หมวกสีเขียว : จากหนังสือ Six Thinking Hats ของ Dr.Edward De bono หมายถึงความคิดสร้างสรรค์
 
ตุลาคม 2551
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
9 ตุลาคม 2551

my article in Bizweek Krunthepdhurakij

"“คิดย้อนศร” โอกาสธุรกิจที่ใครๆคาดไม่ถึง"
By prapas
บางทีการฟังธรรมะ ก็ชวนให้คิดเรื่องทางการตลาดได้อย่างไม่น่าเชื่อเหมือนกันครับ
สัปดาห์ก่อนพระมหาสมปอง พระนักเทศน์ยุคใหม่ แห่งวัดสร้อยทอง ได้เมตตามาแสดงธรรมให้พนักงานที่ออฟฟิศผมฟัง ในหัวข้อเกี่ยวกับวิธีการทำงานให้มีความสุข เท่าที่ทราบคิวงานของท่านถ้าจองวันนี้จะได้ฟังท่านแบบตัวเป็นๆ คงต้องเกือบถึงกลางปีหน้า
แนวคิด “ธรรมะดิลิเวอรี่” ที่เว็บไซต์ของท่านให้คำจำกัดความไว้ชัดเจนว่า “ส่งถึงที่ ซึ้งถึงใจ ธรรมะแบบง่ายๆ ธรรมะเป็นเรื่องเข้าใจง่าย ธรรมะเป็นเรื่องสนุก”
การแสดงธรรมให้สนุกและไม่น่าเบื่อนั้น อาจไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะตอนผมเป็นเด็ก พ่อผมมักนำเทปการบรรยายธรรมของท่านปัญญา มาให้ฟังอยู่บ่อยๆ ซึ่งตอนนั้นท่านบรรยายตามแบบฉบับของท่านด้วยธรรมะที่เข้าใจได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก และสนุกมาก
ยิ่งการบรรยายของพระพยอมในยุคต่อมา คงไม่ต้องพูดถึง คิวการบรรยายของท่านแน่นยิ่งกว่าดาราดังๆ เสียอีก แม้ทุกวันนี้ ผมก็ยังได้ข้อคิดจากท่าน ด้วยธรรมะที่สนุกสนาน แต่มีข้อคิดและข้อเตือนใจ
พระอาจารย์ทุกรูปที่ผมได้กล่าวถึงด้วยความเคารพนั้น ปรับเปลี่ยนแนวทางการบรรยายธรรมะ ให้เข้าถึงความสนใจของคนทั่วไป ที่เดิมอาจเคยคิดว่าเป็นเรื่องน่าเบื่อ ไม่สนุก ให้เป็นเรื่องสนุก และสามารถนำข้อคิดจากการบรรยายธรรมไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง
โดยเฉพาะพระพยอมและพระมหาสมปองนั้น สามารถยกตัวอย่างเพื่อประกอบการบรรยายได้อย่างทันสมัย และอยู่ในกระแสความสนใจของสังคม แล้วมาปรับเข้ากับเนื้อหาทางธรรมะที่ตั้งใจเมตตาสั่งสอนผู้คน
การบรรยายธรรมะที่สนุกสนาน และธรรมะดิลิเวอรี่ของพระมหาสมปอง จึงเป็นเรื่องที่ผมอยากชวนให้คิด เพื่อหาวิธีทางการตลาดและสื่อสารทางการตลาด ในแบบที่เรียกว่า คิดแบบย้อนศร (Reverse Method / Thinking)
ถ้าคนทั่วไปคิดว่าธรรมะเป็นเรื่องน่าเบื่อ พระอาจารย์ทั้งสองท่าน ก็ทำให้เป็นเรื่องสนุก ขำกว่าตลกบางคนเสียอีก แถมยังได้ข้อคิดดีๆ มากมาย
จะฟังธรรมะต้องไปที่วัด ในยุคสมัยนี้บางครั้งเป็นเรื่องยาก พระมหาสมปองท่านจึงเอาธรรมะไปให้ฟังถึงที่เรียกว่า “ธรรมะดิลิเวอรี่” คนที่ไม่ค่อยมีโอกาสไปที่วัดก็สามารถได้ฟังธรรมจากท่านถึงออฟฟิศ ถึงแม้ว่าท่านอาจไม่ใช่พระรูปแรกที่เดินสายบรรยายธรรม แต่ท่านก็ได้ทำให้แนวคิดนี้แข็งแกร่งขึ้นอย่างชัดเจน
สมัยก่อนจะขอกู้ซื้อบ้านต้องไปธนาคารและมีขั้นตอนที่ยุ่งยากมากมาย แต่ธนาคารหลายแห่งวันนี้ พนักงานสินเชื่อออกไปรับบริการลูกค้าถึงสถานี BTS
การเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้าของท่านนายกชาติชายในอดีต ผมก็ยังชื่นชมวิธีคิดของท่านจนถึงทุกวันนี้ หรือแนวคิดของหน่วยงานรัฐบางแห่ง ที่ออกไปรับใช้ประชาชนด้วยบริการเคลื่อนที่เพื่ออำนวยความสะดวก แทนที่จะนั่งเป็นเจ้านายให้ประชาชนต้องดิ้นรนไปใช้บริการที่หน่วยงานเพียงอย่างเดียว ผมว่าหน่วยงานของรัฐหลายแห่งควรหันมาให้ความสนใจ อย่าคิดอย่างเดียวว่า...เป็นไปไม่ได้
ในยุคที่เศรษฐกิจผันผวน เราคงเคยเห็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในต่างประเทศ หรือแม้แต่ในบ้านเราที่ "เคย" แข่งกันแบบเอาป็นเอาตาย หันมาจับมือกันดื้อๆ แบบที่ใครๆ คาดไม่ถึง เพื่อทำให้ธุรกิจแข็งแกร่งขึ้น
Steve Jobs ให้สัมภาษณ์ตอนออก I-phone ที่คนเข้าคิวกันซื้อเหมือนแจกฟรี ว่าอยากปฏิวัติวงการโทรศัพท์มือถือ โดยได้ออกแบบให้โทรศัพท์นั้นต้องเข้าใจผู้ใช้ด้วยวิธีการที่ง่ายที่สุด ไม่ใช่ผู้ใช้ต้องทำความเข้าใจความสลับซ้อนของเทคโนโลยี
"ความคิดสร้างสรรค์" นั้นเป็นการสร้างทางเลือกของความคิดหลายๆ ทาง เพื่อนำไปสู่การหาวิธีใหม่ๆ หรือแก้ปัญหาในรูปแบบที่แตกต่าง การย้อนศรหรือย้อนรอยที่มาของปัญหาอาจเป็นอีกหนึ่งหนทางที่ทำให้เราแก้ปัญหาด้วยวิธีที่ต่างไปจากเดิม
คงต้องเอาใจช่วยรัฐบาลกันนะครับ เพราะท่านคงพยายามทำสิ่งต่างๆ มากมาย เพื่อไม่ให้บ้านเมืองของเราเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจ “ขาลง”
ก็ขอให้เป็นเศรษฐกิจ “ขาขึ้น” เสียทีนะครับ เพราะเศรษฐกิจเราย่ำอยู่กับที่และถอยหลังมาหลายปีแล้ว
แต่ขออย่างเดียวอย่าให้คำว่า “ขาขึ้น” นั้น หมายถึง เอาขาขึ้นมาก่ายหน้าผากก็แล้วกันครับ



Create Date : 09 ตุลาคม 2551
Last Update : 9 ตุลาคม 2551 10:16:07 น. 0 comments
Counter : 275 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

moo lopburi
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add moo lopburi's blog to your web]