" ดูดวง..ตามดาว " กับ หมอมุก // โทร. 081-270-2838 // สวัสดีปี 2555 ..... (ปีนี้น่าจะดีขึ้นไปเรื่อยๆ..การก้าวเดินต่อจากนี้ไป อย่ากังวลกับสิ่งที่ผ่านมา แต่ให้เตรียมพร้อมที่จะก้าวไป ฯ)
 
เมษายน 2554
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
26 เมษายน 2554

"จะทำอย่างไร..เมื่อถูกมนต์ดำเล่นงาน"

สรรพวิชาในโลกหล้า เมื่อมีด้านขาวย่อมต้องมีด้านดำ วิชาทางขาวให้คุณในด้านดีมีมงคลฉันใด ด้านดำก็ย่อมให้ผลในทางกลับกัน ฉันนั้น!!

สิ่งที่ผู้เขียนจะบรรยายถ่ายทอดประสบการณ์นี้ก็ขอให้รับฟังกันไว้ด้วยวิจารณญานฯ เท็จจริงอย่างไรเห็นจะรู้ได้เฉพาะแก่ผู้ที่ได้ผ่านประสบการณ์นั้นด้วยตัวของตัวเอง (แล้วจะซึ้งยิ่งกว่าคำบอกเล่าใดใดที่เคยได้ยินได้ฟังกันมา)

อดีตที่เพิ่งผ่านมา(ไม่นานนัก.) เป็นสิ่งที่ไม่สามารถจะลืมเลือนไปจากใจของผู้เขียนได้เลยตลอดจนชั่วชีวิต หลายท่านเมื่อรู้ว่าจะได้ประสบพบเจอกับเรื่องไม่ดี ไม่เป็นมงคล คนส่วนมากเืลือกที่จะหลีก และ หลบ แต่เรื่องที่ผู้เขียนจะนำมาถ่ายทอดให้กับท่านได้รับทราบจากประสบการณ์นั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นโดยสภาวะจิตล้วน(เป็นการนำจิตเข้าไปศึกษากับสภาวะธรรมอย่างเต็มที่ ซึ่งมารู้เอาในภายหลังว่าไม่ควรเป็นอย่างยิ่ง เพราะมันเสีั่ยงเกินไป พูดง่ายๆก็คือ ถ้าไม่บ้าเสียสติ ก็ตายไปเลย) และ ผู้เขียนเองในขณะนั้นเลือกที่จะไม่หลบ(ลองสู้ดูเพื่อจะรู้ให้ได้ว่ามันคืออะไร!!!!)

ศึกษาด้านขาวมาเยอะ ขอลองด้านดำดูบ้าง ตามคำโบราณที่ว่า " ไม่รู้ดำฤาจะรู้ขาว ไม่รู้ผิดฤาจะรู้ถูก " ขอเตือนว่า เรื่องเหล่านี้หากกำลังใจไม่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยวแล้ว อย่าได้ลอง บางครั้งเรื่องบางเรื่องเราก็ไม่จำเป็นจะต้องไปลองด้วยตนเอง เพราะไม่แน่ว่าท่านอาจจะได้ไปลองกะมันต่อในปรโลกก็เป็นได้...โอกาสที่จะได้กลับมาบอกเล่าสู่กันฟังนั้นเป็นเรื่ืองยากยิ่ง บางรายอยากจะเล่าก็เล่าไม่ได้เพราะหมดโอกาสที่จะเล่า

หวังว่าทุกท่านคงจะเข้าใจ และ คงเคยได้ยินได้ฟังกันมาบ้าง บางท่านก็อาจมีโอกาสได้ประสบสัมผัสด้วยตัวของตัวเอง เผื่อว่าวันใดวันหนึ่ง เมื่อวันของท่านมาถึง ท่านจะได้ไม่ตกใจจนเสียสติฯ และนั่นย่อมหมายถึงมหันตภัยร้ายเสียยิ่งกว่าภัยใดใดเพราะมันจะตามรังควานท่านเรื่อยไปไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย และพร้อมจะปะทุขึ้นเพื่อเล่นงานท่านได้ทุกเวลา ยิ่งเสียกว่า สึนามิ เสียอีก ...



(ภาพถ่ายที่เขาค้อ เพชรบูรณ์..ภาพปริศนาธรรม)


ก่อนจะเริ่มเรื่องราว ขอทุกท่านจงสำรวมสติในอารมณ์แห่งสมาธิ เพื่อการติดตามจะได้ไม่ก่อให้เิกิดโทษภัยและความผิดพลาดใดใด เพราะความลี้ลับอันมหัศจรรย์พลันลึกทางจิตสัมผัสนั้นย่อมมีขึ้นได้ในผัสสะทุกๆชนิด และหากไม่จำเป็นจริงๆ ก็อย่าได้อ่านเลย จะเป็นการดี!! และหากจำเป็นที่จะอ่านก็ขอให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัยไว้ด้วยจักเป็นการดีที่สุด เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง

ประโยชน์อันใดที่จักพึงมีจากการนี้ ขอน้อมบูชาคุณพระรัตนตรัย คุณพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ผู้มีพระคุณอันสุงสุดในชีวิตนี้ ................................
โทษกรรมใดใดอันเป็นความผิดพลาด ผู้เขียนขอน้อมรับไว้แต่ผู้เดียว


............................................


เมื่อมรณะภัยมาเยือน


เย็นย่ำค่ำลง เมื่ออาทิตย์ลับจากขอบฟ้า สรรพสิ่งเข้าสู่ความเงียบสงัดลงเป็นลำดับ เมื่อผู้เขียนได้กลับจากที่ทำงาน ถึงบ้านตามปกติ รู้สึกว่าร่างกายมีสิ่งอันไม่ปกติเกิดขึ้นกับตัว รู้สึกคลื่นไส้พะอืดพะอมอยู่ภายในอย่างบอกไม่ถูก จากนั้นจึงได้ไอไม่หยุด เริ่มจากค่อยๆไอทีละน้อย ไปจนไอถี่ขึ้นๆ จนตัวหอบโยน ร่างกายเกิดอาการเกร็งไปหมดทั้งร่าง นับจากศรีษะไปจนถึงปลายเท้า หายใจติดขัด แน่นหน้าอก และ เมื่อไอครั้งสุดท้าย ร่างกายก็เหมือนจะหมดลมแข็งชาเหมือนคนใกล้ตายและเริ่มหายใจไม่ออก พร้อมกับจิตสุดท้ายก่อนจะสิ้นลม ก็ได้มารวมตัวกันพร้อมในคราวเดียว คิดในใจอย่างรวดเร็วและรู้ได้ภายในจิตทันทีว่า " เรากำลังจะตาย............"



จึงได้เรียกให้ภรรยาซึ่งขณะนั้นกำลังตกใจมาก ร้องไห้ทำอะไรไม่ถูก เฝ้าแต่ร้องบอกว่าอย่าเป็นไรนะๆ ถ้าพี่เป็นอะไรไปน้องจะอยู่กับใคร... บอกให้ช่วยไปจุด
ธููปบอกพ่อแม่ครูอาจารย์

คิดในใจว่า ถ้าแม้ต้องตายลงในเวลานี้ก็ขอให้ท่านผู้มีพระคุณทั้งหลายได้โปรดมารับด้วย แต่หากยังไม่ถึงแก่อายุขัยอันถึงคราวจะต้องมรณะ ก็ขอให้อาการจงทุเลาลง

พลันเหลียวมองดูตามร่างกาย พบจุดเขียวคล้ำแปลกประหลาดขึ้นที่ฝ่ามือทั้งซ้ายและขวา ข้างละสามถึงห้าจุด เป็นวงกลมเีขียวคล้ำขึ้นนูนเ็ต็มไปหมด รู้สึกหมดเรี่ยวหมดแรง และ กำลังหายใจไม่ออก...

คลั้นฝ่ายภรรยาเมื่อกำลังจุดธูปอยู่นั้น ผู้เขียนก็ได้ตั้งจิตมั่นคงอยู่ในคุณพระรัตนตรัย แม้ขณะนั้นจะมีเวทนากล้าเพราะร่างกายแข็งเกร็งเจ็บปวดและทรมานเป็นอย่างยิ่ง ให้นึกถึงคนที่เป็นตระคิวทั้งร่างว่าจะเจ็บปวดทรมานขนาดไหน และ ในขณะนั้น ได้นึกถึงพระคุณของพระอาจารย์............. (ขอไม่บังอาจเอ่ยนาม..เพราะยังมิได้ขออนุญาติจากท่าน..เกรงคนปรามาสจะเกิดกรรมโดยมิได้เจตนาฯ)

สิ้นคำอธิษฐานอยู่ภายในขณะคับขันนั้นเอง เหมือนความอัศจรรย์ได้พลันบังเกิดขึ้น ดังแสงแห่งสายฟ้าแลบลงเปิดแทรกความมืดดำ ยังความสว่างไสวแก่ดวงจิตเป็นอัศจรรย์ ประหนึ่งได้พัดพาเอาความเลวร้ายดังเมฆหมอกบดบังดวงจันทร์ เกิดความสว่างไสวขึ้นภายใน อาการที่แข็งแกร็ง หายใจหอบแน่น ลมเฮือกสุดท้ายที่กำลังจะหมดลงในท่ามกลางระหว่างกำลังหายใจไม่ออกอยู่นั้น ก็เริ่มหายใจขึ้นได้อีกอย่างช้าๆ ....



การเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ในชีวิต เมื่อดวงจิตรวมตัว

" เมื่อเวลาถึงคราวคับขัน ใกล้ตาย จิตจะรวมตัวกัน คำว่ารวม ก็คือหมายเอาทั้งหมด เราจะรู้ได้ถึงสิ่งที่เราได้เคยทำมาในอดีต สิ่งที่เราบำเพ็ญมา ทั้งดีชั่ว บาปและบุญ และ ณ จุดๆนี้(จุดที่เราก็ไม่สามารถจะไปหมายเอาหรือกำหนดกฏเกณฑ์ใดใด ทุกอย่างขึ้นอยู่กับระยะเวลา) เราก็จะสามารถรู้ได้ถึงต้นทุนของเราเอง ว่ามีมาแค่ไหน อย่างไร ..."



มหาเมฆหมอกเริ่มก่อตัว



กลุ่มเมฆดำทะมึน โผล่ขึ้นในอากาศเต็มท้องฟ้า เป็นสัญญานบอกเหตุไม่ดีกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า......ตั้งแต่โบราณกาล หากจะสังเกตุให้ดี เขาจะดูกันที่ท้องฟ้า หากมีสิ่งผิดปรกติ ก็จักนำมาซึ่งเหตุเภทภัยต่างๆ .....

และ ผู้เขียนเองก็รู้สึกได้ถึงสิ่งที่กำลังจะมา..ว่าย่อมไม่ธรรมดา

คิดทบทวนไปมาอยู่หลายตลบว่าจะเขียนเรื่องนี้ขึ้นมาดีหรือไม่ แต่ สุดท้ายก็จำใจลองเขียนบอกเ่ล่าประสบประการณ์ที่ได้สัมผัสมา (สงสารคนรุ่นหลังที่ต้องเจอเรื่องต่างๆเหล่านี้ กลัวจะรับไม่ไหว !!!) อย่างน้อย จะได้รู้ทางหนีทีไล่ ทางหลบ และ ทางหลีก เมื่อยามมหันต์ภัยมาเยือน........................

แม้กาลเวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน..แต่เรื่องของคุณไสยมนต์ดำนั้นไม่มีล้าสมัยหรือหายสาบสูญไปไหน เนืองจากเราไปเล่นกับมัน ดังนั้นมันจึงยังคงอยู่คู่กับเราไปจนชั่วฟ้าดินสลายเช่นกัน ความสามารถของฝ่ายดำนั้นมันลึกซึ้งลุ่มลึก และ มหัศจรรย์ เกินกว่าคำบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้เลย เรียกว่า สามารถที่จะดลบันดาลให้สรรรพสิ่ง ไม่ว่าคนสัตว์สิ่งของหรือสถานที่แปรเปลี่ยนไปได้เพื่อวัตถุประสงค์อันเป็นไปโดยฝ่ายดำล้วนๆ การจะผ่านไปได้ย่อมไม่ใช่เรื่องที่จะกระทำได้โดยง่ายดาย

ดำมืดทะมึน......

ไม่มีตำรามาอิงอาศัย ไม่มีความคิดอันใดจะมาช่วยท่านได้ และจะไม่มีใครมาช่วยท่านอีกด้วย...ขอให้เตรียมตัวเตรียมใจให้ดี.. หากท่านกำลังจะโดน โดนเข้าแล้ว หรือ โดนมาแล้วก็ตาม หรือกำลังคิดที่จะไปยุ่งกับมัน ขอให้ท่านทบทวนสิ่งที่จะกระทำดูอีกที ผลลัพธ์ที่ตามมาย่อมไม่เป็นไปเพียงแค่สิ่งที่ท่านต้องการเท่านั้น แต่มันจะลึกซึ้งกว่าที่ท่านคิดเอาไว้มากมายหลายเท่านัก

ตั้งสติ พร้อมเผชิญหน้ากับมันไปเลย เพราะอย่างน้อยยังพอมีทางรอดได้ แต่ถ้าหลบ หรือ ตกเป็นทาสมัน ท่านจะต้องเป็นทาสมันไปจนตลอดชั่วชีวิต !!!!!!!!!!!!!!!!

สรรพวิชาเหล่านี้มันมีอยู่..ตราบใดที่มนุษย์ยังดั้นด้นที่จะเข้าไปยุ่งกับวิญญานที่ชั่วร้าย สิ่งเหล่านี้ก็ยังคงวนเวียนอยู่กับเราเหมือนเป็นมิติที่คู่ขนานกันไป เหมือนกลางวันและกลางคืน เรารู้เขา เขารู้เรา เราเห็นเขา เขาเห็นเรา ไอเขาน่ะมัีนเห็นเราเต็มๆอยู่แล้ว รอแต่ว่าเมื่อไหร่ที่เราเผลอ เมื่อนั้ืนแหละเขาก็จะมา ฯ

วิญญานที่ถูกสั่งให้มานั้นน่าสงสารมาก ต้องมาทำในสิ่งที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไปเพื่ออะไร ในเมื่อให้มาก็ต้องมา รู้แค่นั้น .. บางทีก็มาเฝ้า รอ วนเวียนอยู่รอบๆ เห็นเป็นตัวเลยนะ มาวนเวียน บางทีหาทางเข้ามาทำอะไรเราไม่ได้ ก็ร้องไห้เสียใจอยู่ตรงนั้น เวรกรรม ........... สติอย่างเดียว เมื่อสติเราตั้งไว้แล้วเป็นอัตโนมัติ เหมือนยามคอยเฝ้าบ้าน ใครไปใครมาก็จะรู้ใช่มั๊ย ... อันนีึ้ก็เหมือนกันแต่มันจะละเอียดกว่ามาก ชัดเจน เข้าใจ แต่บางทีมันจะหาที่มาที่ไป หรือ รากเหง้าของมันเลยว่้าทำไมถึงเป็นเช่นนี้ ?

ในดำมีขาว-ในขาวมีดำ

เห็นอดีตชาติ-เส้นสายลายกรรม


เมื่อการเตรียมพร้อมของสภาวะจิตที่ทรงตัวตั้งรับอย่างเต็มที่(เนื่องจากหลังชนฝา) ดังนั้นสิ่งที่จะต้องเจอระหว่างนี้ ขอให้ท่านเตรียมตัวและทำใจ อย่าตกใจจนเสียสติไปเสียก่อน เพราะเรื่องเมื่อดำเนินมาแล้วย่อมต้องมีผ่านไป ขอให้กำลังใจให้ท่านพยายามผ่านมันไปให้ได้ เมื่อแขกมาแล้วจะอย่างไรย่อมต้องต้อนรับ....

ระหว่างนี้จะมีการชิงไหวชิงพริบกันในทุกขณะจิต หากท่านเผลอ ฝ่ายดำจะทำงานเต็มที่เพื่อที่จะดึงท่านไปให้พ้นทาง(ที่ดี)....มีเรื่องราวให้ได้ศึกษามากมาย ระหว่างความดีความเลว สัจจะ ความจริง กับความไม่จริง อะไรขาว อะไรดำ จะออกจากดำได้อย่างไร เมื่ออยู่ในความดำทำอย่างไรจะเจอความขาว ? (ท่านจะไปถามใครได้)

อดีตชาติและเส้นสายลายกรรมจะมาทำงานพร้อมๆกัน ณ จุดๆนี้ จุดที่สักายทิฐฐิ(ความเป็นตัวเป็นตน)ทั้งภายในและภายนอกใกล้จะแตกสลายลง ในเมื่อกายภายนอกไม่จริง และ กายภายในจะจริงได้อย่างไร เมื่อกายภายในไม่จริง กายภายนอกไม่จริง เมื่อเทออกไปหมดมันก็ไม่มีเหลืออะไรแล้ว เพราะเห็นแจ้งทั้งภายในและภายนอก ว่าไม่ใช่ตัวตน ทุกอย่างเป็นเพียงแค่ภาพมายาที่เกิดขึ้นเพียงแค่ชั่วขณะ แล้วก็ดับไป

(มีตัวรู้ รู้ในสิ่งที่รู้ เข้าใจและละสิ่งที่ถูกรู้ และละสิ่งที่เข้าไปทำการรู้..........................................)

สภาวะภายในได้แสดงของมันออกมาเอง(ควบคุมไม่ได้)จนหมดสิ้น อะไรที่ติดค้างภายในที่คั่งค้างอยู่จะปรากฏชัดเจนผสานทั้งภายในและภายนอก คือสิ่งที่เกิดขึ้นภายในจิต แสดงออกมาภายนอกกาย ผสานระหว่างในนอก ปรากฏเป็นสภาวะหนึ่งเพื่อจะพิสูจน์ในโลกสมมุติและวิมุติฯ

เห็นตัวเองเป็นเด็กน้อยอยู่ในครรภ์ของมารดา



จิตเข้าไปเห็นตัวเองเป็นเด็กทารกในครรภ์มารดา กายภายนอกเปลี่ยนไปตามจิตสัมผัส ก็เป็นเด็กทารกในขณะนั้นเอง เรียกว่าเมื่อจิตเป็นอย่างไร ภายนอกก็เป็นอย่างนั้น ฯ (ระยะนี้เริ่มน่ากลัวเป็นอย่างมาก....พูดง่ายๆคือถ้าไม่มีผู้รู้และเข้าใจอยู่ใกล้ชิด ท่านจะต้องถูกจับส่งรพฯบ้าอย่างแน่นอน หรือมิฉะนั้นอาจจะทำการฆ่าตัวตายได้เพราะความบ้า ระวังไว้ให้ดี)

เกือบบ้า

คนที่บ้าส่วนหนึ่งไม่ได้บ้าไปทั้งหมด แต่สติถูกทำลายไปบางส่วนทำให้ไม่สามารถที่จะควบคุมสติและสัมปชัญญะได้ เลยต้องปล่อยให้เป็นไปตามสิ่งที่อยู่ภายในจะบังคับควบคุมให้แสดงออกมาฯ

สวรรค์บนดิน



เตร็ง แตรง แตร่ง เตร๊ง ..แตร็ง เต่ง แตร๊ง แตรง แตร่ง ... ใครเคยเห็นบรรยาศบนสวรรค์มั๊ย ว่าเค๊าอยู่กันอย่างไร อะไรคือ อาหารทิพย์ของสวรรค์ ชาวสวรรค์มีความสุขอยู่ด้วยอะไร ... ?

ตอบให้ก็ได้ ไม่กลัวผิดหรอก .. บนสวรรค์เค๊าอยู่กันด้วยความสุข แบบสุดๆ มันก็ไม่ต่างอะไรกันกับความสุขที่เราได้รับในสมัยยังอยู่บนโลกมนุษย์หรอก แต่มันละเอียดอ่อนและปราณีตกว่ากันมากมายหลายร้อยเท่านัก จะทำอะไรจะไรมันก็สุขไปซะหมด อย่างนี้ล่ะหนา ถึงว่าเทวดานางฟ้า ติดสุข .......... เพราะไม่ค่อยจะเห็นความทุกข์เหมือนบนโลกมนุษย์ แต่มันก็ไอ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส เหมือนกัน ล่ะน่า มีให้สุขแค่นี้ ให้ติดแค่นี้ มันจะติดหรือไม่ติด มันก็อยู่แค่ตรงนี้ หากเราพอใจความสุขแบบนี้ ชอบแนวนี้ ก็หมั่นทำบุญกุศลให้มากๆ อธิษฐานขอให้ตายแล้วได้มาเสพความสุขยิ่งๆขึ้นไป ก็จะได้มาสวรรค์แล้ว ไม่ยาก มันเพลิดเพลินไปเสียจริงๆ ชวนให้ลุ่มหลงในความสุข อย่างบอกไม่ถูก

ขึ้นชื่อว่าสุข ใครบ้าง ไม่อยากได้รับ .....

ทุกคนอยากจะมีความสุข เสียอย่างเดียว คือมันไม่สุขไปจนตลอดกาล คือ สุขไม่ถาวร ลึกๆแล้วมันคือทุกข์เลยแหละ ที่ทำให้เราเข้าไปผูกติดอยู่กับแค่ความสุข พอใจอยู่เพียงแค่นั้น ก็เพลิดเพลินไป ฯ ................


มรณสัญญา(ตาย)





กายตาย จิตไม่ตาย
พบจิตดวงใหม่ แต่กายเดิม


แสงแห่งธรรม





พระอาทิตย์ทรงกลด




ประตูนิพพานเปิด




พบครูบาอาจารย์ในอดีต


เห็นสังสารวัฎ-นรก-สวรรค์-พรหม-นิพพาน สิ้นสงสัยฯ


มหาเมฆหมอกเริ่มคลายตัว


เข้าพบพระอาจารย์

สองคืนแล้วที่ไม่ได้นอนนับ..วันนี้ก็เป็นวันที่สาม สติทรงเป็นณานในมหาสติ ตื่นรู้ เพื่อเตรียมพร้อม ..



คลานเข้าไปหมอบแทบเท้าพระอาจารย์.....
นอนหอบหายใจเข้า-หายใจออกอยู่ 3 ครั้ง จิตเรียบ.............พลางเหลียวขึ้นไปมององค์หลวงพี่พระอาจารย์ เห็นเป็นพระประธานองค์ใหญ่ สวยสดงดงาม เหลืองอร่าม เต็มองค์..มีรัศมีสว่างไสว ไม่มีประมาณ คลุมอยู่..เหมือนนอนอยู่ใต้ฐานพระประธาน.


บทสรุป-ชีวิตที่เหลืออยู่






( ติดตามได้ในตอนต่อไป..อัพเดทไปเรื่อยๆ..เรื่องค่อนข้างยาว....... )










 

Create Date : 26 เมษายน 2554
0 comments
Last Update : 16 มีนาคม 2555 22:31:33 น.
Counter : 2550 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


MOTOAKANOE
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]





" ทุกชีวิตล้วนมีจุดเริ่มต้น และ จุดสิ้นสุด
สำคัญที่ว่าคุณกำลังอยู่ตรงที่จุดไหนของมัน
เท่านั้นเอง ..."


" อัญมณีล้ำค่า...แม้อยู่ในป่า ก็ดูสว่างสดใส
ยังประโยชน์ ..แก่มนุษย์ สรรพสัตว์
และ เทวา...ฉันใด
ยังจิตใจให้สาธุชน...เบิกบาน
สงบ..สถิตย์..นิ่งดับ..ทุกสถาน
อมตะธรรมนิรันดร์กาล..มั่นหมาย
ตราบจนสิ้นชีวา ชมน์ วาย...
ร่างสลาย..แต่ใจอยู่...คู่ฟ้าดิน...... . "


" ไม่เห็นทุกข์.........ไม่เห็นธรรม (แท้จริง) "


" พระแท้ย่อมไม่กลัวแว่นขยาย ...
แสงมากไป น้อยไป ยังไงก็ยังแท้.....
พระในใจของเราสิ ผันแปร.....
ไม่คงแท้เหมือนใจพระ ในใจเรา "

" บุญเราทำมาดีแล้ว..ก็รักษาความดีของเรา
ให้ยิ่งๆขึ้นไป เหมือนเกลือรักษาความเค็ม "


" คนใกล้ชิดที่เรารู้จัก..ก็ทยอยตายกันไป คนแล้ว..คนเล่า..จากปู่..ย่า..ตา..ยาย..ญาติสนิท..มิตรสหาย.เพื่อนคู่ทุกข์คู่ยาก...พ่อ..แม่...ครูบาอาจารย์..........ต่อไปก็คงเป็นเรา ."


" เย็นเยือกดับสนิท..คล้ายคนตาย ................ ทว่า ยังไม่ตาย "

" อยากกู่ก้องร้องตะโกนไปให้ก้องฟ้าฯ .. ทว่าเสียงจะออกมามันไม่มี.........ทุกข์ใดๆภายในปฐพี....ดับหมดสิ้นครานี้ เพราะไม่เอา!!! "

--------- 000 ----------

บูชาคุณพระรัตนตรัย พ่อแม่ ครูอาจารย์ เทพพรหมเทวาผู้มีพระคุณ เผยแพร่ประวัติพระอริยะ เกจิอาจาย์ เป็นธรรมทาน

--------- 000 ----------

ห่วงใย สถานการณ์น้ำท่วม (เชิญชวนทุกท่าน ร่วมกันปฏิบัติบูชา ใน ทาน ศีล และ ภาวนา เอาอนิสงค์ ร่วมอธิษฐานจิต ช่วยให้เมืองไทยรอดพ้นวิกฤตกรรม แผ่เมตตาให้ประชาชนที่ตกทุกข์ได้ยาก รอดพ้นจากภัยพิบัติ ฯ)
ทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้านเลย !!! (ฝนตกทีละเม็ดยังให้น้ำท่วมได้มากขนาดนี้ฉันใด แรงอธิษฐาน แม้้น้อย หากรวมกันเป็นพลังใจย่อมยังให้โลกอันเร่าร้อนได้รับความชุ่มเย็นได้บ้างก็ฉันนั้น.)

หมอมุก 15/10/54

***

" ขอให้ทุกคนมีสติ.. เตรียมพร้อม.. และ ปล่อยวาง ฯ
น้ำมีขึ้น..ย่อมมีลง "

(ขอพรพระสยามเทวาธิราช และ ขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยคุ้มภัย จากรุนแรงร้ายให้กลายเป็นทุเลาเบาบาง)

****
ปล.ฝากความคิดเห็นของท่านไว้ได้ในทุกๆกระทู้..เพื่อทราบความเคลื่อนไหวและรายงานผลการติดตาม..เพื่อที่จะพัฒนาผลงานต่อไปฯ

(ขอบคุณในทุกๆ..Comment.เพื่อสร้างสรรค์สิ่งดีๆสู่สังคมฯ)

***

" ก้าวข้ามผ่านไปในแต่ละปี เพื่อสิ่งที่ดีขึ้นกว่าในปีต่อไป..เป็นแรงใจให้ทุกๆคนในปีใหม่ที่จะมาถึงนี้ครับ "

สวัสดีปี 2555

***
New Comments
[Add MOTOAKANOE's blog to your web]

MY VIP Friend