ไขข้อข้องใจ พร บ รถยนต์ คืออะไร ทำไมต้องรถทุกคันต้องมี เชื่อว่าคนมีรถจำนวนไม่น้อยที่สงสัยว่าทำไมต้องต่อ พร บ รถยนต์ด้วย เพราะทุกปีต้องเสียเงินต่อประกัน รถยนต์อยู่แล้ว ซึ่งหากพิจารณาความคุ้มครองของพรบ.รถยนต์และประกันรถยนต์ ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและเงินชดเชยกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้คนที่เพิ่งมีรถยนต์คันแรกคิดไปเองว่าไม่จำเป็นต้องต่อพรบ.รถยนต์ทุกปี ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดเป็นอย่างมาก ดังนั้นวันนี้จะมาไขข้อข้องใจว่าทำไมรถต้องต่อ พรบ. รถยนต์และมีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับประกัน รถยนต์ หมดอายุและพ.ร.บ. มาฝาก ซึ่งจะมีเรื่องไหนบ้างนั้น มาดูกันเลย - ความหมายของ พ.ร.บ. รถยนต์
สำหรับความหมายของพ.ร.บ.รถยนต์ คือ รูปแบบประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ซึ่งตามกฎหมายกำหนดให้รถทุกคันที่จดทะเบียนกับกรมขนส่งทางบกต้องทำประกันรูปแบบนี้ เริ่มมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2536 เนื่องจากประกันภัยจากพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจะให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและเงินชดเชยกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรให้กับผู้ประสบภัยโดยไม่สนว่าจะเป็นฝ่ายผิดหรือถูก โดยให้ความคุ้มครองทันทีในส่วนของค่ารักษาพยาบาลตามจริงไม่เกิน 30,000 บาทต่อราย สูญเสียอวัยวะบางส่วน ทุพพลภาพถาวร 35,000 บาทต่อราย และเสียชีวิตจะได้ค่าปลงศพ 35,000 บาท แต่ในกรณีเป็นฝ่ายถูกผู้ประสบภัยจากรถจะได้วงเงินเพิ่มค่ารักษาพยาบาลเป็น 80,000 บาท สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพอย่างถาวร ทุพพลภาพสิ้นเชิงไม่สามารถประกอบอาชีพได้ จ่าย 200,000 – 500,000 บาท กรณีเสียชีวิต 500,000 บาท และเงินชดเชยรายได้วันละ 200 บาท เมื่อเข้ารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลจากความหมายจะเห็นว่าพรบ.รถยนต์นั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประสบเหตุทั้งหมดโดยไม่คำนึงว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายถูก เพราะฉะนั้นการมีพ.ร.บ.จะช่วยตัดปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น แต่ตามกฎหมายแล้วหากฝ่าฝืนไม่ยอมต่อ พรบ. รถยนต์ หลังจากหมดอายุการใช้งานจะต้องเสียค่าปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท อีกทั้งยังไม่สามารถต่อภาษีรถยนต์ประจำปีได้ด้วย นอกจากนั้นหากปล่อยให้พ.ร.บ. ขาดติดต่อกันนานเกิน 3 ปี จะมีผลให้ทะเบียนรถยนต์ถูกระงับใช้งาน ต้องไปขอเลขทะเบียน พร้อมทั้งเสียเงินค่าภาษีและค่าปรับย้อนหลังอีกด้วย - ต่อ พ.ร.บ.รถยนต์ ต้องใช้อะไรบ้าง
ปัจจุบันการซื้อพ.ร.บ.รถยนต์ สามารถทำได้หลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น ช่องทางออนไลน์ของสำนักงานของกรมขนส่งทั่วประเทศ ซื้อโดยตรงกับกรมขนส่ง ร้านสะดวกซื้อ SCB บริษัทประกันภัย ตัวแทนประกันภัย ร้านสะดวกซื้อ สำหรับเอกสารที่ใช้การซื้อพ.ร.บ.ประกอบด้วย สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียน เล่มทะเบียนรถยนต์หรือสำเนาเล่มทะเบียนรถยนต์ โดยในการต่อพ.ร.บ สามารถทำได้ล่วงหน้าไม่เกิน 90 วัน เป็นอย่างไรบ้างสำหรับข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับพรบ. รถยนต์ ที่เรานำมาฝากในวันนี้ ซึ่งถึงแม้ว่ารถทุกคันที่มีการใช้งานบนท้องถนนจำเป็นต้องซื้อพ.ร.บ. ตามกฎหมายกำหนด แต่รับประกันว่าการมีพ.ร.บ. จะช่วยให้อุ่นใจมากขึ้นทุกครั้งที่ออกเดินทางแน่นอน ที่มาข้อมูล
Create Date : 25 พฤษภาคม 2565 |
Last Update : 25 พฤษภาคม 2565 15:27:55 น. |
|
0 comments
|
Counter : 263 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|