Group Blog
 
 
เมษายน 2561
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
28 เมษายน 2561
 
All Blogs
 
2018 Penang Malaysia : Wonder food museum พิพิธภัณฑ์อาหารสนุก ๆ ใน Georgetown





เมื่อคืนเราพลาดอาหารมาเลไป เช้านี้เราเลยคิดว่าจะไปหาร้านอาหารมาเลอร่อย ๆ กินกัน อิฉันก็ไปหาอ่านรีวิวเค้าแนะนำให้มาห้าง ๆ นึง ซึ่งอยู่คนละมุมเมืองกะเราเลย แต่ดูจากรูปแล้ว มันน่าโดนมาก เราเลยดั้นด้นไปกัน  เพื่อที่จะพบว่ามันไม่มีหรือมันอาจจะย้ายหนีไปไหนแล้ว แง๊ Smiley

เดินวนจนรอบห้างนั้น เค้ากะลังมีเทศกาลเค้กตรุษจีนกันอยู่สวยงามน่ารักเชียว




แต่งกันซะไม่เหมือนเค้กเลย








ในห้าง มีมุมจีน ๆ ให้ถ่ายรูปเล่น

หน้าจีนมากเลยเฮีย Smiley

















หิวววววว  เดินวนห้างนี้ แต่ไม่พบสิ่งที่เราอยากกิน จึงข้ามฝั่งไปเจอศูนย์อาหารข้างถนน สภาพคล้ายๆ ตลาดสดมีหลังคา มีที่นั่ง ไม่มีแอร์ 

เลยตกลงกินกันที่นี่แหละ Smiley
อาหารราคาถูก และอร่อยถูกปากดีมากกกก  เกี๊ยวตัวเบ้อเร่อเลย



ชาก๋วยเตี๋ยว คล้าย ๆ ผัดซีอิ๊วบ้านเรา อันนี้อร่อยดี
และข้าวผัดอะไรซักอย่าง อ่านไม่ออกเลยจิ้มๆเอา




อิ่มข้าว มีแฮง เราก็มุ่งหน้าเข้าตัวเมือง จากประสบการณ์เมื่อวาน ทำให้ทราบว่าเราไม่ควรจะเปรี้ยวเดินตากแดดเปรี้ยงกันตอนกลางวัน อายุอานามอย่างอิฉันกะอาเฮียควรจะหาที่ ๆ มันเย็น ๆ เดินกันก่อน เช่นพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ แล้วค่อยออกมาเดินดูบ้านเมืองกันตอนแดดร่มลมตกแล้ว

ปีนังไม่ได้มีดีแค่บ้านเรือน สตรีทอาร์ทและอาหารเท่านั้นนะครัช Museum ต่างๆ ที่นี่ก็มีเยอะแยะมากมายน่าสนใจทั้งนั้นเลย


เสริ์ชดูมีพิพิธภัณฑ์น่าสนใจอยู่หลายที่ แต่เราเลือกมาสองที่คือ Wonder food museum กับ Ghost museum 

อี Ghost museum อ่ะ อาเฮียมันเลือก อิฉันกลัวผี ก็ยังว่าจะไหวป่าวฟระตรู


ที่นี่ดูปลอดภัยกว่าแบบผี ๆ เยอะ   Wonderfood museum เป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับอาหารทำด้วยยางแบบเหมือนเปี๊ยบ มีแบบทำเป็นไซส์มหึมาให้ถ่ายรูปเล่นด้วย และเค้ามีพร็อพมีเสื้อผ้าให้ถ่ายสนุกสนานมากฮ่ะ ค่าเข้าคนละ 25 ริงกิต คุ้มค่ามากมาย มีเจ้าหน้าที่ช่วยถ่ายรูปให้ตลอดทาง

เค้าแบ่งเป็นโซนๆ หลายๆ ห้อง แรกๆก็แนะนะอาหารของมาเลมีโน่นนี่นั่น มีจานชามไซส์ยักษ์ มีโซนผลไม้ และเราต้องการน้ำตาลคนละกี่ช้อนต่อวัน และอาหารแต่ละอย่างมีน้ำตาลเท่าไหร่ ดูแล้วน่ากังวลจริงเลยเชียว สุดท้ายเป็นมุมบอกว่าอย่ากินอาหารเหลือทิ้งนะ มีคนที่เค้าอดอยากอยู่ และเป็นรูปปั้นเด็กน้อยคุ้ยของกินอย่างน่าสงสาร


ที่นี่ดีงามมาก ใครไปปีนังอยากให้แวะจริงๆ เลย









แค่ทางเข้าโซนขายตั๋ว ก็มีของเล่นให้ถ่ายรูปกันตรึมละ




 ทุกมุม จะมีพร็อพให้ใช้ถ่ายรูปด้วย 
โชคดีที่ตอนที่เราไปคนไม่ค่อยเยอะ ดี๊ด๊าเล่นกันยาวได้เลย 















ไม่แปลกที่ปีนังจะมีพิพิธภัณฑ์อย่างงี้ เพราะมาเลเซียเค้าออกตัวว่าเค้ามี Street food ที่ดีงาม เป็นอันดับหนึ่งของโลก  อิฉันว่าคงต้องมาสู้กับไทยหน่อยล่ะ จริง ๆ อาหารคล้าย ๆ กับของไทยหลายอย่างนะคะ ทั้งของคาวของหวาน หลากหลายไปคนละแบบ  เมื่อไหร่ของไทยจะมีอะไรอย่างนี้มั่งน้อ  ดูแล้วมีประโยชน์ได้ความรู้ดีด้วย

















แข่งกันบ้า Smiley





แบ่งเป็นห้อง ๆ อันนี้เค้าว่าถ้าอาหารเป็นสีพาสเทลจะเป็นยังไง




หรือถ้าอาหารเป็นสีขาวดำจะเป็นยังไง




ถ้าอาหารบูดจะเป็นยังไง









หรือถ้าอาหารไร้แรงโน้มถ่วง จะเป็นยังไง





ถัดไปเป็นห้องอาหารไซส์ยักษ์  ทำซะเหมือน เห็นแล้วหิวกันเลยทีเดียว
พวกเราสนุกสนานกับห้องนี้อยู่พักใหญ่เลย พร็อพเยอะมากกก Smiley

































ช่วยกันทำอาหาร




ร้านโชห่วยก็มี




โซนผลไม้













มุมอาหารอินเดียอยู่ข้าง ๆ ผลไม้  นั่งลงไปจกนานกับแกงกะหรี่




ห้องถัดไปเป็นขนมหวาน  ดูแล้วขนมเค้าก็คล้าย ๆ ของไทยอยู่










มาดูมุมภาพเขียนล้ำค่ากันบ้าง  Smiley










มีไรค่อย ๆ พูดจากันนะครัช Smiley






มีคนกินฮ็อตดอกขนาดนี้ 72 อันใน 10 นาที  กินแล้วเอาไปเก็บตรงส่วนไหนฟระ  Smiley




มุมของหวานเจี๊ยบบบ




โมนาลิซ่าบนโต๊ะอาหาร





หูฉลาม ตัดมาแค่ครีบ แล้วปล่อยมันตายเป็นเบือ Smiley




พี่เฉินหลงยังบอกพี่เลิกแล้ว ไม่กินแระหูฉลาม




อาเฮียเราก็เช่นกัน





เค้ามีตารางโชว์น้ำตาลที่ผสมในอาหารในเครื่องดื่มว่าจะกี่ช้อน ๆ 




และคนเราบริโภคได้ขนาดไหน




มะม่วงสุกลูกเดียว ซัดไปซะ 5 ช้อนชา




โค้กนี่ยิ่งไปกันใหญ่




สุดท้ายมาจบแบบหดหู่ที่มุมนี้  ทุก ๆ นาทีมีเด็ก 4 คนตายจากความอดอยาก
อาหารเป็นสิ่งมีค่ามาก อย่ากินทิ้งกินขว้าง




พิพิธภัณฑ์นี้ดีงาม อิฉันให้ 10 คะแนนเต็มเลย ไม่ไก่กานะฮับ






ถึงเวลากาแฟ เราก็เดินต่อมาเจอร้านน่านั่ง  ร้านนี้ตกแต่งชิคดีมาก และข้างบนยังเป็น Hostel ด้วย ไม่ได้ดูห้องแต่คาดว่าน่าจะงามอยู่ฮ่ะ อยู่กลางเมืองเลย หาของกินง่าย






มีสวนเล็ก ๆ ด้านหลัง




กลางบ้านเลย จะมีช่องเปิดไว้คอยหย่อนของ ซึ่งคงใช้ในสมัยก่อน  แต่ตอนนี้กลายเป็นโคมไฟไปละ








สั่งกาแฟกับหมูสะเต๊ะมากิน







อิฉันว่าหมูสะเต๊ะแบบเมืองไทยอร่อยกว่า  ที่นี่แห้ง ๆ เค็ม ๆ น้ำสะเต๊ะก็เค็มๆ  อาจาดไม่มี มีแค่ผักวางเคียงมาให้









ออกมาเดินไป Ghost Museum ผ่านบ้านเรือนร้านค้าน่ารักๆ เยอะ 










มีไอติมขายข้างทาง อียี่ห้อนี้แพงกว่าชาวบ้านเขา ตกอันละ 10 กว่าริงกิต















ยังคงเจอสตรีทอาร์ทอยู่เรื่อย ๆ 












เดินไปจนถึง Ghost Museum ละ  ฝั่งตรงข้ามเป็นร้าน Coffee on the table  ที่มีน้องหมี latte art อันนี้เป็นอีกสาขา คนละที่กับที่เราแวะเมื่อคืน  




ร้านน่ารักอีกแล้ว







มีมุมหมียักษ์ให้ด้วย








น้องหมีคนละแบบกับที่ได้มาเมื่อคืน

แต่ร้านนี้ถ้าอยากได้หมี ต้องบอกพนักงานด้วย เพราะไม่งั้นเค้าจะไม่ใส่มาให้ ทีแรกเค้ายกมาแบบไม่มีหมี จนต้องทวงถาม  ดันบอกว่าก็ไม่ได้บอกก่อนนี่นา ร้านแกรดังตรงลาเต้อาร์ทไม่ใช่เหรอยะ Smiley




อิ่มกาแฟแล้ว เดี๋ยวบล็อกหน้าจะพาไป Ghost Museum ค่ะ ที่นี่ก็สนุกไม่แพ้ Wonderfood Museum เลย  




Create Date : 28 เมษายน 2561
Last Update : 1 พฤษภาคม 2561 17:17:55 น. 0 comments
Counter : 1086 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คนดีผีคุ้ม
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




อิฉันทำรีวิวเพื่อที่จะเก็บบันทึกการเดินทางไว้เหมือนไดอารี่ เอาไว้มาดูอัลบั้มการท่องเที่ยวของตัวเองที่ผ่านมา ดังนั้น จึงมีรูปตัวเองและอาเฮียเยอะแยะ ไม่ได้เป็นรีวิวเพื่อแนะนำการท่องเที่ยวซักเท่าไหร่ แต่ถ้าใครผ่านไปผ่านมาและอาจได้ประโยชน์จากบล็อกบ้าง ก็นับเป็นโชคดีของอิฉันที่ยังอุตส่าห์มีอะไรมาแบ่งปันนะคะ
Friends' blogs
[Add คนดีผีคุ้ม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.