|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ริบบิ้นสีฟ้า
| | | |
มีเรื่องดีๆ มาให้อ่านอีกแล้วค่ะ
ริบบิ้นสีฟ้า มีความรู้สึกดีๆ มาให้ > ครูคนหนึ่งที่นิวยอร์คตกลงใจจะแสดงความชื่นชมนักเรียนไฮสคูล > ชั้นปีสุดท้ายที่เธอสอนด้วยการบอกเขาเหล่านั้น > ว่าแต่ละคนมีคุณค่าพิเศษต่างจากคนอื่นอย่างไรบ้าง > เธอเรียกนักเรียนทุกคนไปหน้าชั้นทีละคน > แรกสุดเธอบอกแต่ละคนว่าพวกเขามีคุณค่า > เพียงใดทั้งต่อตัวครูและต่อเพื่อนร่วมห้อง > จากนั้นเธอก็มอบริบบิ้นสีฟ้าพิมพ์ด้วยตัวหนังสือสีทอง > เป็นของขวัญให้ข้อความบนริบบิ้นมีว่า 'ฉันเป็นคนมีคุณค่า' > จากนั้นครูให้นักเรียนทำงานกลุ่มของชั้นขึ้นมาชิ้นหนึ่ง > ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อดูว่าการแสดงความชื่นชมยกย่องผู้อื่น > ส่งผลอย่างไรต่อคนในชุมชน > เธอมอบริบบิ้นแก่นักเรียนคนละสามเส้น > ให้นักเรียนเผยแพร่การรับรู้และชื่นชมคุณค่าผู้อื่นในวงกว้างออกไป > จากนั้นนักเรียนจะต้องติดตามผลและดูว่า > ใครยกย่องใครบ้างแล้วนำกลับมารายงานในห้องภายในหนึ่งสัปดาห์ > นักเรียนชายคนหนึ่งเข้าพบผู้บริหารระดับรองที่ทำงานในบริษัทใกล้ๆ > เพื่อยกย่องที่ชายผู้นี้เคยช่วยเขาวางแผนอาชีพในอนาคต > แล้วมอบริบบิ้นติดให้บนเสื้อเชิ้ต > จากนั้นก็มอบริบบิ้นอีกสองเส้นที่เหลือพร้อมกับกล่าวว่า > ..! .'เรากำลังทำงานกลุ่มของชั้นเรียน > เกี่ยวกับเรื่องการแสดงความยกย่องชื่นชมผู้อื่นครับ > ผมอยากขอให้คุณช่วยหาใครสักคนที่คุณต้องการยกย่อง' > แล้วให้ริบบิ้นเขา ส่วนอีกเส้นก็ให้เขา > ไว้สำหรับมอบให้คนต่อไป > เพื่อเผยแพร่การยกย่องชื่นชมนี้ให้กระจายต่อไป > แล้วช่วยกลับมาบอกผมด้วยครับว่าผลเป็นยังไงบ้าง' > ต่อมาในวันเดียวกันผู้บริหารท่านนี้ > เข้าพบเจ้านายเขาซึ่งเป็นคนที่ใครๆ รู้กันดีว่าเกรี้ยวกราด > อารมณ์ร้ายเขานั่งลงคุยกับเจ้านาย > บอกเจ้านายว่าลึกๆเขายกย่องชื่นชมเจ้านาย > ว่าเป็นผู้มีหัวคิดสร้างสรรค์ระดับอัจฉริยะ > ดูเหมือนเจ้านายเขาจะประหลาดใจอย่างยิ่งเขาถามเจ้านายว่าจะยินดี > รับริบบิ้นสีฟ้าเป็นของขวัญแสดงความชื่นชม > และอนุญาตให้เขาติดริบบิ้นให้ได้หรือไม่ > เจ้านายผู้ประหลาดใจตอบว่าได้ > เขาจึงติดริบบิ้นสีฟ้าเส้นนั้นบนปกเสื้อนอกบริเวณเหนือหัวใจ > เมื่อเขามอบริบบิ้นเส้นสุดท้ายแก่เจ้านาย > เขาบอกเจ้านายว่า ช่วยอะไรผมสักอย่างได้ไหมครับ > ผมอยากให้เจ้านายช่วยส่งต่อริบบิ้น > เส้นสุดท้ายนี่ด้วยการยกย่องชื่นชมใครสักคน > พ่อหนุ่มที่ให้ริบบิ้นผมมาเป็นคนแรกกำลังทำงานกลุ่มของชั้นอยู่ > เขาอยากให้ช่วยกระจายการยกย่องชื่นชมนี้ให้เผยแพร่ในวงกว้างออกไป > แล้วดูว่าการทำแบบนี้ส่งผลต่อใครๆยังไงบ้าง > ค่ำวันนั้นชายผู้เป็นเจ้านายกลับบ้านไปหาลูกชายวัยรุ่นอายุสิบสี่ > เขาเรียกลูกชายให้นั่งลงแล้วกล่าวว่า > วันนี้เกิดเรื่องเหลือเชื่อที่สุดกับพ่อ > ตอนอยู่ห้องทำงานลูกน้องคนหนึ่ง > เข้ามาบอกว่าเขาชื่นชมพ่อ > แล้วให้ริบบิ้นเส้นหนึ่งเป็นการยกย่องว่าพ่อเป็นอัฉริยะ > เรื่องความมีหัวคิดสร้างสรรค์ > ลองนึกดูเขาคิดว่าพ่อมีหัวคิดสร้างสรรค์เข้าขั้นอัจฉริยะเชียวนะ > แล้วเขาก็เอาริบบิ้นเส้นนี้ที่เขียนว่าฉันเป็นคนมีคุณค่า > ติดให้บนปกเสื้อนอกตรงหัวใจนี่แล้วยังให้ริบบิ้นพ่อมาอีกเส้น > ให้พ่อมองหาใครสักคนที่จะยกย่องชื่นชมต่อ > ระหว่างที่พ่อขับรถกลับบ้าน > ก็คิดว่าริบบิ้นเส้นนี้จะให้ใครดี...แล้วพ่อก็นึกถึงแก > พ่ออยากชื่นชมแกนะ วันๆพ่อทำงานยุ่งเหยิงมาก > พอกลับมาบ้านก็ไม่ค่อยได้ใส่ใจแกสักเท่าไร > บางทียังอาละวาดอีกเรื่องแกเรียนได้เกรดไม่ดี > เรื่องทำห้องนอนรกแต่ยังไงไม่รู้สิ > วันนี้พ่อกลับอยากนั่งลงตรงนี้กับแก > อยากบอกว่าแกมีค่ากับพ่อมากแค่ไหน > นอกจากแม่แกแล้วก็มีแกนี่แหละที่เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตพ่อ > แกเป็นเด็กที่ยอดเยี่ยมเลยแหละแล้วพ่อก็รักแกนะ.. > เด็กหนุ่มผู้ตื่นตะลึงเริ่มสะอื้นแล้วก็สะอื้น > เขาไม่อาจหยุดร้องไห้ ร่างสั่นเทาไปทั้งตัว > เขาเงยหน้ามองผู้เป็นพ่อแล้วกล่าวทั้งน้ำตา > 'พ่อครับเมื่อตอนเย็นผมอยู่บนห้องนั่งเขียนจดหมายถึงพ่อกับแม่ > เพื่ออธิบายว่าทำไมผมถึงฆ่าตัวตายแล้วก็ขอให้พ่อยกโทษให้ผม > ผมตั้งใจจะฆ่าตัวตายคืนนี้ตอนพ่อหลับ ผมคิดว่าพ่อไม่เคยแคร์ผมเลย > จดหมายอยู่บนห้องครับ! > แต่ผมคิดว่าผมคงไม่ต้องการมันแล้วล่ะ' > พ่อของเด็กหนุ่มเดินขึ้นไปบนห้องพบจดหมายข้อความสะเทือนใจ > บรรยายถึงความเจ็บปวดและทุกข์ทรมาน > จดหมายฉบับนั้นจ่าหน้าถึงพ่อกับแม่ > ชายผู้เป็นเจ้านายกลับไปที่ทำงานอย่างเปลี่ยนไปเป็นคนละคน > เขาเลิกเป็นคนขี้โมโหแต่จะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้พนักงาน > ใต้บังคับบัญชารู้ว่าพวกเขามีค่าอย่างไรบ้าง > ส่วนชายผู้เป็นนักบริหารระดับรองก็ช่วยให้คำแนะนำเด็กหนุ่มอื่นๆ > ต่อมาอีกหลายคนเรื่องการวางแผนอาชีพในอนาคต > แล้วก็ไม่เคยลืมบอกเด็กเหล่านั้นว่าแต่ละคนมีคุณค่าต่อชีวิตเขาอย่างไรบ้าง > หนึ่งในนั้นก็คือเด็กหนุ่มลูกชายเจ้านายเขา > ส่วนเด็กหนุ่มกับเพื่อนร่วมชั้นก็ได้เรียนรู้บทเรียนที่มีค่าเรื่องหนึ่งนั่นคือ > เราต่างเป็นคนที่มีคุณค่าด้วยกันทั้งนั้น > > ....คุณไม่จำเป็นต้องส่งเมล์ฉบับนี้ต่อให้ใครแม้แต่คนเดียว.. > ...อย่าว่าแต่สองคนหรือสองร้อยคนเลย > ...สำหรับฉัน..คุณอาจจะลบเมล์ฉบับนี้ทิ้งแล้วไปเปิดดูเมล์ฉบับต่อไป > ...แต่ถ้าคุณมีใครสักคนที่มีความหมายกับคุณมาก > ...ฉันขอสนับสนุนให้คุณส่งข้อความนี้ไปให้เขาหรือเธอผู้นั้น > ...เพื่อให้เขาได้รับรู้ความรู้สึกของคุณ...คุณไม่มีทางรู้หรอกว่า > ...การให้กำลังใจเล็กๆน้อยๆ มีคุณค่าแค่ไหนกับคนสักคน > ...ส่งเรื่องนี้ไปยังคนทุกคนที่คุณเห็นว่ามีความหมายต่อคุณ > ...มีความสำคัญต่อคุณหรืออาจส่งไปให้คนหนึ่ง..สอง > ...หรือสามคนที่มีความหมายต่อคุณมากที่สุด > ...หรือคุณอาจจะแค่ยิ้มที่ได้รู้ว่ามีใครบางคนคิดว่าคุณเป็นคนสำคัญ > ...ไม่งั้นคุณก็คงไม่ได้รับเมล์ฉบับนี้แต่แรก > .........จำไว้นะ........ฉันให้...ริบบิ้นสีฟ้า...แก่คุณแล้ว!
| | | | |
Create Date : 09 ตุลาคม 2551 |
|
4 comments |
Last Update : 9 ตุลาคม 2551 0:47:41 น. |
Counter : 851 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Borken 9 ตุลาคม 2551 19:36:28 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ติดไว้ก่อนน๊าพรุ่งนี้ปริมจะมาอ่านใหม่
งั้นก้อยมาวันที่ 18 เหมือนเดิมช่ายป่ะ
ปริมจะได้บอกแฟนไว้ว่ามีนัด
ก้อยรักษาสุขภาพนะ
คิดถึงน๊า
Glückstag!