Group Blog
 
 
มีนาคม 2553
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
17 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
การดูแล...ผมแตกปลาย!?

Infinity SubwooferJbl Computer SpeakersSpeaker Wall MountsSpl SubwooferSpl SubwoofersYamaha SubwoofersAdvent Wireless SpeakersBest Home Audio EqualizerBest Home TheaterIn Wall Speaker ReviewsIndoor Outdoor SpeakersIndoor/Outdoor Wireless SpeakersSony Home Theater System6x9 SubwoofersAudio Speaker BracketsBig SubwoofersBipole Dipole Speaker StandsHome Theater SoundHome Theaters With Wireless SpeakersHome Theatre SetupIphone Portable SpeakersMarine Sound SystemsOn Wall Surround SpeakersPortable Speakers For IpodsRockford Fosgate Wholesale SubwoofersSurround Sound Speaker Stands10 Inch Subwoofer5 Inch SubwooferBest Stereo SpeakersBose Wireless SpeakersComputer Speaker SystemCustom Home Theater InstallationFlat Speaker WireHigh End Home Theatre SpeakersHome SubwooferHome Theater EquipmentHome Theater In Ceiling And Wall SpeakersHome Theater InstallationHome Theater Receivers ComparisonsBlogBlogBlogBlogBlog










"การดูแลผมแตกปลาย"


ผมแตกปลายเกิดขึ้นเมื่อชั้นของเซลล์ของเส้นผมแตกแยกตัวออกจากกัน ไม่มีวิธีที่จะทำให้ชั้น ที่แตกแยกออกจากกันนี้กลับมาสมานสนิทได้ถาวร ครีมนวดผม (conditioner) จะทำให้เส้นผมที่ แตกปลายกลับมาสมานกันได้เพียงชั่วคราวเพียงแค่ 2-3 ชั่วโมง หรืออย่างมากก็แค่ไม่กี่วัน โดยทั่วไปเมื่อสระผมครั้งต่อไปผมก็จะแตกปลายอีก



จึงต้องใช้ครีมนวดผมอย่างสม่ำเสมอ วิธีใช้ครีมนวดผมคือใช้หลังสระผมแล้วชโลมครีมนวดผมทิ้งไว้สัก 10 นาที แล้วล้างออก หรือครีมนวดผมอีกแบบที่ใช้หลังสระผมโดยซับผมให้หมาดๆ แล้วชโลมครีมทิ้งไว้เลยโดยไม่ต้องล้างออก นอกจากนั้นหลังสระผม อย่าขยี้ผมแรงๆ ให้ใช้ผ้าขนหนูสะอาดซับผมให้แห้ง อย่าหวีผมหรือแปรงผมขณะที่ผมยังเปียกอยู่



ถ้าจะใช้เครื่องเป่าผมก็อย่าตั้งอุณหภูมิสูง เพราะจะทำลายเส้นผมทำให้ผมแตกปลายได้ง่ายขึ้น อย่าย้อมผม ดัดผม ยืดผมบ่อยเกินไปเพราะทำให้เส้นผมแตกปลายได้ง่าย โดยทั่วไปเส้นผมของคนเราหลังตัดครบ 1 เดือนจะเริ่มยาวไม่สม่ำเสมอ และมีผมแตกปลาย ดังนั้นการไปพบช่างตัดผมอย่างสม่ำเสมอก็จะช่วยให้เรือนผมดูสวยงามอยู่เสมอนะครับ วิธีแก้ไขผมแตกปลายที่ดีที่สุดก็คือตัดส่วนปลายผมที่แตกปลายออก ดังนั้นคนที่ไว้ผมสั้นจะมีปัญหาเรื่องผมแตกปลายน้อยกว่าคนที่ไว้ผมยาว



ส่วนอาหารวิตามินและเกลือแร่ที่ช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง ได้แก่



ธาตุเหล็ก - พบในเนื้อสัตว์ ถั่วเหลือง ข้าวสาลี ผักขม



กลุ่มของวิตามินบี - พบในจมูกข้าว ถั่ว ไข่ ถั่วเหลือง กล้วย



กรดอะมิโน เช่น ซิสเตอีนและเม็ทไทโอนีน ซึ่งมีส่วนประกอบของกำมะถันที่ จะทำให้เซลล์ เส้นผมเชื่อมติดกันแน่น พบในถั่ว เม็ดธัญพืช ไข่ เนื้อ



สังกะสี - พบในเนยแข็ง ข้าวซ้อมมือ ปลาซาร์ดีน และขนมปังข้าวไรย์



ซีลีเนียม - พบในเนยแข็ง Cheddar กุ้ง แครอท



สำหรับวิธีการสระผมที่ถูกต้องนั้น มีขั้นตอนคือ



1. ปล่อยให้ผมสยายลงมาตามธรรมชาติขณะสระผม นั่นคือสระผมในท่ายืนสระใต้ฝักบัว หรือก้มสระในอ่างอาบน้ำ



2. ใช้น้ำอุ่นชะล้างเส้นผมก่อนที่จะลงแชมพู



3. เอาแชมพูใส่ฝ่ามือ กะปริมาณแชมพูให้พอเกิดฟองได้หมดทั้งศีรษะ



4. ฟอกเส้นผมและหนังศีรษะด้วยแชมพู เริ่มที่หนังศีรษะก่อนใช้ปลายนิ้วนวดหนังศีรษะเบาๆ อย่าเกาหนังศีรษะหรือขยี้แรงๆ



5. ใช้น้ำสะอาดล้างแชมพูออก โดยใช้นิ้วมือล้างแชมพูออกตั้งแต่โคนเส้นผมไปสู่ปลายเส้นผม ห้ามขยี้แรงๆ เพราะเส้นผมจะได้รับอันตรายจากแรงเสียดสี



สำหรับการใช้ครีมนวดผมนั้น มีขั้นตอนดังนี้



1. สระผมล้างแชมพูออกอย่างหมดจด อย่าให้มีฟองแชมพูตกค้าง



2. เทครีมนวดผมใส่ฝ่ามือ



3. ฟอกครีมนวดผมกับเส้นผม ใช้ปลายนิ้วลูบไล้ครีมนวดผมให้ทั่วเส้นผมแล้วทิ้งไว้ 1-2 นาที



4. ล้างครีมนวดผมออก โดยให้น้ำชะล้างครีมนวดผมตั้งแต่โคนไปสู่ปลายเส้นผม ห้ามขยี้เส้นผมขณะผมเปียก



สำหรับการเช็ดผมให้แห้ง มีขั้นตอนคือ



1. ใช้ผ้าขนหนูสะอาด ที่แห้งสนิท ซับเส้นผมที่เปียกน้ำ



2. ในขณะที่ผมยังชื้นอยู่ ใช้แปรงหรือหวีสางผมที่พันกันหรือยุ่งเหยิง โดยแปรงเบาๆ จากปลายเส้นผม และค่อยๆ สูงขึ้นไปสู่โคนเส้นผม



3. ใช้มูสหรือเจลตามที่ชอบ แต่อย่าใช้มากเกินไป



4. ควรปล่อยให้เส้นผมแห้งสนิทตามธรรมชาติ



5. หากมีเวลาจำกัด ไม่สามารถรอให้ผมแห้งตามธรรมชาติได้ ก็ต้องใช้เครื่องเป่าผม โดยใช้เครื่องเป่าผมเมื่อซับผมด้วยผ้าขนหนูก่อน



6. ควรใช้ความร้อนและความแรงของเครื่องเป่าที่สปีดต่ำสุด



7. การเป่าผมต้องเคลื่อนไหวไปทั่วศีรษะ อย่าจ่อเป่าให้แห้งทีละจุดๆ เพราะจะทำให้ เส้นผมและหนังศีรษะเกิดอันตราย



เส้นผมของคุณจะแลดูสวยเป็นเงางามก็ต่อเมื่อได้รับการดูแลบำรุงรักษาทุกวัน ร่วมไปกับการกินอาหารที่ดีและออกกำลังกายอย่างเหมาะสม รวมถึงพยายามลดความเครียดลงด้วย เพราะความเครียดทำให้ผมหลุดร่วงได้



ส่วนวิธีปฏิบัติเพื่อให้เส้นผมไม่แตกหักง่ายและดูเงางามอ่อนนุ่มสลวยอยู่เสมอมีดังนี้



1 หวีและแปรงผมให้น้อยลง ความเชื่อที่ว่าควรแปรงผมวันละ 100 ครั้ง นั้นเป็นความเชื่อ ที่ผิด และไม่ควรใช้หวีหรือแปรงที่มีขนแหลมคม หรือที่ทำจากโลหะหรือพลาสติก ควรใช้หวีที่ทำจากขนสัตว์ธรรมชาติ



2. ไม่ควรแปรงผมย้อนไปด้านหลังหรือยีผมแรงๆ (ควรหวีผมตามแนวเส้นผม)



3. ไม่รัดผมให้แน่นหรือถักเปียแน่นจนเกินไปนัก รวมทั้งการสวมหมวกที่คับเกินไป หรือพันผ้าคาดศีรษะจนแน่น



4. ควรใช้แชมพูอ่อนๆ สระผม หลังสระควรใช้ครีมนวดหรือครีมปรับสภาพเส้นผม และไม่ควรสระผมและเป่าผมให้แห้งบ่อยครั้งเกินไป



5. เล็มปลายเส้นผมที่แตกปลายทิ้ง



นอกจากนี้ยังพบว่าสารเคมีเป็นสาเหตุที่ทำให้เส้นผมหักได้บ่อยที่สุด เพราะเมื่อชั้นนอกสุดของเส้นผมถูกสารเคมีอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะจากยาย้อมผม ยากัดสีผม ยาดัดผม หรือยาเหยียดผม ยายืดผมตรง สารเคมีในตัวยาเหล่านี้จะทำให้เส้นผมแห้งและแข็งกระด้าง จึงควรใช้น้ำยา เหล่านี้เมื่อจำเป็นและไม่ควรใช้บ่อยครั้ง






สนับสนุนข้อคิดนานาสาระโดย:


 

From: //variety.teenee.com/foodforbrain/2215.html


Create Date : 17 มีนาคม 2553
Last Update : 17 มีนาคม 2553 17:03:40 น. 0 comments
Counter : 260 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

MichaelRG
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add MichaelRG's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.