Group Blog
 
 
มีนาคม 2553
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
17 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
ไม่จิ๊ง ไม่จริง แก้วมังกร ไม่ได้ก่อมะเร็ง

TentsTentsCamping TentsTentScreen TentsEureka TentsColeman TentsParty TentsTent CityFamily Tents6 Person Cabin TentTent TrailersFamily Camping TentsCanvas TentsTent CitiesTent TrailerPop Up TentsTent ReviewsTruck TentCabin TentsTruck TentsCamping TentEureka TentKelty TentsTent CampingA-frame TentsBackpacking TentsWenzel TentsTent CotColumbia TentsNorthwest Territory TentsCanopy TentsTent PolesPop Up TentMotorcycle TentsTent CampersCrib TentColeman TentEz Up TentsDiscount TentsScreen TentBeach TentsMilitary TentsBeach TentTent Camping CampgroundsCheap TentsParty TentTable TentsWall TentsArmy Surplus TentCabin TentWall TentFamily Size TentsTent CamperCanvas Cabin TentTent StakesTent HeatersTent Pole ReplacementUsed Tent TrailersLarge Family Cabin TentTents For SaleThe Red TentReplacement Tent PolesTent HeaterCanvas Wall TentsFamily Tent ReviewTruck Bed TentCamping Tent EquipmentCanopy TentCanvas Camping TentsLarge Family TentMsr TentsUsed Tent TrailerLarge TentsWenzel TentFamily TentCanvas Hunting TentsCanvas TentDiscount Party TentsInflatable TentMilitary TentBest Family TentBig Agnes TentsDome TentScreen House TentsBest Tents4 Person TentArmy TentBest TentTarp TentDiscount Camping TentsInflatable Camping TentsInflatable TentsSwiss Gear TentTent Camping FloridaCamping Tent ReviewsColeman Evanston TentFamily Cabin TentFamily Camping TentNorth Face TentsBlogBlogBlogBlogBlog







หลังจากปากต่อปากห้ามกินแก้วมังกร เพราะก่อให้เกิดมะเร็ง


กระทรวงสาธารณสุขเพิ่งออกมายืนยัน



ยังไม่มีงานวิจัยที่ใดในโลก ว่า รับประทานผลไม้ชนิดนี้แล้วเป็นมะเร็ง



แนะการรับประทานแก้วมังกรต้องรับประทานพอประมาณวันละไม่เกิน 1 ลูก และไม่ควรรับประทานซ้ำซาก



เผยคุณค่าทางโภชนาการสูง



มีวิตามิน

แร่ธาตุ ใยอาหาร และให้พลังงานต่ำ



นายสง่า ดามาพงษ์ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึง



กระแสข่าวเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตว่ารับประทานแก้วมังกรแล้วทำให้เป็นมะเร็ง ซึ่งสร้างความตระหนกและความสับสนแก่ผู้บริโภคถึงขั้นเลิกรับประทานแก้วมังกร



มีผลกระทบไปถึงเกษตรกรผู้ปลูกด้วย บางรายถึงกับตัดทิ้งและเลิกปลูก





จากการติดตามงานวิจัยทั่วโลก


ยังไม่มีงานวิจัยหรือรายงานใดออกมาระบุว่า คนเหล่านั้นเป็นมะเร็งจากการรับประทานแก้วมังกร มีเพียงข่าวที่ไม่มีแหล่งที่มาระบุว่า การรับประทานแก้วมังกรวันละ 7 ลูกจะทำให้เป็นมะเร็ง



ข้อมูลดังกล่าวจึงไม่เป็นความจริง



จึงขอให้ประชาชนไทยอย่าหลงเชื่อและขอให้บริโภคแก้วมังกรได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่มีงานวิจัยยืนยัน



แต่การรับประทานผลไม้หรืออาหารใดๆ ก็แล้วแต่ในปริมาณมากๆ และรับประทานซ้ำซาก ย่อมไม่เกิดผลดีต่อสุขภาพแน่นอน





ทั้งนี้ แก้วมังกรเป็นผลไม้มีคุณค่าทางโภชนาการเหมือนกับผลไม้อื่นๆ


มีสารอาหาร

วิตามิน

แร่ธาตุ

ใยอาหาร



และที่สำคัญคือให้พลังงานต่ำ



จากข้อมูลของกองโภชนาการ กรมอนามัยระบุว่า



ถ้ารับประทานแก้วมังกร 1 ลูก น้ำหนักประมาณ 100 กรัม



ร่างกายจะได้



แคลเซียม 9 มิลลิกรัม

ฟอสฟอรัส 32 มิลลิกรัม

วิตามินซี 7 มิลลิกรัม

โปรตีน 1.4 กรัม

คาร์โบไฮเดรต 12.4 กรัม

พลังงาน 66 กิโลแคลอรี และ

ใยอาหาร 2.6 กรัม





กรมอนามัยได้แนะนำ


ให้คนไทยรับประทานผลไม้ไทยตามฤดูกาล และรับประทานให้หลากหลายชนิด ไม่ควรรับประทานผลไม้ชนิดใดชนิดหนึ่งติดต่อกันหลายวัน เพื่อให้ได้สารอาหารหลากหลายชนิด



และที่สำคัญคือ



รับประทานในปริมาณที่เหมาะสมตามธงโภชนาการ คือรับประทานผลไม้ให้ได้ วันละ 3-5 ส่วน


อย่างไรก็ตาม กระแสการรับประทานอาหารที่มาเป็นระยะๆ


สร้างความสับสนให้กับผู้บริโภค ทางออกที่ดีที่สุดคือ ยึดทางสายกลางแห่งการรับประทาน รับประทานอาหารไทยตามธรรมชาติ และรับประทานให้พอเหมาะพอดี มีอารมณ์แจ่มใส ใส่ใจออกกำลังกาย สุขภาพก็จะดีเอง



สธ.ยัน แก้วมังกร กินได้ไม่เป็นมะเร็ง


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:



 

From: //variety.teenee.com/foodforbrain/2142.html


Create Date : 17 มีนาคม 2553
Last Update : 17 มีนาคม 2553 9:13:47 น. 0 comments
Counter : 359 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

MichaelRG
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add MichaelRG's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.