|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
9 ตุลาคม 2551
|
|
|
|
my article in Bizweek Krunthepdhurakij
"คิดย้อนศร โอกาสธุรกิจที่ใครๆคาดไม่ถึง" By prapas บางทีการฟังธรรมะ ก็ชวนให้คิดเรื่องทางการตลาดได้อย่างไม่น่าเชื่อเหมือนกันครับ สัปดาห์ก่อนพระมหาสมปอง พระนักเทศน์ยุคใหม่ แห่งวัดสร้อยทอง ได้เมตตามาแสดงธรรมให้พนักงานที่ออฟฟิศผมฟัง ในหัวข้อเกี่ยวกับวิธีการทำงานให้มีความสุข เท่าที่ทราบคิวงานของท่านถ้าจองวันนี้จะได้ฟังท่านแบบตัวเป็นๆ คงต้องเกือบถึงกลางปีหน้า แนวคิด ธรรมะดิลิเวอรี่ ที่เว็บไซต์ของท่านให้คำจำกัดความไว้ชัดเจนว่า ส่งถึงที่ ซึ้งถึงใจ ธรรมะแบบง่ายๆ ธรรมะเป็นเรื่องเข้าใจง่าย ธรรมะเป็นเรื่องสนุก การแสดงธรรมให้สนุกและไม่น่าเบื่อนั้น อาจไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะตอนผมเป็นเด็ก พ่อผมมักนำเทปการบรรยายธรรมของท่านปัญญา มาให้ฟังอยู่บ่อยๆ ซึ่งตอนนั้นท่านบรรยายตามแบบฉบับของท่านด้วยธรรมะที่เข้าใจได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก และสนุกมาก ยิ่งการบรรยายของพระพยอมในยุคต่อมา คงไม่ต้องพูดถึง คิวการบรรยายของท่านแน่นยิ่งกว่าดาราดังๆ เสียอีก แม้ทุกวันนี้ ผมก็ยังได้ข้อคิดจากท่าน ด้วยธรรมะที่สนุกสนาน แต่มีข้อคิดและข้อเตือนใจ พระอาจารย์ทุกรูปที่ผมได้กล่าวถึงด้วยความเคารพนั้น ปรับเปลี่ยนแนวทางการบรรยายธรรมะ ให้เข้าถึงความสนใจของคนทั่วไป ที่เดิมอาจเคยคิดว่าเป็นเรื่องน่าเบื่อ ไม่สนุก ให้เป็นเรื่องสนุก และสามารถนำข้อคิดจากการบรรยายธรรมไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง โดยเฉพาะพระพยอมและพระมหาสมปองนั้น สามารถยกตัวอย่างเพื่อประกอบการบรรยายได้อย่างทันสมัย และอยู่ในกระแสความสนใจของสังคม แล้วมาปรับเข้ากับเนื้อหาทางธรรมะที่ตั้งใจเมตตาสั่งสอนผู้คน การบรรยายธรรมะที่สนุกสนาน และธรรมะดิลิเวอรี่ของพระมหาสมปอง จึงเป็นเรื่องที่ผมอยากชวนให้คิด เพื่อหาวิธีทางการตลาดและสื่อสารทางการตลาด ในแบบที่เรียกว่า คิดแบบย้อนศร (Reverse Method / Thinking) ถ้าคนทั่วไปคิดว่าธรรมะเป็นเรื่องน่าเบื่อ พระอาจารย์ทั้งสองท่าน ก็ทำให้เป็นเรื่องสนุก ขำกว่าตลกบางคนเสียอีก แถมยังได้ข้อคิดดีๆ มากมาย จะฟังธรรมะต้องไปที่วัด ในยุคสมัยนี้บางครั้งเป็นเรื่องยาก พระมหาสมปองท่านจึงเอาธรรมะไปให้ฟังถึงที่เรียกว่า ธรรมะดิลิเวอรี่ คนที่ไม่ค่อยมีโอกาสไปที่วัดก็สามารถได้ฟังธรรมจากท่านถึงออฟฟิศ ถึงแม้ว่าท่านอาจไม่ใช่พระรูปแรกที่เดินสายบรรยายธรรม แต่ท่านก็ได้ทำให้แนวคิดนี้แข็งแกร่งขึ้นอย่างชัดเจน สมัยก่อนจะขอกู้ซื้อบ้านต้องไปธนาคารและมีขั้นตอนที่ยุ่งยากมากมาย แต่ธนาคารหลายแห่งวันนี้ พนักงานสินเชื่อออกไปรับบริการลูกค้าถึงสถานี BTS การเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้าของท่านนายกชาติชายในอดีต ผมก็ยังชื่นชมวิธีคิดของท่านจนถึงทุกวันนี้ หรือแนวคิดของหน่วยงานรัฐบางแห่ง ที่ออกไปรับใช้ประชาชนด้วยบริการเคลื่อนที่เพื่ออำนวยความสะดวก แทนที่จะนั่งเป็นเจ้านายให้ประชาชนต้องดิ้นรนไปใช้บริการที่หน่วยงานเพียงอย่างเดียว ผมว่าหน่วยงานของรัฐหลายแห่งควรหันมาให้ความสนใจ อย่าคิดอย่างเดียวว่า...เป็นไปไม่ได้ ในยุคที่เศรษฐกิจผันผวน เราคงเคยเห็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในต่างประเทศ หรือแม้แต่ในบ้านเราที่ "เคย" แข่งกันแบบเอาป็นเอาตาย หันมาจับมือกันดื้อๆ แบบที่ใครๆ คาดไม่ถึง เพื่อทำให้ธุรกิจแข็งแกร่งขึ้น Steve Jobs ให้สัมภาษณ์ตอนออก I-phone ที่คนเข้าคิวกันซื้อเหมือนแจกฟรี ว่าอยากปฏิวัติวงการโทรศัพท์มือถือ โดยได้ออกแบบให้โทรศัพท์นั้นต้องเข้าใจผู้ใช้ด้วยวิธีการที่ง่ายที่สุด ไม่ใช่ผู้ใช้ต้องทำความเข้าใจความสลับซ้อนของเทคโนโลยี "ความคิดสร้างสรรค์" นั้นเป็นการสร้างทางเลือกของความคิดหลายๆ ทาง เพื่อนำไปสู่การหาวิธีใหม่ๆ หรือแก้ปัญหาในรูปแบบที่แตกต่าง การย้อนศรหรือย้อนรอยที่มาของปัญหาอาจเป็นอีกหนึ่งหนทางที่ทำให้เราแก้ปัญหาด้วยวิธีที่ต่างไปจากเดิม คงต้องเอาใจช่วยรัฐบาลกันนะครับ เพราะท่านคงพยายามทำสิ่งต่างๆ มากมาย เพื่อไม่ให้บ้านเมืองของเราเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจ ขาลง ก็ขอให้เป็นเศรษฐกิจ ขาขึ้น เสียทีนะครับ เพราะเศรษฐกิจเราย่ำอยู่กับที่และถอยหลังมาหลายปีแล้ว แต่ขออย่างเดียวอย่าให้คำว่า ขาขึ้น นั้น หมายถึง เอาขาขึ้นมาก่ายหน้าผากก็แล้วกันครับ
Create Date : 09 ตุลาคม 2551 |
Last Update : 9 ตุลาคม 2551 10:16:07 น. |
|
0 comments
|
Counter : 275 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
|
moo lopburi |
|
|
|
|