาดโอกาสครั้งสำคัญในการถ่ายรูป
พอในหลวงทรงพระราชทานปริญญาบัตรเรียบร้อยแล้ว
ก่อนที่จะให้พระบรมราโชวาท
ท่านทรงให้อธิการบดีเรียกบัณฑิตคนนั้นมารับพระราชทานอีกครั้ง
เพื่อจะได้มีรูปไว้เป็นที่ระลึก ตื้นตันกันถ้วนทั่วทั้งหอประชุม
ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน>**
*







 
Photobucket Photobucket























ขอบคุณของแต่งบล๊อกของ คุณไหม คุณแคท และ โค๊ดป้ามด คุณรักษ์บ้านเกิด คุณพลอยสีรุ่ง พี่นุช คุณนวลกนก และอีกหลายๆ คนที่นกไปหยิบยืมมาแต่บล๊อก...ขอให้มีความสุขมากๆ นะค่ะ







PhotobucketPhotobucketPhotobucket
 

จะมีสักกี่เรื่องเล่า ที่เราอ่านแล้วมีความสุขเท่ากับอ่านเรื่องของพ่อ...



วันวาเลนไทน์...ปีนี้ต้องเดินทางไปต่างจังหวัด ขออัพบล๊อกก่อนแล้วกันค่ะ

คงมีเรื่องเล่าของความรักมากมายให้ได้อ่าน ในวันวาเลนไทน์ของทุกปี แต่สำหรับนก คงไม่มีรักไหน ที่ยิ่งใหญ่เท่ากับรักของพ่อ ที่ยังคิดถึง พ่อยังอยู่ในใจของลูกเสมอ...จำได้ว่า...ทุกๆ เทศกาลของวันสำคัญ จะซื้อของขวัญให้พ่อเสมอ จะเก็บเงินจากค่าขนมที่ได้ไปโรงเรียนบ้าง จากที่ออกไปรับจ้างเกี่ยวข้าว ดำนา บ้าง และของขวัญชิ้นแรกที่ซื้อให้พ่อ แล้วพ่อดีใจที่สุด คงเป็นนาฬิกา ครอบครัวเราเติบโตมาจาก "เด็กบ้านนอก" อดบ้างได้กินบ้าง แต่ก็สุขใจดี

ความผูกพันสำหรับนกกับพ่อแล้วมีมากมาย พ่อเป็น Hero สำหรับนก พ่อเป็นผู้ให้ พ่อยิ่งใหญ่ในความรู้สึกของลูก เทียบกันระหว่างพ่อกับแม่ ส่วนตัวจะสนิทกับพ่อมากกว่า แต่ก็รักแม่นะค่ะ สงสารแม่ ที่แม่ต้องทำงานหนักมาตลอด ทุกวันนี้จึงอยากให้แม่อยู่สบาย ขอให้ลูกได้ทำหน้าที่แทนพ่อ พ่อดูแลแม่มาอย่างดี แต่ก็ด้วยความจน จึงต้องช่วยกันทำมาหากิน หนักบ้าง เบาบ้าง พ่อกับแม่ทำหมด เพื่อที่จะให้ลูกมีกิน


ไม่มีรักไหนที่ยิ่งใหญ่ เท่ากับ รักของ "พ่อและแม่"


วันพ่อ ไม่ได้เล่าเรื่องพ่อ แต่วันนี้ขอเล่าเรื่องของพ่อ...พ่อที่จากลูกไปอยู่ไกลแสนไกล หมดภาระ หมดลมหายใจวันไหน วันนั้น เราคงได้เจอกันนะพ่อ...

เรื่องราวที่ประทับใจในตัวของพ่อ มีอยู่ครั้งหนึ่ง ตอนที่นกยังเรียนอยู่ประถม นกป่วย แต่ไม่รู้ว่าป่วยเป็นอะไร ตอนนั้น อยู่กัน 3 คน นก น้องชาย และก็พ่อ แม่ไปกรุงเทพฯ ตอนนั้น เรา 3 คน มีเงินไม่มากนัก แต่ไม่กล้าถามพ่อ นกเป็นไข้ เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว เป็นมาหลายวัน แต่ไม่กล้าบอกพ่อ เพราะรู้ว่าพ่อไม่มีเงิน ตอนนั้นปิดเทอมพอดี จนรู้สึกตัวว่าไม่ไหวแล้ว บอกพ่อว่า พ่อ หนูปวดหัว เหมือนเป็นไข้ พ่อก็บอกว่า ไปหาหมอมั้ย พอดีลูกของเพื่อนบ้านเค้าไม่สบายเหมือนกันกำลังจะไปหาหมอ พ่อเลยฝากนกไปกับเค้าด้วย และวันนั้น นกถึงรู้ว่า พ่อ มีเงินติดตัวแค่ 20 บาทเท่านั้น นกจำสายตาของพ่อกับน้องที่นั่งมองนก จนรถลับตา นกนั่งรถไปกับเพื่อนบ้าน น้ำตาไหลตลอดทาง ความเจ็บปวดที่มี หายไปชั่วขณะนะ ณ เวลานั้น เพราะว่าสงสารพ่อ กับน้อง จะเอาเงินจากไหนใช้ โทษตัวเองว่า ป่วยทำไม เงิน 20 ณ ตอนนั้นมีค่ามากนะ สำหรับเรา 3 คน บ้านของพวกเราไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีรถให้นั่ง บางครั้งไม่มีแม้แต่ข้าวที่จะหุงกิน...



...เพื่อนบ้านพานกไปหาหมอ หมอที่ว่า คือหมอตี๋ค่ะ หมอที่รักษาตามบ้าน นกเป็นคนที่กลัวเข็มมากๆ แล้วหมอต้องฉีดยา ในตอนนั้น ตัวเกร็งไปหมด หมอบอกว่า ถ้าเกร็ง เข็มอาจจะหักได้ แต่ก็ไม่รู้ตัวว่า ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น พอฉีดยาเสร็จแล้ว ก็กลับ ตอนนั้น นกเจ็บตัวไปหมด นั่งแล้ว เวลาลุก ลุกไม่ได้ ต้องให้น้าช่วยจับลุกขึ้น เหมือนคนใกล้ตาย รู้สึกว่าตาลาย อาเจียนออกมา ขม มากๆ ตอนนั้นนึกถึงพ่อกับน้อง ว่านกต้องไม่เป็นอะไร นกต้องหาย พ่อรออยู่

ตอนที่นั่งรถเพื่อที่จะกลับบ้าน คนที่นั่งบนรถโดยสาร บอกว่า ตัวนกเหลืองมากๆ พวกเค้าบอกกับน้าว่า ให้พานกไปโรงพยาบาลเถอะ ไม่งั้นไม่ไหวแน่ๆ น้าก็พานก
กลับไปบ้านพ่อกลับแม่เค้า ซึ่งอยู่ห่างบ้านนกประมาณ 10 กิโลได้ เค้าบอกให้นกรออยู่ที่นี่ เดี๋ยวจะไปบอกพ่อให้ นกบอกกับน้าว่า ไม่เป็นไรเอานกกลับไปหาพ่อด้วย นกหายแล้ว ไม่เป็นไร แต่รู้ว่าตัวเองไม่ไหวแล้ว น้าเค้าก็ไป ตอนนั้น ประมาณ 5 โมงเย็น

... ช่วงที่รอพ่อ คุณยายกับคุณตา ดูแลนกอย่างดี ต้มข้าวต้มใส่เกลือให้กิน นกก็กินไม่ได้ เค้าก็ป้อน เอายาลมอะไรสักอย่างให้นกกิน นกก็อาเจียนออกมา ขมที่สุดเท่าที่เคยรู้สึกมา พออาเจียนออกมาหมดแล้ว รู้สึกว่าตัวเองดีขึ้นนะ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ช่วงที่รอพ่อ ฝนตกตลอด ประมาณ 3 ทุ่มกว่าๆ ได้ยินเสียงรถ นกนั่งอยู่ตรงระเบียง เห็นน้องวิ่งหน้าตาตื่นมา พร้อมกับเสื่อและก็หมอน น้องถามว่า...

เป็นไงมั่ง? เป็นไรมากหรือเปล่า?

คำถามของน้องที่ถาม รู้ได้ถึงความห่วงใยที่น้องมีให้ เราโตมาด้วยกัน ลำบากมาด้วยกัน ทะเลาะกันก็บ่อย เพราะต่างก็คิดว่า ฉันลูกคนเล็ก นกก็บอกน้องว่า ฉันก็ลูกคนเล็กผู้หญิง 555 น้องชายก็บอกว่า กรูรรรรรรรร ก็ลูกคนเล็กผู้ชาย 555

เปลี่ยนเรื่องซะ ขำบ้าง เดี๋ยวเศร้าเกิน อืมม์

หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงป้า มาพร้อมกับพ่อ ป้าเค้าจ้างรถมารับนกค่ะ นกเห็นหน้าพ่อแล้ว ตอนนั้นดีใจมากๆ ที่ได้เห็นพ่ออีกครั้ง พ่อน้ำตาคลอๆ ถามว่า เป็นไงบ้างลูก เสียงสั่นๆ นกบอกพ่อว่า หนูหายแล้ว ไข้ที่เป็นก็เบาแล้ว แต่ป้าบอกว่า ไม่ได้ต้องไปหาหมอ พ่อก็บอกว่าไปโรงพยาบาลดีกว่า จากนั้นป้าก็มาอุ้มนกไป ไปถึงโรงพยาบาลก็ประมาณ 5 ทุ่มได้ คุณหมอทุกคนก็ใจดีมากๆ ดูแลอย่างดี คุณหมอบอกว่า คุณลง ถ้าคุณลุงพาลูกสาวมาช้ากว่านี้ อีก 5 นาที ไม่รอดแล้ว.... ได้ยินเสียงพ่อพูดว่า...จะเสียค่ารักษาเท่าไหร่ ไม่เป็นไร ขอให้ลูกผมหาย หมอบอกว่านกเป็นดีซ่าน

นกนอนโรงพยาบาลหนึ่งคืน พ่อกับน้องนอนเฝ้าอยู่ข้างนอก มีหมอนมีเสื่อปูนอน

.........บุญคุณของพ่อ น้ำใจของน้อง ยังอยู่ในความทรงจำนี้เสมอไม่เคยลืม.........

เช้ามาคุณหมอมาตรวจ บอกว่าให้กลับบ้านได้ แข็งแรงมากเลยนะ ปกติต้องนอนอย่างน้อยเป็นอาทิตย์ พ่อก็ไม่อยากให้กลับ นกบอกพ่อว่านกหายแล้ว คุณหมอก็อนุญาติ แล้วเราก็กลับบ้านกัน พ่อซื้อส้ม ให้นกกิน ปอกส้มให้ นกได้แต่มองพ่อด้วยความสำนึกในบุญคุณ นกถามพ่อว่า พ่อไปเอาเงินจากไหนมา และสิ่งที่พ่อเล่าให้นกฟัง นกอึ้ง น้ำตามันเหมือนกับไหลกลับเข้าไปข้างใน มันตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก พ่อเล่าว่า...

...พอน้าไปบอกว่า ลูกแย่แล้ว ต้องไปโรงพยาบาล ไม่อย่างนั้น ไม่รอดแน่ๆ พ่อบอกว่า พ่อวิ่งไปหาป้า ซึ้งบ้านของป้าห่างกันคนละหมู่บ้าน พ่อวิ่งลัดทุ่งนาไปหาป้า เพื่อที่จะไปขอยืมเงิน ช่วงที่วิ่งไป ฝนตกด้วย พ่อบอกว่าสะดุดล้ม และที่น่ากลัวพ่อ บอกมีตอไม้แหลมๆ อยู่ตรงหน้า ฟังพ่อเล่าแล้วน่ากลัวมากๆ นกฟังเรื่องเล่าของพ่อด้วยใจที่ สำนึกในบุญคุณของพ่อ พ่อทำได้ทุกอย่างเพื่อลูก

"หนูรักพ่อ"

ป้าไม่มีเงินให้พ่อยืม แต่ป้าขอร้องให้เพื่อนบ้านเอารถไปรับนกไปโรงพยาบาล พ่อต้องวิ่งกลับมาที่บ้านอีกครั้ง เพื่อที่จะไปหาลุง เพื่อนบ้านที่นับถือ ชื่อว่าลุง ขาว
ลุงขาวให้พ่อยืมเงิน 500 บาท แล้วบอกอีกว่า มีเมื่อไหร่ค่อยมาคืน ขอบคุณค่ะลุง

นกก็ถามพ่อว่า... ทำไม พ่อไม่ไปหาลุงขาว ตั้งแต่ตอนแรก พ่อบอกว่าตอนนั้น คิดถึงป้า เป็นคนแรก และก็คงจะจริง หากยามที่คับขัน คนแรกที่เรานึกถึง ก็ต้องเป็นคนที่เราคิดว่าเค้าช่วยเราได้ ไม่ใช่เรื่องเงิน แต่ป้าก็หารถพานกไปหาหมอได้...เพราะว่าเวลานั้น ไม่มีรถโดยสารแล้ว ขอบคุณป้าที่แสนดีของหลานค่ะ

...แล้วเราก็กลับบ้าน บ้านที่พอเพียงของพวกเรา...นกอยู่รอดมาได้จนถึงวันนี้
ก็เพราะความรัก ความดูแลเอาใจใส่ของพ่อที่มีให้กับลูกคนนี้ อยากบอกพ่อว่า หนูรักพ่อที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเกิดชาติไหน ขอให้หนูได้เกิดมาเป็นลูกของพ่อทุกชาติ

...ขอให้หนูได้ตอบแทนบุญคุณของพ่อให้มากกว่านี้...ขอให้พ่อไปอยู่ในภูมิภพที่ดี รักพ่อนะค่ะ


...และนี้คือความรักของนก...ในวันวาเลนไทน์นี้ ที่อยากพูดถึง คือ...

"ความรักของพ่อค่ะ"





กลับมาอ่านเรื่องที่ตัวเองเล่า อารมณ์ไหนกันเรา 555 ขำไปพร้อมกับน้ำตาซึม คิดถึงพ่อจัง...อยากให้พ่อยังอยู่กับนก

วันวาเลนไทน์ไม่ได้เข้าไป มอบความสุขกับใคร ขอส่งความสุขย้อนหลังอีกครั้งกับวันแห่งความรัก รักครอบครัว รักกันได้ทุกวัน รักแบบคนรัก ขอให้รักอย่างมีสติ
ไม่ว่าจะวันไหน เทศกาลใด ขอให้มอบความรัก และความห่วงใยให้แก่กันนะค่ะ







 
Photobucket Photobucket







ไปต่างจังหวัดมา 4 วัน กลับมา ขอนำบุญมาฝากพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ที่น่ารักทุกคนค่ะ ปกติเวลาไปต่างจังหวัดทุกครั้ง จะเตรียมยา และก็ซื้อน้ำติดรถไปด้วยทุกครั้ง เพื่อเอาไว้ ถวายพระธุดงค์ ที่เจอบ้างไม่เจอบ้าง การเดินทางของนกเที่ยวนี้ มีโอกาสได้ทำบุญ กับพระธุดงค์รูปหนึ่งค่ะ ท่านก็ให้พรว่า "ขอให้เจริญในธรรม " ถามท่านว่าจะธุดงค์ไปไหน ท่านบอกว่า ไปโคราช เจอท่านระหว่าง อุทยานน้ำหนาวค่ะ ท่านเดินด้วยเท้าเปล่า ดีใจที่ได้ทำบุญกับท่านค่ะ





เอาบุญมาฝากทุกๆ คนค่ะ สาธุ





ระหว่างทางผ่านเข้าค้อ แวะทานกาแฟ เห็นร้านน่ารักดี และวิวสวยมากๆ มีดารานักข่าว แวะทานร้านนี้เยอะมาก (เค้าถ่ายภาพไว้ อิอิ)









นำภาพมาฝากค่ะ






















Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2551 15:48:25 น. 18 comments
Counter : 532 Pageviews.

 
หวัดดีค่ะ ย่องมาเยี่ยมตอนดึกๆๆๆๆ ค่ะ มะค่อยมีเวลาเท่าไร แต่อาศัยว่าวันนี้เป็นวันหยุด หยุดทั้งงาน หยุดทั้งเรียน ก็เลยนั่งได้นานหน่อย มีความสุขมากๆ นะคะ ฝันดีค่า


โดย: KungGuenter วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:1:28:44 น.  

 
อ่านแล้วซึ้งอ่ะน้องนู๋ ทำให้พี่คิดถึงพ่อขึ้นมาอีกแล้ว และยังคงระลึกท่านอยู่เสมอถึงแม้ว่าท่านจะมองพี่จากฟากฟ้าก็ตาม .... ไม่มีความรักจากใครที่ยิ่งใหม่ จริงใจ ห่วงใยเรา ถึงแม้ว่าเราจะทำผิดขนาดไหนก็ตามที เป็นความรักที่บริสุทธิ์ ไม่ต้องการสิ่งตอบแทนใดเทียบเท่าได้จากความรักของ "พ่อ-แม่" .... รักท่านให้มากๆ นะค่ะ

คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

Glitter บอกรักมีอีกเพียบ


โดย: mauy_pp (punnapar ) วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:21:23 น.  

 
ขอบคุณพี่หมวยนะค่ะ พรุ่งนี้ ไม่ใช่ว้นนี้ เช้านี้นกต้องไปต่างจังหวัด ขอบคุณพี่หมวยที่เข้ามาทักทายค่ะ...คิดถึงพ่อนะค่ะ พ่อคงมองเราอยู่บนฝากฟ้าที่ไหนสักแห่ง...


โดย: น้ำภูฟ้า IP: 118.172.22.241 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:1:50:03 น.  

 
วันนี้ไม่ได้ล๊อกอินเข้า...รีบเก็บของ นกคงไม่ได้เข้าไปทักทายพี่ๆ เพื่อนๆ นะค่ะ ฝากบล๊อกด้วย ไป 4 วัน กลับมาจะเข้าไปเยี่ยมทู๊กกกกกคนค่ะ วันวาเลนไทน์ ขอให้มีความสุขกันทุกคนนะค่ะ...จุ๊บๆๆ






โดย: น้ำภูฟ้า IP: 118.172.22.241 วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:1:55:36 น.  

 
เศร้าจังน้องนก.....พี่ขวัญน้ำตาซึมเลย

พ่อเป็นเหมือนดวงตะวันของลูกๆทุกคนเนอะ


โดย: NuHring วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:50:22 น.  

 
ใช่ แม่คือผู้ให้กำเนิดเรามา แต่พ่อคือผู้ให้ชีวิตเราเหมือนกัน สบายดีนะคะ สุขสันต์วันแห่งความรักนะคะ


โดย: คนดีค่ะ1 (คนดีค่ะ1 ) วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:20:35:43 น.  

 


โดย: ซ่อนทรายแก้ว วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:1:20:31 น.  

 


โดย: Paradijs วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:2:11:23 น.  

 
Glitter Graphics
Glitter Graphics at GlitterGeek.com


โดย: vpjeab วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:6:35:47 น.  

 
สุขสันต์วันแห่งความรักจ้ะ..

อ่านแล้วคิดถึงพ่อจัง..


โดย: ฝน วนันฯ (fon_wanan ) วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:7:47:29 น.  

 

มาส่งความรักให้น้องนกค่ะ
ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ


โดย: พี่นุชจ่ะ (oranuch_sri ) วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:37:44 น.  

 


โดย: sawkitty วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:18:18:27 น.  

 

หอบความรัก ความปรารถนาดี
มาให้หมดหัวใจ
ขอให้ชีวิตนี้พบแต่ความรัก ความห่วงใย จากคนรอบข้างนะคะ






โดย: ป้าตุ้ย (amornsri ) วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:14:24:36 น.  

 
รบกวนตอบ Tag ด้วยนะครับ


โดย: แสนพลพ่าย วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:46:15 น.  

 
ขอบใจจ้า.....บุญหนักมากๆเลยยินดีรับด้วยความเต็มใจ อิอิ
บอกบุญมาเท่าไหร่ ยินดีรับมากเท่านั้นจ้า....
ขอให้บุญที่นู๋นกทำ..ส่งผงให้เกิดสิ่งดีๆกับชีวิตและครอบครัวนะจ๊ะ...จุ๊บๆ


โดย: NuHring วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:25:22 น.  

 
อ่านแล้วยิ้มได้เลยคะ ขอบคุณนะคะ


โดย: sawkitty วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:20:51:34 น.  

 

สาวอ้อทักทายเพื่อนบล็อก


สวัสดีค่ะคุณน้ำภูฟ้า
บล็อกคุณแพรวพราวมากค่ะ
ต้องขอโทษจริง ๆ น่ะค่ะที่อ้อไม่ได้อ่านข้อความด้านบนค่ะ
(ลายตาไปตามวัยชราค่ะ อิอิ )
ขอบคุณมากมายค่ะที่คุณน้ำภูฟ้า
ไปทักทายที่บล็อกสาวอ้อมาค่ะ
รักษาสุขภาพน่ะค่ะ




โดย: sao-aor วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:2:01:56 น.  

 
แล้วรู้หรือยังล่ะ "วันใดขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึก"
อยากบอกอะไรก็จะรับรู้ไว้...ว่าฉันก็เป็นเหมือนเธอ..
อยากบอกให้เธอได้รู้ไว้เธออยู่ในใจฉันเสมอไม่เคยลืม
เวลาเจอก็ดีใจถึงแม้ว่าไม่ได้พูดได้คุยกับเธอก็ตาม
แต่อยากให้รู้ว่า "ยังรัก" เสมอ เช่นกัน


โดย: วินัย นักรบนพดล IP: 210.246.186.4 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2555 เวลา:21:42:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

น้ำภูฟ้า
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]










" แค่เศษเสี้ยวหนึ่งของ...ธุลีดิน...

มีความฝัน... และเดินตามฝัน

บนทางเดินที่เหนื่อยล้า...

บนเส้นทางที่มีขวากหนาม...

แต่ทั้งหมดไม่ใช่อุปสรรค...

ที่จะทำให้ธุลีดินก้อนนี้...

ท้อและถอย..."













บล๊อกนี้เขียนขึ้นมา
เพื่อบันทึกเรื่องราว
ความทรงจำ
การเดินทางของ
คนคนหนึ่ง
เก็บไว้เป็นนิยายร้อยพัน

สำหรับคนเขียนเรื่องราว
ก็แค่คนธรรมดา
เป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของ

"ธุลีดิน"

รักสงบ
รักธรรมชาติ

พูดไม่เก่ง
ขอเป็นผู้รับฟังที่ดี

ชีวิตต้องมีการต่อสู้
แต่การต่อสู้กับตัวเอง
การเอาชนะตัวเองนั้น

ยากที่สุด

ชนะอะไรเล่า เท่ากับ...

..."ชนะใจเราเอง"...










Friends' blogs
[Add น้ำภูฟ้า's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.