Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
13 กรกฏาคม 2554
 
All Blogs
 
แบกเป้ ลุยเดี่ยวฯ วันที่ 43 วัง Changdeokgung

วันที่ 18 เมษา

วันนี้ตื่นค่อนข้างสาย ยังไม่ได้ซื้อตั๋ว JR pass สำหรับใช้ในญี่ปุ่นเลย ต้องจัดการหาที่ซื้อวันนี้

หาข้อมูลในเน็ทเจอว่ามีขายที่บริษัท Lotte Tour เลยรบกวนเจ้าของเกสท์เฮ้าท์โทรไปถามให้หน่อยว่าจะซื้อได้ยังงัย

โทรไปเจ้าหน้าที่บอกว่าให้โทรมาใหม่วันจันทร์ วันนี้วันอาทิตย์ปิด เที่ยวแบบนี้นี่ลืมวันเอาได้จริงๆนะ

แล้วก็เพราะลืมวันนี่แหละ ทำให้พลาดดูอะไรไปหลายอย่าง

อาหารเช้าควบเที่ยงวันนี้ หาเอาแถวๆที่พักน่ะแหละ มีร้านอาหารเยอะเลย

เจอร้านนี้มีโมเดลอาหารใส่ตู้โชว์ไว้หน้าร้านพร้อมราคา แบบนี้หละก็ รอดแล้วดิฉัน ร้านอื่นๆที่เห็นมีแต่ภาษาเกาหลี



อาหารมื้อนี้อร่อยมาก ไม่รู้ชื่ออะไรมีแต่ภาษาเกาหลี

ดิฉันจิ้มรูปที่ผนังเอาก็สั่งมากินได้ เป็นเนื้อสไลด์เหมือนสุกี้ญี่ปุ่น อร่อยเด็ดจริงๆ แค่คิดก็น้ำลายไหล



สมกับเป็นเมืองกิมจิจริงๆ กินอาหารทุกมื้อต้องมีกิมจิ

เยื้องร้านอาหารจะเป็น Tourist Information ประทับใจเกาหลีตรงนี้แหละ

เขาให้ข้อมูลนักท่องเที่ยวดีมากๆ เมื่อวานที่ไปเดินแถวคลองชองเกชอน เดินเจอตั้งหลายจุดที่มีแผนที่ติดให้ดู บอกว่าตอนนี้อยู่ตรงไหน

บางจุดก็มีคอมพิวเตอร์ไว้ให้หาข้อมูลร้านอาหารหรือโรงแรมด้วย

ดิฉันไปขอข้อมูลที่ Tourist Information แบบว่าที่มาเที่ยวนี่ไม่มีข้อมูลอะไรเลย มาเกาหลีเพราะเป็นทางผ่านจะไปญี่ปุ่นทางเรือเท่านั้นเอง

เจ้าหน้าที่ให้หนังสือเล่มนี้มา ดีมากๆ มีข้อมูลทุกอย่างที่ต้องการ




การเดินทางในโซลด้วยรถไฟใต้ดินสะดวก ไม่ยากด้วยค่ะ

เอาลิ้งค์แผนที่รถไฟใต้มาฝาก เผื่อใครสนใจจะเดินทางเอง

//www.nsubway.co.kr/korea/seoul/seoulsubwaymapen.htm

ตั๋วรถไฟจะเป็นพลาสติกแข็ง ต้องเสียค่ามัดจำบัตร หลังจากออกไปแล้ว ต้องเอาบัตรไปแลกเงินมัดจำคืน กับเครื่องคืนบัตรอัตโนมัติทุกครั้ง

สำหรับคนที่ใช้ประจำเขาก็มีบัตรที่ใช้เติมเงินได้ ไม่ต้องมาจ่ายเงินทุกครั้งแบบนี้

วันนี้ตั้งใจจะไปวัง Changdeokgung ถามเจ้าหน้าที่เขาบอกว่าวังที่ใหญ่ที่สุดก็ต้องอันนี้แหละ

จากสถานี Hongik University นั่งรถไฟไปลงสถานี Euljiro 3 (sam)-ga

เพื่อเปลี่ยนเป็นสาย 3 ไปลงสถานี Jongno 3-ga ออกประตูทางออกที่ 6 เดินไปเรื่อยไม่ไกลมากก็เจอวังค่ะ

ประตูทางเข้าวัง ตั๋วจะขายทางซ้ายมือ




ตั๋วจะมี 2 แบบ แบบไปเป็นกลุ่มมีไกด์นำกับเดินดูเอง ถ้าเดินดูจะราคาแพงกว่าไปกับแบบกลุ่มเยอะเลย เพราะวังเก่าแล้ว

ถ้าให้นักท่องเที่ยวไปเองไม่มีไกด์นำ จะมีความเสี่ยงที่นักท่องเที่ยวอาจไปทำลายวังที่เก่าอยู่แล้วเพิ่มขึ้น เขาเก็บค่าความเสี่ยงน่ะ

กรุ๊ปภาษาอังกฤษมีแค่วันละ 2 กลุ่มเอง กลุ่มก่อนหน้านี้เพิ่งเริ่มไปตอน 12.30 ดิฉันมาช้าไป 10 นาที เลยต้องรอไปอีกเกือบ 2 ชม.

แถวนั้นก็ไม่มีอะไรให้ดูฆ่าเวลา ลองเดินเล่นนิดนึงแล้ว

เข้ามาบริเวณวังด้านในค่ะ สถาปัตย์เหมือนวังที่จีนเลย แต่ต่างกันที่รายละเอียดตกแต่ง




ทางขึ้นวังตรงกลางเป็นของจักรพรรดิ์ อันนี้ก็เหมือนจีนเหมือนกัน ต้นกำเนิดเดียวกัน




ด้านในพระตำหนัก เพดานจะเป็นโคมไฟสมัยใหม่ ยุคนั้นเริ่มมีไฟฟ้าเข้ามาแล้ว




พระตำหนักสวยดี แต่เปิดให้ชมไม่กี่จุดเอง ที่นี่เขาจะเข้มงวดมากเรื่องการเข้าชม

ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วย เลยต้องการรักษาสภาพวังให้อยู่อย่างนี้ไปให้นานที่สุด เพราะฉะนั้นเลยต้องจัดนักท่องเที่ยวให้ไปเป็นกลุ่มแบบนี้ ไกด์จะได้ดูแลได้



การตกแต่งเพดานจะไม่เหมือนจีน ไม่ใช่มังกร ไม่รู้สัญลักษณ์นี้คือตัวแทนจักรพรรดิ์หรือเปล่า




มุมแต่ละด้านของหลังคาพระตำหนักประดับด้วยสัตว์ จำนวนสัตว์บอกถึงความสำคัญของตำหนักนั้น ยิ่งมีมากก็สำคัญมาก



มาถึงตำหนักที่จักรพรรดิ์เคยประทับบ้าง ห้องบรรทมของเดิม เข้าไปไม่ได้นะคะ ยืนดูได้ตรงบันได




ตั่งมุก




ห้องทำความร้อนในวังสมัยก่อน เขาจะมาจุดไฟในห้องนี้ เพื่อให้วังอบอุ่น




วังที่นี่สังเกตดูว่าจะมีระเบียงที่มีรั้วกั้นตลอดทางเดิน แต่เป็นรั้วเตี้ยๆ อันนี้ไม่เหมือนวังที่จีน




ซากุระค่ะ ที่เกาหลีก็มี ไม่ต้องไปดูถึงญี่ปุ่น แต่ถามไกด์เขาบอกว่าเป็นคนละพันธุ์กัน แต่ซากุระเหมือนกันแหละ



ส่วนนึงของสวน ซากุระกับดอกไม้อื่นกำลังเริ่มบาน สวยเชียว




ตำหนักนี้สีไม่เหมือนที่อื่น ข้างในเปิดให้ส่องดูจากบันไดได้เหมือนเดิม




ดิฉันเดินตามไกด์ไม่ทันเลยไม่ได้ฟังว่าทำไมถึงสีไม่เหมือนทื่อื่น


สวนของวังนี้เขาบอกว่าสวยติดอันดับ 1 ใน 3 ของสวนในวังของเอเชีย




ที่ 1 รู้สึกจะเป็นญี่ปุ่น

จุดเดียวกัน แต่ถ่ายอีกมุมนึง คุณไกด์บอกว่าจุดนี้เป็นจุดที่สวยที่สุดของสวน จักรพรรดิ์ชอบเสด็จมาพักผ่อนที่นี่



คุณไกด์กำลังอธิบายเรื่องประตูหินอันนี้




ประตูนี้สกัดจากหินก้อนเดียว เป็นประตูที่เขาเชื่อว่าถ้าเดินลอดไปเราจะไม่แก่ อายุยืน

แต่เดินผ่านได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ถ้าเดินลอดอีกครั้งจะกลับเป็นเหมือนเดิม

ทางเดินในสวน ออกจะแห้งแล้งซักหน่อย ถ้ามาหน้าร้อน คงจะเขียวกว่านี้มั้งคะ




วันนี้ดูวังนี้วังเดียวแหละ ตอนเย็นกลับไปเดินดูบรรยากาศแถวที่พักต่อ ร้านค้าเยอะมากๆ

อาหารเย็นกินไม่ไกลจากที่พัก มื้อนี้ก็อร่อยค่ะ เป็นข้าวหน้าเนื้อย่าง อร่อยมากกก




รู้สึกจะเป็นอาหารกึ่งๆญี่ปุ่นกับเกาหลี คนเยอะพอควรร้านนี้

พนักงานก็น่ารัก มาอธิบายเมนูเป็นภาษาอังกฤษให้ด้วยว่าแต่ละอย่างคืออะไร เขาไม่มีเมนูภาษาอังกฤษ

อาหารเกาหลีอร่อยแล้วก็ไม่แพงจริง ค่าอาหารเฉลี่ยวันละ 300 บาทเอง

ค่าใช้จ่ายวันที่ 43 : ค่าอาหาร 290 บาท, โรงแรม 505 บาท, รถไฟใต้ดิน 55 บาท,ทัวร์ชมวัง 80 บาท รวมเป็นเงิน 930 บาท

ยอดรวมทั้งหมด 64,603 บาท


Create Date : 13 กรกฎาคม 2554
Last Update : 15 กรกฎาคม 2554 1:36:27 น. 5 comments
Counter : 2309 Pageviews.

 
สนุกจังคะ ตามอ่านมาหลายวันละ อัพไว ๆ นะคะ เก็บไว้เป็นข้อมูลเพือมีเวลาและมีทุน จะไปบ้างแบบนี้


โดย: da-o-mi IP: 58.9.166.37 วันที่: 14 กรกฎาคม 2554 เวลา:8:17:29 น.  

 
ไม่ทำงานทำการเหรอคะ ทำไมถึงมีเวลาเที่ยวมากมายขนาดนี้ หุหุ จะติดตามต่อไปค่ะ น่าสนุกมากๆ


โดย: prettygirl IP: 202.90.6.36 วันที่: 14 กรกฎาคม 2554 เวลา:9:26:01 น.  

 
ขอบคุณที่ติดตามค่ะคุณ da-o-mi ถ้าได้ไปเที่ยวแล้วมาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ

คุณ prettygirl คะ ที่ทำงานดิฉันโดนยุบน่ะค่ะก็เลยได้เงินมาก้อนนึง และมีเวลาไปเที่ยวยาวแบบนี้


โดย: luvreise วันที่: 15 กรกฎาคม 2554 เวลา:1:29:48 น.  

 
ดอกไม้กำลังออก สวยมาก


โดย: sirimas_m วันที่: 16 กรกฎาคม 2554 เวลา:17:08:32 น.  

 
ถ้าที่ทำงานเราโดนยุบ เขาจะให้เงินก้อนแบบนี้มั้ยน้าาาาา 55 จะได้มีเวลามีตังค์ไปเที่ยวแบบนี้มั่ง


โดย: prettygirl IP: 223.206.129.195 วันที่: 19 กรกฎาคม 2554 เวลา:19:58:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

luvreise
Location :
Norway

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




ONLINE COUNTER

VISITOR COUNTER

New Comments
Friends' blogs
[Add luvreise's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.