เราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้ แต่เราสามารถทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ดีที่สุดเท่าที่เรามีเวลา
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
9 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 

ริบบิ้นสีฟ้า




มีเรื่องดีๆ มาให้อ่านอีกแล้วค่ะ

ริบบิ้นสีฟ้า มีความรู้สึกดีๆ มาให้

> ครูคนหนึ่งที่นิวยอร์คตกลงใจจะแสดงความชื่นชมนักเรียนไฮสคูล
> ชั้นปีสุดท้ายที่เธอสอนด้วยการบอกเขาเหล่านั้น
> ว่าแต่ละคนมีคุณค่าพิเศษต่างจากคนอื่นอย่างไรบ้าง
> เธอเรียกนักเรียนทุกคนไปหน้าชั้นทีละคน
> แรกสุดเธอบอกแต่ละคนว่าพวกเขามีคุณค่า
> เพียงใดทั้งต่อตัวครูและต่อเพื่อนร่วมห้อง
> จากนั้นเธอก็มอบริบบิ้นสีฟ้าพิมพ์ด้วยตัวหนังสือสีทอง
> เป็นของขวัญให้ข้อความบนริบบิ้นมีว่า 'ฉันเป็นคนมีคุณค่า'
> จากนั้นครูให้นักเรียนทำงานกลุ่มของชั้นขึ้นมาชิ้นหนึ่ง
> ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อดูว่าการแสดงความชื่นชมยกย่องผู้อื่น
> ส่งผลอย่างไรต่อคนในชุมชน
> เธอมอบริบบิ้นแก่นักเรียนคนละสามเส้น
> ให้นักเรียนเผยแพร่การรับรู้และชื่นชมคุณค่าผู้อื่นในวงกว้างออกไป
> จากนั้นนักเรียนจะต้องติดตามผลและดูว่า
> ใครยกย่องใครบ้างแล้วนำกลับมารายงานในห้องภายในหนึ่งสัปดาห์
> นักเรียนชายคนหนึ่งเข้าพบผู้บริหารระดับรองที่ทำงานในบริษัทใกล้ๆ
> เพื่อยกย่องที่ชายผู้นี้เคยช่วยเขาวางแผนอาชีพในอนาคต
> แล้วมอบริบบิ้นติดให้บนเสื้อเชิ้ต
> จากนั้นก็มอบริบบิ้นอีกสองเส้นที่เหลือพร้อมกับกล่าวว่า
> ..! .'เรากำลังทำงานกลุ่มของชั้นเรียน
> เกี่ยวกับเรื่องการแสดงความยกย่องชื่นชมผู้อื่นครับ
> ผมอยากขอให้คุณช่วยหาใครสักคนที่คุณต้องการยกย่อง'
> แล้วให้ริบบิ้นเขา ส่วนอีกเส้นก็ให้เขา
> ไว้สำหรับมอบให้คนต่อไป
> เพื่อเผยแพร่การยกย่องชื่นชมนี้ให้กระจายต่อไป
> แล้วช่วยกลับมาบอกผมด้วยครับว่าผลเป็นยังไงบ้าง'
> ต่อมาในวันเดียวกันผู้บริหารท่านนี้
> เข้าพบเจ้านายเขาซึ่งเป็นคนที่ใครๆ รู้กันดีว่าเกรี้ยวกราด
> อารมณ์ร้ายเขานั่งลงคุยกับเจ้านาย
> บอกเจ้านายว่าลึกๆเขายกย่องชื่นชมเจ้านาย
> ว่าเป็นผู้มีหัวคิดสร้างสรรค์ระดับอัจฉริยะ
> ดูเหมือนเจ้านายเขาจะประหลาดใจอย่างยิ่งเขาถามเจ้านายว่าจะยินดี
> รับริบบิ้นสีฟ้าเป็นของขวัญแสดงความชื่นชม
> และอนุญาตให้เขาติดริบบิ้นให้ได้หรือไม่
> เจ้านายผู้ประหลาดใจตอบว่าได้
> เขาจึงติดริบบิ้นสีฟ้าเส้นนั้นบนปกเสื้อนอกบริเวณเหนือหัวใจ
> เมื่อเขามอบริบบิ้นเส้นสุดท้ายแก่เจ้านาย
> เขาบอกเจ้านายว่า ช่วยอะไรผมสักอย่างได้ไหมครับ
> ผมอยากให้เจ้านายช่วยส่งต่อริบบิ้น
> เส้นสุดท้ายนี่ด้วยการยกย่องชื่นชมใครสักคน
> พ่อหนุ่มที่ให้ริบบิ้นผมมาเป็นคนแรกกำลังทำงานกลุ่มของชั้นอยู่
> เขาอยากให้ช่วยกระจายการยกย่องชื่นชมนี้ให้เผยแพร่ในวงกว้างออกไป
> แล้วดูว่าการทำแบบนี้ส่งผลต่อใครๆยังไงบ้าง
> ค่ำวันนั้นชายผู้เป็นเจ้านายกลับบ้านไปหาลูกชายวัยรุ่นอายุสิบสี่
> เขาเรียกลูกชายให้นั่งลงแล้วกล่าวว่า
> วันนี้เกิดเรื่องเหลือเชื่อที่สุดกับพ่อ
> ตอนอยู่ห้องทำงานลูกน้องคนหนึ่ง
> เข้ามาบอกว่าเขาชื่นชมพ่อ
> แล้วให้ริบบิ้นเส้นหนึ่งเป็นการยกย่องว่าพ่อเป็นอัฉริยะ
> เรื่องความมีหัวคิดสร้างสรรค์
> ลองนึกดูเขาคิดว่าพ่อมีหัวคิดสร้างสรรค์เข้าขั้นอัจฉริยะเชียวนะ
> แล้วเขาก็เอาริบบิ้นเส้นนี้ที่เขียนว่าฉันเป็นคนมีคุณค่า
> ติดให้บนปกเสื้อนอกตรงหัวใจนี่แล้วยังให้ริบบิ้นพ่อมาอีกเส้น
> ให้พ่อมองหาใครสักคนที่จะยกย่องชื่นชมต่อ
> ระหว่างที่พ่อขับรถกลับบ้าน
> ก็คิดว่าริบบิ้นเส้นนี้จะให้ใครดี...แล้วพ่อก็นึกถึงแก
> พ่ออยากชื่นชมแกนะ วันๆพ่อทำงานยุ่งเหยิงมาก
> พอกลับมาบ้านก็ไม่ค่อยได้ใส่ใจแกสักเท่าไร
> บางทียังอาละวาดอีกเรื่องแกเรียนได้เกรดไม่ดี
> เรื่องทำห้องนอนรกแต่ยังไงไม่รู้สิ
> วันนี้พ่อกลับอยากนั่งลงตรงนี้กับแก
> อยากบอกว่าแกมีค่ากับพ่อมากแค่ไหน
> นอกจากแม่แกแล้วก็มีแกนี่แหละที่เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตพ่อ
> แกเป็นเด็กที่ยอดเยี่ยมเลยแหละแล้วพ่อก็รักแกนะ..
> เด็กหนุ่มผู้ตื่นตะลึงเริ่มสะอื้นแล้วก็สะอื้น
> เขาไม่อาจหยุดร้องไห้ ร่างสั่นเทาไปทั้งตัว
> เขาเงยหน้ามองผู้เป็นพ่อแล้วกล่าวทั้งน้ำตา
> 'พ่อครับเมื่อตอนเย็นผมอยู่บนห้องนั่งเขียนจดหมายถึงพ่อกับแม่
> เพื่ออธิบายว่าทำไมผมถึงฆ่าตัวตายแล้วก็ขอให้พ่อยกโทษให้ผม
> ผมตั้งใจจะฆ่าตัวตายคืนนี้ตอนพ่อหลับ ผมคิดว่าพ่อไม่เคยแคร์ผมเลย
> จดหมายอยู่บนห้องครับ!
> แต่ผมคิดว่าผมคงไม่ต้องการมันแล้วล่ะ'
> พ่อของเด็กหนุ่มเดินขึ้นไปบนห้องพบจดหมายข้อความสะเทือนใจ
> บรรยายถึงความเจ็บปวดและทุกข์ทรมาน
> จดหมายฉบับนั้นจ่าหน้าถึงพ่อกับแม่
> ชายผู้เป็นเจ้านายกลับไปที่ทำงานอย่างเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
> เขาเลิกเป็นคนขี้โมโหแต่จะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้พนักงาน
> ใต้บังคับบัญชารู้ว่าพวกเขามีค่าอย่างไรบ้าง
> ส่วนชายผู้เป็นนักบริหารระดับรองก็ช่วยให้คำแนะนำเด็กหนุ่มอื่นๆ
> ต่อมาอีกหลายคนเรื่องการวางแผนอาชีพในอนาคต
> แล้วก็ไม่เคยลืมบอกเด็กเหล่านั้นว่าแต่ละคนมีคุณค่าต่อชีวิตเขาอย่างไรบ้าง
> หนึ่งในนั้นก็คือเด็กหนุ่มลูกชายเจ้านายเขา
> ส่วนเด็กหนุ่มกับเพื่อนร่วมชั้นก็ได้เรียนรู้บทเรียนที่มีค่าเรื่องหนึ่งนั่นคือ
> เราต่างเป็นคนที่มีคุณค่าด้วยกันทั้งนั้น
>
> ....คุณไม่จำเป็นต้องส่งเมล์ฉบับนี้ต่อให้ใครแม้แต่คนเดียว..
> ...อย่าว่าแต่สองคนหรือสองร้อยคนเลย
> ...สำหรับฉัน..คุณอาจจะลบเมล์ฉบับนี้ทิ้งแล้วไปเปิดดูเมล์ฉบับต่อไป
> ...แต่ถ้าคุณมีใครสักคนที่มีความหมายกับคุณมาก
> ...ฉันขอสนับสนุนให้คุณส่งข้อความนี้ไปให้เขาหรือเธอผู้นั้น
> ...เพื่อให้เขาได้รับรู้ความรู้สึกของคุณ...คุณไม่มีทางรู้หรอกว่า
> ...การให้กำลังใจเล็กๆน้อยๆ มีคุณค่าแค่ไหนกับคนสักคน
> ...ส่งเรื่องนี้ไปยังคนทุกคนที่คุณเห็นว่ามีความหมายต่อคุณ
> ...มีความสำคัญต่อคุณหรืออาจส่งไปให้คนหนึ่ง..สอง
> ...หรือสามคนที่มีความหมายต่อคุณมากที่สุด
> ...หรือคุณอาจจะแค่ยิ้มที่ได้รู้ว่ามีใครบางคนคิดว่าคุณเป็นคนสำคัญ
> ...ไม่งั้นคุณก็คงไม่ได้รับเมล์ฉบับนี้แต่แรก
> .........จำไว้นะ........ฉันให้...ริบบิ้นสีฟ้า...แก่คุณแล้ว!













 

Create Date : 09 ตุลาคม 2551
4 comments
Last Update : 9 ตุลาคม 2551 0:47:41 น.
Counter : 851 Pageviews.

 

กรอบสวยเชียวก้อย...

ติดไว้ก่อนน๊าพรุ่งนี้ปริมจะมาอ่านใหม่

งั้นก้อยมาวันที่ 18 เหมือนเดิมช่ายป่ะ

ปริมจะได้บอกแฟนไว้ว่ามีนัด

ก้อยรักษาสุขภาพนะ

คิดถึงน๊า

Glückstag!

 

โดย: สาระ....จริง 9 ตุลาคม 2551 2:39:11 น.  

 

อ่านจนจบทุกตัวอักษรเลยค่ะ ชอบมากเรื่องนี้มีค่ามากเลยและเป็นเรื่องจริง คนทุกคนเป็นคนมีคุณค่าและ แน่นอนที่สุดคนทุกคนต้องการกำลังใจ ขอบคุณมากนะคะที่เอามาแบ่งปันกันน๊า

 

โดย: Flowerfun 9 ตุลาคม 2551 3:19:07 น.  

 

สวัสดีค่ะ...
แมวอ่านทุกตัวอักษรเหมือนกันค่ะ..
รู้สึกว่าสะท้อนใจมากง่ะ...
ทำดีกับคนรอบข้างมาก
ลืมใส่ใจกับคนที่นอนทุกคืนข้างกาย...
.............
................
ขอบคุณสำหรับบทความดี ดี นะ
......
สุขสันต์ในทุก ๆ วันค่ะ...

เข้าฤดูใบไม้ร่วงแล้ว อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย..
รักษาสุขภาพนะจ๊ะ...

 

โดย: Prettymaew 9 ตุลาคม 2551 4:22:27 น.  

 

อ่านแล้วซึ้งมากเลยก้อย
ก้อยสบายดีนะจ๊า
เสียดายจัง ที่ไม่ได้เจอ
ก้อยกับพี่ปริม ไว้วันหลังน๊า
ตอนนี้ที่ไทยร้อนตับแตก
การเมืองก็ยิ่งร้อนระอุ
เห็นคนตายแล้วสลด หดหู่
เศร้าใจอย่างบอกไม่ถูก
ยังไง ขอให้ก้อยรักษาสุข
ภาพตัวเองด้วยนะจ๊า
คิดถึงเสมอจร๊า

 

โดย: Borken 9 ตุลาคม 2551 19:36:28 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Nachtigall
Location :
กรุงเทพฯ Germany

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




free counters
Friends' blogs
[Add Nachtigall's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.