พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์พระประธาน

พระสมเด็จบางขุนพรหม(พิมพ์พระประธาน)
พระสมเด็จบางขุนพรหม ที่หลวงพ่อสมเด็จพุฒาจารย์โตเป็นผู้สร้าง มีด้วยกันหลายพิมพ์ และลักษณะพิมพ์ทรงโดยส่วนมาก มีทั้งพิมพ์ที่สร้างเลียนแบบวัดระฆัง และยังสร้างเป็นพิมพ์ที่แตกต่างกันเพิ่มเติมไปอีก เช่นมีพิมพ์พระประธาน พิมพ์เจดีย์ พิมพ์เกตุบัวตูม พิมพ์เส้นด้าย พิมพ์ฐานแซม พิมพ์อกครุฑเศียรบาตร พิมพ์ปรกโพธิ์ และพิมพ์ฐานคู่ เป็นต้น
และพระบางขุนพรหม มีทั้งที่เป็นพระกรุเก่า และพระกรุใหม่ แต่ที่จริงแล้วก็เป็นพระกรุเดียวกัน แต่ขึ้นจากกรุทีละคราว ดังนั้นลักษณะของผิวกรุจึงดูแตกต่างกันไปบ้างในแต่ละองค์ ส่วนลักษณะในทางด้านหลังนั้น อาจจะมีทั้งรอยมือกดแม่พิมพ์ หรืออาจจะเห็นรอยไม้กระดาน ที่ตีอัดพิมพ์พระจนเป็นรอย
อย่างในพระองค์นี้ ยังจะมองเห็นคราบตะไคร่น้ำที่เกาะอยู่ตามผิวพระ ผสมปนกับคราบขี้กรุ สันนิษฐานว่าพระอาจจะจมน้ำอยู่ในบางช่วง แต่ถ้าพิจารณาคราบกรุโดยแยกแยะ จะเห็นว่ามีเพียงคราบฟองเต้าหู้ และขี้กรุที่เกิดจากคราบเหงื่อของน้ำมันตังอิ๋วปุดออกจากในเนื้อ และมาผสมปนกันกับดินกรุ มองคล้ายกับรังจอมปลวกที่ค่อยๆก่อตัวสะสมขึ้นมา.....

พระสมเด็จบางขุนพรหม ตามประวัติเป็นพระที่หลวงพ่อสมเด็จพุฒาจารย์(โต) สร้างไว้เป็นเป็นจำนวนมาก และฝากบรรจุไว้ในกรุไว้ที่วัดบางขุนพรหม ถ้าแยกแยะเรื่องพิมพ์ทรง จะมีมากกว่าพิมพ์ของพระสมเด็จวัดระฆัง อย่างเช่น

1.พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์พระประธาน

2.พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์เจดีย์

3.พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์เกศบัวตูม

4.พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ปรกโพธิ์

5.พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ฐานแซม

6.พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ฐานคู่

7.พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์เส้นด้าย

8.พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์อกครุฑเศียรบาตร

9.พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์สังฆาฏิ

และในแต่ละพิมพ์ทรงนั้น ยังแยกจำแนกเป็นแม่พิมพ์ที่แตกต่างกันออกไปอีก ได้หลายพิมพ์ตามลักษณะที่พบกัน

ส่วนการจำแนกเป็นพระกรุใหม่กับกรุเก่านั้นถือเอาคราบขี้กรุเป็นเกณฑ์พิจารณา หรืออาจนำเอาคราบตราประทับที่อยู่ด้านหลังมาประกอบ อย่างเช่นองค์ที่นำมาลงนี้ เป็นพระสมเด็จบางขุนพรหม กรุใหม่ พิมพ์เกศบัวตูม โดยสันนิษฐาน หรือสังเกตุดูตำหนิพิมพ์ทรงจากเค้าโครงที่เหลือด้านบน คือเส้นซุ้มที่มีขนาดเล็ก พระเกศเรียวเล็กส่วนปลายสะบัดมองเป็นแนวทิวๆเกือบจะไม่ติด วิ่งเข้าหาด้านในของเส้นซุ้ม พระพักตร์เป็นรูปผลมะตูมมีปลายคางแหลม องค์พระเป็นทรงผอมบาง ไม่หนาล่ำสันแบบพิมพ์เจดีย์ หรือพิมพ์ใหญ่ ปลายพระเพลาข้างขวาใหญ่หนาเชิดขึ้น

สำหรับการพิจารณาคราบขี้กรุของพระสมเด็จบางขุนพรหมนั้น องค์นี้เป็นพระกรุใหม่ จึงมีคราบขี้กรุที่ขึ้นซ้อนๆกันหลายๆชั้น และยังคงสภาพเดิมๆไว้ให้ศึกษา อย่างเช่น

ก.คราบฟองเต้าหู้ จะมองเห็นขึ้นฟูย้วยตัวเกาะแน่น มีลักษณะเป็นสีขาว มองกลืนติดอยู่ภายใต้ดินคราบของดินขี้กรุ

ข.คราบดินขี้กรุ จะมองเป็นสีแบบดินปนโคลน หรือที่เรียกว่าดินขี้เป็ด ขึ้นคลุมอยู่ตามผิวพระทั่วๆไป

ค.คราบดินขี้กรุผสมกับยางของน้ำมันตังอิ๋ว หรือบางท่านอาจเรียกกันว่าสนิมขี้กรุ จะมีลักษณะปูดขึ้นมาจากในเนื้อมองคล้ายกับจอมปลอกที่เกาะตัวซ้อนกัน มีลักษณะเป็นสีน้ำตาลเข้ม ซึ่งถ้าล้างหรือแคะออกก็คงดึงเนื้อออกไปด้วย เหมือนตรงด้านซ้ายข้างบนที่อยู่เหนือนอกซุ้มขึ้นไป จะมีลัษณะของการกระเทาะออกของดินคราบขี้กรุ หรือสนิมขี้กรุ ทำให้มองเนื้อพระข้างใน เป็นเนื้อผงสีขาวอมเหลือง

ส่วนที่เหลือนอกจากที่กล่าวมาแล้ว ก็จะคงเหลือแต่คราบผิวนวลฝุ่น กับผิวแป้งที่เกิดจากปฏิกิริยาจากปูนเปลือกหอยขับเป็นฝ้านวลขาวออกมา หรืออาจจะมีเศษอิฐของเจดีย์ ที่เป็นสะเก็ดชิ้นเล็กๆ แตกหักพังและปลิวลงมาติดกับคราบดินขี้กรุอีกที


(จากเว็ปพระไทย..ขออนุญาติคัดลอกมาเพื่อพิพม์เผยแพร่)


*****************

Create Date : 08 มิถุนายน 2554		0 comments
Last Update : 8 มิถุนายน 2554 20:27:54 น.
Counter : 9723 Pageviews.
Share Tweet