|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ท่อนแรก / แด่ความประทับใจแห่งท้องทะเล
ฉันยืนอยู่ที่แห่งหนใดกัน
นั่นกลิ่นเกลียวคลื่น กลิ่นฟองน้ำแตกพราย ฉันเห็นประกายแห่งสายน้ำ ระยิบระยับ สวยงามยิ่งนัก โน่นดูทางโน้นสิคลื่อนลูกใหญ่กำลังมา โถมเข้าหาโขดหินที่ยืนตะหง่าน ไม่ ฉันไม่รู้สึกกลัวหรือตกใจกับการประทะของคลืนกับหิน มันเป็นความไพเราะที่งดงาม นั่น มองไปที่ใต้ผิวน้ำนั่น ฝูงปลาแหวกว่าย หยอกล้อกับดอกไม้ทะเล แสงอ่อนๆสาดส่องลงไป ราวกับไฟที่ฉายไปบนเวที โอ้ นี่หรือที่เค้าว่า ธรรมชาติเป็นสิ่งสวยงาม ไม่หรอก ฉันไม่คิดว่ามันเป็นสิ่งสวยงาม
แต่มันคือ สิ่งมหัศจรรย์!!!
.......................... ไม่ใช่บทละครนะครับข้างบนนั้นน่ะ นั่นคือบทพรรนณาที่ผมมีให้กับเพลง เพลงนึงครับ ชื่อเพลงว่า La Mer ผลงานการประพันธ์์ของ Claude Debussy คีตกวีชาวฝรั่งเศสครับ สำหรับประวัติของท่านผมจะไม่กล่าวถึงมากนักนะครับ
บมเพลงนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดสดยอดแห่งการบรรลุดนตรีอิมเพรสชั่น(Impressionism)
ดนตรีอิมเพรสชั่นคืออะไร ดนตรีอิมเพรสชั่นเป็นกระแสและแนวดนตรีหนึ่งที่แตกขแนงแยกออกมาจากดนตรีคลาสสิคในแบบคลาสสิค เป้นดนตรีที่มุ่งเน้นให้เกิดความประทับใจ เกิดจิตนาการ เกิดมโนภาพจากเสียงเพลง ในด้านการประพันธ์นั้น จะเอกลักษณ์อยู่ที่การใช้สีสัน (Orchestration) อย่างมากมาย ไม่มีทำนองที่ชัดเจนนัก มีการผสมเสียงต่างๆ(ทั้งแนวตั้ง-คอร์ด/และแนวนอน-เมโลดี,เคาน์เตอรพอยน ์ฯลฯ)์ราวกับจิตกรแนวอิมเพรสชั่นที่วาดภาพออกมาด้วยความประทับใจ เป็นเงารางๆ สลัวๆ เต็มไปด้วยหมอก
เพลงนี้มีสามท่อนครับท่อนแรกชื่อว่า De L'aube a midi sur la mer หรือ From dawn till noon on the sea ท่อนนี้ผมชอบมากมายครับ โดยเฉพาะช่วง3-4นาทีสุดท้าย ผมเห็นแสงอาทิตย์สาดส่องรำไร ที่ปลายผืนน้ำเลยครับ งดงามจับใจ
ท่อนที่สอง Jeux de vagues หรือ Play of the waves ท่อนนี้น่ารักมากครับ ฟังแล้งราวกับว่าผมดำดิ่งลงไปเห็นฝูงปลาแหวกว่าย ดอกไม้ทะเล พริ้วไหว เริงระบำ หยอกล้อกับเกลียวคลื่น หรือแม้แต่บางช่วง ภาพมันมาเลยครับว่า คลื่นกระแทกเข้าหาฝั่ง งดงามมากครับ
ท่อนสุดท้าย Dialogue du vent et de la mer หรือ บทสนทนาระหว่างสายลมและท้องทะเล บทนี้ผมก็ชอบสุดๆ โดยเฉพาะช่วง 2-3นาทีหลังๆ ยิ่งใหญ่มากๆ เป็นความงดงาม ประทับใจ ที่ผมไม่เคยลืม
คุณเชื่อมั๊ย ทุกวันนี้ผมต้องฟังเพลงนี้อย่างน้อย1รอบ ไม่งั้นนอนไม่หลับจริงๆครับ (เพลงยาวรวมก็ อืม 8.45+7.10+7+50=? ) ทำไมผมถึงประทับใจกับความงามแห่งท้องทะเลจากเพลงนี้มากมายก้ไม่รู้ แต่ชีวิตจริงผมนั้นตอนนี้ ยังว่ายน้ำไม่เป็นเลยอ่ะ
ผมมีเพลงนี้อยู่3เวอร์ชั่นครับ หมายถึงเพลงเดียวกันทุกประการแต่บรรเลงคนละวง ควบคุมวงคนละคนนะครับ แต่แผ่นที่ผมชอบที่สุดก็คงจะเป็น แผ่นจาก Deutsche Grammophone บรรเลงโดย The Cleveland Orchestra โดยมี Pierre Boulez เป็นคอนดัคเตอร์
อันนี้เป็นรูปปกซีดีที่ผมกล่าวถึงนะครับ
อันนี้คือผู้ประพันธ์ครับพ้ม แล้วคราวหน้า จะพูดถึงดนตรีประเภทที่สองที่ผมชอบนะครับ จาก Impressionism ก็เป็น Minimallism กันล่ะ
Create Date : 11 พฤษภาคม 2550 |
|
2 comments |
Last Update : 12 พฤษภาคม 2550 0:44:56 น. |
Counter : 676 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Gate IP: 124.121.143.143 13 พฤษภาคม 2550 21:07:39 น. |
|
|
|
|
|
|
|
สมกับเป็นพ่อเรา~~~ฮ่าๆๆๆๆ เอิ๊ก!!....................โป๊ก!!!(วิญญาณป๋าเขวี้ยงจานชามลงหัว...ใครเป็นพ่อแกว๊ะ%$£!"*&%"$£}@!!!..)
อืมมมม....แหม บรรยายฟังเข้าท่า เห็นภาพๆ แต่ว่าช่างขัดกับความจริงเสียเหลือเกิน~~......ไอ้ที่ตกบานาน่าโบ๊ตวันนั้นมันอะไรน่ะ?? -*-
ไม่เหลือเค้าความสวยงามของท้องทะเลและหาดทรายระยิบระยับและหยอกล้อคลื่นเต่าทะเลอย่างที่ว่าเลยนะ..
มีแต่ความมึนงงสงสัยเหตุอันไฉนกูจึงตกทะเลกันหนอ?!?...ได้ข่าวว่าห่วงกางเกงก็ห่วง ไหนเลยจะเรื่องความพยายามที่จะว่ายเข้าฝั่งเมื่อเห็นเรือมันคงไม่มารับแน่แล้ว....
โอว~~ โลกนี้มีแต่ความขัดแย้งเสียเหลือเกิน
ปล.ถ้าอ่านคอมม้วนนี้แล้วทำให้เสียมู้ดในการฟังเพลง ลา แมร์ แล้วล่ะก็ อนุญาติให้ปิดตาตัวเองแล้วค่อยอ่าน จะเกิดผลดังที่ว่า ลงลด 14.12 เปอร์เซ็นต์ ด้วยความหวังดี