ปี พ.ศ. 2478 มีการจัดทำตราสัญลักษณ์คณะลูกเสือแห่งชาติขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับสากลที่คณะลูกเสือต่างประเทศทั่วโลก ต่างก็มีตราคณะลูกเสือของตนเองทั้งสิ้น โดยจัดทำตราเป็นรูปเฟลอร์เดอรีส์ หรือ Fleur de lis กับรูปหน้าเสือประกอบกัน มีตัวอักษรคำขวัญอยู่ข้างใต้ว่า เสียชีพอย่าเสียสัตย์
ปี พ.ศ. 2482 ได้มีการออกพระราชบัญญัติลูกเสือขึ้น ที่สำคัญคือให้คณะลูกเสือแห่งชาติเป็นนิติบุคคล และมีพระราชบัญญัติให้ทรัพย์สินของกองเสือป่าตกเป็นของคณะลูกเสือแห่งชาติ
กิจการลูกเสือไทยในสมัยรัชกาลที่ 9
กิจการลูกเสือในสมัยรัชกาลปัจจุบัน ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้เจริญก้าวหน้าเป็นอย่างมาก ทั้งด้านการบริหาร วิชาการ
ปี พ.ศ. 2485 มีการออกพระราชบัญญัติลูกเสือ ฉบับปี พ.ศ. 2485 มีสาระสำคัญ คือ กำหนดให้พระมหากษัตริย์ ทรงดำรงตำแหน่งบรมราชูปถัมภ์คณะลูกเสือแห่งชาติ
ปี พ.ศ. 2507 ได้ออกพระราชบัญญัติลูกเสือ เพิ่มเติมขึ้นอีก มีหลักสำคัญคือ มาตรา 5 - ให้คณะลูกเสือแห่งชาติ ประกอบด้วย บรรดาลูกเสือทั้งปวง ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ผู้ตรวจการลูกเสือ กรรมการลูกเสือ และเจ้าหน้าที่ลูกเสือ นอกจากมีการออกพระราชบัญญัติลูกเสือฉบับต่าง ๆ แล้ว ได้มีการฝึกอบรมลูกเสือชาวบ้านขึ้น เป็นครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. 2514 ณ อำเภอด่านช้าง จังหวัดเลย โดยกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน เป็นผู้ริเริ่มดำเนินการ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงรับกิจการลูกเสือชาวบ้านไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ด้านวิชาการและการฝึกอบรม มีความเจริญก้าวหน้าไปมาก มีการอบรมผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ทุกประเภท ทุกระดับ โดยใช้หลักสูตรฝึกอบรมขององค์การลูกเสือโลก มีการตั้งกองลูกเสือเหล่าอากาสเพิ่มขึ้น มีคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ให้นำหลักสูตรวิชาลูกเสือเข้าอยู่ในหลักสูตรของโรงเรียน มีการจัดตั้งกองลูกเสือวิสามัญขึ้นในโรงเรียน มีการจัดตั้งค่ายลูกเสือระดับจังหวัด ระดับอำเภอทั่วประเทศ เพื่อเป็นที่ฝึกอบรมลูกเสือ และผู้บังคับบัญชาลูกเสือ มีการจัดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ขึ้นหลายครั้ง
ที่มา //www.thaigoodview.com/node/39011?page=0%2C2