|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
ไขข้อข้องใจวางแผนการเงินอย่างไรจึงเวิร์กสุดในช่วงดอกเบี้ยเงินฝากเป็นขาลง |
|
ไขข้อข้องใจวางแผนการเงินอย่างไรจึงเวิร์กสุดในช่วงดอกเบี้ยเงินฝากเป็นขาลง การที่ดอกเบี้ยเงินฝากในธนาคารลดต่ำลงเรื่อย ๆ เป็นเรื่องที่ทำให้คนออมเงินไว้ในธนาคารได้รับความเดือดร้อนแน่นอน และหากเป็นคนที่จำเป็นต้องนำดอกเบี้ยเงินฝากไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันด้วยแล้วจะยิ่งได้รับผลกระทบหนัก เพราะทำให้มีเงินสำหรับการใช้จ่ายลดลงหรือไม่เพียงพอ เนื่องจากปัจจุบันดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ที่ได้รับจากธนาคารพาณิชย์ไม่ถึง 1% เท่านั้น การวางแผนนำเงินออมที่มีอยู่ไปเพิ่มดอกผลหรือสร้าง Passive Income จึงไม่สามารถใช้การฝากเงินในธนาคารเป็นหลักได้ ดังนั้นหลายคนจึงเลือกที่จะนำเงินที่มีอยู่ไปลงทุนหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีหรือเลือกลงทุนผ่านกองทุนและถือเป็นตราสารหนี้อย่างหุ้นกู้ (เพิ่มเติมที่ : https://www.scb.co.th/th/personal-banking/investment/other-investment/debentures.html) ไว้ เพื่อให้มีเงินตอบแทนกลับคืนมาทั้งในรูปของ “กำไร”, “ดอกเบี้ย” และ “เงินปันผล” สำหรับการลงทุนหุ้นนั้นเป็นวิธีการหาผลตอบแทนจากเงินออมที่มีอยู่ได้ง่าย ๆ เพียงเลือกบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีผลการดำเนินงานที่น่าพอใจ สามารถเลือกลงทุน หุ้นบริษัทนั้น ๆ ได้โดยการซื้อผ่านตลาดหลักทรัพย์ เมื่อราคาของหุ้นบริษัทดังกล่าวปรับตัวสูงขึ้นสามารถขายทำกำไรได้ง่าย ๆ และในระหว่างที่ถือหุ้นอยู่ยังมีโอกาสได้รับเงินปันผลในกรณีที่บริษัทจดทะเบียนนั้น ๆ มีผลกำไรจ่ายให้กับผู้ถือหุ้นด้วยแต่กระนั้นก็มีความเสี่ยงเช่นกันในกรณีที่ราคาของหุ้นปรับตัวลดลง ดังนั้นผู้ที่เลือกการลงทุนในตลาดหุ้นจะต้องมีการติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ที่จะมีผลกระทบต่อราคาหุ้นอย่างต่อเนื่อง หากไม่สามารถติดตามข่าวสารหรือตัดสินใจการลงทุนได้สามารถเลือกลงทุนในกองทุนหุ้นแทนได้เช่นกัน เพราะจะมีผู้จัดการกองทุนที่เป็นมืออาชีพคอยดูแลเงินลงทุนแทนให้ ปัจจุบันมีกองทุนที่มีนโยบายการเข้าลงทุนในหุ้น อสังหาริมทรัพย์และสินทรัพย์อื่น ๆ มากมายที่ผู้ลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลก่อนเลือกตัดสินใจลงทุนได้ไม่ยาก ที่สำคัญยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากเงินไว้ในธนาคารด้วย แต่หากต้องการผลตอบแทนที่สม่ำเสมอควรเลือกถือหุ้นกู้ซึ่งเป็นตราสารหนี้ที่บริษัทเอกชนออกมาเพื่อระดมทุนจากนักลงทุนทั่วไปคล้ายกับสัญญาเงินกู้นั่นเอง โดยจะมีการระบุถึงอัตราดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนไว้ชัดเจน เช่น จะจ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน หรือ 6 เดือน แน่นอนว่าอัตราดอกเบี้ยของหุ้นกู้นั้นจะสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยที่ได้จากการฝากเงินไว้ในธนาคารแน่นอน แต่กระนั้นก็มีความเสี่ยงสูงขึ้นจากการที่บริษัทออกตราสารประเภทนี้เกิดปัญหาในการชำระหนี้หรือไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยได้ตามกำหนดเวลา ดังนั้นนักลงทุนจึงต้องพิจารณาจากอันดับเครดิตของบริษัทที่ออกตราสารเป็นหลักซึ่งหากมีเครดิตอยู่ในระดับลงทุนจะช่วยให้มั่นใจได้ว่ามีความเสี่ยงน้อย อย่างไรก็ตามการวางแผนการเงินสำหรับช่วงที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในทิศทางขาลงควรจะกระจายเม็ดเงินลงทุนในด้านต่าง ๆ เพื่อกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสมและไม่เสียโอกาสในการสร้างผลตอบแทนการออมได้มากขึ้นด้วย สำหรับใครที่ต้องการลงทุนกับกองทุนรวมดี ๆ สักกองทุนหนึ่งอย่าลืมมองหากองทุนรวม SSF จากธนาคารไทยพาณิชย์ไว้เป็นตัวเลือกในการลงทุน โดยสามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SSF รวมถึงเปิดบัญชีกองทุน ซื้อ ขาย โอนหน่วยลงทุนได้ที่แอปพลิเคชัน SCB Easy ที่มาข้อมูล
Create Date : 29 มีนาคม 2565 |
Last Update : 29 มีนาคม 2565 22:27:14 น. |
|
0 comments
|
Counter : 312 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|